Share

Chapter 3

เขาขู่และดึงฉันเข้าหาเขา ทำให้ฉันอ้าปากค้าง

“และสำหรับการตบนั้น” เขาลากปืนตามใบหน้าของฉัน

“ฉันจะปล่อยให้มันผ่านไปเพราะมันอาจมากเกินไปสำหรับเธอในหนึ่งวัน แต่ ” เขาหยุดที่ริมฝีปากของฉัน

“ครั้งต่อไปฉันจะฆ่าเธอ” เขาเตือนและดวงตาของเขาแสดงความจริงใจ ฉันกลืนก้อนเนื้อในลำคอ แต่ยังคงยืนที่เดิม ฉันจ้องกลับตาเขา ซึ่งทำให้เขายิ้มเยาะ

“กลัวเหรอ” ตอนนี้เขากระซิบอย่างเย้ายวน

"ตอนนี้เป็นเด็กดีเถอะถ้าคุณต้องการให้ครอบครัวของคุณออกจากโบสถ์นั้นได้โดยที่ยังมีชีวิต!” เขาดึงฉันเข้าไปใกล้มากขึ้นในขณะที่เขาเอามือพิงหลังฉัน

“ก-แกหมายความว่ายังไง” ฉันกระซิบหาเสียงของฉันไม่เจอ หัวใจของฉันเต้นแรง

“คนของฉันยังอยู่ในโบสถ์นั้น หากคุณยังทำผิดอีกครั้งเดียว พวกเขาอาจตายได้นะ” เขาพูดอย่างไร้ความรู้สึกราวกับการฆ่าผู้คนไม่มีความหมายสำหรับเขา

“แกจะไม่ทำ” ฉันพูดตะกุกตะกัก รู้สึกวิตกกังวลมากขึ้น ตอนนี้ฉันรู้สึกกำลังหายใจไม่ออก

“ลองท้าฉันสิ” เขากระซิบ

"ทำไมแกต้องทำแบบนี้?" ฉันร้องไห้เพราะไม่สามารถกลั้นน้ำตาได้อีกต่อไป ฉันเริ่มรู้สึกหมดหนทาง

เขาจ้องมาที่ฉันแต่ไม่ตอบคำถาม เขาจับมือฉันแล้วหันหลังลากฉันให้ไปกับเขา ฉันปิดปากของฉันไว้เพียงเพราะการคุกคามของเขาและร้องไห้ตามเขาอย่างเงียบ ๆ เขาผลักฉันเข้าไปในรถลิมูซีน แล้วเข้าตามหลังฉันมาก่อนจะปิดประตู ฉันได้ยินเสียงเรียกชื่อฉัน ฉันมองออกไปนอกหน้าต่าง เห็นพ่อวิ่งออกจากโบสถ์พร้อมกับเจซ และไม่นานแม่ก็เดินตามพวกเขามา

“จูเลียต!” ฉันไม่ได้ยินเสียงพวกเขา แต่เดาว่าเป็นชื่อของฉันที่ถูกพวกเขาเรียก ในขณะพวกเขากำลังต่อสู้กับพวกนั้นเพราะพยายามจะตามมาหา รถลิมูซีนเริ่มเคลื่อนตัวไป ในที่ที่มีแต่พระผู้เป็นเจ้าที่รู้ ฉันยังคงจ้องมองไปที่ร่างที่กำลังต่อสู้กับสมุนคนนั้นเพื่อมาหาฉัน

“พ่อ แม่” ฉันกระซิบ ขณะที่พวกเรามองมาและทรุดตัวลงกับพื้น นั่งสะอื้นไห้อย่างหมดหนทาง ฉันมองไปทางซ้ายไปทางแซคคารี ซึ่งจ้องมาที่ฉันด้วยท่าทางที่เฉยเมย สิ่งเดียวที่ฉันรู้สึกสำหรับเขาในตอนนี้คือความเกลียดชัง ฉันเกลียดเขามาก เขาฆ่าคนรักของฉัน ความคิดที่ว่าฉันจะไม่ได้พบเอ็มเม็ตต์อีกในชีวิตนี้ ทำให้ฉันเจ็บปวดและฉันเกลียดแซคคารีมากขึ้น เขาเป็นเหตุผลที่ทำให้เรื่องทุกอย่างมันเกิดขึ้น

“ฉันเกลียดคุณ” ฉันกระซิบ แต่ฉันรู้ว่าเขาได้ยินฉันขณะที่เขาหันหน้าไปจากทิศทางของฉันและจ้องมองออกไปนอกหน้าต่าง

“ฉันเกลียดคุณจริงๆ” ฉันกระซิบอีกครั้ง แต่คราวนี้กับตัวเอง เมื่อฉันเอนหัวพิงหน้าต่างเงียบๆ และร้องไห้ออกมา

ฉันไม่รู้ว่าฉันต้องร้องไห้อีกนานแค่ไหน แต่ไม่นานฉันก็เริ่มรู้สึกเวียนหัว และฉันหลับตาลงอย่างรู้สึกเหนื่อยขึ้นมาทันใด ทันทีที่ฉันหลับตา ฉันพบว่าตัวเองกำลังตกอยู่ในความมืด ฉันตื่นมารู้สึกหายใจไม่ออก ตาของฉันเบิกกว้างและฉันพบว่าตัวเองอยู่ในห้องที่ปิด ฉันนอนอยู่บนเตียงมองไปรอบ ๆ ก็พบว่ามันเป็นห้องเล็กๆ มีแสงไฟสลัว ทุกอย่างดูมีระดับและหรู โดยสิ่งที่ดึงดูดความสนใจของฉันมากคือเสียงเครื่องยนต์

"ไม่นะ! ฉันอยู่บนเครื่องบินเหรอ?” ฉันกระซิบเมื่อนึกขึ้นมาได้เมื่อลืมตาดูหน้าต่างทรงกลมเล็กๆ ซึ่งแสดงให้ฉันเห็นก้อนเมฆ

ฉันลุกจากเตียงแล้วเดินไปที่ประตูซึ่งฉันเดาว่าเป็นห้องน้ำในตัว โชคดีที่เป็นห้องน้ำ ได้ยินเสียงลมในห้องน้ำชัดเจนขึ้น ฉันมองตัวเองในกระจกแล้วพบว่าตัวเองดูโทรม ใบหน้าของฉันเลอะ มีรอยลิปสติกเปื้อนไปทางซ้าย จากนั้นฉันก็จำจูบที่ฉันแบ่งปันกับผู้ชายที่ฆ่าคนรักของฉันได้ ฉันตัวสั่นและรู้สึกรังเกียจ ฉันสาดน้ำหลายครั้งบนใบหน้าเพื่อลบเครื่องสำอาง ฉันใช้สบู่เพราะไม่มีโฟมล้างหน้า ฉันใช้แปรงหวีผม เอากิ๊บออก แต่สิ่งที่ทำให้ฉันรู้สึกคลื่นไส้คือเลือดที่ติดอยู่ที่ชุดของฉัน มันคือเลือดของเอ็มเม็ตต์ น้ำตาไหลเมื่อนึกถึงเขา และพ่อแม่ของฉันจะเป็นอย่างไรบ้างในตอนนี้?

“เอ็มเม็ตต์” ฉันร้องไห้หนักกว่าเดิม โดยตระหนักว่าฉันสูญเสียเขาไป เขาไม่อยู่แล้ว ฉันเสียเขาไปต่อหน้าต่อตาและฉันไม่สามารถทำอะไรเพื่อช่วยเขาได้ ทั้งหมดนี้เป็นเพราะแซคคารี ทำไมเขาถึงฆ่าเอ็มเม็ตต์? ทำไมเขาถึงยอมมาแต่งงานกับฉัน ฉันไม่เคยพบแซคคารีมาก่อน เป็นที่แน่ๆว่าฉันไม่รู้จักเขาในทางใดทางหนึ่งเลย แล้วทำไมเขาถึงฆ่าเอ็มเม็ตต์ และเขามาแต่งงานกับฉันเพื่ออะไร? ฉันจำคำพูดของแซคารีในโบสถ์นั้นได้ “ตอนนี้มึงจะได้รู้ว่ารู้สึกอย่างไรเมื่อมีคนเอาสิ่งล้ำค่าที่สุดไป”

สิ่งล้ำค่า? เอ็มเม็ตเอาของล้ำค่าของเขาไป? ไม่ เขากำลังโกหก ฉันรู้จักเอ็มเม็ตต์ เขาไม่มีวันทำแบบนี้กับใครได้

“แต่อะไรก็ตาม ไม่ได้หมายความว่าเขาสามารถฆ่าใครซักคนได้และแต่งงานกับใครซักคนที่ขัดกับเจตจำนงของมันไม่ได้” ฉันพูดกับตัวเอง

“คุณบอกกับแซคคารีได้เลย ฉันมั่นใจว่าต่อไปจากนี้จะทำให้ชีวิตของเขาเหมือนอยู่ในนรก” ฉันสาบานกับตัวเองขณะที่ฉันรู้สึกว่าตัวเองเต็มไปด้วยความเกลียดชัง

“ฉันไม่สนหรอกว่าเขาจะสูญเสียสิ่งล้ำค่าอะไรไป แต่เขาพรากสิ่งล้ำค่าที่สุดไปจากฉัน ฉันจะแก้แค้นให้ชีวิตเขาตกนรก” ฉันสาบานด้วยคำพูดที่เต็มไปด้วยพิษ

ฉันได้ยินเสียงประตูเปิดปิด ฉันคิดว่าต้องเป็นแซคคารี เขาต้องเข้ามาในห้อง เพื่อดูฉัน ฉันรีบเช็ดน้ำตาตัวเอง ออกจากห้องน้ำ ทันทีที่ฉันออกมา ฉันเห็นเขายืนอยู่ใกล้เตียงด้วยท่าทางที่แข็งกระด้าง

“กลับมาแล้วเหรอค่ะ” ฉันพูดเสียงหวานจนทำให้เขาขมวดคิ้ว

“อะ-” ฉันเอ่ยขัดบทเขา “ฉันรอคุณอยู่” ฉันพูดแล้วเดินไปที่ประตูซึ่งแง้มไว้เล็กน้อย ฉันปิดมันแล้วกดลูกบิดประตูปิด

"คุณกำลังจะทำอะไร?" เขาถามในขณะที่ฉันหันหลังกลับไป ฉันเดินตรงไปหาเขา และขณะที่ฉันเดินไปฉันก็เริ่มรูดซิปที่หลังชุดของฉัน

“ที่รัก คุณลืมไปหรือเปล่า? นี้คืนแต่งงานแล้ว” ฉันพูดและยิ้มเยาะในใจเมื่อเห็นดวงตาของเขาเบิกกว้างด้วยความตกใจเมื่อได้ยินสิ่งที่ฉันพูด

“หายแล้วเหรอ” เขาพูดอย่างกับเรื่องร้ายแรง

"อะไร? ฉัน? ไม่นะ” ฉันเดินเข้าไปหาเขาแล้วผลักเขาลงบนเตียง

“ทำบ้าอะไร” เขาร้องขณะที่พยายามจะลุกขึ้น

ฉันปีนขึ้นไปบนตัวเขาแล้วตบมือทั้งสองข้างของศีรษะของเขาเพื่อหยุด ไม่ให้เขาลุกขึ้น เขาจับเอวฉันและพยายามผลักฉัน แต่ฉันปฏิเสธที่จะขยับหนี

“คุณลืมที่ผมบอกเกี่ยวกับพ่อแม่ของคุณหรือเปล่า” เขาขู่

“อ้อ ฉันไม่ได้ลืม แล้วนี่ทำอะไรน่ะเหรอ? ฉันแค่พยายามเกลี้ยกล่อมสามีของฉัน เพราะตอนนี้คุณเป็นสามีของฉันแล้ว เถอะน้านี่คืนวันแต่งงานแล้ว” ฉันพูดอย่างเย้ายวนขณะที่ฉันเอานิ้วจิ้มไปที่หน้าเขาเหมือนกับที่เขาทำกับฉันโดยใช้ปืนเป็นครั้งสุดท้าย เขาหล่อจริงๆ เขามีดวงตาที่ลึกและเข้มข้นที่สวยงามและมีแนวกรามและจมูกที่แหลมคม แต่ความเกลียดชังที่ฉันรู้สึกต่อเขาทำให้ฉันตาบอดต่อลักษณะทั้งหมดของเขา ฉันจะเป็นลมสำหรับเขาถ้าฉันได้พบเขาในทางอื่น ๆ น่าเสียดายที่พระเจ้าสร้างคนไร้หัวใจเช่นนี้

“ฟังนะ ออกไปจากตัวผม” เขาพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ พยายามดึงฉันออกจากเขา

ฉันยิ้มเยาะให้เขาและเริ่มปลดกระดุมบนของเขา

“ไม่” ฉันกระซิบอย่างเย้ายวน

ฉันเริ่มโน้มตัวไปที่ใบหน้าของเขา ทำให้เขาตัวแข็ง และทันทีที่ฉันอยู่ใกล้เขา เขาก็หลุดพ้นจากความคิดของเขาและจับลำตัวของฉันไว้ เขาก็ผลักฉันออกห่างจากเขาสำเร็จ ฉันล้มตัวลงนอนข้างเขาในขณะที่เขาลุกขึ้นและก้าวออกจากห้องโดยเร็วไม่แม้แต่จะเหลียวหลังมาทางฉัน ฉันได้ยินเขาพูดพึมพำว่า "ยัยโง่!"

ฉันหัวเราะเยาะเขา ขณะที่ฉันพับแขนไว้ด้านหลังศีรษะและยิ้มอย่างมีชัย

“ติ๊กคะแนนให้จูเลียตหนึ่งคะแนน” ฉันพูดกับตัวเอง

“มันเป็นเพียงการเริ่มต้น คอยดูเถอะ” ฉันยิ้มให้ตัวเอง

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status