วอลเตอร์ตื่นเต้นมาก เมื่อชื่อนั้นเข้ามาในหัวของเขา เฟนด์ นักรบสูงสุด! ไม่มีใครเคยเห็นหน้าเขามาก่อน ไม่รู้จักแม้แต่ชื่อด้วย แต่เขากลับมีโอกาสได้เจอนักรบสูงสุด เพื่อเป็นสักขีพยานในการต่อสู้ของเขา และสู้ไปกับเขา เขาไม่คิดไม่ฝันเกี่ยวกับเรื่องนี้มาก่อนเลย แต่ตอนนี้เขาได้อยู่ใกล้ ๆ นักรบสูงสุด ถ้าเฟนด์เป็นนักรบสูงสุดจริง ๆ เขาคงฆ่าคนที่อยู่ตรงหน้าเขาทั้งหมดอย่างง่ายดาย นอกจากนี้แล้ว เขาไม่จำเป็นต้องออกแรงทั้งหมดเลยด้วยซ้ำ มันก็ง่าย ๆ เหมือนการหายใจสำหรับเขา ทว่า เขารู้มาว่านักรบสูงสุดคือคนที่ชอบทำตัวต่ำต้อย ดูเหมือนว่านั่นจะเป็นสาเหตุที่เขาปกปิดตัวตนของเขามาตั้งแต่แรก ไม่เคยมีใครรู้ชื่อของเขา ถึงแม้ว่าเขาจะมีส่วนในช่วยเหลือประเทศมาตลอดก็ตาม “วอลเตอร์ ทำไมเหม่อแบบนั้นล่ะ?” สกายเลอร์สังเกตเห็นว่าวอลเตอร์กำลังมองไปที่เฟน ดวงตาของเขาเผยให้เห็นความตื่นเต้น เขาเลยดุชายหนุ่ม "โอ้ ผมขอโทษ!" วอลเตอร์กลับมาตั้งใจ ก่อนจะพลิกฝ่ามือของเขา แล้วชักดาบของเขาออกมา “ไปหาหัวหน้ามันก่อนเลย!” ชายชราจู่โจมเฟนด์ก่อน เขาฟันดาบออกไป แน่นอน เขามีเทคนิคที่ดี รังสีดาบของเขาแทบจะเป็นของแข็ง ทำให้รู้
คู่รักชราหวาดกลัวมากกว่าเดิมเมื่อเห็นคนของพวกเขาตายลงทีละคน รอบ ๆ พวกเขา ในที่สุดพวกเขาก็เข้าใจแล้วว่าเฟนด์ให้โอกาสพวกเขาได้ใช้ชีวิตแล้วจริง ๆ อย่างไรก็ตาม มันก็สายเกินไปแล้วที่จะเสียใจ "ตายซะ!" ในชั่วพริบตาเท่านั้น เฟนด์ก็ปรากฏตัวขึ้นระหว่างคู่รักชรา เขาวาดดาบเป็นวงกลม ก่อให้เกิดคลื่นดาบแสนน่าหวาดกลัว มันเป็นประกายแวววาว คู่รักชรา และนักสู้กว่าสิบคนของตระกูลโลวถูกรัศมีการโจมตีถล่มเข้าอย่างจัง ปัง ปัง ปัง! ทั้งหมดกระเด็นไปด้านหลัง ก่อนจะตกลงบนพื้นอย่างแรง ไม่มีใครหายใจอีกต่อไป "พ่อ! แม่!" ลูอิซาตะโกนออกมาทันทีที่เห็นพ่อแม่ของเธอถูกสังหารอย่างง่ายดาย ตอนนี้เธอรู้แล้วว่ามันเป็นการตัดสินใจที่โง่มากที่พาพ่อแม่ของเธอมาแก้แค้น ไม่เพียงแต่ไม่ได้แก้แค้น เธอยังทำให้พวกเขาตายอีกด้วย ในพริบตาเดียว คนของพวกเขากว่าร้อยคนก็ตายลง เหลือเพียงอีกครึ่งเท่านั้นที่ยังมีชีวิตอยู่ “ไม่ ไม่มีทาง!” นักสู้ของตระกูลโลวบางคนสติแตก พวกเขาส่ายหัวอย่างแรง พวกเขากลัวที่เห็นซากศพเกลื่อนไปทั่วพื้น "วิ่ง!" เฟนด์ฟาดคลื่นดาบไปอีกสองครั้ง และชายนับโหลก็ล้มลงไปกับพื้น มีบางคนทนไม่ไหวอีกต่อไป พวกเขา
“จัดการศพด้วย!” เฟนด์ยิ้มอย่างขมขื่นเมื่อเขาเห็นศพเกลื่อนทั่วพื้น เขาอยากจะหาเกล็ดมังกรอย่างเงียบ ๆ เขาไม่ได้อยากมีปัญหาตั้งแต่แรกด้วยซ้ำ เขาไม่เคยคิดเลย ว่ามันจะจบลงแบบนี้ ตระกูลแวกเนอร์ตายไปแล้ว และนักสู้มากมายจากเมืองจินก็จบชีวิตลงที่นี่เช่นกัน ดูเหมือนว่าตระกูลมหาอำนาจหลายตระกูลจากเมืองนางแอ่นจะคอยจับตาดูเขาและครอบครัวในตอนนี้ ทว่า ตอนนี้เขาคิดเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น มันอาจจะไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไรเลยก็ได้ อย่างน้อย ตระกูลที่วางกับดักใส่เขาจะได้ระมัดระวัง และรอบคอบมากขึ้นหลังจากเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ “ฉันกลัวมากเลย ว่าจะมีคนเยอะแยะเข้ามาพร้อมกันไปหมด ของคุณพระเจ้า พวกเธอทุกคนแข็งแกร่งมากจริง ๆ ไม่งั้นเราคงตายไปแล้ว!” ฟีโอน่าและคนอื่น ๆ ออกมาจากบ้านเมื่อเห็นว่าบอดี้การ์ดกำลังจัดการศพอยู่ ฟีโอน่าตบหน้าอกของเธอ เห็นได้ชัดว่าเธอยังคงตกใจอยู่ “พ่อเก่งมากเลย หนูอยากแข็งแรงแบบพ่อจังตอนหนูโตขึ้น!” ไคลี่วิ่งเข้ามา เธอมองไปที่เฟนด์ด้วยความชื่นชม ดวงตาของกลมสวย มันงดงามมาก เฟนด์ถึงกับพูดไม่ออกไปครู่นึง “แม่ปล่อยให้ไคลี่ออกมาได้ยังไง?” เขาพูดกับฟีโอน่าและคนอื่น ๆ “เร
ไม่นานนัก ข่าวก็กระจายไปทั่วเมืองแห่งศิลปะการต่อสู้ เมืองนางแอ่น “พ่อ แม่ คุณปู่ คุณย่า ผม ผมจะล้างแค้นให้ทุกคน…” ในทางกลับกัน นอกเมืองนางแอ่น ดีแลนพาบอดี้การ์ดสองสามคนติดตัวไป เขามุ่งที่เมืองจินโดยรถยนต์ หลังจากผ่านไปสามวัน ลาน่าก็มาอยู่ตรงหน้าของเฟนด์ ลาน่าหน้าตามีความสุขมาก เธอแทบจะเก็บความสุขเอาไว้ไม่อยู่ “นายท่าน ฉันมีข่าวดีมาบอก! ในที่สุด เราก็ได้ข่าวเกี่ยวกับเกล็ดมังกรแล้ว!” ลาน่ามองไปที่เฟนด์ ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความตื่นเต้น น้ำเสียงของเธอดูร่าเริงมาก “มีคฤหาสน์หลังใหญ่ตั้งอยู่นอกเมืองศิลปะการต่อสู้นี้ และฉันได้ยินมาว่าจะมีการประมูลลับ ๆ ในคฤหาสน์หลังใหญ่ในคืนพรุ่งนี้ มีคนร่ำรวยที่ไม่เปิดเผยตัวตน แอบติดต่อตระกูลที่แสนร่ำรวยในเมืองนี้ ตั้งใจที่จะรวบรวมทั้งตระกูล และนักธุรกิจที่มีชื่อเสียง เพื่อเข้าร่วมงานประมูลที่เขาจัดขึ้นมา มีของเพียงอย่างเดียวเท่านั้นที่จะถูกประมูล และนั่นคือเกล็ดมังกร!” "อืม เป็นอย่างงั้นเองเหรอ? เธอคิดไงกับเรื่องนี้ล่ะ?” เฟนด์ถามออกไป พลางขมวดคิ้ว “ฉันว่า ตราบเท่าที่เรายังใช้เงินแก้ปัญหาได้ มันก็ไม่มีปัญหา คนอื่น ๆ อาจคิดว่าเกล็ดมังกรเป็นขอ
“สารเลวไหน? คนไหน?” หัวหน้าคตระกูลแชฟฟ์แมนตะโกนใส่บอดี้การ์ดคนที่รีบเข้าไปในห้องอาหารทันที เขากำลังดื่มด่ำช่วงเวลาดี ๆ ในการดื่มกับครอบครัว แล้วก็ถูกกวนอย่างกะทันหัน เป็นธรรมชาติที่เขาจะรู้สึกหงุดหงิดก่อนจะทำคิ้วผูกโบ “ไอ้เด็กเวร ไอ้สารเลว เฟนด์… เราเป็นสักขีพยานว่าเขาฆ่าคนจากตระกูลแวกเนอร์ไปเพียบ พร้อมกับตระกูลโลวไปเมื่อวันก่อนไม่ใช่หรือไง? ไอ้สารเลวนั่นในวันนั้นมาที่นี่พร้อมกับผู้หญิงที่สวมหน้ากาก!” บอดี้การ์ดพูดเสียงสั่น เขาเคยภูมิใจที่ได้เป็นบอดี้การ์ดของตระกูลแชฟฟ์แมน เขามีความมั่นใจในตระกูลแชฟฟ์แมนมาก เพราะปกติแล้ว ไม่มีใครกล้าหือกับตระกูลที่โดดเด่น และมีอำนาจ และนั่นเป็นสาเหตที่ทำให้นายน้อยแชฟฟ์แมนทั้งหยิ่งยโสและหัวสูง อย่างไรก็ตาม ทั้งสองคนที่มาถึงตระกูลแชฟฟ์แมนในวันนี้ ทำให้เขาเสียวสันหลังวาบ เขากลัวมาก ก็เพราะทักษะการต่อสู้ของทั้งคู่น่าเกรงขามมาก ถ้าเขาไม่รู้จักชื่อของราชาสงครามเก้าดาราทั้งหมด เขาคงคิดว่าเฟนด์เองก็เป็นหนึ่งในนั้น! "ให้ตายสิ? ทำไมสองคนนั้นถึงมาอยู่ที่นี่ล่ะ?” หัวหน้าของตระกูลแชฟฟ์แมน ตกใจกับข่าวที่ว่าเขาถูกยิงจากเก้าอี้ จู่ ๆ เขาก็หายเมา ไม่รู้สึกม
นายใหญ่แชฟฟ์แมนหัวเราะคิกคัก พร้อมกับรอยยิ้มกว้างบนหน้าของเขา เฟนด์ไม่เสียเวลามาทำพิธีรีตอง เขาพูดเรื่องเรื่องนั้นขึ้นมาเลยว่า “นายท่านแชฟฟ์แมน ผมมาที่นี่เพราะเรื่องอะไรบางอย่าง ส่วนเรื่องอาหารเย็นกับเรื่องดื่มนั่น ช่างมันเถอะ ไม่จำเป็น อย่างไรก็ตาม ผมเคยทะเลาะกับหลานของคุณมาก่อน เพราะงั้น ผมคงไม่มีความสุขที่ได้กินอาหารเย็น หรือดื่มหรอก!” “มันเป็นเรื่องเข้าใจผิดนะ! มันเป็นเรื่องเข้าใจผิด!” พีซโพล่งเข้ามา พลางยิ้มอย่างกระอักกระอ่วน “เรื่องนั้นเป็นเรื่องเข้าใจผิดทั้งนั้นเลย ผมทั้งยโสและหยาบคายมาก เพราะงั้น เรื่องทั้งหมดเลยเกิดขึ้น แต่ผมต้องพูดจริง ๆ ว่าคุณวู๊ดทั้งสองนั้นดูดีมาก พี่เฟนด์ พี่นี่โชคดีจริง ๆ ที่ได้ทั้งคู่เป็นภรรยา ผมอิจฉาจริง ๆ !” หน้าของเฟนด์ขรึมขึ้นทันที เขาพูดกลับด้วยน้ำเสียงเย็นชา แต่ยังควบคุมเอาไว้ได้อยู่ “พีซ แชฟฟ์แมน อย่างแรกเลย อย่าเรียกฉันว่าพี่ และอย่ากล้าแม้แต่จะมองภรรยาของฉันอีก สำหรับขยะอย่างนาย ฉันไม่อยากจะมีปฏิสัมพันธ์ใด ๆ ด้วยทั้งนั้น!” เฟนด์ไม่ไว้หน้าอีกฝ่ายเลยสักนิด ถึงแม้ว่าอีกฝ่ายจะมาจากตระกูลชนชั้นสูงระดับที่สองที่โดดเด่นในเมืองจินก็ตาม หน้าขอ
“แปลกนะ เฟนด์มาที่นี่เพื่อขอบัตรเชิญโดยเฉพาะ นั่นก็หมายความว่าหมอนี่สนใจเกล็ดมังกร!” ทันทีที่สองคนนั้นจากไป นายท่านแชฟฟ์แมนอดไม่ได้ที่จะพูดพึมพำออกมา “ตอนนี้เหลือบัตรเชิญเพียงใบเดียวเท่านั้น ดังนั้นเราสองคนจึงยังสามารถไปงานประมูลในวันพรุ่งนี้ได้ เรายังโชคดีที่เฟนด์ไม่ได้ขอบัตรเชิญไปสองใบ!” “แต่เฟนด์รู้เรื่องนี้ได้ยังไง? พวกเขาเป็นแค่คนธรรมดาไม่ใช่เหรอ?”พีซขมวดคิ้วด้วยสีหน้างุนงง “องค์กรลับส่งบัตรเชิญมาให้เรา เขารู้เรื่องนี้ได้ยังไง? นั่นหมายความว่าเขาต้องค้นหาและรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเกล็ดมังกร ไม่งั้นจะเป็นไปได้ยังไงที่เฟนด์จะรู้เรื่องงานประมูลอย่างรวดเร็ว?” “นี่มันแปลกมาก! ทำไมเขาถึงสนใจเกล็ดมังกรนักล่ะ? ขณะที่เรายังเดากันอยู่เลยว่าเกล็ดมังกรนี้เป็นของจริงหรือเปล่า พวกเขาได้ตรวจสอบอย่างละเอียดแล้ว พวกเขาคงจะสนใจมันมานานแล้ว!” นายใหญ่แชฟฟ์แมนเองก็รู้สึกว่าการที่เฟนด์สนใจเกล็ดมังกรนั้นคงไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่นอน ไม่งั้นเขาคงไม่มาหาพวกเราโดยเฉพาะเพื่อขอบัตรเชิญ! “อืมมม...พวกเขาเพิ่งย้ายมาที่นี่ได้ไม่นาน โอ้ ผมนึกออกแล้ว! เมื่อไม่นานมานี้มีข่าวเกี่ยวกับเกล็ดมังกรรั่วไหลออกมา แ
วันต่อมา ตระกูลบางตระกูลที่ได้รับบัตรเชิญให้เข้าร่วมงานประมูลลับนี้ไม่ได้สนใจเกล็ดมังกรเลย และบางตระกูลก็คิดว่ามันเป็นเรื่องหลอกลวง ดังนั้นตระกูลที่มีชื่อเสียงจำนวนมากพวกนั้นจึงไม่ได้ไปที่คฤหาสน์หลังใหญ่นอกเมือง แต่ตระกูลส่วนใหญ่ที่อยากค้นหาความจริงเรื่องเกล็ดมังกรที่ได้รับบัตรเชิญ พวกเขาพาบอดี้การ์ดสองสามคนตามไปด้วยและไปที่คฤหาสน์หลังใหญ่นอกเมือง ผู้คนต่างมารวมตัวกันที่นอกคฤหาสน์มากขึ้นเรื่อย ๆ เจ้าของคฤหาสน์ยังไม่ได้เปิดประตู แต่เจ้าของกลับให้รออยู่ด้านนอกคฤหาสน์ “ใครเป็นคนจัดงานประมูลครั้งนี้? ผู้จัดงานให้พวกเราทุกคนรออยู่ด้านนอกและไม่มีแม้กระทั่งที่นั่งให้เราได้ยังไง! ช่างอวดดีจริง ๆ!” ชายชราคนหนึ่งจากกลุ่มคนบ่นออกมาอย่างหงุดหงิด “นั่นน่ะสิ! ผู้จัดงานส่งบัตรเชิญให้เราแค่สามใบ แล้วบอดี้การ์ดของฉันจะเข้าไปได้ยังไง? มีแค่หกคนเท่านั้นที่เข้าไปได้!” ชายวัยกลางคนอีกคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ชายชราก็อดไม่ได้ที่บ่นออกมาเสียงดัง เขาพาบอดี้การ์ดมาด้วยหลายคนเพื่อมาคอยคุ้มครอง เรื่องนี้มันทำให้เขาอารมณ์เสีย “นี่ นายน้อยนอร์ตัน ดูนั่นสิ! นายเห็นสาวสวยคนนั้นไหม? ฉันไม่เคยเจอเธอมาก่อนเลย เ