ยูมิทรุดตัวลงอย่างสมบูรณ์ภายในเวลาเพียงไม่กี่วัน เธอรู้ดีว่าเธอจะถูกทุบตีหากเธอปฏิเสธที่จะเปิดเผยความลับของคัมภีร์โดน็อกหยุดตบเธอและเยาะเย้ย “พูดมา!”ยูมิขดตัวด้วยความเจ็บปวดและกล่าวว่า "ทั้งเจ็ดเล่มนี้...เจ็ดเล่มนี้จะต้องแช่ลงในน้ำเพื่อให้ความลับภายในถูกเปิดเผย..."ฮ่า ฮ่า…ต้องอย่างนี้สิ!โดน็อกตกตะลึงก่อนที่เขาจะแหงนหน้าขึ้นไปบนฟ้าและหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง จากนั้นเขาก็ก้มลงหลังจากที่เขาเห็นยูมิสั่นเทาไปทั้งตัวและตะคอกเธอว่า “มัวรออะไรอยู่? ไปเอาน้ำมาสิ!”“จะไปเอามาเดี๋ยวนี้...” ยูมิรีบก้าวออกไปและรีบเติมน้ำลงในหม้อจากนั้น แผนที่ก็ปรากฏบนคัมภีร์ทั้งเจ็ดเล่มทันทีที่น้ำถูกเทลงมาโดน็อกรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง เขาแทบจะรอไม่ไหวที่จะได้เห็นแผนที่อย่างชัดเจน จากนั้นเขาก็รู้สึกยินดีขึ้นไปอีกเมื่อเขาพบว่า สถานที่ที่ถูกทำเครื่องหมายเอาไว้บนแผนที่ คือสถานที่ภายในโลกใหม่!'ฮ่า ฮ่า! พระเจ้าปฏิบัติต่อฉันเป็นอย่างดี!'โดน็อกคว้าตัวยูมิและเดินออกจากวิหารที่ถูกทำลายอย่างรวดเร็ว “เร็วเข้า! ไปล่าขุมทรัพย์กับฉันกันเถอะ ฮ่า ฮ่า!”ยูมิไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะต้องทำตามที่เขาสั่ง เธอไปกับโดน็อก
โอ้!เมื่อเข้ามาด้านใน โดน็อกสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด มีทางเดินทอดยาวสุดลูกหูลูกตาอย่างไม่มีจุดสิ้นสุดอยู่เบื้องหน้าเขา มันดูเหมือนว่าจะเป็นเส้นทางเดินไปยังใจกลางแกนโลก!บริเวณโดยรอบขยายใหญ่ขึ้นตามระยะทางที่เขาเดินเข้าไปภูเขาเสียดฟ้ามหัศจรรย์ด้านในนั้นกลวงโบ๋และว่างเปล่า ดูเหมือนถูกทิ้งให้รกร้าง!ถ้ำแห่งนี้อาจจะมีขนาดใหญ่กว่าเมืองตงไห่ทั้งเมือง! ไม่สิ มันอาจจะใหญ่กว่าเมืองตงไห่เป็นสิบเท่า!โดน็อกนั้นตื่นเต้นมากระหว่างที่เขาก้าวเดินลงไปตามทางเดิน ในถ้ำนั้นมืดมิด แต่หลังจากที่เขาเดินมุ่งหน้ามาได้ครึ่งชั่วโมง โดน็อกก็สังเกตุว่ายิ่งเข้าไปลึกเท่าไหร่มันก็ยิ่งสว่างราวกับกลางวัน!นอกไปจากนั้นรัศมีวิญญาณที่รายล้อมรอบตัวเขาก็เข้มข้นขึ้นตามทางที่เขาเดินลงไปอีกด้วย! ถ้ำแห่งนี้เป็นเหมือนกับบ่อน้ำรัศมีวิญญาณ! หลังจากที่เขาเดินไปได้ถึงสองชั่วโมง โดน็อกก็รู้สึกประหลาดใจทันทีเมื่อเขาสัมผัสได้ว่ากำลังภายในของเขาตรงบริเวณสนามพลังนั้นกำลังพุ่งทะยานบรรลุระดับ!หึ่ง!โดน็อกนั้นอยู่ในระดับปรมาจารย์อาวุโสขั้นห้า และตั้งแต่ที่เขาเดินเข้ามาในนี้เขาก็บรรลุมาถึงระดับปรมาจารย์ยุทธ์ขั้นสี่!แม้แต่ยูมิเองที่
”หนึ่ง สอง สาม!”โดน็อกตะโกนเสียงดังก่อนจะดึงขวานสุดแรงเกิด แต่ขวานด้ามนี้ก็ไม่ขยับเขยื้อนเลย!“นังตัวดี แกออกแรงมากกว่านี้หน่อยสิ!” โดน็อกเตะยูมิ “นับสามแล้วดึงสุดแรงเลย! แกต้องดึงขวานออกมาให้ได้! แกได้ยินฉันชัดไหมนังบ้า?”“ได้ยินแล้ว” ยูมิกล่าวตอบน้ำเสียงขึงขัง สายตาของเธอฉายให้เห็นความอาฆาตแค้นเธอตัดสินใจเรียบร้อยแล้วว่าไม่มีทางที่จะยอมให้โดน็อกได้ขวานไปครอบครอง!ขวามด้ามนี้เป็นศาตราวุธอันศักสิทธิ์! มันควรจะต้องเป็นของฟลอเรียน“หนึ่ง สอง สาม!” โดน็อกร้องตะโกนแหกปากขณะเขาพยายามดึงขวานออกมาสุดแรงอย่างขะมักเขม้นทันใดนั้น ยูมิก็ยกแขนของเธอ หยิบปิ่นปักผมออกมาและเล็งไปที่ต้นคอของโดน็อก!“ตายซะ!” ยูมิยกมือขึ้นหยิบปิ่นปักผมออกมาและเล็งไปที่ต้นคอของโดน็อก!ยูมิทนไม่ไหวกับพฤติกรรมของโดน็อกที่คอยถ่มถุยเหยียดหยามเธอ เธอต้องการจะบดขยี้เขาให้แหลกแต่เธอยังไม่มีโอกาสได้โต้ตอบ!เธอจึงฉวยโอกาสในตอนที่เขากำลังหมกมุ่นอยู่กับขวาน และยูมิก็รู้ตัวทันทีวว่านี้คือโอกาสทองของเธอ! เธอใช้โอกาสนี้โจมตีเขา เธอต้องการที่จะสังหารเขาทิ้ง!ถ้าหากโดน็อกตายศาสตราวุธอันศักศิทธิ์ชิ้นนี้ก็จะตกเป็นของฟลอเรียน
มันเป็นขวานสีทองที่มีรอยแกะสลักมังกรเก้าตัว! ขวานทั้งด้ามมีกลิ่นอายและลักษณะโบราณของขลังอันศักสิทธิ์!โดน็อกนั้นตื่นเต้นมาก! ขวานด้ามนี้ได้ตื่นขึ้นแล้วจากเลือดของเขาที่หยดลงไป มันได้พบกับเจ้านายของมัน!โดน็อกถอนหายใจด้วยความยินดีในขณะที่เขาจับด้ามขวานทั้งสองมือและดึงมันขึ้นมาสุดแรง แต่แล้วเขาก็กลับประหลาดใจที่พบว่าเขาสามารถดึงขวานออกมาได้อย่างง่ายดาย!โดน็อกเงยหน้าขึ้นฟ้าและหัวเราะออกมาเสียงดังสนั่น “ดูเหมือนว่ามันจะรับรู้ความเป็นเจ้าของได้เพียงแค่ใช้เลือดหยดลงไปเท่านั้น เพราะงี้ฉันถึงยกมันขึ้นมาได้ง่าย ๆ !”โดน็อกเหลือบมองไปที่ยูมิอย่างเลือดเย็นนังแพศยาอย่างเธอกล้าดีอย่างไรถึงมาทำร้ายเขา! อย่างไรก็ตาม การโจมตีมันก็เป็นเหตุบังเอิญที่ทำให้เลือดของเขาสาดกระเด็นไปโดนขวานยักษ์ ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่มีทางยกศาสตราวุธอันศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมาได้!โดน็อกนั้นลิงโลด เขาสัมผัสได้ถึงพลังที่อัดอั้นอยู่ภายในขวานยักษ์ด้ามนี้ เขากระโจนขึ้นสุดแรงและทะยานขึ้นไปในอากาศ“ท้ายที่สุด ฉันก็จะสามารถปกครองโลกใบนี้ได้ ด้วยอาวุธอันศักดิ์สิทธิ์นี้”“ฉันจะกลายเป็นผู้ปกครองสูงสุด!”โดน็อกนั้นท่วมท้นไปด้วยความตื่
”เธอพร้อมที่จะยอมทำทุกอย่างเพื่อยาถอนพิษแล้วงั้นเหรอ?” แดร์ริลหยอกล้อเธอ ขณะที่สภาพของเธอทำให้เขารู้สึกบันเทิงใจเดบร้ากัดริมฝีปากของเธอหยักหน้าแดร์ริลอยากที่จะหัวเราะออกมา แต่ผู้หญิงคนนี้กลับดูมีเสน่ห์น่าหลงใหลในตอนที่เธอตกอยู่ในสภาพอ่อนแอแดร์ริลรู้สึกขี้เล่นและยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ที่มุมปาก “ทำไมเธอไม่ลองเรียกฉันว่า สามีสุดที่รักดูล่ะ?” แดร์ริลกล่าวขณะที่เขานั่งลงบนเก้าอี้ข้างเธออย่างสบายใจเฉิบอะไร?เดบร้านั้นชะงักงุนงง ใบหน้าของเธอแดงฉาน ขณะที่ริมฝีปากของเธอแทบจะเลือดไหลจากแรงกัดอย่างต่อเนื่องการที่เจ้าสำนักผู้ทรงเกียรติและบริสุทธิ์อย่างเธอต้องไปเรียกเขาว่า สามีสุดที่รักเช่นนั้น คงจะทำให้ชื่อเสียงของเธอนั้นมัวหมอง“อย่าล้ำเส้นไปมากกว่านี้เลย” เดบร้ากระซิบกระซาบ ขณะเธองอตัวก้มหัวเธอนั้นทั้งโกรธทั้งอับอาย แต่เธอก็ไม่สามารถที่จะถอดใจได้ เธอนั้นหวังอย่างท้อแท้ที่แดร์ริลคงจะยอมเปลี่ยนเงื่อนไขข้อเสนอไม่เช่นนั้น เธอคงจะต้องยอมเรียกเขาว่า สามีสุดที่รักแดร์ริลหัวเราะเริงร่าอย่างออกนอกหน้า “เอาล่ะ ถ้าเธอไม่อยากจะทำแบบนั้น ก็ช่างมัน ฉันยังไม่ได้กินอะไรเลยมาทั้งวัน ฉันหวังว่ายาถอน
แดร์ริลตกใจเมื่อได้ยินเช่นนั้น เขาหันไปหาเดบร้าและกล่าวถาม “มันคือเรื่องจริงเหรอที่มีอาวุธศักดิ์สิทธิ์อยู่ในโลกนี้?”อาวุธนั้นจะถูกแบ่งออกเป็นเจ็ดระดับ ไล่ตามสี แดง ส้ม เหลือง เขียว น้ำเงิน คราม และม่วงถ้าหากมันเป็นศาสตราวุธศักดิ์สิทธิ์มันจะอยู่ในระดับที่เท่าไหร่?“มันไม่ใช่แค่อาวุธศักดิ์สิทธิ์ธรรมดา แต่เป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์ไร้เทียมทาน” เดบร้ากล่าวอย่างช้า ๆ“แม้แต่อาวุธศักดิ์สิทธิ์อย่างพัดใบตองและตะบองอาคมก็ยังไม่ถึงขั้นที่จะทำให้เกิดการสั่นไหวสะเทือนรุนแรงขนาดนี้”แดร์ริลยักไหล่…ระหว่างนั้น ภายในห้องโถงหลักสำนักที่ภูเขาง้อไบ๊ ทวีปจักรวาลโลกออโรร่ายืนหยัดอยู่หน้าประตูห้องโถงอย่างทรนงและเงยหน้ามองขึ้นไปท้องฟ้าเบื้องหลังของเธอ บรรดาผู้อาวุโสสำนักและสาวกระดับสูงต่างก็พากันมองบนท้องฟ้าด้วยเช่นกัน พวกเขาต่างสับสนงุนงงออโรร่าเชิญบรรดาผู้อาวุโสมาที่นี่ เพื่อหาหนทางจัดการกับเชสเตอร์หลังจากการสู้รบกับนิกายตำหนักอมตะก่อนหน้านี้ สำนักง้อไบ๊เป็นฝ่ายชนะ แต่สถานการณ์ในตอนนี้ก็ไม่ได้เป็นผลดีกับตัวสำนักเอง ออโรร่าล่วงรู้มาว่านิกายตำหนักอมตะและสำนักภูเขาบุปผาจะผนึกกำลังกันโจมตีสำนักง
การปรากฏตัวของศาสตราวุธศักดิ์สิทธิ์ทำให้ท้ังเก้าแผ่นดินใหญ่สั่นสะเทือนอย่างรุนแรง!มีคฤหาสน์หลังหนึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณพันกว่ากิโลเมตรทางทิศเหนือของแท่นบูชาสำนักประกายแสงทวีปโลกใหม่คฤหาสน์หลังนี้เป็นส่วนหนึ่งของแท่นบูชาสำนักประกายแสงจัสตินนั้นนั่งบ่มเพาะวิชาอยู่ภายในห้องลับของคฤหาสน์หลังนั้น เขานั่งขัดสมาธิมัตเตโอก็อยู่ที่นั่นด้วยเช่นกัน เขานั่งอยู่ข้างลูกศิษย์ของเขาพรางจิบชาอย่างสบายใจภายในห้องลับนั้นเงียบสงบ แต่จิตใจของจัสตินไม่สามารถจ่ดจ่อได้ เขาไม่มีสมาธิกับการบ่มเพาะวิชาในหัวของเขาเต็มไปด้วยภาพของลิลี่! หัวใจของเขาปวดร้าวด้านชา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขานึกถึงตอนที่เขายอมมอบตัวเธอให้กับอาจารย์ของเขาได้ลงคอเธอนั้นคือเทพธิดาคนโปรดของเขา!มัตเตโอสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างที่ผิดวิสัยเกี่ยวกับจัสติน เขาจึงลุกขึ้นยืนและขมวดคิ้วกล่าว “อย่าใจร้อนในการบ่มเพาะวิชาของเจ้า ข้าเห็นได้ว่าจิตใจของเจ้าไม่อยู่กับร่องกับรอย ทำไมเป็นเช่นนั้นได้?”มัตเตโอนั่งอยู่ตรงนั้น และมีท่าทีกำลังดื่มด่ำกับน้ำชา แต่เขาก็คอยจับตามองดูจัสตินด้วยจัสตินเกาหัวของเขา แต่เขาก็ไม่กล้าที่จะเงยหน้าขึ้นมา เข
เฮือก!จัสตินสะดุ้งเฮือกเมื่อเห็นหน้าของผู้หญิงคนนั้นใบหน้าของเธอขาวเนียนราวกับหยกหิมะ เธอดูสวยมีเสน่ห์อย่างไรก็ตาม อีกครึ่งหนึ่งของใบหน้าด้านขวาของเธอ มีรอยดำคล้ำราวกับเปื้อนหมึก มันดูเหมือนปานนั่นมันลิลี่ไม่ใช่เหรอ?“แกไม่ใช่มนุษย์ จัสติน! ฉันเกลียดแก! ฉันเกลียดแก!” ลิลี่ตะคอกเสียงดังขณะที่น้ำตาของเธอไหลนองอาบหน้าลิลี่รู้สึกไม่สบายใจหลังจากที่เธอออกมาจากโรงเตี๊ยม เธอเดินใจลอยอย่างไร้จุดหมาย เธอไม่รู้ตัวว่ากำลังเดินไปที่ไหน จนกระทั่งเธอมาลงเอยที่แท่นบูชาและถูกจับกุมตัวหาว่าเป็นสายลับบุกเข้าไปในพื้นที่เธอไม่ได้คาดคิดว่าจะมาเจอกับจัสตินและมัตเตโอที่นี่!“ลิลี่ หน้าเธอไปโดนอะไรมา?” จัสตินนั้นประหลาดใจและดีใจที่ได้เจอเธอ เขารีบวิ่งไแปแก้มัดเธอ“ไปให้พ้น! อย่ามาโดนตัวฉัน!” ลิลี่ร้องไห้และเดินถอยหลังหนี เธอไม่อยากให้จัสตินเข้าใกล้ลิลี่จ้องมัตเตโอตาเขม็งเป็นฟืนไฟ “พวกแกมันป่าเถื่อน! ไปตายซะ!”จัสตินมึนงง เขามองไปที่มัตเตโอ “ท่านอาจารย์...”‘ท่านอาจารย์บอกว่าเขาไม่ได้แตะต้องตัวเธอ เขาพูดจริงใช่ไหม?’‘ถ้าเป็นแบบนั้น แล้วทำไมลิลี่ถึงทำตัวแบบนี้?’‘อีกอย่างหน้าของเธอไปโดนอะไร