“อย่าพูดถึงวิวาห์วายป่วงชวนหงุดหงิดนั่นอีก” อีวอนตอบเมื่อได้ยินคำกล่าวของแดร์ริลแดร์ริลเป็นเพียงคนเดียวที่อีวอนอยากจะใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ด้วย งานพิธีวิวาห์ในครั้งก่อนของเธอกับเจเรมีนั้นเป็นโมฆะเพี๊ยะแดร์ริลก็มีสติและตบเข้าไปที่หน้าของตัวเอง “ผมนี่โง่จริง ๆ ผมสมควรโดนลงโทษ”‘ฉันไม่น่ายกประเด็นนั้นขึ้นมาเล่นเลย!’ แดร์ริลคิดอีวอนรู้สึกแย่และจับคล้องแขนของแดร์ริลอย่างรวดเร็ว “ไอ้บ้า ตีตัวเองทำไม?”เธอลูบหน้าแดร์ริลด้วยความเป็นห่วง “เจ็บไหม?”แดร์ริลส่ายหัวและยิ้ม “ไม่เจ็บเลยสักนิด ฉันจะทำร้ายใบหน้าอันหล่อเหลาของฉันลงคอได้ยังไง?”คำพูดของแดร์ริลทำให้อีวอนหัวเราะในขณะนั้น แดร์ริลก็ชี้ไปที่ชุดแต่งงานแล้วกล่าว “ดูนั่น คุณชอบชุดไหน?”อีวอนพยักหน้าขณะที่เธอยิ้มและเลือกชุดที่เธอชอบซึ่งแดร์ริลรีบหยิบมันมาให้อย่างรวดเร็ว และช่วยเธอสวมใส่มันอย่างระมัดระวัง แดร์ริลตกตะลึงทันทีเมื่ออีวอนได้สวมชุดแต่งงานสภาพของอีวอนก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เมื่อเธอสวมชุดแต่งงานที่เข้าทรงเผยให้เห็นส่วนโค้งเว้าที่สวยงามของเธอ แม้ว่าใบหน้าของเธอจะซีดเซียวแต่รอยยิ้มของเธอก็ยังคงงดงามจนแทบลืมหายใจอีวอนอดไ
“ได้เลย ฉันจะไม่ร้องไห้ ฉันจะไม่ร้องไห้…” อีวอนเช็ดน้ำตาของเธอและกล่าวด้วยรอยยิ้ม “เอาล่ะ เรามาเริ่มพิธีวิวหาห์กันเถอะ”“เยี่ยม!” แดร์ริลจับมืออีวอนและค่อย ๆ ลุกขึ้นยืนในเวลานั้น ซาร่าเองก็ได้ตกแต่งห้องไว้อย่างสวยงามอลังการและวิจิตรตระการตาซาร่าชื่นใจเมื่อได้เห็นว่าทั้งคู่คุกเข่าลงแล้ว “พวกพี่จะเริ่มพิธีกันแล้วเหรอ? สุดยอด ฉันจะเป็นพยานให้พวกพี่เอง!”ซาร่ากล่าวจบประโยคและเดินไปหาทั้งคู่อย่างกระตือรือร้นพร้อมกับขานรับอย่างเริงร่า “เรามารวมตัวกันที่นี่ในวันนี้ เพื่อพิธีสมรสระหว่างพี่ชายทูนหัวของฉันกับมิสอีวอน ขอให้ทั่งคู่พบแต่ความสุขและความสำราญ จงดลบันดาลให้สรวงสวรรค์เป็นสักขีพยาน... คำนับครั้งแรกให้กับ สวรรค์และโลก!”แดร์ริลและอีวอนยิ้มกรุ้มกริมให้กันและกัน และก้มโค้งคำนับด้วยมือของทั้งคู่ที่ประสานกันจากนั้นซาร่าก็อุทาน “คำนับครั้งที่สอง เพื่อเคารพผู้อาวุโส!”จากนั้นทั้งคู่ก็หันหน้าไปทางเมืองตงไห่และก้มโค้งคำนับในเวลานั้น แดร์ริลรู้สึกว่าร่างกายของอีวอนสั่นเทาราวกับพยายามควบคุมอารมณ์ของเธอ อีวอนเป็นลูกสาวคนเดียวของตระกูลยัง โดยปกติแล้วเธอหวังไว้ว่าจะได้รับการอวยพรจากพ่อของเ
“แน่นอน!” แดร์ริลพยักหน้า อย่างน้อยก็ยังพอมีหวังแม้จะริบหรี่ซูซานถอนหายใจขณะเธอขบริมฝีปากของเธอ “อีกอย่าง ฉันบอกวิธีช่วยชีวิตเธอได้ แต่นายต้องสัญญาอะไรบางอย่างกับฉัน” ตอนนั้นเธอดูขัดใจเล็กน้อย“อาซูซาน อะไรก็ได้ว่ามาเลยครับ” แดร์ริลตอบอย่างไม่ลังเล พยักหน้ารัว ๆซูซานถอนหายใจก่อนจะมองไปที่แดร์ริลอย่างจริงจัง “เรื่องนี้มันเกี่ยวกับตอนที่เรเชลหลอกนายให้เข้าไปในป่าลูกท้อเบ่งบาน ฉันไม่อยากให้นายไปบอกกับพ่อทูนหัวและก็ห้ามพูดถึงเรื่องนี้อีก”ฉะนั้นเรื่องนี้มันก็เป็นเพราะเหตุการณ์นั้น“ผมสัญญา ผมจะไม่พูดถึงมันอีก” แดร์ริลตอบสัญญาในทันทีเขาพยักหน้า เรื่องแค่นี้มันเทียบไม่ได้กับชีวิตของอีวอนซูซานฉีกยิ้ม “เยี่ยม ฉันจะบอกนาย สภาพของสาวน้อยคนนี้ถูกดูดกลืนด้วยวิถีแห่งด้านมืด วิถีแห่งด้านมืดเป็นวิชาบ่มเพาะที่เก่าแก่นานนับพันปี มันมาจากโลกใหม่ ไม่แน่บางทีคนจากโลกใหม่ที่มีทักษะวิชานี้อาจช่วยชีวิตเธอได้”“ถ้านายพาเธอไปที่โลกใหม่ได้ บางทีมันอาจจะยังพอมีโอกาสอยู่ ยังไงก็ตามเธอเหลือเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น ฉันไม่คิดว่านายจะช่วยเธอไว้ได้ทันเวลา”'โลกใหม่?' แดร์ริลสงสัยด้วยความปลาบปลื้มใจเ
”แดร์ริล หลังจากเรื่องทั้งหมดที่ผ่านมา นายยังอยากจะให้ฉันช่วยนายงั้นเหรอ? นายบ้าไปแล้วหรือไง?” อีเว็ตต์กล่าวถามเย็นชาแดร์ริลวิตกกังวลมากจนเหงื่อแตกไหลท่วมขณะที่เขากล่าว “อีเว็ตต์ ฉันรู้ว่าเธอยังโมโหฉันอยู่ ฉันไม่ควรใช้วิชาค่ายกลแบบนั้นกับเธอ ฉันขอโทษ แต่ฉันหมดหวังและต้องการความช่วยเหลือจากเธอจริง ๆ ตราบใดที่เธอช่วยฉัน ฉันจะยอมทำทุกอย่าง!” เสียงของเขาแหบแห้งขณะเขาเกือบจะตะโกน หยาดเหงื่อไหลออกจากหัวของเขาอีเว็ตต์รู้สึกลิงโลดใจ “บอกมา มีอะไรให้ฉันช่วย?”“เพื่อนของฉัน ถูกดูดซับจิตวิญญาณไป เธอพอจะมีทางรักษาไหม?” แดร์ริลกล่าวถามอย่างมีความหวัง'อะไร? จิตวิญญาณของเธอถูกดูดซับ?' อีเว็ตต์ครุ่นคิดอีเว็ตต์ยักคิ้ว “เป็นเพราะวิถีแห่งด้านมืดใช่ไหม?”มีวิชาบ่มเพาะเพียงวิชาเดียวเท่านั้นที่ดูดซับจิตวิญญาณของมนุษย์ คัมภีร์เล่มนี้ถูกเก็บตายไว้ในห้องสมุดของพระราชวัง เนื่องจากวิถีที่ร้ายกาจของมันพ่อของเธอจึงห้ามไม่ให้ใครก็ตามฝึกฝนวิถีแห่งด้านมืด"ใช่! เธอจะช่วยชีวิตเพื่อนของฉันไหม?” แดร์ริลถามอย่างร้อนรนอีเว็ตต์สัมผัสได้ถึงความร้อนใจของเขา เธอฉีกยิ้มและกล่าว “ฉันไม่ได้เก่งขนาดนั้น ฉันช่วยเธอไม่
สามชั่วโมงต่อมา ในที่สุดอีเว็ตต์ก็มาถึงคฤหาสน์คาร์เตอร์ เธอรู้สึกทึ่งกับความหรูหราโอ่อ่าของมัน คฤหาสน์คาร์เตอร์ให้ความรู้สึกที่เก่าแก่และเป็นมรดก ทิวทัศน์โดยรอบชวนให้ตกตะลึงมันเห็นได้ชัดว่าพวกเขานั้นมั่งคั่ง“มีข่าวลือว่าโซรันรับอุปถัมภ์นายเป็นลูกทูนหัวของเขา ดูเหมือนว่ามันจะความจริง” เธอหัวเราะเยาะไปที่แดร์ริลเธออดไม่ได้ที่จะอุทานออกมา “และอีกอย่างตระกูลคาร์เตอร์ร่ำรวยมากอย่างเห็นได้ชัด คฤหาสน์หลังนี้มันยอดเยี่ยมมาก”แดร์ริลไม่มีอารมณ์มาหยอกล้อเล่นด้วย เขาได้แต่ฝืนยิ้มและพาเธอไปที่ตำหนักชั้นในเมื่อพวกเขาเข้าไปในห้อง อีเว็ตต์ก็ตกตะลึงขณะเห็นอีวอนนอนอยู่บนเตียง เธอถาม “คนที่นายอยากช่วยคือเธองั้นเหรอ?”แม้ว่าอีวอนจะไม่ได้ไปสถาบันหกวิถีเมื่อเร็ว ๆ นี้ แต่อีเว็ตต์ก็ยังจดจำอีวอนได้เพราะเธอเป็นทายาทของตระกูลยังและเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในโรงเรียนอีวอนรอให้แดร์ริลกลับมาไม่ไหวเธอจึงผล็อยหลับไป“ใช่ ได้โปรด เร็วเข้า” แดร์ริลร้อนรนและพยักหน้าอีเว็ตต์ใช้เวลาสำรวจบริเวณโดยรอบขณะเธออุทานออกมา “พวกนายทั้งคู่แต่งงานกันในห้องนี้เหรอ?”แดร์ริลพยักหน้า“นายมันโชคดีเป็นบ้า! นายมีแค่ลิลี่ยัง
”จำไว้ นายเป็นหนี้ฉัน” อีเว็ตต์กล่าว เธอโบกมือและพูดว่า “โอเค ฉันไปล่ะ” เธอหันหน้าและออกไปจากคฤหาสน์คาร์เตอร์คืนนั้น แดร์ริลนอนเฝ้าอีวอนอยู่บนพื้น เขากลัวว่าถ้าเขานอนบนเตียง เขาอาจจะเผลอไปโดนเข็มที่ฝังไว้เขานอนหลับไม่สบายนัก พื้นมันแข็งและเย็นเกินไป ในวันรุ่งขึ้นด้วยเบ้าตาดำคล้ำของเขา เขาพาอีวอนกลับไปที่เมืองต่งไห่ ระหว่างเดินทางเขาโทรศัพท์หาเซปไฟร์และสั่งให้เซปไฟร์นำพรรคพวกออกค้นหาวิธีรักษาอีวอนมันเป็นตอนเที่ยงเมื่อแดร์ริลได้พาอีวอนกลับมาถึงที่คฤหาสน์ และรู้ว่าไม่มีใครอยู่ที่คฤหาสน์เมื่อเขาเข้าไปในห้องโถง เขาพาเธอตรงไปที่ห้องนอนของเขาพลันรู้สึกขัดใจเล็กน้อยเพราะเขาไม่มั่นใจว่าลิลี่จอาจจะไม่พอใจเขา ที่พาอีวอนกลับมาที่บ้านเมื่อเขานึกถึงลิลี่ เขาก็รีบโทรศัพท์หาเธอในทันทีเธอรับสายโทรศัพท์อย่างรวดเร็ว น้ำเสียงของเธอตื่นเต้น “สามีที่รัก! ในที่สุดคุณก็โทรมาสองวันที่แล้วคุณไปอยู่ที่ไหนมา?ลิลี่ไม่ได้ข่าวคราวจากแดร์ริลตั้งแต่สองสามวันที่ผ่านมา เธอเป็นกังวลอย่างมากแดร์ริลหัวเราะ เขากล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนนุ่มลง “ผมมีธุระบางอย่างต้องจัดการ”เขาหน้านิ่วเมื่อได้ยินเสียงจอแจ่รบกวนในโทรศ
’อะไร? ผู้ชายคนนี้คือสามีเธองั้นเหรอ?’ บรรดาหนุ่ม ๆ คิดขณะมองแดร์ริลด้วยความอิจฉาและรังเกียจ พวกเขารู้สึกถึงหมัดล่องหนที่ต่อยไปที่ความมั่นใจของพวกเขาลิลี่มองข้ามสายตาเหล่านั้นพร้อมกับจับมือแดร์ริลและยิ้ม “สามีที่รัก คุณรู้จักกับเซอซีอยู่แล้ว ฉันไม่จำเป็นต้องแนะนำเธอ นี่คือเอเวอลีน เฟเธอร์สโตน เธอคือเพื่อนของเซอซีเธอได้เข้าร่วมการประชุมพิฆาตราชสีห์ ถ้าฉันจำไม่ผิดพวกนายสองคนได้ขึ้นไปประลองกัน”ลิลี่แนะนำเอเวอลีนให้แดร์ริลได้รู้จักโดยที่ไม่รู้ว่าเอเวอลีนและแดร์ริลรู้จักกันมาก่อนนานแล้ว! เอเวอลีนเดือดพล่านด้วยความแค้นขณะมองลิลี่ด้วยความประหลาดใจและกล่าวถาม “ลิลี่ เขาคือสามีของเธองั้นเหรอ?”ครั้งแรกที่เอเวอลีนเจอกับลิลี่ เธอคิดว่าลิลี่น่ารักและใจดี ใครจะไปรู้ว่าหญิงสาวที่ใจดีขนาดนี้จะได้มาแต่งงานกับไอ้คนตูดหมึก! ชีวิตมันช่างไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย!ลิลี่ตกตะลึงงันพร้อมกับหัวเราะร่า “พวกนายรู้จักกันมาก่อนเหรอ?”“ไม่มีใครอยากรู้จักนายคนนี้หรอก! เขามันไอ้ขี้ควาย” เอเวอลีนเม้มปากลิลี่รู้สึกกระอักกระอ่วนจากคำตอบของเอเวอลีน เธอชำเลืองมองแดร์ริล โดยรวมสามีของเธอนั้นถือว่ายอดเยี่ยม ยกเว้นอย่า
จะไม่ให้ลิลี่กระวนกระวายได้อย่างไร? ด้วยพลังในปัจจุบันของแดร์ริล เขาไม่มีปัญญาไปต่อกรกับเจเรมีตระกูลแลงลีย์เป็นตระกูลที่มั่งคั่งและทรงอำนาจ อีกอย่างอาจารย์ของเจเรมี นั้นคือแซคเคอรี่ ฮูม รองเจ้าสำนักโรงเรียนเทียนชานที่มีคนสนับสนุนหนาแน่นแดร์ริลในทางตรงกันข้ามกลับไม่มีอะไรเทียบได้ เขาไม่มีแม้กระทั่งกำลังภายใน การท้าทายเจเรมีคงจะมีแต่ทำให้เขาจบลงอย่างหายนะเมื่อคิดแบบนั้น ความวิกตกกังวลก็ฉายขึ้นบนใบหน้าอันสวยงามของลิลี่ไม่มีใครคาดคิดว่าแดร์ริลจะตอบกลับอย่างเลือดเย็น “เจเรมี ฉันเห็นด้วยที่จะให้ใครมาคุกเข่าและก้มกราบขอโทษ แต่มันควรจะเป็นนายและแฟนใหม่ของนาย รวมถึงบรรดาลูกระจ๊อกของนายด้วย”‘อะไร?' ทุกคนต่างตกตะลึงพวกเขาคิดว่าได้ยินแดร์ริลเพี้ยนไป'หมอนี้บ้าไปแล้วเหรอ? เขาไม่มีพลังอะไรเหลือ บริษัทของเขาก็ล้มละลาย แต่เขายังมีหน้ามาพูดจาแบบนี้อีกงั้นเหรอ?' ทุกคนคิด“แกวอนหาที่ตายจริง ๆ ใช่ไหม!” เจเรมีเดือดดาล เขาโบกมือและสั่งลูกกระจ๊อกของเขา “จัดการมัน!” เขาไม่ต้องการจะปะทะกับแดร์ริล ไม่เพียงแต่แดร์ริลจะทำลายพิธีวิวาห์ของเขา ความเย่อหยิ่งของแดร์ริลยังทำให้เขาโมโมยิ่งขึ้นอีกด้วย เขาไม่ส