จิตใจของแดร์ริลสั่นไหวเมื่อได้ยินคำพูดของเชลลี่!เชลลี่เป็นหมอที่เก่งที่สุดทั่วทั้งเมืองตงไห่ มันเป็นจุดจบที่แท้จริงถ้าเธอพูดว่ามันไม่มีความหวังแดร์ริลพูดอะไรไม่ออกเมื่อเขารู้สึกถึงความเจ็บปวดที่แทงลึกลงไปในอกและค่อย ๆ อุ้มอีวอนอย่างเงียบ ๆ ออกจากโรงพยาบาลอีวอนพูดอย่างแผ่วเบา “แดร์ริล… อย่าเสียแรงเลย ฉัน… ฉันแค่อยากใช้เวลาช่วงสุดท้ายกับคุณ...”แดร์ริลน้ำตาคลอเมื่อเขาเดินมาถึงทางเข้าของโรงพยาบาล “ไม่! ผมไม่เชื่อว่าคุณจะไม่รอด โรงพยาบาลนี้มันไร้ประโยชน์ ไปหาที่อื่นกันเถอะ อีวอน ช่วยรอหน่อยนะ...”แดร์ริลอุ้มอีวอนและเดินรอบเมืองตงไห่เพื่อหาหมออย่างกับคนบ้าคลั่งไม่รู้ว่าพวกเขาไปกี่โรงพยาบาล แต่ทั้งหมดให้คำตอบเดียวกันว่า “ฉันไม่มีความสามารถ” ลีรอบดูดดื่มพลังวิญญาณของอีวอนไปจนหมด มันเท่ากับว่าพลังชีวิตของเธอได้สูญสิ้นไปจากเธอแล้ว ไม่มีทางที่จะช่วยอีวอนได้แม้ว่าเทคโนโลยีทางการแพทย์จะล้ำหน้ามากแค่ไหนแดร์ริลรู้สึกสิ้นหวังอย่างมากเมื่อเขาเดินออกจากโรงพยาบาลสุดท้าย เขาไม่สามารถระงับความโกรธได้อีกต่อไปและปล่อยมันทั้งหมดในเวลาเดียวกัน!“อ๊า!”แดร์ริลคำรามขึ้นไปบนฟ้าและเสียงของเขาสามารถ
ขณะแดร์ริลกล่าว เขาก็คุกเข่าลงและโขกหน้าผากลงกับพื้นซ้ำไปซ้ำมา ในชั่วพริบตาหน้าผากของเขาก็เริ่มมีเลือดไหล แต่เขากลับไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดใด ๆ โซรันรู้สึกสงสารแดร์ริลและรีบรั้งเขาไว้ เขาหันกลับไปมองที่อีวอนและห้ามตัวเองไม่ได้ที่จะงวยงงโซรันมองไปที่อีวอนด้วยความตกใจและไม่เชื่อสายตา “พลังจิตวิญญาณของสาวน้อยคนนี้ถูกดูดออกไปใช่ไหม?”"พ่อทูนหัว มันพอจะมีทางช่วยชีวิตเธอไว้ได้ไหมครับ?" แดร์ริลวิตกกังวลขณะเขากล่าวถามในท่าทีมีความหวัง!สีหน้าของโซรันไม่สบายใจขณะเขากล่าวอย่างเคร่งขรึม “มีข่าวลือเกี่ยวกับวิชามารเมื่อหลายศตวรรษก่อนเรียกว่าวิถีแห่งด้านมืด หลังจากบรรลุการบ่มเพาะแล้วผู้ที่ฝึกวิชานี้จำเป็นจะต้องดูดซับพลังจิตวิญญาณของใครอีกคนหนึ่ง หรือว่าสาวน้อยคนนี้ได้รับบาดเจ็บจากวิชามาร?”โซรันอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจและกล่าวต่อ “วิชามารนี้ร้ายกาจมาก เมื่อพลังจิตวิญญาณของใครก็ตามถูกดูดซับไป พวกเขาจะหมดเรี่ยวแรงและขยับเข้าใกล้ความตายอย่างรวดเร็ว ไม่มีใครสามารถจะช่วยพวกเขาได้”อะไร?แดร์ริลตัวสั่นสะเทือน ดวงตาของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงในทันทีขณะที่เขาร้องไห้และคุกเข่าลงกับพื้น “ได้โปรดพ่อทูนหัว คุณ
ดวงตาของแดร์ริลเปล่งประกายด้วยน้ำตาขณะที่เขายิ้มและพยักหน้า “ก็ได้ ๆ งั้นเรามาคุยกัน ผมฟังอยู่”แดร์ริลกุมมืออีวอนขณะเขากล่าวในขณะนั้น มีความอบอุ่นมหาศาลลอยตลบอบอวลไปทั่วทั้งห้อง แต่ภายใต้ความอบอุ่นนี้ก็ยังมีความรู้สึกเศร้าโศกเล็กน้อยอีวอนฉีกยิ้มขณะเธอมองไปที่แดร์ริลอย่างจริงจังและกล่าวเบา ๆ “แดร์ริล ความสัมพันธ์ของคุณกับลิลี่ไม่ค่อยราบรื่นสักเท่าไหร่ในครั้งก่อน และวิธีที่เธอทำกับคุณก็ไม่ได้น่าพอใจอีกด้วย ฉันเป็นห่วงมาก แต่ในเวลาเดียวกันฉันก็แอบอิจฉาเธอ ฉันคิดมาเสมอว่ามันจะดีแค่ไหนถ้าคุณได้เป็นสามีของฉัน ไม่ว่าคนอื่นจะพูดหรือคิดยังไงกับคุณ ฉันก็จะขออยู่เคียงข้างคุณเสมอ”อีวอนถอนหายใจเบา ๆ และกล่าวต่อ “แต่ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าความสัมพันธ์ของคุณกับลิลี่พัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น ในตอนที่แม่ชีแห่งโชคชะตาแทงคุณ ลิลี่ไม่ได้นอนเลยเป็นเวลาสองวันเต็ม ฉันรู้ได้ในทันทีว่าเธอห่วงใยคุณมากจริง ๆ ฉันโล่งใจที่คุณมีภรรยาที่แสนดีคอยดูแลและเอาใจใส่คุณ... คุณรู้ไหม… ความเสียใจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของฉันก็คือการที่ฉันไม่ได้แต่งงานกับคุณ ฉันเสียใจจริง ๆ”ในขณะนั้นอีวอนรู้สึกเหนื่อยล้ามากและรู้สึกอยากนอน
เป็นเวลาหัวค่ำหัวของแดร์ริลเหงื่อแตกพลั่กขณะเขาหอบถุงที่เต็มไปด้วยสิ่งของต่าง ๆ กลับไปที่คฤหาสน์คาร์เตอร์เขาไปไล่กวาดต้อนซื้ออุปกรณ์จัดงานแต่งมามากมายอย่างเช่น เทียน ตะเกียงไฟ และเสื้อผ้าแดร์ริลแบกของเหล่านั้นและรีบวิ่งกลับไปที่คฤหาสน์อย่างรวดเร็ว เนื่องจากเขาไม่มีเวลาเหลืออยู่กับอีวอนมากนัก และเขาต้องการใช้ทุกวินาทีกับเธอให้มีค่ามากที่สุดเมื่อแดร์ริลเดินเข้าไปในห้อง เขาเห็นซาร่ากำลังเดินเข้ามาหาเขา“พี่ชาย!” ซาร่าร้องเรียกหาด้วยรอยยิ้มและกล่าวถาม “ทำไมนายซื้อของมาเยอะจัง? พวกนี้มันคืออะไร? ของขวัญพวกนี้เอามาให้ฉันรึเปล่า?”ซาร่าเริงร่าที่ได้ยินจากแม่บ้านว่าแดร์ริลกลับมาแล้ว เธอจึงเดินตามหาเขาแดร์ริลฉีกยิ้มและกล่าว “ฉันกำลังจะแต่งงานในวันนี้และของพวกนี้เป็นอุปกรณ์จัดงานแต่ง”“ว้าว นายกำลังจะแต่งงาน!”ซาร่าตกตะลึงและกล่าวถามอย่างตื่นเต้น “จะมีแขกมาเยอะไหม? ฉันมั่นใจว่ามันจะต้องครื้นเครงมากแน่!”แดร์ริลขบริมฝีปากและส่ายหัวของเขา “ฉันไม่อยากจะให้มันคึกครื้น ไม่มีใครรู้เรื่องนี้นอกจากเธอ”ซาร่ากระโดดเต้นเป็นลิงโลด เมื่อได้ยินกับคำกล่าวของแดร์ริล “ฉันรู้แค่คนเดียวงั้นเหรอ? ง
“อย่าพูดถึงวิวาห์วายป่วงชวนหงุดหงิดนั่นอีก” อีวอนตอบเมื่อได้ยินคำกล่าวของแดร์ริลแดร์ริลเป็นเพียงคนเดียวที่อีวอนอยากจะใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ด้วย งานพิธีวิวาห์ในครั้งก่อนของเธอกับเจเรมีนั้นเป็นโมฆะเพี๊ยะแดร์ริลก็มีสติและตบเข้าไปที่หน้าของตัวเอง “ผมนี่โง่จริง ๆ ผมสมควรโดนลงโทษ”‘ฉันไม่น่ายกประเด็นนั้นขึ้นมาเล่นเลย!’ แดร์ริลคิดอีวอนรู้สึกแย่และจับคล้องแขนของแดร์ริลอย่างรวดเร็ว “ไอ้บ้า ตีตัวเองทำไม?”เธอลูบหน้าแดร์ริลด้วยความเป็นห่วง “เจ็บไหม?”แดร์ริลส่ายหัวและยิ้ม “ไม่เจ็บเลยสักนิด ฉันจะทำร้ายใบหน้าอันหล่อเหลาของฉันลงคอได้ยังไง?”คำพูดของแดร์ริลทำให้อีวอนหัวเราะในขณะนั้น แดร์ริลก็ชี้ไปที่ชุดแต่งงานแล้วกล่าว “ดูนั่น คุณชอบชุดไหน?”อีวอนพยักหน้าขณะที่เธอยิ้มและเลือกชุดที่เธอชอบซึ่งแดร์ริลรีบหยิบมันมาให้อย่างรวดเร็ว และช่วยเธอสวมใส่มันอย่างระมัดระวัง แดร์ริลตกตะลึงทันทีเมื่ออีวอนได้สวมชุดแต่งงานสภาพของอีวอนก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เมื่อเธอสวมชุดแต่งงานที่เข้าทรงเผยให้เห็นส่วนโค้งเว้าที่สวยงามของเธอ แม้ว่าใบหน้าของเธอจะซีดเซียวแต่รอยยิ้มของเธอก็ยังคงงดงามจนแทบลืมหายใจอีวอนอดไ
“ได้เลย ฉันจะไม่ร้องไห้ ฉันจะไม่ร้องไห้…” อีวอนเช็ดน้ำตาของเธอและกล่าวด้วยรอยยิ้ม “เอาล่ะ เรามาเริ่มพิธีวิวหาห์กันเถอะ”“เยี่ยม!” แดร์ริลจับมืออีวอนและค่อย ๆ ลุกขึ้นยืนในเวลานั้น ซาร่าเองก็ได้ตกแต่งห้องไว้อย่างสวยงามอลังการและวิจิตรตระการตาซาร่าชื่นใจเมื่อได้เห็นว่าทั้งคู่คุกเข่าลงแล้ว “พวกพี่จะเริ่มพิธีกันแล้วเหรอ? สุดยอด ฉันจะเป็นพยานให้พวกพี่เอง!”ซาร่ากล่าวจบประโยคและเดินไปหาทั้งคู่อย่างกระตือรือร้นพร้อมกับขานรับอย่างเริงร่า “เรามารวมตัวกันที่นี่ในวันนี้ เพื่อพิธีสมรสระหว่างพี่ชายทูนหัวของฉันกับมิสอีวอน ขอให้ทั่งคู่พบแต่ความสุขและความสำราญ จงดลบันดาลให้สรวงสวรรค์เป็นสักขีพยาน... คำนับครั้งแรกให้กับ สวรรค์และโลก!”แดร์ริลและอีวอนยิ้มกรุ้มกริมให้กันและกัน และก้มโค้งคำนับด้วยมือของทั้งคู่ที่ประสานกันจากนั้นซาร่าก็อุทาน “คำนับครั้งที่สอง เพื่อเคารพผู้อาวุโส!”จากนั้นทั้งคู่ก็หันหน้าไปทางเมืองตงไห่และก้มโค้งคำนับในเวลานั้น แดร์ริลรู้สึกว่าร่างกายของอีวอนสั่นเทาราวกับพยายามควบคุมอารมณ์ของเธอ อีวอนเป็นลูกสาวคนเดียวของตระกูลยัง โดยปกติแล้วเธอหวังไว้ว่าจะได้รับการอวยพรจากพ่อของเ
“แน่นอน!” แดร์ริลพยักหน้า อย่างน้อยก็ยังพอมีหวังแม้จะริบหรี่ซูซานถอนหายใจขณะเธอขบริมฝีปากของเธอ “อีกอย่าง ฉันบอกวิธีช่วยชีวิตเธอได้ แต่นายต้องสัญญาอะไรบางอย่างกับฉัน” ตอนนั้นเธอดูขัดใจเล็กน้อย“อาซูซาน อะไรก็ได้ว่ามาเลยครับ” แดร์ริลตอบอย่างไม่ลังเล พยักหน้ารัว ๆซูซานถอนหายใจก่อนจะมองไปที่แดร์ริลอย่างจริงจัง “เรื่องนี้มันเกี่ยวกับตอนที่เรเชลหลอกนายให้เข้าไปในป่าลูกท้อเบ่งบาน ฉันไม่อยากให้นายไปบอกกับพ่อทูนหัวและก็ห้ามพูดถึงเรื่องนี้อีก”ฉะนั้นเรื่องนี้มันก็เป็นเพราะเหตุการณ์นั้น“ผมสัญญา ผมจะไม่พูดถึงมันอีก” แดร์ริลตอบสัญญาในทันทีเขาพยักหน้า เรื่องแค่นี้มันเทียบไม่ได้กับชีวิตของอีวอนซูซานฉีกยิ้ม “เยี่ยม ฉันจะบอกนาย สภาพของสาวน้อยคนนี้ถูกดูดกลืนด้วยวิถีแห่งด้านมืด วิถีแห่งด้านมืดเป็นวิชาบ่มเพาะที่เก่าแก่นานนับพันปี มันมาจากโลกใหม่ ไม่แน่บางทีคนจากโลกใหม่ที่มีทักษะวิชานี้อาจช่วยชีวิตเธอได้”“ถ้านายพาเธอไปที่โลกใหม่ได้ บางทีมันอาจจะยังพอมีโอกาสอยู่ ยังไงก็ตามเธอเหลือเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น ฉันไม่คิดว่านายจะช่วยเธอไว้ได้ทันเวลา”'โลกใหม่?' แดร์ริลสงสัยด้วยความปลาบปลื้มใจเ
”แดร์ริล หลังจากเรื่องทั้งหมดที่ผ่านมา นายยังอยากจะให้ฉันช่วยนายงั้นเหรอ? นายบ้าไปแล้วหรือไง?” อีเว็ตต์กล่าวถามเย็นชาแดร์ริลวิตกกังวลมากจนเหงื่อแตกไหลท่วมขณะที่เขากล่าว “อีเว็ตต์ ฉันรู้ว่าเธอยังโมโหฉันอยู่ ฉันไม่ควรใช้วิชาค่ายกลแบบนั้นกับเธอ ฉันขอโทษ แต่ฉันหมดหวังและต้องการความช่วยเหลือจากเธอจริง ๆ ตราบใดที่เธอช่วยฉัน ฉันจะยอมทำทุกอย่าง!” เสียงของเขาแหบแห้งขณะเขาเกือบจะตะโกน หยาดเหงื่อไหลออกจากหัวของเขาอีเว็ตต์รู้สึกลิงโลดใจ “บอกมา มีอะไรให้ฉันช่วย?”“เพื่อนของฉัน ถูกดูดซับจิตวิญญาณไป เธอพอจะมีทางรักษาไหม?” แดร์ริลกล่าวถามอย่างมีความหวัง'อะไร? จิตวิญญาณของเธอถูกดูดซับ?' อีเว็ตต์ครุ่นคิดอีเว็ตต์ยักคิ้ว “เป็นเพราะวิถีแห่งด้านมืดใช่ไหม?”มีวิชาบ่มเพาะเพียงวิชาเดียวเท่านั้นที่ดูดซับจิตวิญญาณของมนุษย์ คัมภีร์เล่มนี้ถูกเก็บตายไว้ในห้องสมุดของพระราชวัง เนื่องจากวิถีที่ร้ายกาจของมันพ่อของเธอจึงห้ามไม่ให้ใครก็ตามฝึกฝนวิถีแห่งด้านมืด"ใช่! เธอจะช่วยชีวิตเพื่อนของฉันไหม?” แดร์ริลถามอย่างร้อนรนอีเว็ตต์สัมผัสได้ถึงความร้อนใจของเขา เธอฉีกยิ้มและกล่าว “ฉันไม่ได้เก่งขนาดนั้น ฉันช่วยเธอไม่