เหล่าเจ้าของร้านวัตถุโบราณหัวเราะลั่น อีวอนเองก็กัดริมฝีปากแน่น เธอมองแดร์ริลอย่างเงียบงัน เธอรู้สึกมีปัญหาหยกน้ำตาเลือดตรงหน้าของเธอนั้น ไม่ว่าจะมองจากวัสดุ สี งานฝีมือ ทุกอย่างล้วนตรงกับข้อมูลที่เธอได้ศึกษามาก่อนหน้า ทำไมเขาถึงได้บอกว่ามันเป็นของปลอมอีวอนคิดว่าแดร์ริลนั้นไม่ใช่คนอย่างที่คนอื่นคิด แต่เธอไม่คาดคิดว่าหลังจากที่พบเขาแล้ว เขาก็เป็นคนไร้ประโยชน์อย่างที่คนอื่นคิดจริง ไม่แปลกว่าทำไมคนอื่นถึงดูถูกเขานัก เขาไม่ได้มีความรู้เรื่องวัตถุโบราณโดยสิ้นเชิง เขาก็แค่แกล้งทำในตอนนั้น ทั้งลีโอและแจ็คก็มองหน้ากันแล้วยิ้มพวกเขากำลังสงสัยเรื่องปูมหลังจาดแดร์ริล แต่ตอนนี้พวกเขารู้แล้วว่าเขาเป็นลูกเขยที่แต่งเข้าบ้านคนอื่น ซึ่งทุกคนล้วนดูหมิ่นเขาเ-ี่ย! พวกเขาก็หลงกลัวแทบแย่ในครู่ต่อมา ลีโอ เขารู้สึกถูกทำให้เสียชื่อในขณะที่มองแดร์ริล "เถ้าแก่ของตำหนักไข่มุกและเจ้าของร้านคนอื่นล้วนบอกว่ามันเป็นของจริง พวกเขาล้วนเป็นพ่อค้าวัตถุโบราณที่โด่งดัง! นายเป็นคนเดียวที่บอกว่ามันเป็นของปลอม ถ้านายให้เหตุผลที่ฟังขึ้นไม่ได้ ฉันจะแจ้งตำรวจ ให้จับนายโทษฐานที่ขัดขวางการซื้อขาย"โอ้?โจรพยายามจะบอก
ในตอนนั้นเองที่เสียงไซเรนของตำรวจดังขึ้นมีคนโทรหาตำรวจ? ลีโอหลั่งเหงื่อเย็นทันที และเริ่มออกวิ่ง"พยายามจะหนี?""หยุดเขา!"เจ้าของร้านวัตถุโบราณบางคนตะโกนใส่เขาคนงานที่อยู่ใกล้เขาได้ยินเสียงตะโกนก็พลันหยุดลีโอไว้และจับเขากดไว้ที่พื้นแจ็ค รีบแกล้งทำตัวเป็นผู้เสียหายจากนักต้มตุ๋นทันที เขากล่าว "เ-ี่ย มันเป็นของปลอมจริงด้วย ไอ้เด็กเวรนี่ทำให้ฉันเกือบเสียเงิน 500 ล้านบาท" เขาเดินเข้ามาไปหาลีโอก่อนจะถ่มน้ำลายใส่เขา เขาเริ่มด่าและเตรียมตัวจะหนียังไงก็ตามเมื่อเขาหันหลังเพื่อที่จะออกไปจากตำหนักไข่มุก ก็มีร่างหนึ่งที่พุ่งเข้ามาด้านหน้าเขา และปิดทางเขาไว้เขาคือแดร์ริล"เ-ี่ย คุณเป็นบ้าอะไร? ทำไมคุณมาขวางผม?" แจ็คดูเศร้าทุกคนมองมาที่พวกเขาแดร์ริลกล่าวะร้อมรอยยิ้มขณะที่มองแจ็ค "นายปล่อยคู่หูให้โดนจับคนเดียวไม่ได้หรอก ใช่ไหม?"ใบหน้าของแจ็คพลันเขียวคล้ำและกล่าว "คุณพูดเรื่องอะไรน่ะ?""พอที นายไม่ต้องเสแสร้งอีกแล้ว ด้วยทักษะของนาย นายควรจะไปเป็นนักแสดงมากกว่า จะมาเป็นนักต้มตุ๋นทำไม?" เมื่อเห็นแจ็คที่พยายามปฏิเสธ แดร์ริลถอนหายใจแล้วส่ายหัวแจ็คไม่อยากเสียเวลาอีก เขากำลังจะเดินผ่า
ตำรวจบางคนรีบวิ่งเข้าไปตรวจดู และไม่น่าแปลกใจ พวกเขาดึงหน้ากากออกจากหน้าของลีโอด้วยเช่นกันปีก่อน พ่อค้าผู้ร่ำรวยได้เข้ามาที่เมืองเมืองตงไห่เพื่อลงทุน แต่เขากลับถูกโกงงานภาพวาดโบราณราคา 1 พันล้านบาทไปโดยคู่หูสองคน สำนักงานใหญ่ของกรมตำรวจได้ให้ความสนใจกับคดีนี้มาก และได้สั่งให้เมแกนสอบสวนคดีนี้ให้ไวที่สุดเท่าที่จะทำได้ทว่าคู่หูนี้ฉลาด แม้ว่าเมแกนจะติดตามคดีนี้นับปี เธอก็พลาดในการตามร่องรอยของพวกเขาไปทุกครั้งเธอไม่คิดว่าจะสามารถจับพวกเขาได้ในวันนี้เมแกนสั่นสะท้าน เธอกำลังจะทำผลงานชิ้นใหญ่!ด้านเหล่าเจ้าของร้านวัตถุโบราณที่ตอนแรกต้องการเป็นพยานให้แจ็คล้วนยืนนิ่งพูดอะไรไม่ออกพวกเขาเองก็รู้เรื่องคดีต้มตุ๋นเมื่อปีก่อนเช่นกัน พวกเขาไม่เคยคาดคิดว่าสองคนนี้จะเป็นตัวการ แถมยังกล้ามากพอจะโกงตระกูลยังในเวลาเดียวกัน พวกเขาล้วนสงสัยในตัวแดร์ริลหน้ากากของพวกเขาเหมือนจริงมากจนไม่มีใครแยกออก แล้วเขาดูมันออกได้ยังไง?พวกเขาไม่ได้ถามอะไรไปเพราะเมแกนอยู่ด้วยในตอนนั้นเอง เมแกนสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวทั้งสองคนไปในรถ จากนั้นก็เดินมาหาแดร์ริลเมแกนกัดริมฝีปากด้วยความลำบากใจและกล่าว "แดร์
ด้วยความสัตย์จริง อีวอนนั้นกังวลว่าเงิน 5 หมื่นบาทนั้นจะน้อยไปหน่อย ยังไงด็ตาม นั่นคือขีดจำกัดของอำนาจเธอแล้วปีเตอร์ พนักงานที่ดูแลร้านอยู่ถึงกับถอนหายใจเฮือกใหญ่ในตอนนั้น!อะไรนะ?นักประเมินวัตถุโบราณผู้ทรงเกียรติ ได้รับเงินเดือนถึง 5 หมื่นบาท? เงินเดือนของเขายังมากว่า 1 หมื่นบาทต่อเดือนมานิดเดียวเอง!หลังจากใช้เวลาพิจารณาคำอธิบายของแดร์ริลในการประเมินหยกน้ำตาเลือด ปีเตอร์จึงต้องยอมรับว่าเขาไม่ดีเท่าจริง ๆ ดังนั้นเขาจึงหยุดความรู้สึกไม่พอใจของตัวเองลง แต่ก็ยังคงอิจฉาในตัวแดร์ริลอยู่หลังจากคิดเล็กน้อย แดร์ริลก็ตกลงและกล่าว "โอ้...ในเมื่อผมไม่จำเป็นต้องมาที่นี่ทุกวัน มันคงจะไม่เป็นไป"มันเป็นข้อเสนอที่ยอดเยี่ยม แต่เขากลับมีความรู้สึกลำบากใจนี่เขาเป็นบ้าไปหลังจากการเป็นลูกเขยบ้านคนอื่นเหรอ?เมื่อเห็นการตอบสนองของแดร์ริล ปีเตอร์พลันพูดไม่ออกอีวอนนั้นเบิกบานมาก เธอกล่าว "เยี่ยมเลย ถ้าอย่างนั้นข้อตกลงเป็นอันเสร็จเรียบร้อยนะคะ"แดร์ริลยิ้มและกล่าวลากับอีวอนเมื่อเห็นว่าเริ่มดึกแล้วเที่ยงวันต่อมา เมื่อแดร์ริลมาถึงห้องทำงานของเขา เพิร์ลรีบเข้ามาและอัพเดทข้อมูลให้เขาฟังเพิร์ลกล
เฟลิกซ์ เบลคลีย์?เมื่อได้ยินชื่อนั้น ทั้งสามเจ้าหน้าที่พลันตัวสั่นทันที หนึ่งในนั้นถึงกับสั่นสะท้านอย่างรุนแรงทั้งเมืองตงไห่รู้จักเฟลิกซ์ เขามีเส้นสายทั้งด้านดีและด้านมืด!ทำไมเขาถึงอยู่ที่นี่? เขามีความสัมพันธ์อะไรกับบริษัทแพลทินัม?"ถ้าพวกแกไม่พูดก็ไม่เป็นไร แต่ฉันขอพูดอะไรตรง ๆ หน่อยแล้วกัน ถ้าฉันตรวจสอบแล้วพบว่ามันมีบางอย่างเกี่ยวกับพวกแก แกคงจะรู้กันนะว่าจะเกิดอะไรตามมา"ทันทีที่เฟลิกซ์กล่าวจบ ชายที่ยืนอยู่ทางซ้ายสุดทนไม่ได้อีกต่อไป เขากล่าว "ผมจะพูด… ผมจะพูด..."อีกสองคนมองหน้ากัน แล้วพยักหน้าอย่างจนใจเช่นกันแดร์ริล ผู้ซึ่งกำลังนั่งอยู่บนโซฟาในตอนนั้นยิ้มออกมาหลังจากผ่านไปไม่กี่นาที เฟลิกซ์ก็เลิกคุยกับสามคนนั้น เขายืนขึ้นแล้วกล่าวกับแดร์ริล "คุณดาร์บี้ ทุกอย่างเรียบร้อยแล้วครับ"แดร์ริลหัวเราะ เขายืนขึ้นแล้วตบไหล่เฟลิกซ์ "นายทำได้เยี่ยมมาก เฟลิกซ์ ธุรกิจของนายก็ทำได้ดีในช่วงสองปีที่ผ่าน นายกำลังดังขึ้นเรื่อย ๆ แล้วนะ""อย่าชมผมเลยครับคุณดาร์บี้ ผมคงไม่เป็นผมทุกวันนี้หากไม่ใช่เพราะคุณ คุณดาร์บี้"หลังจากพูดคุยกับเฟลิกซ์เสร็จ แดร์ริลก็กล่าวลาเขาทันทีที่เฟลิกซ์เดินก
เขาคัดค้าน? ฮ่าฮ่า! ทุกคนในตระกูลลินดันมองแดร์ริล และคิดว่าเขาหน้าด้านสีหน้าของคุณย่าพลันมืดมนและอารมณ์เสีย เธอถาม "เธอพูดว่าอะไรนะ?"แดร์ริลหัวเราะอย่างเย็นชาแล้วกล่าวอย่างชัดเจน "คุณปรักปรำภรรยาผมเรื่องจีเซลล์ ทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้ตรสจสอบเรื่องที่เกิดขึ้น คุณปลดเธอจากตำแหน่งโดยที่ไม่เข้าใจด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้น ไม่คิดว่ามันหยาบคายไปหน่อยเหรอ?"คุณย่ายิ่งอารมณ์เสียมากกว่าเดิม เธอถามอย่างมุ่งร้ายไปที่แดร์ริล "เธอหมายความว่าฉันตัดสินหนูน้อยลิลี่ผิด?"แดร์ริลกำลังจะพูดด้วยความมั่นใจยังไงก็ตาม ในตอนนั้นเองที่วิลเลียมทนไม่ได้ เขาตบโต๊ะเสียงดัง และตะโกนพร้อมชี้หน้าแดร์ริล "แกคิดว่าแกเป็นใคร? นี่คือการประชุมของตระกูลลินดัน เมื่อไหร่กันที่แกสามารถพูดอะไรได้ตามใจ? อะไรทำให้แกคิดว่าแกมีสิทธิ์เถียงคำตัดสินของคุณย่า?"แดร์ริลจ้องเขาอย่างเย็นชา "ฉันก็แค่แนะให้คุณย่าตรวจสอบเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนจะตัดสินใจ นายโมโหอะไรเนี่ย?""ไอ้เวรนี่!"วิลเลียมแทบระเบิด เขากำลังจะเข้าไปต่อยแล้ว แต่เมื่อคิดไปถึงตอนงานเลี้ยงวันเกิดของคุณย่า เขาถูกซ้อมก่อนที่จะได้ยกหมัดด้วยซ้ำ เขาจึงหยุดลง แต่ยังมองไปที่แดร์ริ
มันเป็นความผิดของคนอื่นจริงเหรอ?ทุกคนตกตะลึงคุณย่าเองก็ตกใจ เธอถาม "เกิดอะไรขึ้น คุณลินด์ท?"จีเซลล์ไม่ได้ตอบ เธอเพียงแค่ยิ้มอ่อน แล้วหันไปมองวิลเลียมเมื่อได้ยินว่าจีเซลล์กำลังจะตรวจสอบ วิลเลียมยังคิดว่าตัวเองยังอาจจะโชคดีแต่หลังจากจีเซลล์หันมามองเขา เขารู้แล้วว่าเขากำลังงานเข้าจีเซลล์หันไปพูดทางประตู "เข้ามาข้างใน ทั้งสามคนเลย!"แทบจะในทันที เจ้าหน้าที่หลังเวทีสามคนก็เดินคอตกเข้ามาเมื่อเขาเห็นทั้งสาม ความคิดของวิลเลียมปั่นป่วนทันที เขาตะลึง แต่ยังพยายามทำตัวปกติจีเซลล์กล่าวกับทั้งสาม "บอกความจริงไป!"เมื่อจีเซลล์สั่ง หนึ่งในพวกเขาก็มองขึ้นมาและมองกวาดไปทั่วห้อง จากนั้นสายตาของเขาก็ไปหยุดอยู่ที่วิลเลียม "นั่นเขา นั่นคือคุณวิลเลียม ลินดัน ที่สั่งให้เราทำครับ"อีกคนก็กล่าวเสริม หลังจากที่กลืนน้ำลายไปอึกใหญ่ "ใช่ครับ เขามอบเงินให้พวกเราทั้งสามมาก้อนใหญ่และให้พวกเราทำให้เอียร์มอนิเตอร์ของคุณลินด์ทมีปัญหา และจะให้เงินเพิ่มอีกหลังจากงานเสร็จสิ้น!"คนที่สามไม่ได้พูด แต่เขาพยักหน้า และจ้องไปที่วิลเลียมอะไรนะ?มันคือวิลเลียม?เมื่อได้ยินคำพูดของทั้งสาม ทุกคนพลันตกตะลึง ใบ
เมื่อเธอเห็นแดร์ริลพยักหน้า จีเซลล์ก็หันไปทางคุณย่าลินดันและกล่าวอย่างนุ่มนวล "ก็ดีค่ะ ฉันพอใจแล้ว"หญิงชรารู้สึกโล่งใจหลังจากจีเซลล์ยอมรับข้อเสนอของเธอทุกอย่างจะง่ายขึ้นตราบใดที่จีเซลล์ยอมมองข้ามปัญหาไปอย่างไรก็ตาม ครู่ต่อมา จีเซลล์ก็กล่าวว่า "แต่ฉันมีหนึ่งข้อแม้!""ข้อแม้อะไรเหรอ คุณลินด์ท?" หญิงชรารีบตอบสนองอย่างรวดเร็วจีเซลล์เดินเข้าไปหาลิลี่แล้วยืนข้าง ๆ เธอ จากนั้นเธอก็มองไปรอบ ๆ ห้อง แล้วกล่าวว่า "จากวันนี้ไป ลิลี่จะเป็นผู้ดูแลเรื่องภาพลักษณ์และเรื่องที่ใกล้เคียงกันของฉัน ฉันเชื่อเธอ จะไม่มีใครในตระกูลลินดันที่จะสามารถยุ่งกับงานของเธอได้ทั้งนั้น ฉันพูดชัดเจนไหม?"อะไรนะ?!ทุกคนตื่นตะลึงเมื่อได้ยินจีเซลล์ได้ให้อำนาจต่อลิลี่อย่างเต็มที่ และไม่มีใครจะสามารถเข้าไปยุ่งได้ ไม่แม้แต่คุณย่าลินดัน"แน่นอน คุณลินด์ท เราจะสนับสนุนอย่างเต็มที่" แม้แต่คุณย่าลินดันเองก็ไม่ชอบใจนัก แต่เธอก็ไม่มีทางเลือกมากนัก นอกจากการกลืนความขมขื่นในใจลงแล้วยิ้มออกมาแทนหลังจากที่หญิงชราให้คำมั่น เหล่าคนรุ่นใหม่ของตระกูลลินดันก็ไม่สามารถเก็บอาการริษยาต่อลิลี่ได้เลยแม้ว่าจะมีกระแสด้านลบของจีเซล