เราจบเห่แล้ว!หัวของแซ็คหมุนคว้าง เขาไม่กล้ามองหน้าสาวน้อยสิบเปอร์เซ็น? มันพอ ๆ กับเป็นไปไม่ได้นั่นแหละ! โรเจอร์จบสิ้นแล้วทันใดนั้น มีบางคนโพล่งออกมา "นั่นมันยุ่งยากเกินไป มันไร้ประโยชน์ถ้าส่งเขาไปโรงพยาบาล ฉันกลัวว่าโอกาสจะลดต่ำกว่า 10 เปอร์เซ็นด้วยซ้ำ"เชลลีหน้าบึ้ง ใครกันที่จองหองกล้าพูดแบบนี้? เธอเป็นหมอเพียงคนเดียวที่นี่ คำพูดของเธอมีความหมาย หากชายชราคนนี้ไม่ถูกส่งโรงพยาบาล เขาจะให้ชายชราตายที่นี่รึไง? อย่างน้อยมันก็มีความหวังอยู่บ้างที่โรงพยาบาล!เธอหันหลังไปมองคนที่พูดอย่างโกรธเกรี้ยวแดร์ริล!เธอพลันอับอายทันที เธอไม่ได้แต่งหน้ามาวันนี้ หลังจากพบแดร์ริล เธอก็เชื่อมั่นในเขาอย่างมาก เขาทำให้เธอรู้สึกปลอดภัย เขาต้องมีเหตุผลบางอย่างที่ยืนกรานไม่ให้ส่งชายชราคนนี้ไปโรงพยาบาลฝูงชนอ้าปากค้างแล้วมองแดร์ริล ชายคนนี้เป็นใคร? เขาเป็นคนที่มีชื่อเสียงในโลกของการแพทย์รึเปล่า? การบอกว่ายานี้ไม่มีสรรพคุณและอันตราย แล้วมันก็เป็นความจริง!"นายเป็นใคร?" สาวน้อยถาม เธอจ้องแดร์ริลแล้วถามอย่างนิ่งเฉย "ในเมื่อนายแนะนำไม่ให้ฉันพาปู่ของฉันไปโรงพยาบาล นายมีทางออกที่ดีกว่านี้เหรอ?"แดร์ริลหั
ใบหน้าของสาวน้อยมืดลง ปู่ของเธอจะมีโอกาสรอดเพียงสิบเปอร์เซ็นในโรงพยาบาล เธอจะเสี่ยงได้ยังไง? เธอจ้องที่แดร์ริล จากนั้นก็เข้าไปหาปู่ของเธอแล้วเตรียมตัวตามที่แดร์ริลแนะนำในตอนนั้น อีวอนดึงแขนของเธอเพื่อหยุด เธอหันไปหาแดร์ริลแล้วถาม "แดร์ริล คุณมั่นใจเหรอ? นี่มันเป็นเรื่องความเป็นความตายนะ" อีวอนกังวลอย่างมากแดร์ริลหัวเราะ เขากล่าว "มันจะเรียบร้อย ผลจากวิธีของผมนั้นดีกว่าผลลัพธ์จากโรงพยาบาลมาก"สาวน้อยปีนไปข้าง ๆ ปู่ของเธอ เธอกดจุดชีพจรวิญญาณจากมือซ้าย และมือขวานั้น เธอก็ทำแบบเดียวกันที่จุดทางเดินชีพจร ในเวลาเดียวกัน เธอก็โคจรพลังภายในแล้วพยายามผลักดันพิษออกฝูงชนเงียบสนิท แต่ผู้บ่มเพาะมากมายส่ายหัวของพวกเขาด้วยความไม่เห็นด้วย พวกเขาคิดว่าแดร์ริลนั้นเพ้อเจ้อทั้งเพ! พวกเขาเห็นด้วยกับสาวน้อย การกดจุดชีพจรทั้งสองนั้นเป็นข้อต้องห้ามใหญ่ หากไม่เรียบร้อย มันอาจทำให้ตายได้ ทั้งสองจุดสำคัญนั้นไม่ควรแตะต้องหากไม่ต้องการที่จะตาย!คนที่กังวลที่สุดในห้องดูจะเป็นแซ็ค หัวใจของเขาเหมือนจะระเบิด หากชายชราไม่ถูกรักษา ไม่ใช่แค่เขาที่จะแย่ แต่ทั้งตระกูลของเขาจะตกอยู่ในอันตรายเช่นกัน เขาพบว่ามันแปลกที
แดร์ริลเกือบจะถามจบก่อนที่แซ็คจะส่งเสียง ชู่ว พร้อมกับนิ้วที่แตะปากของเขา จากนั้นเขาก็ดึงแดร์ริลไปจุดที่เงียบและสันโดษก่อนจะกล่าว "ทั้งคู่ไม่ใช่แค่แขกทั่วไป แดร์ริล คุณรู้จักนิกายตำหนักอมตะรึเปล่า?"ตำหนักอมตะ?มีนิกายใหญ่อยู่สองนิกาย หนึ่งคือนิกายจ้าวสวรรค์ และอีกนิกายคือตำหนักอมตะนิกายตำหนักอมตะนั้นทรงพลังเท่าเทียมกับนิกายจ้าวสวรรค์ พวกเขามีผู้ติดตามนับแสน ๆ ว่ากันว่าสมาชิกหลักของตำหนักอมตะล้วนเป็นผู้บ่มเพาะระดับสูง พวกเขาล้วนลึกลับและเก่งกาจ แม้แต่เหล่าผู้บ่มเพาะของหกสำหนักหลัก พวกเขายังเป็นขุมพลังที่ต้องคำนึงถึงงั้นปู่และหลานสาวคู่นี้ก็เป็นสมาชิกของตำหนักอมตะแซ็คสูดหายใจเข้าไปแล้วกล่าวต่อ "ทั้งสองคนเองก็ไม่ใช่สมาชิกทั่วไป หากผมไม่ผิดพลาด พวกเขานั้นมีตำแหน่งสูงมากเพราะป้ายของพวกเขาเป็นทองคำบริสุทธิ์ ป้ายของศิษย์ทั่วไปนั้นเป็นแค่เงินทั้งสิ้น"แดร์ริลพยักหน้าในขณะที่ฟัง อย่างที่พวกเขาบอก งานประมูลดูจะจบลงแล้ว แซ็คหยิบแจกันขึ้นมา แล้วส่งให้แดร์ริล เขากล่าว "แดร์ริล ได้โปรดรับแจกันนี้เป็นของขวัญขอบคุณจากผม ผมยังมีเรื่องต้องแก้ไขอีก ดังนั้นคงต้องขอตัวไปก่อน"แดร์ริลรับของขวัญมา
อีวอนกอดกล่องรองเท้าที่บรรจุคำสรรเสริญจากคริสตัลไว้ และตัวสั่นสะท้าน เธอรู้สึกว่าทุกอย่างดีไปหมดเมื่อแดร์ริลอยู่ใกล้ ๆ คำสรรเสริญจากคริสตัลนั้นเป็นตัสแทนความรู้สึกที่เธอมีต่อแดร์ริล—มันชัดเจนดั่งคริสตัลเพราะพ่ออยู่ข้างเธอ เธอจึงระงับความต้องการจะกอดและจูบแดร์ริล เธอตอบอย่างแผ่วเบา "แดร์ริล ในเมื่อคุณมอบของขวัญนี้ให้ฉัน งั้นก็ให้ฉันเลี้ยงมื้อค่ำคุณเถอะนะ! ทั้งสองอย่างมันแตกต่างกันมาก แต่คุณคงไม่ปฏิเสธฉันใช่ไหม?" เธอพูดถูก รองเท้านี้ราคาร้อยล้าน มื้อค่ำจะราคาเท่าไหร่กันเชียว?ยังไงก็ตาม เป้าหมายหลักที่เธอจะเลี้ยงดินเนอร์แดร์ริลก็เพราะเธอมีอย่างอื่นที่ต้องทำนั่นคือการใช้เวลากับเขาให้มากขึ้นแทนการขอบคุณเขา ตราบใดที่เธอได้ใช้เวลากับเขามากขึ้นสักชั่วโฒง เธอก็ดีใจแล้วแดร์ริลคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็หัวเราะแล้วพยักหน้า "โอเค!"ในเมื่อตอนนี้เขาไม่มีอะไรต้องทำ เขาจึงไม่รังเกียจที่จะอยู่ดูแลเธอสักพักในตอนที่พวกเขากำลังจะจากไปนั่นเอง มือถือของแดร์ริลก็ดังขึ้นใครมันช่างขัดความสุขซะจริง?เขาคว้ามือถือออกมา—เป็นเมแกน"เจ้าหน้าที่แคสเทลโล ว่าไง?" เขารับสายแล้วถาม"พี่ชายที่แสนดีของฉัน คุ
มันมีถ้วยชาสองถ้วย กลิ่นหอมอบอวลในอากาศมีชายนั่งตรงข้ามเดรก ชายคนนี้ดูไม่ออกว่ามีอายุสามสิบหรือห้าสิบกันแน่ เขาส่วมชุดคลุมนักพรตเต๋า มีมวยผมอยู่บนศรีษะของเขา แม้จะดูเป็นแบบนั้น แต่เขากลับรังสีชั่วร้ายที่คลุมเครือรอบตัวเช่นกันชายคนนี้คือไบรอัน คันนิงแฮม หรือที่รู้จักกันในชื่อนักบวชไบรอัน"สหายนักบวช ช่างเป็นเกียรติอย่างสูงของผมที่คุณได้ให้เกียรติมาปรากฏตัวให้เราเห็น" เดรกกล่าว เขายกถ้วยชาเป็นการแสดงความเคารพสองวันก่อน เดรกส่งข้อความให้ไบรอัน เขาคิดว่าไบรอันจะมาถึงในหลายวันให้หลัง แต่ไม่คาดคิดว่าเขาจะมาถึงในวันถัดมาไบรอันยิ้มแล้วโบกมือ เขากล่าว "ด้วยความสัมพันธ์ฉันมิตรของพวกเรา ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนักหรอก แล้วมีเรื่องด่วนอะไรที่เรียกฉันมาที่นี่ล่ะ?"เดรกสูดหายใจเต็มปอด แล้วกล่าว "ผมอยากให้ทั้งตระกูลดาร์บี้เริ่มบ่มเพาะ" เมื่อเขากล่าวแบบนั้น ความโกรธของเขาต่อแดร์ริลก็พุ่งขึ้นเพราะความวุ่นวายที่เขาก่อก่อนหน้านี้ดวงตาของไบรอันเป็นประกาย เขาหัวเราะแล้วกล่าว "ว่าต่อสิ"เดรกยิ้มอย่างขมขื่น เขาดล่าว "สหายนักบวช เรื่องก็คือ ผมอยากขอให้คุณช่วย อย่างที่คุณทราบ การจะเป็นผู้บ่มเพาะ เราจ
"น้องสาวที่แสนดีของผม ทำไมคุณถึงได้ดูอ่อนหวานนักล่ะวันนี้?" แดร์ริลกล่าวพร้อมหัวเราะ เขาถาม "อยากให้ผมช่วยเรื่องอะไรเหรอ?"เมแกนกัดริมฝีปากของเธอแล้วกระซิบ "คุณ… เคยได้ยินเรื่องนิกายตำหนักอมตะไหม?"ตำหนักอมตะ? ปู่กับหลานสาวที่งานประมูลคู่นั้นมาจากนิกายนี้ พวกเขามาจากหนึ่งในสองนิกายหลัก"ใช่ ผมเคยได้ยิน ทำไมเหรอ?" แดร์ริลถาม"ฉันต้องการให้คุณช่วยฉันสืบเรื่องของมัน" เมแกนตอบเสียงค่อยเมืองตงไห่กำลังวุ่นวายไม่นานมานี้ ไม่กี่วันก่อนนิกายจ้าวสวรรค์ก็มาตั้งสาขาที่นี่ แล้วที่นี้ก็มีตำหนักอมตะตามมา ด้วยการปรากฏตัวของสองนิกายใหญ่ภายในเมืองตงไห่ เมืองแห่งนี้คงถึงคราวล่มสลายในอีกไม่นานขอบคุณพระเจ้าที่นิกายจ้าวสวรรค์เก็บตัวเงียบในช่วงที่ผ่านมา ฮอลล์มาสเตอร์ สกายเลอร์ เบอร์ ไม่ได้ถูกพบเห็นมาหลายวันแล้วโชคไม่ดีนัก นิกายตำหนักอมตะเริ่มก้าวออกนอกขอบเขต หลังจากก่อตั้งสาขาขึ้น พวกเขาก็เริ่มทำการชั่วร้ายและเรื่องอุกอาจอย่างการใช้ชีวิตมยุษย์เพื่อกลั่นโอสถ!เหล่าผู้บัญชาการตำรวจทั้งหลายได้มอบคำสั่ง หากพวกเขาไม่สามารถจัดการกับตำหนักอมตะในหนึ่งเดือน ทุกคนจะถูกปลดออกเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงยุ่งวุ่นวายก
'เ-ี่ย ฉันไม่เคยขโมยอะไรเลยมาก่อนนะ' แดร์ริลคิดอย่างเคร่งเครียด"ทำไมต้องเป็นขโมย? การขโมยของเป็นเรื่องเสื่อมเสีย!" แดร์ริลกล่าวอย่างทิ่มแทง ความจริงก็คือ ตั้งแต่ที่แดร์ริลยังเด็ก ๆ แล้ว เขารังเกียจพวกขโมย ทั้ง ๆ ที่มีแขนขา ทำไมต้องเอาสิ่งของที่ไม่ใช่ของตัวเองไป?เมแกนมองแดร์ริลอย่างแก้ตัวไม่ออก เธอตอบ "แล้วคุณมีความคิดที่ดีกว่านี้ไหม?"แดร์ริลยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ เขาจ้องเมแกนแล้วกล่าว "เอาเป็นผมจู่โจมตำรวจหญิงเป็นไง หรือจับตัวคุณอย่างไม่ได้รับการยินยอมดี..."เมแกนหน้าแดง เธอจ้องแดร์ริลแล้วกล่าว "ฉันกำลังจริงจังนะ!"'ก็ได้ ผมจะหยุดเรื่องตลกพวกนี้ก่อน ให้ผมคิดหาวิธีอื่น ผมต้องการเข้าคุกอย่างมีศักดิ์ศรี ผมได้ยินมาว่าพวกผู้ต้องขังนั้นดูถูกพวกโจรลักขโมย" แดร์ริลกล่าวอย่างเคร่งขรึมเมแกนพยักหน้า "ถ้างั้นวิธีอื่นคืออะไร?" เธอถามแดร์ริลเสนอออกไปหลายข้อ อย่างเช่นการทุบตีใครหรือการชนแล้วหนี เมแกนแย้งพวกมันทั้งหมด ในที่สุด เขาก็ทำได้เพียงยินยอมที่จะขโมยอย่างไม่เต็มใจแดร์ริลส่งข้อความหาเพิร์ล บอกเธอให้ทำหน้าที่แทนเขาที่บริษัท เพราะเขาจะไม่อยู่สักพัก เขากระทั่งมอบบัญชีและรหัสของแพลตฟอร์มไล
”ฉันไม่ใช่น้องสาวของเขา แต่ฉันรู้จักเขาดี เขาไม่มีทางทำเรื่องแบบนั้น!" เชลลีกล่าวอย่างนุ่มนวล"แต่ความจริงก็คือความจริง เขาขโมยของจริง" ตำรวจกล่าว เขาหันไปที่พ่อแม่ของแดร์ริลแล้วกล่าว "ลูกชายของคุณขโมยโทรศัพท์มือถือ"การปลอมตัวเป็นสายสืบนั้นเป็นความลับสูงมาก จึงไม่มีใครอื่นที่รู้เรื่องนี้ ดังนั้น จากขั้นตอนการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรฐานของพวกเขา พวกเขาจึงต้องมาแจ้งกับครอบครัวของผู้กระทำผิดลูน่าเริ่มเครียดและกล่าวด้วยความไม่เชื่อ "แดร์ริลขโมยมือถือ? เป็นไปไม่ได้ เขาเป็นประธานของบริษัทใหญ่และประสบความสำเร็จอย่างมาก ทำไมเขาต้องทำเรื่องแบบนั้น? นี่มันต้องมีอะไรผิดพลาดแน่"แดเนียล—ผู้อยู่บนเตียง—เริ่มมีน้ำโห เขาโพล่งออกมา "ใช่! นี่มันต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ แดร์ริลจงเกลียดจงชังพวกโจรลักขโมยมาตั้งแต่สมัยเขายังเด็ก ทำไมเขาถึงต้องกลายเป็นสิ่งที่เขาเกลียด?"ตำรวจส่งเอกสารให้พวกเขาอย่างเป็นมืออาชัพ "นั่นเป็นสิ่งที่ผมคงไม่อาจรู้ แต่ถ้าหากคุณคิดว่าเราจับผิดคน พวกคุณควรดูเอกสารนี้"ลูน่าและแดเนียลถึงกับทรุดลงเมื่อพวกเขาเห็นรูปแดร์ริลที่สวมชุดนักโทษ...ตระกูลลินดันลิลี่อยู่ในห้องนั่งเล่น เธออย