LOGINผูกมักเธอด้วยหนี้ก้อนโต จากที่จะปล่อยเธอไป กลายเป็นล่ามโซ่เธอไว้ไม่ให้หนีไปไหน ‘ยิ่งเธอหนี ฉันยิ่งจะผูกเชือกให้แน่นจนเธอกระอัก’
View Moreบทนำ
ครืด ครืด...
เสียงโทรศัพท์แผดเสียงดังลั่นในช่วงสายของวัน ปลุกให้หญิงสาวตัวเล็กที่นอนหลับอยู่บนเตียงรู้สึกตัวตื่น มือเรียวเล็กควานหาโทรศัพท์ทั้งที่เปลือกตายังปิดสนิท ใบหน้าหวานสวยแสดงความหงุดหงิดออกมาเล็กน้อยเมื่อมีเสียงเข้ามากวนเวลาการนอนทั้งที่วันนี้เป็นวันหยุดเรียน
ทันทีที่หยิบโทรศัพท์ได้ทำให้หญิงสาวค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้นและมองหน้าจอโทรศัพท์ ทันทีที่เป็นชื่อของคนรู้จักทำให้เธอตัดสินใจรับสายและฟุบหน้าลงกับหมอนพร้อมกับหลับตาลงอีกครั้ง
“ฮัลโหล”
น้ำเสียงที่แหบพร่ากล่าวทักทายทันทีที่กดรับสาย ด้วยที่เป็นสายของคนที่คุ้นเคยทำให้เธอไม่จำเป็นต้องแกล้งทำน้ำเสียงสดใส
(ฮรือ ฮือ...)
เสียงร้องไห้ดังมาจากปลายสายแต่คนที่ได้ยินยังคงหลับตาพร้อมกับถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอได้ยินเสียงแบบนี้
“ครั้งนี้เท่าไหร่”
(สามหมื่น ฮรือ ฮือ...แม่คิดว่ากู้เอามาลงทุนแล้วจะได้ทุนคืน แต่สุดท้ายมันไม่เป็นแบบที่คิด ตอนนี้พวกเก็บเงินกู้ก็ตามมาที่บ้าน ขู่แม่ทุกทาง แม่ไม่มีทางเลือก แม่ไม่อยากรบกวนพริกหวานเลยนะลูก)
ริมฝีปากบางยกยิ้มมุมปาก ‘ไม่อยากรบกวนเธอ’ รอบที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ที่เธอได้ยินประโยคแบบนี้ เพราะคำว่าผู้ให้กำเนิดทำให้ชีวิตเธอต้องวิบัติ เคยมีความคิดอยากจะตัดขาดจากครอบครัวนี้แต่สุดท้ายสามัญสำนึกทำให้เธอตัดไม่ขาด สุดท้ายก็ควายตัวหนึ่งที่ยอมทำตามคำร้องขอของคนที่แทนตัวเองว่า ‘แม่’
“สิ้นเดือนพริกถึงจะโอนให้ และขอให้เป็นครั้งสุดท้ายนะจ๊ะ”
(แม่จะไม่ทำให้พริกหวานเดือดร้อนอีกแล้วลูก ขอบใจมากนะ ฮือ...)
ทันทีที่ปลายสายพูดจบเธอได้ตัดสายไปทันที พร้อมกับโยนโทรศัพท์ออกห่างแบบไม่ไยดีและนึกถึงเสียงของแม่ที่กรอกเข้ามาในหูจนไม่สามารถข่มตาหลับได้
หญิงสาวร่างเล็กดีดตัวลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียง มองร่างกายที่เปลือยเปล่าที่ซ่อนอยู่ภายใต้ผ้าห่มผืนหนาก่อนจะมองไปรอบๆห้องของคอนโดที่พึ่งย้ายเข้ามาอยู่ได้ประมาณสองเดือน ภายในคอนโดขนาดไม่ใหญ่มากและการตกแต่งค่อนข้างหรูหราเกินตัวของเด็กมหา’ลัยปีสองที่มาจากต่างจังหวัด ไม่เคยคิดว่าชีวิตตัวเองจะพลิกผันถึงเพียงนี้ จากรูหนูในหอพักที่สภาพทรุดโทรม เพียงสองเดือนชีวิตเปลี่ยนไปดั่งคุณหนู
“หึ” เสียงหัวเราะในลำคอดังขึ้นเบาๆเมื่อนึกสมเพชตัวเอง เพราะคำว่าแม่ทำให้เธอตัดสินใจทำเรื่องที่เสียศักดิ์ศรีอยู่พอสมควร
ชีวิตเด็กต่างจังหวัดเข้ามาเรียนในกรุงเทพเหมือนคนทั่วไป มีความสุขที่ได้เข้ามาเรียนในกรุงเทพ มีความสุขที่ได้ทำตามความฝัน แต่เมื่อขึ้นปีสองชีวิตดันไม่สดใสเมื่อครอบครัวตัวเองดันติดพนันแถมยังกู้เงินนอกระบบมาเอาไว้ทำทุน ชีวิตเรียกว่าหายนะตั้งแต่ตอนนั้น
จากครอบครัวที่มอบความสุขให้เธอกลายเป็นครอบครัวที่มอบแต่ความทุกข์ให้เธอเมื่อเข้าไปอยู่ในวงการพนันออนไลน์
ในตอนนั้นเธอมีเวลาเพียงหนึ่งอาทิตย์เพื่อหาเงินมาคืนให้เจ้าหนี้เงินกู้นอกระบบ ไม่งั้นบ้านหลังที่ตัวเองอยู่มาตั้งแต่เด็กจะโดนยึด และพ่อแม่ของเธอจะกลายเป็นคนไร้ที่อยู่ เพราะความรักทำให้คนตาบอดมีอยู่จริง ช่วยเหลือจนกลายเป็นเรื่องปกติไปแล้ว ถ้าวันนั้นเธอไม่สำนึกบุญคุณ วันนี้เธอคงไม่ต้อง ‘ขายตัว’
มือเรียวเล็กหยิบโทรศัพท์เครื่องหรูที่พึ่งได้มาใหม่ไม่ถึงหนึ่งเดือนกดหาบุคคลที่สามารถช่วยเธอได้ และเขาคนนั้นคือคนที่ทำให้ชีวิตเธอพลิกผัน
เอาตัวเข้าแลกเพื่อได้สิ่งที่เธอต้องการ และเป็นคนในความลับของเขาเท่านั้น
พริกหวาน : คืนนี้พริกเข้าไปหาคุณที่คอนโดได้ไหมคะ
“อ่านแล้วแต่ไม่ตอบแหะ” ดวงตากลมโตมองหน้าจอโทรศัพท์มือถือที่เปิดแอปพลิเคชันไลน์ ด้านบนที่เป็นชื่อพิมพ์ไว้แค่อักษรภาษาอังกฤษตัว R
พริกหวาน : เงินที่คุณให้มาคราวก่อนหมดแล้ว พริกต้องการใช้เงินด่วน
R : ที่เดิม เวลาเดิม
ตอนที่ 10 : ไม่มีสิทธิ์ไปยุ่งกับใครสองชั่วโมงผ่านไปหลังจากเดินที่ตลาดใกล้มหา’ลัยจนหนำใจ รุ่นพี่คนสนิทได้พาเธอมาส่งที่ป้ายรถเมล์ เพราะเธออยากกลับเองมากกว่าให้พี่นักรบไปส่ง คงไม่ดีแน่ถ้าพี่นักรบรู้ว่าเธออยู่คอนโดที่ค่อนข้างไม่สมเหตุสมผลกับฐานะของเธอ ระหว่างที่นั่งรอรถเมล์ทำให้เธอนึกทบทวนเรื่องที่เกิดขึ้นและคิดว่าเวลานี้คงเหมาะที่จะเปิดใจคุยกันแบบจริงจัง ตลอดเวลาที่เธอกับพี่นักรบเดินเล่นและพูดคุยกันทำให้รู้ว่าพี่เขาชัดเจนกับเธอมากจริงๆชัดเจนจนเธอรู้สึกผิดกับความรู้สึกดีๆที่พี่เขามอบให้“พี่นักรบคะ พอดีพริกมีเรื่องอยากจะพูดด้วย” ใบหน้าหวานหันไปทางรุ่นพี่คนสนิทและแสดงสีหน้าจริงจัง“ว่ามาสิ”“คือ...ระหว่างเรา...”“รถเมล์มาพอดีเลย” นักรบชะเง้อมองรถเมล์ที่เป็นสายประจำของรุ่นน้องคนสนิทและรีบพูดแทรก“ระหว่างเราเป็นพี่น้องกันได้ไหมคะ” พริกหวานตัดสินใจพูดสวนทันที ดวงตากลมโตจับจ้องไปที่รุ่นพี่คนสนิท และในจังหวะที่เธอพูดจบสายตาคมของรุ่นพี่จับจ้องมาที่เธอเหมือนกัน เธอไม่ได้สนใจรถเมล์ที่มาจอดเทียบท่า“เดี๋ยวค่อยคุยกัน รีบขึ้นรถเมล์ไปก่อนเถอะ” นักรบไม่ได้สนใจและรีบฉุดรั้งมือรุ่นน้องให้ลุกขึ้นและพาไ
ตอนที่ 9 : รุ่นพี่ หลายวันต่อมา...หญิงสาวร่างเล็กอยู่ในชุดนักศึกษา เสื้อนักศึกษาพอดีตัวแต่ช่วงอกทำเอากระดุมปริเพราะด้วยขนาดที่ใหญ่คล้ายกับสั่งหมอทำแต่ความจริงคือของที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด สวมคู่กับกระโปรงทรงเอสั้นเหนือเข่าขึ้นมาเล็กน้อย ไม่ได้โป๊จนเกินงามเพื่อโชว์เรียวขาขาวเนียน ใบหน้าหวานแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางบางเบา ผมยาวสลวยถูกดัดลอนคลายให้ดูธรรมชาติรับกับใบหน้าหวานได้อย่างลงตัวริมฝีปากบางฉีกยิ้มเมื่อเห็นเพื่อนสาวคนสนิทนั่งหันหลังโดยที่หันหน้าไปอีกทาง เท้าเรียวเล็กค่อยๆย่องไปอย่างช้าๆและเบาที่สุด “ขนมผิง” เสียงหวานเรียกชื่อเพื่อนสาวดังลั่นจนเจ้าของชื่อถึงกับสะดุ้งและโทรศัพท์ล่วงจากมือลงสู่โต๊ะ“โอ๊ย ยัยพริก หัวใจฉันแทบหาย กำลังเพลินๆ”“ฮ่า ฮ่า...” พริกหวานหัวเราะร่าอย่างมีความสุขและเข้าไปนั่งใกล้กับเพื่อนสาว เธอมีเพื่อนคนเดียวคือขนมผิง คุยกันถูกคอตั้งแต่เข้ามาเรียนมหา’ลัยเลยได้กลายมาเป็นเพื่อนซี้ปึกจนถึงตอนนี้ เธอกับเพื่อนสาวซี้กันจนพูดคุยกันได้ทุกเรื่อง ยกเว้นแต่เรื่องที่เธอขายตัวให้กับคุณโรมันและถูกเลี้ยงเป็นอย่างดีโดยไม่ต้องทำงาน เธอไม่เคยบอกให้ใครรับรู้ เพราะมันคือข้อตกลงที
ตอนที่ 8 : ของเล่นแก้ เงี่ย-(น)กลับมาปัจจุบันมือเรียวเล็กกำหมัดแน่นเมื่อนึกถึงค่ำคืนที่แสนเจ็บปวด กลิ่นคาวเลือดที่ลอยเข้ามาเตะจมูกในคืนนั้นยังชัดเจนเสมอ คราบน้ำตาที่ไหลอกมาอาบสองข้างแก้มในคืนที่สุดแสนทรมานยังจำได้ดี เขาไม่จบแค่ครั้งเดียวแต่เขาทารุณร่างกายเธอยันเช้าจนร่างกายเธอบอบช้ำขั้นสุด แต่เขาคือคนที่รักษาคำพูดได้ดี เงินหนึ่งแสนบาทถูกโอนเข้าบัญชีทันทีหลังจากเขาเดินออกจากห้องนี้ และตั้งแต่นั้นมาเวลาเขาต้องการเธอ เธอจะมาโรงแรมนี้ สร้างบทรักยั่วสวาทให้เขาพอใจเพื่อต้องการเงิน หลังจากครั้งนั้นแม่ของเธอได้โทรมาหาหลายครั้งจนเงินแสนนั้นหมด และเป็นจังหวะเดียวกันที่เขาต้องการนอนกับเธออีก ถึงแม้เงินจะไม่ได้มากเหมือนครั้งแรกแต่เธอได้เงินมากพอที่จะโอนให้ทางบ้าน ในเพียงระยะเวลาสองเดือนเธอได้เรียนรู้คำว่า ‘ขายตัว’ แบบแจ่มแจ้ง ชีวิตเธอเปลี่ยนไปหลังจากเรามีอะไรกันครั้งที่สอง เขายื่นข้อเสนอจะซื้อคอนโดให้อยู่และส่งเสียค่าเทอม แต่ต้องแลกมาด้วยการที่เธอคอยปรนนิบัติเขา ซึ่งไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจำยอม และสิ่งต่างๆได้พลิกผันจนเธอกลายเป็นเด็กเลี้ยงเสี่ยไปแล้ว ถึงเขาจะไม่ดูเหมือนเสี่ยทั่วไปแต่สิ่งที่เข
ตอนที่ 7 : ยอมรับข้อเสนอหนึ่งชั่วโมงต่อมาแก้วคริสตัลวางกระทบพื้นกระจกจนเกิดเสียง ดวงตากลมโตมองเหล้าราคาแพงที่พ่องไปเกินครึ่งขวดแล้ว แต่คนข้างๆเธอยังดูปกติเหมือนกับดื่มน้ำเปล่า เขาบังคับให้เธอดื่มไปเพียงสองแก้วเท่านั้น แต่แค่สองแก้วก็ทำให้เธอเริ่มมึนหัว แต่พยายามควบคุมสติให้ได้มากที่สุด เธอพยายามชวนคุยแต่ดูเขาจะถามคำตอบคำ แต่เธอก็อยากสร้างบรรยากาศให้ดีกว่านั่งตัวเกร็ง “คุณมาที่นี่บ่อยไหมคะ”“อืม”“งั้นแสดงว่าคุณคงเรียกสาวๆมานั่งดื่มเป็นเพื่อนด้วยกันตลอดเลยเหรอคะ”“ฉันไม่ชอบมีเพื่อนดื่ม”ร่างสูงยัดกายลุกขึ้นหลังจากตอบคำถามสาวข้างกายจบ สายตาคมปรายตามองเธอที่ยังนั่งนิ่งอยู่ที่เดิม ค่อนข้างแปลกใจที่เธอไม่ยื้ออะไรเขาเลยต่างจากผู้หญิงคนอื่นที่แทบกอดแข้งกอดขาและใช้มารยาออดอ้อนขอไปต่อด้วย“ตกลงกันไว้เท่าไหร่”“หมายถึงอะไรคะ? หรือว่าหมายถึงค่าตัวที่นั่งดื่มเป็นเพื่อนคุณ”ไม่มีการตอบกลับจากโรมันแต่ใช้สายตากดดันเธอแทน“หนึ่งหมื่นค่ะ ยังไม่ได้หักเปอร์เซ็นต์” ก่อนจะเข้ามาทำงานเจ๊คนที่รับเธอเข้ามาได้บอกรายได้ที่นั่งกินแขกไว้แล้ว ซึ่งค่อนข้างเยอะสำหรับเธอ แต่รู้ว่าพอหักเปอร์เซ็นต์แล้วไม่พอกับที่แม่
ตอนที่ 6 : ดื่มเป็นเพื่อนเที่ยงคืนตรงรถยนต์คันหรูขับเคลื่อนมาจอดด้านหลังของผับดังใจกลางเมือง ตามมาด้วยรถคุ้มกันสีดำสนิท ก่อนที่คนในรถยนต์คันหรูจะลงจากรถ ลูกน้องหลายสิบคนต้องคอยเช็คความเรียบร้อยก่อนเสมอ เมื่อทุกอย่างปกติทำให้ส่งสายตาไปยังลูกน้องที่คอยเปิดประตูรถยนต์คันหรูให้เปิดประตูได้ชายหนุ่มร่างกายกำยำก้าวขาลงจากรถยนต์คันหรู ที่รายล้อมไปด้วยลูกน้องนับสิบที่คอยคุ้มกัน การแต่งกายคุมโทนสีดำสนิท เสื้อเชิ้ตปลดกระดุมลงจนเผยแผงอกแกร่ง ใบหน้าคมคายเรียบนิ่งไร้ความรู้สึก สายตาคมกริบจ้องมองทางที่เดินไปด้วยแววตาที่ยากจะคาดเดา เท้าแกร่งก้าวเป็นจังหวะสม่ำเสมอและมุ่งตรงไปยังพื้นที่ประจำของตัวเอง “เด็กที่นายต้องการเตรียมพร้อมอยู่ในห้องแล้วครับ” ธนินลูกน้องคนสนิทเอ่ยขึ้น“ดี”ประตูห้องรับรองในผับหรูเปิดออกทำให้ชายหนุ่มร่างกายกำยำก้าวเข้ามาในห้อง สายตาคมกริบมองหญิงสาวตัวเล็กที่ยืนอยู่ข้างโซฟาหนังราคาแพง สายตาคมมองตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าโดยที่ไม่แสดงความรู้สึกอะไร สายตาคมหยุดมองที่หน้าอกอวบอิ่มอยู่สักพักก่อนจะตวัดสายตาไปมองอย่างอื่นแทนพร้อมกับนั่งลงที่โซฟารูปร่างหน้าตาเธอไม่ต่างจากในรูปที่ได้เห็นก่
ตอนที่ 5 : ผู้หญิงที่เลือกเสียงของสาวสองดังขึ้นทำให้เธอหลุดออกจากการสนใจสิ่งอื่นรอบตัวและหันไปมองตามเสียง ปรากฏหญิงสาวประเภทสองที่แต่งตัวจัดจ้านกว่าพริกทั้งสวนยืนยิ่งอยู่ไม่ไกลและเดินตรงเข้ามาหา“สวัสดีค่ะ”“เรียกว่าเจ๊ก็พอไม่ต้องรู้ว่าเจ๊ชื่ออะไร”“อ่อค่ะ” เธอตอบรับแบบงงๆ แต่ไม่ได้สนใจส่วนนั้นเพราะเธอสนใจเรื่องงานมากกว่า “เดินตามเจ๊มาคุยในห้อง ตรงนี้เสียงดัง”พริกหวานเดินตามสาวประเภทสองและเข้ามาในห้องห้องหนึ่งที่อยู่ใกล้ๆ พอเข้ามามีเพียงชุดโซฟาหนังตั้งอยู่กลางห้อง และพอมองออกไปจากห้องกระจกสามารถเห็นคนเดินผ่านไปผ่านมาได้อย่างชัดเจน แต่ก่อนหน้านี้ถ้าเธออยู่ด้านนอกจะมองไม่เห็นข้างในต่อให้ห้องเปิดไฟสว่าง“งั้นเริ่มคุยกันเลยนะ ก่อนอื่นเลยถ้าอยากทำงานชุดนี้เจ๊ว่าไม่เหมาะ แล้วการแต่งหน้าแบบนี้เจ๊ก็ว่าเฉิ่มเกินไป ส่วนเรื่องหน้าตาและหุ่นเจ๊ให้ผ่าน”“งานที่ว่าเป็นแค่นั่งดื่มเป็นเพื่อนใช่ไหมคะ”“ใช่จ้ะ นั่งดื่มเป็นเพื่อนลูกค้า แต่หลังจากนั้นฟรีสไตล์ถ้าอารมณ์พาไป” สาวประเภทสองยิ้มกริ่มเพราะไม่เคยมีเด็กที่ตนเองส่งคนไหนไม่ไปต่อกับแขก สุดท้ายเสร็จทุกราย “เอ่อ...ขอถามได้ไหมคะ หนูเห็นเจ๊โพสต์มีผู้
Comments