“ใครมาส่งเหรอลูก” สุชาดาถามลูกสาวคนโตเมื่อเห็นเธอเดินเข้าบ้านพร้อมกับตุ๊กตาหมีตัวโตและดอกไม้อีกหลายช่อ
“วัชร์ค่ะแม่”
“วัชร์ที่อยู่ข้างบ้านเราน่ะเหรอ”
“ค่ะแม่”
“ไปสนิทสนมกันตั้งแต่ตอนไหนล่ะ ทำไมเขาถึงมาส่งได้”
“ก็วันนี้รวีของเยอะค่ะวัชร์เขาเลยมาส่งญาดาแล้วก็กลับไปรับรวีอีกครั้งหนึ่งเขาเป็นคนมีน้ำใจมากเลยนะคะแม่”
“จ้ะบ้านใกล้กันก็ต้องมีน้ำใจให้กันแบบนี้แต่เตือนไว้เลยนะคบกันเป็นเพื่อนไปไหนมาไหนด้วยกันได้แต่อย่าให้เกินเลยอย่าคบกันเป็นแฟน”
“ทำไมล่ะคะแม่วัชร์เขาเสียหายอะไรตรงไหน”
“ไม่ได้เสียหายหรอกแต่เราน่ะยังเด็กทั้งคู่แม่อยากให้หนูตั้งใจเรียนก่อนอนาคตเราอาจจะเจอคนอีกเยอะ”
“ค่ะแม่รวีก็ไม่ได้คิดจะคบกับใครตอนนี้หรอกค่ะ” ฉัตรรวีรีบปฏิเสธเพราะเธอเองก็คิดแบบนั้นแต่ที่พูดกับวีรวัชร์ก็เพราะเห็นว่าเขาบ้านอยู่ใกล้และพาเธอไปไหนมาไหนได้ในระหว่างที่ปิดเทอมและพอเปิดเทอมเธอก็จะเข้าไปเรียนมหาวิทยาลัยในกรุงเทพตามที่วางแผนไว้
“ดีแล้วล่ะลูกถ้างั้นรีบไปอาบน้ำนะเดี๋ยวจะได้กินข้าวพร้อมกัน เย็นนี้เรากินข้าวกันแค่สามคนนะแล้ว”
“ลุงองอาจล่ะคะ”
“ลุงเขาไปส่งของที่ต่างจังหวัดน่ะ”
“กินกันสามคนแบบนี้ก็ดีเหมือนกันค่ะ” ฉัตรรวีไม่ค่อยชอบพ่อเลี้ยงของเธอเท่าไหร่เพราะเขามักจะมองเธอด้วยสายตาแปลกๆ จนไม่อยากจะให้เขาอยู่ใกล้
ฉัตรญาดาอาบน้ำเสร็จก่อนใครเด็กสาวมานั่งรอทุกคนที่โต๊ะทานอาหารซึ่งวันนี้มารดาของเธอทำกับข้าวหลายอย่างเพื่อฉลองให้กับการเรียนจบของลูกสาวคนโต
“หิวมากเหรอญาดา”
“ค่ะแม่ กับข้าวน่ากินมากเลยค่ะ ถ้าหนูเรียนจบแม่จะฉลองให้แบบนี้ไหม”
“ได้สิ ไม่ว่าลูกคนไหนเรียนจบแม่ก็ต้องฉลองให้อยู่แล้วล่ะ ”
“แต่วันนี้ฉลองให้รวีก่อนนะคะแม่” ฉัตรรวีพูดอย่างอารมณ์ดีก่อนจะนั่งลงเพื่อทานอาหารพร้อมกับทุกคน
“จ้ะลูก แล้วปิดเทอมนี้คิดไว้หรือยังว่าจะทำอะไรระหว่างรอเข้ามหาวิทยาลัย”
“ก็คงอยู่บ้านค่ะ รวีจะนอนดูทีวีทั้งวันเลยค่ะ”
“แล้วญาดาล่ะลูกปิดเทอมจะทำอะไร”
“หนูก็คงอยู่บ้านค่ะแม่”
“อยากเรียนพิเศษอะไรเพิ่มเติมไหมล่ะลูก”
“หนูคิดว่าอ่านหนังสือเอาเองดีกว่าค่ะแม่หนูเพิ่งจะขึ้นม. 3 เองนะคะ”
“ถ้างั้นไปเอาหนังสือในห้องพี่มาอ่านได้เลยนะ หนังสือพวกนั้นพี่คงไม่ใช่อีกแล้ว”
“ขอบคุณค่ะ”
“แม่คะ วัชร์เขาชวนรวีออกไปฉลองที่รวีเรียนจบค่ะ”
“เด็กข้างบ้านที่มาส่งเมื่อกี้ใช่ไหม”
“ค่ะแม่”
“ทำไมเขาต้องฉลองให้รวีด้วยล่ะลูก หรือหนูกับเขาแอบคบกันอยู่”
“ไม่ใช่แบบนั้นนะคะแม่เขาก็แค่เห็นว่ารวีเป็นรุ่นพี่แล้วบ้านเราก็อยู่ติดกันก็เลยอยากจะพาไปเลี้ยงฉลอง”
“จะไปฉลองที่ไหนเมื่อไหร่”
“ก็แค่พาไปกินข้าวไปกินไอติมค่ะแม่ไม่ได้ไปไหนไกลเลย”
“ถ้าอยากไปก็เอาน้องไปด้วยนะ คนอื่นเห็นมันจะได้ไม่น่าเกลียดว่าเราไปกับผู้ชายตามลำพังสองคน ญาดาไปกับพี่เขาด้วยนะ” สุชาดาพูดกับลูกสาวคนโตก่อนจะหันมาพูดกับลูกสาวคนเล็กต่อ
“แม่คะแต่หนูขี้เกียจออกจากบ้าน”
“ถ้าญาดาไม่ไปรวีก็ไม่ต้องออกจากบ้านถ้าอยากจะฉลองก็มาฉลองที่บ้านเราก็ได้แม่ไม่อยากให้หนูออกไปกับผู้ชายตามลำพังถึงแม้เขาจะเป็นคนที่เรารู้จักมานานแล้วก็ตาม”
“ถ้างั้นญาดาไปกับพี่เดี๋ยวพี่เลี้ยงเอง ร้านไอติมหน้าโรงเรียนญาดาชอบไม่ใช่เหรอ”
“แน่นะพี่”
“อือ”
“งั้นก็ได้”
“ตกลงแม่ให้หนูไปนะคะ”
“ได้สิแต่อย่าออกไปไหนกันบ่อยและไปไกลก็แล้วกันนะแล้วจะไปกันยังไงล่ะรวียังขี่มอเตอร์ไซค์ไม่เก่งเลยนะ”
“ก็คงซ้อนสามกันไปค่ะแม่ญาดาตัวเล็กนิดเดียวนั่งรถไปด้วยกันก็คงไม่เป็นอะไรหรอก”
“อย่ากลับกันค่ำนักล่ะ”
“ค่ะแม่”
หลังจากทานอาหารเย็นเสร็จแล้วฉัตรรวีก็เข้าห้องของตัวเองส่วนฉัตรญาดาก็ช่วยมารดาล้างจานจนเสร็จก่อนจะเดินมาเคาะประตูห้องพี่สาว
“มาเอาหนังสือเหรอญาดา”
“หนูไม่ได้มาเอาหนังสือ”
“แล้วมาทำไม”
“หนูจะมาถามว่าพี่กับพี่วัชร์ก็เป็นอะไรกัน”
“ก็บอกไปแล้วนี่ว่าไม่ได้เป็นอะไรกัน” ฉัตรรวีปฏิเสธเสียงแข็ง
“หนูไม่เชื่อหรอกแต่ก่อนไม่เห็นจะสนิทกันแบบนี้เลยบอกหนูมานะว่ามันเกิดอะไรขึ้นระหว่างพี่กับพี่วัชร์”
“ญาดาจะมาคาดคั้นอะไรกับพี่กันล่ะ”
“ก็หนูอยากรู้นี่ถ้าพี่รวีไม่บอกความจริงหนูจะไม่ออกไปกับพี่และแม่ก็คงไม่ยอมให้พี่ไปกับพี่วัชร์สองคนแน่ๆ”
“ทำไมถึงอยากจะรู้เรื่องของผู้ใหญ่กันนะ”
“พี่รวีก็เพิ่งเรียนจบ ม. 6 ไม่ใช่เป็นผู้ใหญ่สักหน่อย”
“แต่พี่ก็อายุมากกว่าเธอ”
“ก็ใช่พี่อายุมากกว่าหนูเพราะฉะนั้นหนูคิดว่าพี่คงไม่โกหกหนูใช่ไหมล่ะ”
“ถ้าอยากรู้ก็ปิดประตูก่อนสิ” ฉัตรญาดารีบปิดประตูแล้วขึ้นมานั่งบนเตียงกับพี่สาวอย่างรวดเร็ว
“ตกลงพี่กับพี่วัชร์เป็นแฟนกันเหรอ” เธอถามด้วยความอยากรู้
“วัชร์เขามาสารภาพว่าชอบพี่”
“แล้วพี่ก็ตกลงคบกับเขาเหรอ”
“อือ”
“แต่แม่ไม่ให้เรามีแฟนนะ”
“ไม่ใช่แฟนนะแค่ลองคุยกันคบกันน่ะ”
“คบกันแต่ไม่เรียกแฟนหนูงงไปหมดแล้ว”
“ก็ญาดายังเด็กไงก็เลยไม่เข้าใจ”
“แล้วพี่ชอบพี่วัชร์เหรอ”
“ตอนนี้ยังไม่ชอบ”
“พี่วัชร์เขาก็หล่อดีนะตัวก็สูงมาก”
“แต่เขาเด็กกว่าพี่ตั้งหนึ่งปี”
“ไม่เห็นเป็นไรเลยผู้ชายตัวโตแบบนั้นไม่มีใครรู้หรอกว่าอายุมากหรืออายุน้อยกว่าพี่ถ้าได้พี่วัชร์มาเป็นแฟนก็คงดีนะ บ้านเราก็อยู่ติดกันแบบนี้น่าจะได้เจอกันเกือบทุกวัน”
“ช่วงนี้ก็คงได้เจอเกือบทุกวันนั่นแหละแต่ถ้าพี่เข้าไปเรียนต่อที่กรุงเทพแล้วมันก็อีกเรื่อง”
“พี่พูดแบบนี้หมายความว่ายังไง”
“ก็หมายความตามที่พูดไงถ้าพี่ไปเรียนต่อที่กรุงเทพแล้วก็ไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นบ้าง”
“พี่จะเลิกกับเขาเหรอ”
“พี่ก็ไม่รู้แต่ตอนนี้พี่ยังไม่มีใครวัชร์เขาก็ยังไม่มีใครก็คบกันไปกันก่อน คบเล่นๆ ไม่เสียหายอะไรหรอก”
“แล้วถ้าเกิดพี่วัชร์เขาจริงจังขึ้นมาล่ะ”
“มันเป็นเรื่องของอนาคต ญาดาอย่าเพิ่งคิดอะไรมากเลยตอนนี้มันก็แค่เป็นการคบกันแบบเด็กๆ พอโตขึ้นทุกอย่างก็อาจเปลี่ยน”
“ไม่ยุติธรรมเลยนะ”
“พี่ไม่อยากคุยกับญาดาแล้วถ้าวันนี้ไม่เอาหนังสือก็กลับห้องตัวเองได้แล้ว”
“กลับก็ได้”
“เดี๋ยวญาดา”
“อะไรอีกล่ะ ไล่แล้วจะเรียกทำไม”
“ญาดาอย่าบอกแม่เรื่องที่พี่แอบคบกับวัชร์นะ”
“หนูจะไม่บอกใครก็ได้แต่ตอนเปิดเทอมพี่ต้องซื้อกระเป๋าใบใหม่ให้หนูด้วยตกลงไหมล่ะ”
“อือ พี่จะซื้อกระเป๋าใบใหม่ให้แลกกับการเก็บเรื่องนี้เป็นความลับก็แล้วกัน”
เมื่อน้องสาวเดินออกจากห้องไปแล้วก็พอดีกับวีรวัชร์วิดีคอลมาหาเธอพอดี
“รวียังไม่นอนใช่ไหม”
“ยังไม่นอนวัชร์ล่ะทำอะไรอยู่”
“เพิ่งเล่นเกมเสร็จตกลงพรุ่งนี้รวีไปฉลองกับผมได้ใช่ไหม”
“ได้สิขอแม่แล้วแต่มีข้อแม้นะ”
“ข้อแม้อะไร”
“แม่ไม่อยากให้รวีไปกับวัชร์แค่สองคนแม่ก็เลยให้ญาดาไปด้วย เราไปกันสามคนได้ไหมล่ะ”
“แต่ผมอยากไปกับรวีแค่สองคน”
“แม่ไม่ยอมให้ออกบ้างหรอกถ้าญาดาไม่ไปด้วย”
“เอางั้นก็ได้”
“แล้วเราจะไปไหนกันล่ะ”
“เราไปดูหนังที่นครสวรรค์กันไหม”
“เราจะไปยังไงล่ะวัชร์ ให้นั่งมอเตอร์ไซค์ไปคงได้โดนตำรวจจับเพราะซ้อนสามแน่ๆ”
“เราขับมอเตอร์ไซค์ไปจอดที่ท่ารถจากนั้นก็นั่งรถประจำทางไปแต่ต้องออกเช้าหน่อยนะจะได้เดินเที่ยวกันด้วย”
“ก็ได้ รวีก็อยากดูหนังเหมือนกัน”
“คุยกับแม่แล้วใช่ไหมญาดา”“ค่ะญาดาบอกแม่แล้วแม่จะรีบกลับมาพรุ่งนี้ค่ะ แล้วบอสคุยกับพี่โอปอแล้วพี่เขาเป็นยังไงบ้างเขา”“ก็ยังร้องไห้อยู่คงกลัวจะติดคุกนั่นแหละ”“ญาดาขอไปคุยกับพี่ก่อนได้ไหม”“ได้สิผมนั่งรอตรงโน้นนะ”“ค่ะ”ฉัตรญาดาเดินไปหาพี่สาวที่นั่งร้องไห้อยู่ภายในลูกกรง“พี่โอปอเป็นยังไงบ้าง”“ญาดาเธอรู้มั้ยว่าผู้ชายที่เป็นเจ้านายเธอน่ะก็คือวีรวัชร์”“เขาบอกพี่โอปอแบบนั้นเหรอคะ”“ใช่เขาเพิ่งบอกพี่เมื่อกี้ ที่เขาเข้ามาในชีวิตพวกเราก็เพื่ออยากจะทำลายครอบครัวของเรา”“ญาดารู้ค่ะว่าเขาคือพี่วัชร์”“เธอรู้แต่ทำไมเธอไม่บอกพี่”“ก็เขาไม่ให้บอกนี่คะ”“แล้วเธอก็ทำตามเขาอย่างงั้นเหรอ”“ที่ญาดาทำตามที่เขาบอกก็เพราะญาดารู้สึกสงสารและเห็นใจที่เขาต้องมารับโทษแทนพี่”“เธอกำลังถูกเขาหลอกใช้ได้นะญาดาเขาเห็นเธอแค่เป็นทางผ่านเพื่อมาแก้แค้นพี่เท่านั้นแหละ”“ญาดาขอโทษ”“เธอรู้เหรอว่าเขาจะแก้แค้น”“ญาดารู้ค่ะว่าเขาจะแก้แค้นพี่เขาบอกญาดาแล้วและที่เขานัดออกมาเจอวันนี้ก็เพื่อจะบอกความจริงทุกอย่าง แต่เรื่องมันก็เกิดขึ้นมาเสียก่อน ญาดาขอโทษนะคะที่บอกพี่ช้าไปทำเลยให้พี่กับพี่อาร์ทต้องทะเลาะกัน”“พี่เพิ่งรู้นะว่า
“บอสคะญาดาว่าถ้าบอสจะคุยกับพี่โอปอ บอสน่าจะคุยกันตามลำพังนะไม่น่าจะต้องพาญาดามาด้วยเลย” หญิงสาวนั่งบ่นหลังจากเขาไปรับเธอที่คอนโดเพื่อมายังร้านอาหารที่นัดกับลดาภัสน์“ไว้ก็ผมบริสุทธิ์ใจนี่ ผมอยากให้ญาดารู้ว่าผมคุยอะไรกับพี่สาวคุณบ้างและเราจบกันจริงๆ”“แต่ญาดากลัวพี่โอปอโกรธ”“ผมรู้ว่าเขาจะต้องโกรธมาก แต่ถ้าเราไม่พูดตอนนี้เรื่องมันก็จะไปกันใหญ่ ญาดาคงไม่อยากให้มันเป็นอย่างนั้นใช่ไหม”“ค่ะแต่บอสมั่นใจแล้วใช่ไหม”“มั่นใจเรื่องอะไรก็มั่นใจว่าเราจะคบกันจริงๆ บอสจะไม่นึกถึงอดีต”“ไม่หรอกญาดาเรื่องทุกอย่างมันจบไปแล้วแต่ที่ผมคิดจะแก้แค้นพี่สาวของญาดาก็เพราะคำพูดของเขาที่พูดกับผมวันนั้นมันทำให้ผมรู้สึกเจ็บ แต่ตอนนี้ญาดาก็ทำให้ความรู้สึกเจ็บของผมหายไปแล้วผมรู้มันฟังดูแปลกที่ผู้ชายคนหนึ่งจะคบกับน้องสาวของคนที่ทำลายชีวิตเขา แต่ผมไม่ได้คิดอะไรแบบนั้นเลยญาดาอย่าคิดมากเลยนะ”ภคชนท์ขับรถใกล้จะถึงร้านที่นัดไว้แต่โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นมาเสียก่อน“ทำไมไม่รับสายล่ะคะ”“เดี๋ยวก็ถึงร้านแล้วผมว่าไปคุยกันที่ร้านดีกว่านะ” ชายหนุ่มไม่อยากคุยขณะขับรถแต่ดูเหมือนลดาภัสน์จะไม่ยอมง่ายๆ เธอยังคงกดโทรศัพท์มาหาเขาอีกห
ช่วงวันหยุดยาวลดาภัสน์ไม่ได้ติดต่อไปหาภคชนท์เลยเพราะสามีของเธอกลับมาที่บ้าน บรรยากาศระหว่างสามีภรรยายังคงมึนตึงกันอยู่เพราะคนกลางอย่างคุณสุชาดามารดาของหญิงสาวไปทำบุญกับเพื่อนที่ต่างจังหวัดหลายวันทำให้ลดาภัสน์และอรรถพลอยู่กันตามลำพังในบ้านลดาภัสน์ตัดสินใจได้แล้วว่าเธอจะหย่าขาดจากสามีและไปเริ่มต้นใหม่กับภคชนท์หญิงสาวมั่นใจว่าชายหนุ่มไม่รังเกียจที่เธอเป็นแม่หม้ายและเขาพร้อมที่จะคบหากับเธอ จากการที่เขาแสดงออกหลายหลายอย่างมันทำให้ลดาภัสน์รู้ว่าเขาเองไม่ได้คิดกับเธอแค่เพื่อนอีกต่อไปเพราะคงไม่มีผู้ชายคนไหนยอมเสียเวลา เสียเงินพาไปช้อปปิ้งโดยไม่หวังอะไรในตัวเธอ“จะเอาอย่างนี้จริงๆ เหรอโอปอ ทำไมไม่นึกถึงวันเก่าๆ ของเราว่าที่ผ่านเรามีความสุขกันมากแค่ไหน” อรรถพลพยายามยื้อเพราะเขาไม่อยากจะเสียเธอไป“คำว่าวันเก่าๆ มันก็คืออดีตค่ะอาร์ทแต่ปัจจุบันโอปอไม่มีความสุขเลย อาร์ทไม่มีเวลาให้โอปอเหมือนเคย”“ผมก็พยายามหาเวลาให้โอปอมากขึ้นแล้วนะ อดทนรออีกนิดไม่ได้เหรอ”“โอปอเบื่อกับคำนี้เหลือเกินแล้วนะ”“ที่คุณอยากจะเลิกกับผมเพราะคุณมีผู้ชายคนใหม่ใช่โอปอ อย่าคิดว่าผมไม่รู้นะ ผมให้เพื่อนตามสืบมาแล้ว คุณไปกับผู้
เมื่อได้พูดความรู้สึกออกไปแล้วภคชนท์ก็รู้สึกสบายใจขึ้น ตลอดระยะเวลาที่อยู่ภูเก็ตเขากับฉัตรญาดาตกลงกันว่าจะลืมเรื่องทุกอย่างไปก่อนแล้วจะเที่ยวด้วยกันอย่างสนุก ส่วนปัญหาที่มันยังค้างคาอยู่ค่อยกลับมาจัดการที่กรุงเทพทีหลังบ่ายวันอาทิตย์หลังจากที่ตระเวนเที่ยวกันรอบเกาะแล้ว ฉัตรญาดากับภคชนท์ก็กลับมาที่โรงแรมทั้งสองทานอาหารเย็นด้วยกันและนั่งมองพระอาทิตย์ตกดินด้วยกันอยู่บริเวณหาดทรายหน้าโรงแรม“ญาดาดูเหมือนจะชอบทะเลมากนะ แต่ทำไมไม่เห็นจะลงไปเล่นน้ำหรือไม่ได้เตรียมชุดว่ายน้ำมา ให้ผมพาไปซื้อก็ได้นะ”“ญาดาเตรียมชุดว่ายน้ำมาค่ะ แต่เห็นคนเล่นน้ำทะเลแล้วก็เลยเปลี่ยนใจ”“ทำไมล่ะ”“คนมันเยอะไปหน่อย”“แสดงว่าชุดที่เตรียมมาต้องเซ็กซี่มากๆ เลยใช่ไหมล่ะถึงไม่กล้าใส่ลงมาเล่นน้ำ”“ก็ประมาณหนึ่งค่ะ”“ถ้าอยากเล่นน้ำจริงๆ เราย้ายไปเช่ารีสอร์ทกันไหม เอาที่ที่มีหาดส่วนตัวญาดาเราจะได้เล่นน้ำ”“ไม่เป็นไรหรอกค่ะบอสพรุ่งนี้เราก็ต้องเริ่มต้นทำงานแล้ว แค่ได้นั่งมองพระอาทิตย์ตกดินแบบนี้ญาดาก็มีความสุขมากๆ แล้วค่ะ บอสล่ะคะ”“ผมมีความสุขมาก เราคงต้องอาหโอกาสมาเที่ยวด้วยกันบ่อยๆ แล้วนะ”“บอสไม่เบื่อเหรอคะพี่ต้องขับรถพาญ
ภคชนท์มีท่าทางคิดหนักและลังเลว่าจะบอกความจริงฉัตรญาดาไปตอนนี้ดีหรือเปล่า บรรยากาศในร้านอาหารมันก็ค่อนข้างโรแมนติกมีเสียงเพลงสากลจากทางร้านคลอเบาๆ อีกทั้งยังได้ยินเสียงคลื่นกระทบฝั่งอยู่ไกลๆ“บอสเป็นอะไรคะทำไมนิ่งไปมีอะไรบอกญาดาตรงๆ ได้นะคะ”เขามองหน้าเธอก่อนตัดสินใจรวบรวมความกล้าแล้วพูดออกไป“ให้ผมพูดตรงๆ ใช่ไหม”“ใช่ค่ะ ญาดาพร้อมจะฟัง”“แล้วถ้าผมบอกว่าผมชอบญาดาล่ะ”“อะไรนะคะ” หญิงสาวตกใจจนช้อนที่อยู่ในมือแทบจะร่วง“บอสต้องล้อเล่นแน่ๆ เลย” เธอไม่เชื่อในสิ่งที่ภคชนท์พูดสายตาที่มองมีแต่ความสงสัย“ทำไมต้องคิดว่าล้อเล่นด้วยล่ะ”“ก็บอสเคยชอบพี่สาวของญาดานี่คะ”“ตัดอดีตทิ้งออกไปก่อนได้ไหมตอนนี้เราพูดกันถึงเรื่องปัจจุบัน”“บอสคะบอสเมาหรือเปล่า”“เราไม่ได้กินเหล้ากันนะ ไวน์ก็หมดไปแค่ครึ่งแก้วเอง”“บอสจะมาชอบญาดาได้ยังไง” เธอยังคงสงสัย“แล้วทำไมผมจะชอบคุณไม่ได้ล่ะ”“ไม่รู้สิคะ ญาดากับบอสอายุห่างกันตั้งเยอะนะคะ อีกอย่างญาดาก็เป็นแค่ผู้ช่วยของบอสเองมันไม่มีอะไรเหมาะสมกับบอสหรอก”“เมื่อกี้ในสเปกของญาดาไม่มีความว่าเหมาะสมเลยนะ แล้วผมก็ตรงสเปกของญาดาทุกอย่าง”“แล้วญาดาตรงสเปกของบอสตรงไหน”“ก็ตรงที่
ภคชนท์และฉัตรญาดามาถึงภูเก็ตในเวลาค่ำของวันศุกร์ทั้งสองเช็กอินเข้าพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งซึ่งคุณแพรพรรณเลขาของชายหนุ่มได้จองไว้ให้แล้ว ห้องพักของทั้งสองเป็นห้องพักที่อยู่ติดกันและเมื่อเก็บของเข้าที่แล้วเขาก็พาเธอไปร้านอาหารที่อยู่ห่างออกไปจากโรงแรมโดยรถเช่าจองไว้ล่วงหน้าแล้ว“เป็นไงชอบร้านนี้ไหมญาดา”“ชอบค่ะบรรยากาศดีมากอาหารก็อร่อยบอสเคยมาทานที่นี่บ่อยไหม”“ก็ทุกครั้งที่มาภูเก็ตผมก็จะมาทานร้านนี้แหละ”“แล้วแต่ก่อนบอสมากับใครคะมากับพี่แพรหรือเปล่า”“มากับคุณแพรสองครั้งน่ะ จากนั้นก็มาคนเดียวอีกหน่อยญาดาอาจจะต้องมากับผมบ่อยขึ้น”“ไม่มีปัญหาค่ะ”“ถ้าต้องเดินทางบ่อยๆ สะดวกไหมมีใครว่าอะไรหรือเปล่า”“สะดวกค่ะ ญาดาไปได้ทุกที่” เธออยากจะพูดต่อว่าสามารถไปที่ไหนก็ได้ทุกที่ถ้าหากมีเขาไปด้วยแต่ก็หยุดคำพูดนั้นไว้แค่นั้นเพราะรู้ว่ามันไม่เหมาะสมที่จะสารภาพความรู้สึกของตนเองออกไป“เดือนหน้าก็จะต้องไปอเมริกาแล้วภาษาอังกฤษเป็นยังไงบ้างล่ะ”“สบายมากค่ะตอนนี้ญาดากำลังคิดว่าอยากจะเรียนเพิ่ม”“อ้าวไหนบอกว่าสบายมากแล้วทำไมอยากจะเรียนเพิ่มอีกล่ะ”“ญาดาไม่ได้อยากจะเรียนภาษาอังกฤษเพิ่มสักหน่อย ญาดาคิดว่าจะเรียนภ