my other side

my other side

last updateLast Updated : 2022-05-18
By:  ChaosOngoing
Language: English
goodnovel16goodnovel
Not enough ratings
6Chapters
1.5Kviews
Read
Add to library

Share:  

Report
Overview
Catalog
SCAN CODE TO READ ON APP

Synopsis

in a place that is full of war and sadness, a girl named Layla tries hard to get back to her love after they broke, hopefully, she could find him safe

View More

Chapter 1

lost

บทนำ

‘หนูต้องโตแค่ไหนถึงจะยืนข้างเทนต์ในฐานะคนรักได้คะ’

‘ตอนนี้ตั้งใจเรียนก่อนนะครับ เป็นเด็กต้องตั้งใจเรียนก่อน’

‘หนูพิ้งค์ไม่เคยขาดเรียนเลยนะคะ เทนต์บอกให้เรียนเก่ง ๆ หนูพิ้งค์ก็ทำตามที่บอก หนูสอบได้ที่หนึ่งของห้องตลอดเลย’ เด็กสาววัยละอ่อนยิ้มแก้มป่องอวยอย่างภูมิใจ ‘หนูจะได้ของขวัญจากเทนต์อีกไหม’

‘เอาไว้คุณหนูสอบได้ที่หนึ่งอีกผมก็จะให้อีกครับ’

‘สัญญาก่อน’ นิ้วก้อยน้อย ๆ ชูขึ้นมาหมายจะเกี่ยวก้อยทำสัญญากับชายหนุ่มทว่าพี่เลี้ยงสาวกลับจูงมือเธอเดินเข้าไปในโรงเรียนก่อน เด็กน้อยหันมามองตาละห้อยพลางเม้มปากแน่น แววตาฉาบด้วยม่านน้ำตาจนแพรวพราว

‘หนูอยากยืนอยู่ข้างเทนต์...เหมือนที่หม่าม้ายืนอยู่เคียงข้างปะป๊า’

นั่นเป็นคำพูดของเด็กน้อยวัยสี่ขวบครึ่งที่หมายมั่นปั้นมืออยากจะยืนเคียงข้างผู้ชายคนหนึ่งที่ขึ้นชื่อว่าเป็นลูกน้องของพ่อตนเอง ทว่าเธอรู้สึกดีกับเขามาตั้งแต่ตนเองยังเล็กและปักใจรักเขาคนเดียวเสมอมา

“วันนี้ไม่มีเรียน ขอกลับบ้านก่อนได้ไหม” หญิงสาวเจ้าของรอยยิ้มหวานหันมาบอกเพื่อน ๆ ที่นั่งก้มหน้าเล่นเกมอย่างจริงจังให้รับรู้ก่อนที่หนึ่งคนในโต๊ะจะโพล่งขึ้นโดยไม่เงยหน้าขึ้นสบตากับคู่สนทนา

“ไหนพิ้งค์บอกอยากไปกินหมูทะ” โฮปเป็นเจ้าของคำถามนั้นและไออุ่นที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ก็พูดเสริมขึ้นอีกเสียง

“เราพาไปได้นะ อยากกินอยู่พอดีเลย”

“ใช่ ๆ” วอร์รีบพยักหน้ารับอย่างเร็ว ทั้งสามเป็นเพื่อนสนิทของพิ้งค์ เหตุผลที่เธอคบเพื่อนผู้ชายเพราะเบื่อคุยเรื่องจุกจิกกับเพื่อนผู้หญิงคนอื่น ๆ และเธอไม่ชอบนิสัยเพื่อนผู้หญิงบางคนที่ชอบนินทาเพื่อนร่วมห้องเดียวกัน

“อยากไปนะ แต่ไม่มีอารมณ์”

“เป็นไร หนูพิ้งค์ของพวกเราเป็นอะไรครับ” โฮปยกมือขึ้นไปอังหน้าผากเพื่อนรักและทำหน้าครุ่นคิด “ก็ไม่มีไข้ ไหนบอกดิ๊ว่าเบื่ออะไร”

“ไม่รู้ดิ รู้สึกเบื่อนิดหน่อย”

“แล้วยังอยากไปกินหมูทะอยู่ไหม” วอร์ถามบ้าง ทุกคนเลิกสนใจเกมในโทรศัพท์แล้วโฟกัสที่พิ้งค์คนเดียว สายตาพวกเขาที่จ้องมองเธอเคลือบด้วยความเอ็นดูเสียส่วนมาก ทว่าลึก ๆ แล้วกลับรู้สึกเป็นห่วงอยู่เหมือนกัน

“อยากไป แล้วใครจะเป็นคนเลี้ยงพิ้งค์อะ”

“เลือกดิ อยากให้ใครเลี้ยงอะ พวกเราพร้อมเสมอ” ไออุ่นยิ้มแป้นพลางเชิดหน้าให้พิ้งค์เลือกคนเลี้ยงหมูกระทะเย็นนี้ แต่เมื่อเห็นพิ้งค์มองด้วยความลำบากใจเขาจึงคิดอะไรสนุก ๆ ออกแล้วเอาขวดมาวางตรงกลางโต๊ะ “หมุนขวดแล้วกัน ปากขวดหยุดที่ใครคนนั้นเลี้ยง ยุติธรรมดี”

“อืม เห็นด้วย” โฮปพยักหน้าเห็นด้วย

“เอาสิ หมุนเลย” วอร์บอกเสียงเรียบและทุกคนก็จ้องมองขวดที่พิ้งค์กำลังหมุน พอเธอหมุนขวดแล้วทุกคนก็ยิ่งก้มหน้าลงและจ้องปากขวดอย่างกดดันจนกระทั่งขวดหยุดหมุนแต่ทว่าปากขวดดันชี้ไปทางพิ้งค์แต่คนที่ยืนอยู่ด้านหลังพิ้งค์มาสักพักแล้วก็เอ่ยขึ้น

“เป็นผมสินะครับ ที่ต้องเลี้ยงหมูกระทะ” เทนต์มือขวาคนสนิทแฟรงค์เอ่ยขึ้นเสียงเรียบพร้อมกับหยิบขวดน้ำขึ้นไปมองอย่างพิจารณา

“มาทำไม”

“…” เขาจ้องคนถามผ่านรอยยิ้มที่มุมปาก “คงไม่ต้องพูดอะไรซ้ำ ๆ หรอกมั้งครับ” เขามารับเธอแบบนี้ทุกวัน แต่คำถามนั้นก็หลุดออกจากปากคุณหนูเขาทุกวันเหมือนกัน

“วันนี้พิ้งค์จะไปกินหมูกระทะกับเพื่อน เทนต์ไม่ต้องมารับหรอก เดี๋ยวให้โฮปไปส่งบ้านก็ได้”

“ใช่ครับพี่เทนต์ เดี๋ยวพวกผมไปส่งพิ้งค์ที่บ้านเอง” ไออุ่นยิ้มหวานให้มือขวามาเฟียใหญ่แต่ทว่าไม่ได้รับความสนใจจากคู่สนทนาเลย เทนต์ก้มมองคนตัวเล็กซึ่งเขายืนอยู่ด้านหลังเธอจึงเห็นว่าตอนนี้พิ้งค์ทำแก้มป่องอยู่

“ผมคงปล่อยให้คุณหนูไปเล่นซนที่อื่นไม่ได้ เพราะนายสั่งให้ผมมาดูแลคุณหนู”

“โตแล้วนะ”

“ถ้าโตแล้วก็ไม่ควรดื้อนะครับ” ในโต๊ะเงียบงันจนได้ยินเสียงลมพัดผ่าน ไออุ่นกระซิบกระซาบกับโฮปเสียงเบาแทบไม่ได้ยิน

“กูว่าไม่ได้แดกหรอกหมูทะ” โฮปว่า

“เออดิ ดูหน้าพี่เทนต์ดิ เอาจริงนะนั่น” ไออุ่นป้องปากกระซิบตอบและวอร์ก็ยื่นหน้ามากระซิบกระซาบต่อ

“อย่าว่าแต่พี่เทนต์เลย คนของเราก็ใช่ย่อย” เขาบุ้ยปากไปหาพิ้งค์ที่กำลังปั้นปึ่งใส่ลูกน้องหนุ่มอยู่ สามหนุ่มพยักหน้าส่งสัญญาณให้กันแล้วพร้อมใจกันหัวเราะทำลายความเงียบในโต๊ะ

“ฮ่า ๆ ผมว่าเราไปกันหมดนี่เลยดีกว่าไหมครับ ไปกันหลาย ๆ คนสนุกดะ..”

“ไม่”

“อะ..อ้าว?” วอร์อ้าปากค้างเพราะพิ้งค์ปฏิเสธเสียงแข็งพร้อมกับเก็บของใส่กระเป๋าสะพาย เธอลุกขึ้นแล้วเดินออกไปจากโต๊ะทันที “เอ้า พิ้งค์เป็นไรวะ” เขาถามสองหนุ่มที่พร้อมกันส่ายหน้าพรืด ยิ่งอาการพิ้งค์ออกชัดเจนว่ากำลังต่อต้านเทนต์พวกเขาก็ยิ่งไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้นกับสองคนนี้ทั้งที่เมื่อก่อนพิ้งค์ดูปลาบปลื้มเทนต์เอามาก ๆ

หมับ!

“อ๊ะ! อย่ามาจับแขนหนู ปล่อย”

“…” บอดี้การ์ดหนุ่มยอมปล่อยตามที่เด็กสาวสั่งพร้อมกับถอยหลังหนึ่งก้าวเพื่อเว้นระยะห่างจากเธอ แต่ทว่าการกระทำเช่นนั้นกลับทำให้อีกฝ่ายไม่พอใจมากกว่าเดิม

“พิ้งค์จะให้ป๊าเปลี่ยนบอดี้การ์ดชุดใหม่ ไม่ต้องมาทำหน้าที่ตรงนี้แล้วไม่อยากเห็นหน้า”

“…”

“ซื่อบื้อ!” เมื่อเขายังยืนก้มหน้าเงียบไม่ตอบโต้เธอจึงผลักอกแกร่งหนึ่งทีด้วยแรงที่มีแล้วเดินออกมา การกระทำของพิ้งค์ตกอยู่ในสายตาสามหนุ่มจนพวกเขารีบปรี่เข้ามาหาเพื่อจะห้ามปรามทว่าพิ้งค์กลับเดินไปขึ้นรถแล้วขับออกไปโดยไม่รอเทนต์

“เป็นอะไรไหมครับ” ไออุ่นเอ่ยถามคนเป็นพี่พร้อมกับมองรถยนต์หรูที่เคลื่อนตัวออกไปด้วยความเร็ว

“พี่ไปพูดอะไรให้คุณหนูของพวกเราโกรธเนี่ย พักนี้ยิ่งหงุดหงิดบ่อยอยู่” วอร์มุ่นคิ้วถามเทนต์คล้ายว่าจะขอคำอธิบายเหตุการณ์เมื่อครู่จากเขา

“ยังไงพี่ ตกลงทะเลาะอะไรกับพิ้งค์” โฮปขมวดคิ้วถามอีก เพราะเทนต์ยังยืนเงียบไม่พูดอะไรและสุดท้ายเขาก็ยอมพูด

“เปล่าครับ ผมขอตัว”

“ครับ/ครับ/ครับ”

สามหนุ่มพยักหน้าเข้าใจแล้วยืนกอดอกมองเทนต์ที่เดินออกไปจากกลุ่มเขา

“กูว่าเรื่องนี้มีเงื่อนงำ” วอร์หรี่ตามอง

“เงื่อนงำอะไรของมึงไอ้ว้อ” โฮปแย้งขึ้นเสียงขุ่น

“กูชื่อวอร์ วอร์~ ทำลิ้นแบบนี้ วอร์เทอะ!”

“ว้อ”

“ไม่ต้องมาคุยกับกู โกรธยันลูกมึงบวช!”

“ฮ่า ๆ” สองหนุ่มหัวเราะขบขันกับท่าทางกระเง้ากระงอดของเพื่อนรัก ก่อนที่พวกเขาจะกลับไปที่โต๊ะแล้วเก็บของแยกย้ายกันกลับบ้าน

รถยนต์หรูเคลื่อนตัวเข้ามาจอดหน้าคฤหาสน์หลังใหญ่โดยมีชายฉกรรจ์ร่างสูงใหญ่เดินมาเปิดประตูให้ พิ้งค์ถือกระเป๋าเดินจ้ำอ้าวเข้ามาในบ้านด้วยใบหน้าบูดบึ้ง

“ปะป๊า! หนูจะเปลี่ยนบอดี้การ์ดชุดใหม่”

“เดี๋ยว ใจเย็นก่อนลูก” ผู้เป็นพ่อเงยหน้าขึ้นมองลูกสาวอย่างไม่เข้าใจ “ทะเลาะอะไรกับเทนต์อีก”

“หนูเปล่า หนูแค่ไม่ชอบ”

“ไม่ชอบยังไง ก็หนูขอป๊าเองว่าอยากให้เทนต์เป็นบอดี้การ์ดดูแลหนู”

“ตอนนี้หนูไม่อยากได้แล้ว”

“บอกป๊าก่อนว่าทะเลาะอะไรกันหรือเทนต์ทำอะไรให้ไม่พอใจ”

“สวัสดีครับนาย” แฟรงค์ละสายตาจากใบหน้าบูดบึ้งของลูกสาวไปมองลูกน้องคนสนิทที่เพิ่งเดินเข้ามาด้วยท่าทางสุขุมแล้วดึงสายตากลับมามองหนูพิ้งค์เหมือนเดิม

“ยังไง บอกป๊าได้หรือยังว่าอยากเปลี่ยนบอดี้การ์ดทำไม” ผู้เป็นพ่อถามย้ำเพื่อให้ลูกขยายความจาก เมื่อเห็นแววตาคู่นั้นฉายความลังเลเขาจึงหันมาคุยกับลูกน้อง “แล้วมึงไปทำไรให้หนูพิ้งค์ไม่พอใจ”

“ผมเปล่าทำอะไร”

“เฮ้อ…ไปพักไป” เขาบอกเทนต์ด้วยท่าทางเหนื่อยหน่ายก่อนที่จะตบที่ว่างข้างตัวเป็นการบอกให้หนูพิ้งค์ลงมานั่งข้างตนเอง “ไหนเล่าให้ป๊าฟังสิ เทนต์มีปัญหาตรงไหนถึงทำให้หนูไม่อยากได้เขาเป็นบอดี้การ์ดแล้ว” ฝ่ามือหนาผู้เป็นพ่อลูบผมออกจากใบหน้าจิ้มลิ้มของลูกสาวด้วยความรัก และจ้องมองดวงตาคู่สวยที่ฉาบด้วยความลังเลใจ

“หนูไม่ชอบที่เทนต์ซื่อบื้อ”

“หึหึ..” คำตอบที่ได้รับทำเอาแฟรงค์หลุดขำออกมา “หนูคิดแบบนั้นจริงเหรอ”

“ป๊าไม่สังเกตเหรอคะ”

“เทนต์อยู่กับป๊ามานาน ทำไมป๊าจะไม่สังเกต”

“ป๊าก็เห็น”

“เพราะป๊าเห็นไงถึงต้องถามหนู” เขาโอบกอดลูกสาวไว้แล้วอธิบายให้เธอเข้าใจ “บอดี้การ์ดในบ้านเราไม่มีใครซื่อบื้อ เพียงแต่พวกเขาถูกฝึกมาแบบนั้นครับลูก พูดให้น้อยวางตัวกับเจ้านายให้เหมาะสม หูตาต้องไว เพราะถ้าขาดคุณสมบัติพวกนี้ก็ไม่ผ่านการทดสอบ ทุกคนในบ้านต่างถูกฝึกฝนมาอย่างหนัก คนที่ป๊าเลือกให้ดูแลหนูกับหม่าม้าคือคนที่ป๊าไว้ใจที่สุดแล้ว พวกเขาฝึกมาเพื่อคุ้มกันเราจากอันตราย ไม่ได้ถูกฝึกมาเพื่อเอาใจใคร ป๊าอยากให้หนูจำตรงนี้ไว้”

“…”

“ที่นี้เข้าใจแล้วใช่ไหมว่าทำไมเทนต์ถึงต้องทำแบบนั้น”

“…” เด็กสาวพยักหน้าหงึก ๆ แม้ยังรู้สึกขุ่นเคืองในใจเล็กน้อย “หนูไม่ได้เอาแต่ใจสักหน่อย”

“อันนี้พ่อไม่ขอออกความคิดเห็นแล้วกัน”

“งั้นหนูขอตัวก่อนนะคะ”

“หม่าม้าอยู่ในครัว” ชายหนุ่มรั้งใบหน้าจิ้มลิ้มเข้ามาหอมด้วยความรักแล้วปล่อยลูกไปหาแม่ของเธอที่ห้องครัว

หมับ!

“อ๊ะ! หนูพิ้งค์” นางแบบสาวสะดุ้งโหยงเมื่อถูกลูกสาวกอดจากทางด้านหลังโดยที่แม่บ้านก็เห็นดีเห็นงามกับแผนนี้ด้วย

“เสียงคุณแม่เซ็กซี่มากเลยค่ะ”

“ยายลูกคนนี้ แล้ววันนี้ทำไมกลับบ้านเร็วจัง” เด็กสาวยู่ปากแล้วเคลื่อนใบหน้าไปเกลือกกับหน้าอกแม่อย่างออดอ้อน

“ลูกคนนี้อยากทำตัวดีให้หม่าม้าไม่เป็นห่วง”

“จ้ะ” พราวดาวยิ้มประชดลูกสาวก่อนจะดันตัวพิ้งค์ออกห่าง

“หนูเลิกคลาสเร็ว ทีแรกว่าจะไปกินหมูกระทะกับสามเกลอ แต่อารมณ์ไม่ดีก่อนเลยไม่ไป” ผู้เป็นแม่มองริมฝีปากจิ้มลิ้มของลูกสาวผ่านรอยยิ้มบาง ๆ ที่มุมปาก

“ใครกันทำลูกแม่อารมณ์เสีย”

“ก็พอจะมีอยู่ค่ะ”

“งั้นเอาทอดหนังไก่กรอบ ๆ ไปกินเล่น จะได้อารมณ์ดี”

“ว้าว...น่ากินจังเลย เพราะหม่าม้าเก่งแบบนี้ไงป๊าถึงได้หลงหัวปักหัวปำอะ”

“ไม่ต้องมาแซวเลย”

“รักนะคะ” พิ้งค์หอมแก้มแม่ฟอดใหญ่แล้วเดินออกมาจากห้องครัว “อ๊ะ! เดินยังไง…” เธอเม้มปากแน่นก่อนจะเบี่ยงตัวหลบคนตรงหน้าแล้วเดินขึ้นบันไดมา

“คุณหนูครับ”

“…” เธอหยุดยืนฟังแต่ไม่ยอมหันกลับมามองเจ้าของเสียงเรียก “เรียกแล้วไม่พูดจะเรียกทำไม” เธอยอมหันมามองเทนต์ด้วยความหงุดหงิดแต่กลับต้องเป็นฝ่ายอึ้งไปเองที่เห็นเขาถือกล่องของขวัญเล็ก ๆ ไว้ในมือ ก่อนจะส่งมาให้เธอ

“ของขวัญหลังสอบเสร็จครับ”

“ไม่ได้ขอ”

“เด็กดีต้องได้รางวัล”

“ถ้าดีจริง…แล้วเมื่อไหร่หนูจะอยู่ในสายตาเทนต์”

“…”

“ขอบคุณค่ะ” พิ้งค์รับกล่องของขวัญมาถือไว้แล้วเดินขึ้นมาบนบ้าน โดยไม่หันกลับไปมองเทนต์ เธอปิดประตูเสียงดังอย่างประชดประชันเขา

“คุณหนูอยู่ในสายตาผมตลอด...”

Expand
Next Chapter
Download

Latest chapter

More Chapters

To Readers

Welcome to GoodNovel world of fiction. If you like this novel, or you are an idealist hoping to explore a perfect world, and also want to become an original novel author online to increase income, you can join our family to read or create various types of books, such as romance novel, epic reading, werewolf novel, fantasy novel, history novel and so on. If you are a reader, high quality novels can be selected here. If you are an author, you can obtain more inspiration from others to create more brilliant works, what's more, your works on our platform will catch more attention and win more admiration from readers.

Comments

No Comments
6 Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status