ฟู่จาวหนิงลงมาจากหอศาลาเสี่ยวเยว่จึงพาเฉิงอวิ๋นโหรวมาข้างๆ นางฟู่จาวหนิงพาหงจั๋วกับเฝิ่นซิงมาแล้ว เสี่ยวเถาเองก็ตามอยู่ข้างๆเฉิงอวิ๋นโหรวพอเห็นว่าสาวใช้ข้างกายฟู่จาวหนิงแต่ละคนเหมือนคุณหนูผู้ดี ก็อดรู้สึกประหม่าขึ้นมาไม่ได้"คุณหนู นี่คือเฉิงอวิ๋นโหรว พี่ชายของนางคือเฉิงอวิ๋นเจี้ยน"เรื่องที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ของเมืองอั้น ฟู่จาวหนิงรู้อยู่แล้วแน่นอนนางมองเฉิงอวิ๋นโหรว ยิ้มเล็กน้อย"แม่นางเฉิง""อวิ๋นโหรวคารวะพระชายาอ๋องเจวี้ยน พระชายาเรียกข้าอวิ๋นโหรวก็พอแล้ว" เฉิงอวิ๋นโหรวคารวะกลับช่วงนี้นางเองก็เรียนมารยาทกับเสี่ยวเยว่"พี่ชายของเจ้าให้เจ้ามา หรือว่าเจ้าอยากจะมาอยู่ที่นี่เองล่ะ?" ฟู่จาวหนิงถาม"ตอนแรกพี่ใหญ่แนะนำข้า หลังจากข้าฟังแล้วก็รู้สึกว่าดีเอามากๆ จึงตอบรับไป พอติดตามพี่หญิงเสี่ยวเยว่มาหลายวัน ข้าได้เรียนรู้อะไรมากมาย ดังนั้นจึงอยากจะอยู่ต่อเจ้าค่ะ"เฉิงอวิ๋นโหรวรวบรวมความกล้าให้ตัวเอง จากนั้นจึงพูดต่อว่า"พระชายา ข้าสนใจในด้านวัตถุดิบยามาก อันที่จริงก็ชอบวิชาแพทย์ด้วย ก่อนหน้านี้เคยเรียนบางส่วนกับหมอในเมืองมา ข้าจะขอติดตามพระชายาเพื่อเรียนรู้วิชาแพทย์ได้ไหม?"
ฟู่จาวหนิงมองดูประชาชนด้านล่าง แล้วมองไปทางเซียวหลันยวนเซียวหลันยวนกุมมือนางไว้แน่น"ลุกขึ้นเถิด"เสียงของเซียวหลันยวน ใช้กำลังภายในขับส่งออกมา"ข้ามีนามว่าเซียวหลันยวน อ๋องเจวี้ยนแห่งแคว้นเจา มารดาผู้ให้กำเนิดคือจักรพรรดินีตงฉิงเซวียนหยวนซื่อ โชคชะตาแคว้นตงฉิงเจอเคราะห์กรรมไปช่วงหนึ่ง ภัยธรรมชาติและหายนะจากมนุษย์ ดวงดาวเคลื่อนคล้อย สายลมและเมฆแปรเปลี่ยน จนพบกับความพินาศย่อยยับ""แต่ว่า ทุกท่านอย่าได้สิ้นหวังไป ก่อนหน้าที่ตงฉิงจะเกิดเรื่อง จักรพรรดินีนำคณะทูตไปยังต้าชื่อพอดี หลบเลี่ยงหายนะครั้งนี้ไปได้ แล้วราชครูเองก็ทำนายภัยไว้นานแล้ว ดังนั้นจึงส่งคนบางส่วนลี้ออกจากตงฉิงไป""เช่นเดียวกับเมืองอั้น ครั้งนั้นที่ล่วงรู้ก่อน และใช้มาตรการการปกป้องเมืองอั้นต่างๆ นานาก่อนที่ภัยจะมาถึง จึงรักษาเมืองอั้นเอาไว้ได้ จึงได้มีทุกท่านในวันนี้""ในสถานที่อื่นๆ ในส่วนมุมอื่นๆ ยังมีสถานที่เช่นเดียวกับเมืองอั้นอยู่ ที่คอยคุ้มครองประชาชนตงฉิงของข้า พวกเจ้าทุกคนจะกลายเป็นความหวังของตงฉิง และตงฉิงก็จะไม่ทรยศต่อพวกเจ้า""และนี่คือพระชายาที่รักของข้า ฟู่จาวหนิง วิชาแพทย์ของนางสูงส่ง เข้าร่วมกับสมาคม
เซียวหลันยวนไม่สนใจว่าครอบครัวอดีตเจ้าเมืองจะเอะอะแค่ไหนแต่ว่า อวี๋ลี่คุณชายใหญ่อวี๋ ถูกเขาดึงไปตรงหน้าครอบครัวตระกูลอวี๋ แล้วหักแขนกับขาข้างหนึ่งทิ้งด้วยมือตัวเองตอนนี้ ทำเอาทุกคนในตระกูลอวี๋ตกใจสุดขีดอวี๋เซียนเอ๋อร์ตกใจจนหน้าซีดอวี๋ลี่กรีดร้องไม่หยุด"ข้าอนุญาตให้พวกเจ้าโลภมาก หลงในอำนาจ ยอมให้พวกเจ้าโง่เขลาได้ กระทั่งยอมให้พวกเจ้าต่อต้านใส่ร้าย"เซียวหลันยวนเอ่ยเหตุผลออกมาเสียงเรียบ"แต่ว่า จะไม่ยอมให้พวกเจ้ายื่นมมือมาตรงหน้าพระชายาของข้าเด็ดขาด ใครที่กล้าทำร้ายนาง นี่คือจุดจบ"อวี๋ลี่ร้องโหยหวน "แต่ข้าทำไม่สำเร็จนะ นางไม่ได้เป็นอะไรเลยด้วยซ้ำ!"ยุติธรรมกับเขาไหมเนี่ย?เขาส่งคนไปลักพาตัวฟู่จาวหนิง แต่ทำไม่สำเร็จจนป่านนี้ฟู่จาวหนิงเป็นอย่างไร ตัวกลมหรือแบนเขาก็ยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำ"เจ้ายังโชคดีที่นางไม่เป็นไร ถ้าเป็นอะไรขึ้นมา เจ้ายังจะได้ร้องแบบนี้เรอะ?"เซียวหลันยวนเหลือบตามองเขาเย็นชา"ยังโชคดี ที่ตอนนี้ข้าไม่อยากจงใจตัดชีวิตใคร"ไม่เช่นนั้น อวี๋ลี่ไม่ใช่หักแค่แขนขาแน่เซียวหลันยวนคิดว่าตอนนี้จาวหนิงตั้งท้องลูกแฝด ยังไม่สังหารใครดีกว่า ไม่อย่างนั้นหัวของอวี๋ลี่
เฉิงอวิ๋นเจี้ยนโล่งใจขึ้นมาทันทีคำตอบของอ๋องเจวี้ยน กับปฏิกิริยาของเขา ทำให้เฉิงอวิ๋นเจี้ยนเข้าใจ ว่าสิ่งเหล่านี้นั้นมีอยู่จริง!พวกเขาไม่ได้กำลังคุยโม้ ไม่ใช่มาหลอกลวงเขา แต่มีอยู่จริงๆจนตอนที่เขาเห็นไป๋หู่กับเสี่ยวเยว่ พอเห็นวัตถุดิบยาที่พวกเขาแจ้งออกมาแล้วไม่มีอาการสงสัยกับไม่เข้าใจแม้แต่น้อย ตอนที่บันทึกอย่างรวดเร็ว เขาก็ยิ่งรู้สึกว่า ลงตัวได้เสียทีคนเหล่านี้ ไม่ใช่พวกหลอกลวงเฉิงอวิ๋นเจี้ยนกระทั่งเอ่ยชื่อวัตถุดิบยาบางอย่างที่พวกเขาเคยเห็นแค่ในตำราแพทย์ ในเมืองอั้นไม่ปรากฏให้เห็นมานานแล้ว แต่เสี่ยวเยว่ก็จดจำมันอย่างรวดเร็วกระทั่งยังบอกเขาว่า วัตถุดิบยาเหล่านี้ พวกเขาตั้งใจจะปลูกในอนาคตด้วยปลูกวัตถุดิบยาเองหรือ?เฉิงอวิ๋นเจี้ยนคิดถึงเฉิงอวิ๋นโหรวน้องสาวตนเอง ก่อนหน้านี้นางก็คิดอยู่ตลอด ถ้าหากสามารถหาเมล็ดของวัตถุดิบยาได้ และสามารถปลูกได้ก็คงจะดีมากอวิ๋นโหรวหลายปีนี้ก็เดินไปทั่วทุกมุมเมืองอั้น ถ้าเจอพืชที่ไม่รู้จักสักต้นหนึ่ง นางก็จะเฝ้าสังเกตและค้นคว้า ดูว่ามันนำมาใช้เป็นยาได้ไหม"แม่นางเสี่ยวเยว่ ข้าอยากถามหน่อย ถ้าหากสามารถปลูกวัตถุดิบยาได้จริงล่ะก็ คนของพวกเราจะขอ
"พวกเจ้าทำอะไรน่ะ? ปล่อยพ่อข้านะ!"อวี๋เซียนเอ๋อร์ร้องขึ้นมาเมื่อครู่นางมองเสิ่นเสวียนจนเหม่อไปแล้วพวกผู้ชายที่มาจากด้านนอก ทำไมถึงได้หล่อเหลากันขนาดนี้?น่าเสียดาย อายุแบบนี้น่าจะมากกว่านางพอควร ถ้าว่าเรื่องความหนุ่มแน่นก็ยังต้องอ๋องเจวี้ยนตอนที่อวี๋เซียนเอ๋อร์ยังเสียดายเรื่องอายุของเสิ่นเสวียนอยู่นั้น พ่อของเขาก็ถูกควบคุมตัวไว้แล้ว"ไม่ปล่อย แล้วเจ้าจะทำไม?"น้ำเสียงเสิ่นเสวียนยังดูอ่อนโยนอยู่ แต่ในคำพูดกลับไม่เกรงใจแม้แต่น้อย"ไม่ปล่อย พวกท่านก็ไปไหนไม่ได้แล้ว! พวกท่านจะลำบากแน่!" อวี๋เซียนเอ๋อร์เองก็คิดคำพูดคุกคามไม่ออก ร้อนรนจนหน้าแดงก่ำ"จวนเจ้าเมืองของเจ้า ตอนนี้ยังมีคนใช้งานได้อยู่หรือ?""ท่านอย่าลืมนะ อ๋องเจวี้ยนยังอยู่ในมือเรา! ตอนนี้ข้าจะให้คนไปสังหารเขาซะ!" อวี๋เซียนเอ๋อร์เอ่ยขึ้นอย่างมาดร้าย"งั้นเจ้าก็ไปสิ"เสิ่นเสวียนหลังจากพูดจบคำนี้ก็ไม่สนใจนางอีก ให้คนรีบไปยึดครองจวนเจ้าเมือง แล้วพาคนที่เหลืออยู่ทั้งหมดมาที่ลานว่างนี้ใครก็ตามที่ขัดขืน ก็จัดการสกัดจุดชีพจร แล้วหิ้วออกมาโยนรวมไว้ด้วยกัน"พี่เขย!"ฟู่จาวเฟยเห็นเซียวหลันยวนที่เดินเข้ามาช้าๆ ดวงตาก็เปล่ง
องครักษ์จวนเจ้าเมืองนอนระเนระนาดอยู่บนพื้นพวกเขาไม่เข้าใจ เพราะอะไรทั้งๆ ที่ตกลงมาในคุกใต้ดินลึกขนาดนี้เหมือนกัน พวกของตนเองล้วนล้มคะมำกันหมด มีคนที่ล้มจนแขนขาหักเลยก็มี แต่พวกของอ๋องเจวี้ยนนั้นกลับร่อนลงมาอย่างมั่นคง ลุกขึ้นยืนกันแล้วอ๋องเจวี้ยนกับเหล่าองครักษ์ของเขากระทั่งไม่ให้โอกาสพวกเขาได้พักหายใจเลย ลงมือเข้ามาพร้อมกัน ซัดพวกเขาที่มีตั้งมากมายลงไปจนหมอบกระแตหมดตอนนี้ที่นอนอยู่บนพื้นทั้งหมดคือฝั่งพวกเขา ที่ยืนอยู่ล้วนเป็นฝั่งของอ๋องเจวี้ยน"ท่านอ๋อง ที่นี่"พวกของชิงอีได้รับคำสั่งจากอ๋องเจวี้ยนก็แยกย้ายกัน ออกไปค้นหากลไกตอนแรกยังมีพวกองครักษ์ที่หัวเราะเยาะพวกเขาที่ไม่รู้จักประมาณตน บอกว่าคุกใต้ดินนี้พวกเขาไม่มีวันเปิดได้ ทางที่ดียอมแพ้และสวามิภักดิ์กับเจ้าเมืองอวี๋ดีกว่าแต่เพียงไม่นาน กลับหากลไกเจอแล้ว?เซียวหลันยวนเดินเข้าไป มองดูมุมกำแพงมีอะไรอย่างหนึ่งนูนออกมาเล็กน้อย เหมือนจะเป็นข้อบกพร่องเล็กๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างการตีเหล็กกำแพงคุกใต้ดินที่เรียบลื่น เพื่อไม่ให้คนที่ตกลงมามีโอกาสปีนขึ้นไป จึงทำไว้ลึกมาก กำแพงเองก็สร้างมาเป็นพิเศษ ข้อบกพร่องเล็กน้อยนี้จึงมองข้ามไปไ