สายตาของไซม่อนขึงขังมากขึ้นแดร์ริลดูไม่มีวุฒิภาวะ แถมเขายังมีวาจาสามหาว“ถ้าตกลงตามนี้ เราก็ต้องจริงจังกับการเดิมพัน” แดร์ริลกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ถ้าหากผมแพ้พนัน ผมจะยอมเรียกคนรับใช้ของคุณว่าเจ้าสูงสุด แต่ถ้าหากว่าผมชนะ ภรรยาของคุณจะต้องยอมรับผมเป็นอาจารย์ ในวันนี้นักข่าวก็มากันมากมาย คุณอย่าเพิ่งกลับคำก็แล้วกัน”บรรดาผู้ชมก็หัวเราะร่าเสียงดังระงม“ไอ้เด็กคนนี้มันคิดว่ามันจะชนะรึไง?”“จริงด้วย ท่านครีเซนต์เป็นถึงผู้อาวุโสจากสำนักพรานและเขาก็เป็นเจ้าของผลงานบทกวีที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากมายหลายชิ้น ไอ้ละอ่อนคนนี้มันคิดว่ามันเป็นใครมาทัดเทียบกับเขา?”“ไอ้หนุ่มคนนี้มันไม่รู้ตาสีตาสาว่าคนที่นี่มีพรสวรรค์มากแค่ไหน มันคิดว่ามันแน่!”เมื่อไซม่อนได้ยินเสียงกระซิบกระซาบกันของเหล่าผู้ชม เขาก็หัวเราะและกล่าว “ในฐานะผู้อาวุโสสำนักพราน ฉันจะรักษาคำพูด”ซัมเมอร์ ภรรยาของไซม่อนก็พยักหน้าตอบรับด้วยเช่นกัน ขณะเธอขบขัน ซัมเมอร์เป็นกุลสตรีที่มีชื่อเสียงและมากความสามารถ เชี่ยวชาญในเรื่องเครื่องดนตรี หมากรุก การเขียนอักษรพันปีและการวาดภาพ เธอไม่เต็มใจอย่างแน่นอนที่จะเรียกแดร์ริลว่าอาจารย์ เธอมั่นใจว่า
”จะไปมีรอบเดียวได้ยังไง?”ฝูงชนต่างเห็นด้วยกับข้อเสนอ พวกเขาคะยั้นคะยอจะอยู่ข้างไซม่อนแดร์ริลเยาะเย้ยอยู่ในใจของเขา ‘ไอ้พวกเวร! คนแบบนี้มีอยู่ทุกที่’ เขาแสยะยิ้มและกล่าว “โอเค สองในสาม ผมจะยอมเล่นด้วยเพื่อให้พวกคุณเชื่อสนิท เอาล่ะ ใครจะเป็นคนคิดหัวข้อต่อไป?”“ผมเอง!” ชายวัยกลางคนลุกขึ้นยืนอย่างกระตือรือร้นในฝูงชน ชายคนนี้มีนามว่าฮาวเวิร์ด วาลลิสเจ้าของห้องโถงเต้นรำโภไคยแน่นอนที่ไม่มีใครขัดข้อง ถ้าหากเจ้าของอยากจะเป็นผู้คิดหัวข้อฮาวเวิร์ดครุ่นคิดอยู่นานก่อนที่เขาจะกล่าว “เอาล่ะ เรามาแต่งบทกวียกยอผู้หญิงคนที่อยู่ข้าง ๆ พวกนายกันดีกว่า”ทั้งห้องโถงตกอยู่ในความเงียบสงัดทุกสายตาต่างจ้องมองไปที่ไซม่อน‘ยกยอผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ งั้นเหรอ? หัวข้อนี้ง่ายเหมือนปอกกล้วย’ไซม่อนนั้นรู้สึกมั่นใจ เขามองไปที่ซัมเมอร์ ภรรยาของเขาด้วยรอยยิ้ม เขาครุ่นคิดอยู่นานเกือบสามนาทีก่อนจะร่ายบทกวี “ดวงจันทร์เลือนลับเมื่อภรรยาของฉันเฉิดฉาย เมื่อฤดูใบไม้ผลิมาถึง เธอล้างเส้นด้ายที่ริมแม่น้ำ ความงามของเธอไม่อาจสาธยายเป็นคำเรียบง่าย ฉันจะไปมองคนอื่นทำไม นอกจากเธอ?”ไซม่อนรู้สึกภาคภูมิใจกับบทกวีของเขามาก
เชอรีลมองไปที่แดร์ริลในระยะประชิดขณะดวงตาของเธอเปล่งประกาย เธอคงจะไม่มีความสุขไปมากกว่านี้แล้ว! เพราะบทกวีที่อาจารย์ของเธอมอบให้นั้นมันช่างเอิบอิ่มหัวใจ!‘นภาที่งดงามคืออาภรณ์ที่เธอสวม และบุปผาที่งามงดคือใบหน้าของตัวเธอ’ หมายถึงก้อนเมฆสวยงามบนท้องฟ้าเป็นเสื้อผ้าของเธอและดอกไม้ก็เหมือนกับใบหน้าอันสวยสดของเธอ...แนวความคิดทางศิลปะนั้นชั้นเชิงเหนือกว่าของผู้อาวุโสครีเซนต์อย่างเห็นได้ชัด มันเป็นระดับที่สูงกว่ามาก!‘นภาที่งดงามคืออาภรณ์ที่เธอสวม และบุปผาที่งามงดคือใบหน้าของตัวเธอ’ มันเป็นบทที่เยี่ยมมากผู้ชมหลายคนรีบคว้ากระดาษกับปากกามาจดบทกวี พวกเขาทั้งหมดต่างส่งสายตาไปที่แดร์ริลด้วยความรู้สึกซับซ้อนในใจ‘เขาเก่งกาจมาก...’แดร์ริลมองไปที่ไซม่อนด้วยรอยยิ้ม “ในฐานะผู้อาวุโสสำนักพราน บทกวีของคุณไม่ได้มีอะไรน่าชื่นชม ผมคิดว่าคุณไม่จำเป็นต้องมาประชันกับผมแล้ว เดี๋ยวคุณจะหน้าแตกไปมากกว่านี้”คำกล่าวของแดร์ริลบั่นทอนเกียรติภูมิของไซม่อน“แก…”ไซม่อนขุ่นเคือง เขาชี้หน้าแดร์ริลขณะตัวเขาสั่นสะเทือนไปด้วยความเดือดดาลอัก!ไซม่อนเดินโซเซถอยหลังและอาเจียนออกมาเป็นเลือดเต็มปากเขานั้นคือผู้เ
อย่างไรก็ตาม มันก็คงจะทำลายชื่อเสียงของสามีเธอและตัวเธอเอง ไม่ว่าอย่างไรก็ตามมีคนมากเกินไปอยู่ตรงนี้ พวกเขาทั้งหมดต่างเป็นคนมั่งคั่งและมีชื่อเสียง รวมถึงสื่อมวลชนก็อยู่ที่นั่นด้วยในเมื่อพวกเขาแพ้ เธอคงจะต้องยอมรับแต่โดยดี“ลูกศิษย์คนดีของฉัน เชิญเธอลุกขึ้นยืนได้” แดร์ริลรู้สึกชื่นบานจิตใจ เขาลุกขึ้นยืนอย่างช้า ๆ และเดินไปหาซัมเมอร์ เขาเอามือลูบหัวซัมเมอร์การกระทำของแดร์ริลทำให้ซัมเมอร์หน้าแดงเถือกแดร์ริลหัวเราะและหันไปกล่าวกับเชอรีล “ฉันดีกับเธอแค่ไหน? ฉันหาน้องบุญธรรมมาให้เธอเพิ่มอีกตั้งคนนึง”“เยี่ยมไปเลยท่านอาจารย์” เชอรีลรวบรวมสติของเธอ เธอมองแดร์ริลตาไม่กระพริบ เธอจ้องมองเขาอย่างยกย่องทุกคนต่างรู้ดีว่าซัมเมอร์มีชื่อเสียงโด่งดังเพราะผลงานของเธอและตอนนี้เธอได้กลายมาเป็นน้องบุญธรรมของเชอรีล แม้แต่ตัวเชอรีลเองก็ไม่กล้าจะฝันถึงตุ้บ!เมื่อไซม่อนเห็นว่าภรรยาของเขาคุกเข่ายอมรับแดร์ริลเป็นอาจารย์ เขาก็ล้มสลบลงไปทันที“ผู้อาวุโสครีเซนต์สลบไปแล้ว!”ห้องโถงตกอยู่ในความโกลาหลทันที พวกเขารุมล้อมเข้าไปหาไซม่อนแดร์ริลไม่ได้รู้สึกตื่นตระหนก เขาค่อย ๆ ลุกขึ้นยืนและจูงมือจีเวลกลับขึ
ขณะที่เธอกล่าวอยู่นั้นเธอจ้องมองแดร์ริลและจีเวล “ที่หุบเขาพิศวงเต็มไปด้วยอันตราย ท่านอาจารย์มีแค่สาวน้อยคนรับใช้อยู่ติดตามไปด้วย พวกคุณคงจะผ่านหุบเขานี้ไปไม่ได้ด้วยสภาพที่เป็นอยู่”ซวย! หุบเขาพิศวงอันตรายขนาดนั้นเลยหรอ?ในขณะที่แดร์ริลคิด แดร์ริลก็สูดหายใจลึกและกล่าวอย่างหนักแน่น “เธอไม่ต้องมาสนใจหรอกว่าฉันจะผ่านหุบเขาไปได้ไหม เธอแค่ต้องบอกทางไปหุบเขาพิศวงนี้ให้กับฉันก็พอ”ไม่ว่ามันจะยากเย็นแค่ไหน เขายังคงจำเป็นต้องไป เขาจะถูกขังอยู่ที่นี่ตลอดไปไม่ได้จีเวลจับแขนแดร์ริลไว้แน่นและกล่าวด้วยความเชื่อมั่น “ไม่ว่าคุณจะไปที่ไหน ฉันจะตามคุณไปทุกที่ ฉันไม่กลัว ไม่ว่ามันจะยากลำบากแค่ไหน”เชอรีลตกตะลึงงันและยิ้มอย่างขมขื่น “ท่านอาจารย์ ถึงฉันจะบอกทางไปหุบเขาพิศวงกับนาย นายก็ไปไม่ได้หรอก ทางเข้าหุบเขาพิศวงอยู่ที่เนินเขาหลังสำนักกระบี่เชอรีลดูตื่นกลัวพรางกล่าว “พื้นที่ส่วนนั้นคือพื้นที่ต้องห้ามของสำนักกระบี่ ซึ่งการเฝ้ายามนั้นรัดกุมแน่นหนา แถมยังต้องได้รับอนุณาตจากสำนักกระบี่อีก ถึงจะสามารถเข้าไปได้”แดร์ริลเงียบ เขารู้สึกหงุดหงิด‘โธ่เว้ย ทำไมการที่จะออกจากทีนี่ได้มันต้องยากลำบากขนาดนี้
ในทวีปตะวันออกอันยิ่งใหญ่ทุกคนจะสัญจรกันด้วยรถลาก มีเพียงตระกูลที่ร่ำรวยเท่านั้นที่จะสามารถซื้อรถยนต์ได้ แต่รถยนต์ที่พวกเขามีเป็นรถโบราณมาร์คัสขับรถที่พาพวกเขาออกอกเมือง คนของเขาตามติดหลังรถอย่างใกล้ชิดจีเวลรู้สึกตื่นเต้นมากที่ได้นั่งอยู่ในรถ แม้ว่าเธอจะเติบโตในทวีปตะวันออกอันยิ่งใหญ่ มันคือครั้งแรกของเธอที่ได้ขึ้นรถแม้ว่ามันจะเป็นรถโบราณก็ตาม เธอสงสัยใคร่รู้เกี่ยวกับรถยนต์เป็นอย่างมาก“รถคันนี้มันมหัศจรรย์จริง ๆ คุณชาย” จีเวลอดที่จะขบขันไม่ได้ เธอจ้องมองไปที่พวงมาลัยอย่างไม่กระพริบตา “แค่ห่วงนั้นก็บังคับได้ทุกอย่าง เลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวารวดเร็วทันใจ”จีเวลนั้นน่ารักน่าเอ็นดูแดร์ริลหัวเราะขณะเขาลูบหัวจีเวล “ไว้สักวันฉันจะซื้อให้เธอขับ รับรองว่าเธอจะต้องสนุกแน่นอน”รถโบราณเคลื่อนที่ช้าราวกับหอยทาก‘ฉันจะพาเธอไปดูรถที่วิ่งเร็วที่สุดในโลกทันทีที่เรากลับไปจักรวาลโลกได้ รถคันนั้นมันเร็วจริง’ แดร์ริลคิดจีเวลส่ายหัวและกล่าวเหนียบอาย “คุณชาย ฉันคงควบคุมได้แค่รถม้าแต่รถยนต์คงไม่ไหว เมื่อไหร่ที่คุณมีรถยนต์และได้ขับมันแล้ว เดี๋ยวฉันจะไปนั่งข้าง ๆ คอยรับใช้คุณเอง”แดร์ริลหัวเราะเมื่อเขาไ
”จีเวล!" แดร์ริลตกใจ เขากระโจนลงจากหน้าผาและรีบคว้ามือของจีเวลโดยไม่ลังเลแดร์ริลกอดตัวจีเวลไว้แน่นที่หน้าอก มืออีกข้างของเขาก็ยื่นออกมาคว้าอะไรก็ได้ที่เขาสามารถจับยึดได้ แต่สิ่งที่เขาสัมผัสได้มีเพียงแค่ผนังที่ลื่นของหน้าผา‘ซวย ไอ้เวรมาร์คัสมันชี้นำทางเรามาผิดทาง นี่มันทางตายชัด ๆ!’แดร์ริลกอดตัวจีเวลไว้แน่น เขาไม่รู้ว่าหน้าผานั้นลึกแค่ไหน เขาสวดมนต์ภาวนาขอให้พวกเขาร่วงลงไปไม่ตาย…ในจักรวาลโลกในคฤหาสน์ตระกูลลินดันเมืองตงไห่คฤหาสน์ตระกูลลินดันถูกประดับประดาไปด้วยแสงไฟและของประดับตกแต่ง ทั้งห้องโถงเปี่ยนไปด้วยของประดับสำหรับงานเฉลิมฉลองลิลี่นั่งอยู่บนโซฟาภายในห้องนั่งเล่นและเธอเองก็ยังรู้สึกอารมณ์ดี แววตาของเธอเปี่ยมไปด้วยความสุขหลังจากที่เธอใช้เวลามากกว่าหนึ่งเดือนคบหาดูใจกับเวด ลิลี่ก็รู้สึกพึงพอใจกับเขา เขาทั้งเอาใจใส่และอ่อนโยน พวกเขากำลังจะแต่งงานกันภายในอีกสองวัน“ลิลี่น้อย เธอส่งบัตรเชิญไปบ้างหรือยัง อย่าลืมบอกญาติ ๆเราที่อยู่ที่บ้านด้วย” ซาแมนธากล่าวระหว่างที่กำลังเดินลงจากบันได ใบหน้าของเธอก็เปี่ยมไปด้วยความสุขลูกสาวของเธอกำลังจะแต่งงานกับเวดในอีกไม่ช้าและตัวเธ
ขณะที่พวกเขาร่วงหล่นลงมา แดร์ริลพยายามอย่างเต็มที่เพื่อปกป้องเธอ ตัวจีเวลจึงไม่ได้รับบาดเจ็บอันตรายใด ๆแดร์ริลไอสำลักออกมาอีกสองสามครั้งก่อนจะฉีกยิ้ม “ฉันไม่เป็นอะไร ฉันยังไม่ตาย”ขณะเขากล่าว เขาโกรธเคืองเป็นอย่างมากสารเลวมาร์คัส! กล้าดียังไงถึงมาหลอกเขาได้! โชคดีที่กำลังภายในอันเข้มข้นของเขา ลดแรงกระแทกของแรงโน้มถ่วงได้ ไม่อย่างนั้น ร่างของทั้งคู่คงแหลกไม่มีชิ้นดี!ถึงแม้ว่าเขายังไม่ตาย แต่ร่างกายของเขาก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสจีเวลถอนหายใจเมื่อรู้ว่าแดร์ริลปลอดภัยและยังไม่ตายแดร์ริลกวาดสายตามองไปรอบ ๆ มันมืดมาก แต่เขาก็รู้ว่าหน้าผาที่สูงเสียดฟ้านั้น ถูกล้อมรอบไว้ด้วยดงป่า‘นี่มันเที่ยงคืนแล้ว เราคงจะต้องรอถึงพรุ่งนี้เช้าก่อน แล้วเราถึงจะออกเดินทางได้ ฉันคงต้องการเวลาฟื้นคืนกำลังภายในสักพัก’ เมื่อแดร์ริลคิดเช่นนั้น เขาก็พยายามปลอบโยนจีเวล “ไม่ต้องห่วง เรามาพักก่อนเถอะตอนนี้”จีเวลพยักหน้าและนั่งพิงหลังของแดร์ริล เธอไม่ได้หลับตา เธอกวาดสายตามองไปรอบ ๆ ตัว และคอยระมัดระวังกับท่วงท่าของตัวเอง เพราะเธอรู้ว่าแดร์ริลจำเป็นต้องนั่งสมาธิบ่มเพาะกำลังภายในอย่างรวดเร็วเธอจะพักผ่อนลงได