ขณะที่ฝ่ามือของแดร์ริลเข้ามาใกล้ มาร์คัสก็ตกใจ แต่เขารีบง้างมือขึ้นมาเพื่อต้านทานการโจมตีตู้ม!ฝ่ามือประสานกันกลางอากาศ สีหน้าของมาร์คัสเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิงเมื่อตัวเขาลอยปลิวถอยร่นไปมีเสียงร้องคร่ำครวญ มาร์คัสกระอักเลือดเต็มปาก ใบหน้าของเขาแดงฉาน! แล้วตัวเขาก็ค่อย ๆ ไถลลงกองกับพื้นมาร์คัสรู้สึกขวัญหนีดีฝ่อขณะเขามองไปที่แดร์ริลอย่างว่างเปล่า เขานั้นพูดไม่ออกบอกไม่ถูก!แดร์ริลยิ้มขณะเดินมามองมาคัสอย่างเย็นชา “ฉันอาจจะเคยเห็นคู่หมั้นของนายตอนเปลี่ยนเสื้อ แต่ฉันก็ได้ขอโทษเธอและแต่งเพลงให้กับเธอแล้ว คู่หมั้นของนายก็ตัดสินใจเรียกฉันว่าอาจารย์ของเธอเอง แต่แล้วทำไมนายก็ยังตัดสินใจจะมาฆ่าฉัน เอาล่ะทีนี้บอกฉันที นายคิดว่านายควรจะต้องตายไหม”จิตสังหารก็ฉายวับในแววตาของแดร์ริลทันที!ขณะที่มาร์คัสสบสายตาแดร์ริล ร่างกายของเขาก็สั่นสะท้านไปทั้งทรวง เขานั้นหวาดผวาจากนั้นเขาก็ลุกขึ้นมาคุกเข่าลงต่อหน้าแดร์ริล เขาวิงวอน “พี่ชาย... พี่ชายผู้ยิ่งใหญ่... ไม่สิ ท่านอาจารย์! ใช่แล้ว ท่านอาจารย์ ได้โปรดไว้ชีวิตผมด้วย ฉันไม่กล้าทำอีกต่อไปแล้ว ผมแค่คิดว่าท่านรอดตัวออกไปได้ง่ายเกินไปเท่านั้นเอง ผมไม่
ทุกคนในห้องโถงต่างให้ความสนใจไปที่เชอรีล เธอนั้นตกเป็นจุดศูนย์กลางของความสนใจผู้ชายหลายคนจ้องมองมาที่เธอแดร์ริลเองก็ตกตะลึงเช่นกัน แต่เขาชื่นชมเธออย่างสุขุมเชอรีลสมควรที่จะโด่งดัง เพราะเธอนั้นมีเสน่ห์มากเธอสวมชุดกี่เพ้าสีดำและมันทำให้เห็นส่วนโค้งเว้าที่งดงามของเธอได้อย่างสมบูรณ์แบบใบหน้าอันไร้ที่ติของเธอมีการแต่งหน้าแบบบางเบาและเธอดูงดงามแชะ... แชะ...นักข่าวก็เข้ามารุมล้อมถ่ายรูปอย่างต่อเนื่อง“ขอบคุณที่มาร่วมกับเราในวันนี้ ขอบคุณ...”“ตอนนี้ ฉันจะขอร้องเพลงใหม่ให้ฟัง หวังว่าพวกคุณคงจะชอบกัน” เชอรีลกล่าวอย่างนุ่มนวลผู้ชมต่างตื่นเต้น สีหน้าของพวกเขาเปี่ยมไปด้วยความคาดหวังเมื่อทุกอย่างเริ่มสงบลง เพลงก็เริ่มบรรเลง เชอรีลโปรยยิ้มให้กับผู้ชมขณะเธอค่อย ๆ ร้องเพลงอย่างนิ่มนวล “แม่น้ำผึ้ง กลิ่นของเธอรัญจวนหอมหวาน มันเหมือนกับบุปผาเบ่งบานในสายลมฤดูใบไม้ผลิ...”เสียงที่นุ่มนวลราวกับสวรรค์ขับร้องขณะที่ท่วงทำนองอันงามไพเราะดังดึกก้องไปทั่วห้องโถงว้าว!มันไพเราะเสนาะหูจริง ๆทันใดนั้นบรรดาผู้ชมก็ส่งเสียงสรรเสริญ ทุกคนต่างประทับใจกับการร้องเพลงของเธอ!ท่วงทำนองที่ไพเราะจนติ
ไอ้เวรนั่นเป็นคนแต่งเพลงอย่างนั้นเหรอ?บรรดานักข่าวต่างหันกล้องไปหาแดร์ริล!“ไม่จำเป็นต้องให้ฉันขึ้นไปบนเวทีหรอก” แดร์ริลกล่าวด้วยรอยยิ้ม“มาเถอะ ท่านอาจารย์” เชอรีลฉีกยิ้มให้กับเขา “อาจารย์เป็นคนแต่งเพลงเอง อาจารย์ก็ต้องขึ้นมาด้วย”เขานั้นพ่ายแพ้ต่อการรบเร้าของเชอรีล แดร์ริลจึงยิ้มอย่างขวยเขินขึ้นไปบนเวทีว้าว!ทุกสายตาต่างจับจ้องไปที่แดร์ริลอย่างตกใจ!‘ไอ้ละอ่อนนี่มันเป็นใคร?’‘ไม่คุ้นหน้าเขามาก่อนเลย...’ไซม่อนเดินไปหาแดร์ริลและจ้องมองอย่าเย่อหยิ่ง “ไอ้หนุ่ม นายเป็นคนแต่งเพลงนี้จริงเหรอ?”คนที่อยู่รอบ ๆ ตัวไซม่อนต่างก็สงสัยเช่นเดียวกัน เขาไม่อยากจะเชื่อว่าเด็กหนุ่มคนนี้จะสามารถแต่งเพลงได้ไพเราะขนาดนี้สิ่งที่สำคัญมากไปกว่านั้นก็คือเขาไม่ได้เป็นคนจากสำนักพรานมีเพียงแค่ศิษย์สาวกสำนักพรานเท่านั้นที่จะมีทักษะเช่นนี้ อย่างไรก็ตามสำนักพรานก็เป็นถึงหนึ่งในสี่สำนักใหญ่ หลายคนพยายามอย่างหนักเพื่อที่จะได้เข้าสำนัก ‘คนพวกนี้น่าทึ่งจริง ๆ’แดร์ริลหัวเราะและกล่าว “ก็แค่บทเพลง ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร”อะไร?มันไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับเขา?ไอ้เด็กนี่มันยโสโอหังเกินไปทุกคนต่างตกตะลึ
สายตาของไซม่อนขึงขังมากขึ้นแดร์ริลดูไม่มีวุฒิภาวะ แถมเขายังมีวาจาสามหาว“ถ้าตกลงตามนี้ เราก็ต้องจริงจังกับการเดิมพัน” แดร์ริลกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ถ้าหากผมแพ้พนัน ผมจะยอมเรียกคนรับใช้ของคุณว่าเจ้าสูงสุด แต่ถ้าหากว่าผมชนะ ภรรยาของคุณจะต้องยอมรับผมเป็นอาจารย์ ในวันนี้นักข่าวก็มากันมากมาย คุณอย่าเพิ่งกลับคำก็แล้วกัน”บรรดาผู้ชมก็หัวเราะร่าเสียงดังระงม“ไอ้เด็กคนนี้มันคิดว่ามันจะชนะรึไง?”“จริงด้วย ท่านครีเซนต์เป็นถึงผู้อาวุโสจากสำนักพรานและเขาก็เป็นเจ้าของผลงานบทกวีที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากมายหลายชิ้น ไอ้ละอ่อนคนนี้มันคิดว่ามันเป็นใครมาทัดเทียบกับเขา?”“ไอ้หนุ่มคนนี้มันไม่รู้ตาสีตาสาว่าคนที่นี่มีพรสวรรค์มากแค่ไหน มันคิดว่ามันแน่!”เมื่อไซม่อนได้ยินเสียงกระซิบกระซาบกันของเหล่าผู้ชม เขาก็หัวเราะและกล่าว “ในฐานะผู้อาวุโสสำนักพราน ฉันจะรักษาคำพูด”ซัมเมอร์ ภรรยาของไซม่อนก็พยักหน้าตอบรับด้วยเช่นกัน ขณะเธอขบขัน ซัมเมอร์เป็นกุลสตรีที่มีชื่อเสียงและมากความสามารถ เชี่ยวชาญในเรื่องเครื่องดนตรี หมากรุก การเขียนอักษรพันปีและการวาดภาพ เธอไม่เต็มใจอย่างแน่นอนที่จะเรียกแดร์ริลว่าอาจารย์ เธอมั่นใจว่า
”จะไปมีรอบเดียวได้ยังไง?”ฝูงชนต่างเห็นด้วยกับข้อเสนอ พวกเขาคะยั้นคะยอจะอยู่ข้างไซม่อนแดร์ริลเยาะเย้ยอยู่ในใจของเขา ‘ไอ้พวกเวร! คนแบบนี้มีอยู่ทุกที่’ เขาแสยะยิ้มและกล่าว “โอเค สองในสาม ผมจะยอมเล่นด้วยเพื่อให้พวกคุณเชื่อสนิท เอาล่ะ ใครจะเป็นคนคิดหัวข้อต่อไป?”“ผมเอง!” ชายวัยกลางคนลุกขึ้นยืนอย่างกระตือรือร้นในฝูงชน ชายคนนี้มีนามว่าฮาวเวิร์ด วาลลิสเจ้าของห้องโถงเต้นรำโภไคยแน่นอนที่ไม่มีใครขัดข้อง ถ้าหากเจ้าของอยากจะเป็นผู้คิดหัวข้อฮาวเวิร์ดครุ่นคิดอยู่นานก่อนที่เขาจะกล่าว “เอาล่ะ เรามาแต่งบทกวียกยอผู้หญิงคนที่อยู่ข้าง ๆ พวกนายกันดีกว่า”ทั้งห้องโถงตกอยู่ในความเงียบสงัดทุกสายตาต่างจ้องมองไปที่ไซม่อน‘ยกยอผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ งั้นเหรอ? หัวข้อนี้ง่ายเหมือนปอกกล้วย’ไซม่อนนั้นรู้สึกมั่นใจ เขามองไปที่ซัมเมอร์ ภรรยาของเขาด้วยรอยยิ้ม เขาครุ่นคิดอยู่นานเกือบสามนาทีก่อนจะร่ายบทกวี “ดวงจันทร์เลือนลับเมื่อภรรยาของฉันเฉิดฉาย เมื่อฤดูใบไม้ผลิมาถึง เธอล้างเส้นด้ายที่ริมแม่น้ำ ความงามของเธอไม่อาจสาธยายเป็นคำเรียบง่าย ฉันจะไปมองคนอื่นทำไม นอกจากเธอ?”ไซม่อนรู้สึกภาคภูมิใจกับบทกวีของเขามาก
เชอรีลมองไปที่แดร์ริลในระยะประชิดขณะดวงตาของเธอเปล่งประกาย เธอคงจะไม่มีความสุขไปมากกว่านี้แล้ว! เพราะบทกวีที่อาจารย์ของเธอมอบให้นั้นมันช่างเอิบอิ่มหัวใจ!‘นภาที่งดงามคืออาภรณ์ที่เธอสวม และบุปผาที่งามงดคือใบหน้าของตัวเธอ’ หมายถึงก้อนเมฆสวยงามบนท้องฟ้าเป็นเสื้อผ้าของเธอและดอกไม้ก็เหมือนกับใบหน้าอันสวยสดของเธอ...แนวความคิดทางศิลปะนั้นชั้นเชิงเหนือกว่าของผู้อาวุโสครีเซนต์อย่างเห็นได้ชัด มันเป็นระดับที่สูงกว่ามาก!‘นภาที่งดงามคืออาภรณ์ที่เธอสวม และบุปผาที่งามงดคือใบหน้าของตัวเธอ’ มันเป็นบทที่เยี่ยมมากผู้ชมหลายคนรีบคว้ากระดาษกับปากกามาจดบทกวี พวกเขาทั้งหมดต่างส่งสายตาไปที่แดร์ริลด้วยความรู้สึกซับซ้อนในใจ‘เขาเก่งกาจมาก...’แดร์ริลมองไปที่ไซม่อนด้วยรอยยิ้ม “ในฐานะผู้อาวุโสสำนักพราน บทกวีของคุณไม่ได้มีอะไรน่าชื่นชม ผมคิดว่าคุณไม่จำเป็นต้องมาประชันกับผมแล้ว เดี๋ยวคุณจะหน้าแตกไปมากกว่านี้”คำกล่าวของแดร์ริลบั่นทอนเกียรติภูมิของไซม่อน“แก…”ไซม่อนขุ่นเคือง เขาชี้หน้าแดร์ริลขณะตัวเขาสั่นสะเทือนไปด้วยความเดือดดาลอัก!ไซม่อนเดินโซเซถอยหลังและอาเจียนออกมาเป็นเลือดเต็มปากเขานั้นคือผู้เ
อย่างไรก็ตาม มันก็คงจะทำลายชื่อเสียงของสามีเธอและตัวเธอเอง ไม่ว่าอย่างไรก็ตามมีคนมากเกินไปอยู่ตรงนี้ พวกเขาทั้งหมดต่างเป็นคนมั่งคั่งและมีชื่อเสียง รวมถึงสื่อมวลชนก็อยู่ที่นั่นด้วยในเมื่อพวกเขาแพ้ เธอคงจะต้องยอมรับแต่โดยดี“ลูกศิษย์คนดีของฉัน เชิญเธอลุกขึ้นยืนได้” แดร์ริลรู้สึกชื่นบานจิตใจ เขาลุกขึ้นยืนอย่างช้า ๆ และเดินไปหาซัมเมอร์ เขาเอามือลูบหัวซัมเมอร์การกระทำของแดร์ริลทำให้ซัมเมอร์หน้าแดงเถือกแดร์ริลหัวเราะและหันไปกล่าวกับเชอรีล “ฉันดีกับเธอแค่ไหน? ฉันหาน้องบุญธรรมมาให้เธอเพิ่มอีกตั้งคนนึง”“เยี่ยมไปเลยท่านอาจารย์” เชอรีลรวบรวมสติของเธอ เธอมองแดร์ริลตาไม่กระพริบ เธอจ้องมองเขาอย่างยกย่องทุกคนต่างรู้ดีว่าซัมเมอร์มีชื่อเสียงโด่งดังเพราะผลงานของเธอและตอนนี้เธอได้กลายมาเป็นน้องบุญธรรมของเชอรีล แม้แต่ตัวเชอรีลเองก็ไม่กล้าจะฝันถึงตุ้บ!เมื่อไซม่อนเห็นว่าภรรยาของเขาคุกเข่ายอมรับแดร์ริลเป็นอาจารย์ เขาก็ล้มสลบลงไปทันที“ผู้อาวุโสครีเซนต์สลบไปแล้ว!”ห้องโถงตกอยู่ในความโกลาหลทันที พวกเขารุมล้อมเข้าไปหาไซม่อนแดร์ริลไม่ได้รู้สึกตื่นตระหนก เขาค่อย ๆ ลุกขึ้นยืนและจูงมือจีเวลกลับขึ
ขณะที่เธอกล่าวอยู่นั้นเธอจ้องมองแดร์ริลและจีเวล “ที่หุบเขาพิศวงเต็มไปด้วยอันตราย ท่านอาจารย์มีแค่สาวน้อยคนรับใช้อยู่ติดตามไปด้วย พวกคุณคงจะผ่านหุบเขานี้ไปไม่ได้ด้วยสภาพที่เป็นอยู่”ซวย! หุบเขาพิศวงอันตรายขนาดนั้นเลยหรอ?ในขณะที่แดร์ริลคิด แดร์ริลก็สูดหายใจลึกและกล่าวอย่างหนักแน่น “เธอไม่ต้องมาสนใจหรอกว่าฉันจะผ่านหุบเขาไปได้ไหม เธอแค่ต้องบอกทางไปหุบเขาพิศวงนี้ให้กับฉันก็พอ”ไม่ว่ามันจะยากเย็นแค่ไหน เขายังคงจำเป็นต้องไป เขาจะถูกขังอยู่ที่นี่ตลอดไปไม่ได้จีเวลจับแขนแดร์ริลไว้แน่นและกล่าวด้วยความเชื่อมั่น “ไม่ว่าคุณจะไปที่ไหน ฉันจะตามคุณไปทุกที่ ฉันไม่กลัว ไม่ว่ามันจะยากลำบากแค่ไหน”เชอรีลตกตะลึงงันและยิ้มอย่างขมขื่น “ท่านอาจารย์ ถึงฉันจะบอกทางไปหุบเขาพิศวงกับนาย นายก็ไปไม่ได้หรอก ทางเข้าหุบเขาพิศวงอยู่ที่เนินเขาหลังสำนักกระบี่เชอรีลดูตื่นกลัวพรางกล่าว “พื้นที่ส่วนนั้นคือพื้นที่ต้องห้ามของสำนักกระบี่ ซึ่งการเฝ้ายามนั้นรัดกุมแน่นหนา แถมยังต้องได้รับอนุณาตจากสำนักกระบี่อีก ถึงจะสามารถเข้าไปได้”แดร์ริลเงียบ เขารู้สึกหงุดหงิด‘โธ่เว้ย ทำไมการที่จะออกจากทีนี่ได้มันต้องยากลำบากขนาดนี้