หลังจากที่พวกสมาชิกตระกูลสาขาออกไปแล้ว เอเลน เซเลน่า และคนอื่น ๆ ก็เดินมาหาเฟนด์เซเลน่าเดินเข้ามาใกล้และยิ้มออกมา “ยินดีด้วยนะที่รัก ตอนนี้คุณได้เป็นผู้สืบทอดตำแหน่งหัวหน้าตระกูลแล้ว คุณมีฐานะสูงขึ้นและได้รับตำแหน่งสูงสุด!”“ไม่มีค่าอะไรให้มาแสดงความยินดีกับผมหรอก เพราะจริง ๆ แล้ว ผมไม่อยากเป็นผู้สืบทอด” เฟนด์ยิ้มอย่างขมขื่น “แต่เพื่อให้ได้ไข่มุกน้ำแข็งนี้มาและค้นหาตัวคนที่วางยาพิษพ่อของผม ผมจึงไม่มีทางเเลือกอื่นนอกจากต้องรับตำแหน่งหัวหน้าตระกูล”“เฮ้ นี่มันเรื่องสำคัญมากเลยนะ ตอนนี้พี่เป็นผู้สืบทอดตำแหน่งหัวหน้าตระกูล นั่นหมายความว่าในอนาคตพี่จะได้เป็นหัวหน้าตระกูลวู๊ด!” เบ็นจ้องเฟนด์ “หลายคนหวังให้เรื่องดี ๆ แบบนี้เกิดขึ้นกับพวกเขา แต่พี่กลับไม่เต็มใจ! ลองคิดดูนะ พี่สาวของผมและผมจะไม่ขาดแคลนทรัพยากรในการเพิ่มระดับพลังยุทธเลยถ้าพี่รับตำแหน่งนี้!”“อย่ากังวลไปเลย นายจะไม่ขาดแคลนทรัพยากรแม้ว่าฉันจะไม่ได้เป็นผู้สืบทอดตำแหน่งหัวหน้าตระกูลก็ตาม” เฟนด์ยืนยัน “เพราะยังไงซะ ผู้ฝึกยุทธไม่จำเป็นต้องใช้ทรัพยากรมากนักในการเพิ่มระดับพลังยุทธ ฉันได้รับโอสถรวมฉีหลายเม็ดอยู่แล้วเพราะฉันก็เป็นสมา
เฟนด์ก้าวออกมาเพื่อตรวจสอบสภาพร่างกายของเฟอร์นันโด หลังจากนั้นเขาก็สังเกตเห็นว่าลมหายใจแห่งชีวิตของเขาอ่อนลงจริง ๆ ถ้าพวกเขาไม่แช่แข็งเขาไว้ มันคงเป็นไปไม่ได้ที่จะช่วยเขาในวันถัดไปพวกเขาโชคดีที่ชายชราจากองค์กรลึกลับอยากรีบจะฆ่าเขากับคนอื่น ๆ ดังนั้นชายชราจึงไม่ได้รอให้เฟอร์นันโดกลายเป็นหุ่นเชิดเต็มตัว เขาใช้เฟอร์นันโดต่อสู้ในขณะที่เฟอร์นันโดยังมีสติอยู่และยังมีลมหายใจแห่งชีวิตอยู่เล็กน้อยถ้าอีกฝ่ายรออีกสองสามวันเพื่อให้ลมหายใจของเฟอร์นันโดหายไปอย่างสมบูรณ์ก่อนที่จะเอาเขามาใช้ต่อสู้ เฟอร์นันโดคงตายไปแล้วดวงตาของเฟนด์แดงก่ำเมื่อเขานึกถึงเฟอร์นันโด ที่ครั้งหนึ่งเคยประสบความสำเร็จมากมายในสนามรบ กลับต้องมาตกอยู่ในสภาพที่ย่ำแย่แบบนี้เฟนด์ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ หยิบไข่มุกน้ำแข็งขึ้นมาแล้วอ้าปากของเฟอร์นันโดเบา ๆ จากนั้นก็วางไข่มุกน้ำแข็งเข้าไปในปากของเขาเมื่อวางเสร็จแล้ว เฟนด์ก็เคาะนิ้วลงบนไข่มุก สายพลังฉีปรากฏขึ้นจากปลายนิ้วของเขาเข้าไปยังไข่มุกน้ำแข็งพร้อมพลังจิตของเขาเมื่อฉีเข้าสู่ไข่มุกน้ำแข็ง มันก็ค่อย ๆ เปล่งแสงสีฟ้าจาง ๆ ออกมาเมื่อแสงสีฟ้าเข้มขึ้น เฟนด์ก็เอานิ้วออกและยืนข
สำหรับคำถามของเบ็น เฟนด์อธิบายว่า “ตอนที่ฉันถ่ายพลังใส่ฉีเข้าไป ฉันถ่ายพลังจิตของฉันเข้าไปด้วย ตอนนี้พวกนายยังใช้พลังจิตไม่ได้ ความแข็งแกร่งของพลังจิตนี้เป็นพลังที่ลึกลับและมองไม่เห็น พวกนายยังไม่สามารถมองเห็นมันได้ พวกนายจะรู้สึกและใช้พลังนี้ได้หลังจากที่ถึงระดับเทพแท้จริงแล้วเท่านั้น”“ถ้าฉันอยากปลดผนึกการแช่แข็งนี้ ฉันก็แค่เชื่อมต่อกับไข่มุกน้ำแข็งผ่านพลังจิต การแช่แข็งก็จะถูกปลดออกหลังจากที่ฉันสื่อสารกับมัน”“เอาล่ะ เราควรไปได้แล้ว ที่นี่อากาศหนาวมาก!”“เราไม่เป็นไรก็จริง แต่นายกับเซเลน่าไม่ได้เป็นผู้ฝึกยุทธ ดังนั้นสภาพร่างกายของพวกนายจึงไม่แข็งแกร่งเท่ากับเรา” เฟนด์พูด “พวกนายอาจจะเป็นหวัดได้ถ้าพวกนายอยู่ที่นี่นานเกินไป”ไม่นานทั้งหมดก็เดินออกจากถ้ำไปอีธานคิดเกี่ยวกับมันก่อนที่จะถามเฟนด์ขึ้นมาว่า “ท่านอาจารย์ เราทำได้เพียงแค่ป้องกันไม่ให้เฟอร์นันโดตายในตอนนี้ แต่มันคงยากถ้าเราต้องการรักษาเขา ร่างกายของเขาแข็งไปหมด กล้ามเนื้อและกระดูกก็ด้วย ตอนนี้เขาเป็นเหมือนก้อนหิน แล้วเราจะช่วยเขาได้ยังไง? ผมคิดไม่ออกเลยจริง ๆ”เฟนด์ยิ้มอย่างขมขื่นก่อนจะพูดว่า “จริง ๆ แล้ว ฉันก็ยังไม่รู้เ
ในขณะเดียวกัน ลิลลี่ก็กำลังโมโหจัดอยู่ในห้องของเธอ รู้สึกเหมือนหัวใจของเธอถูกอะไรบางอย่างกั้นไว้ “ฉันโกรธมาก! ไอ้เด็กเวรนั่นมีความสามารถในการต่อสู้สูงมากและเขายังรู้ทักษะยุทธระดับกลางขั้นสองอีกด้วย โอ้ นั่นยิ่งทำให้ฉันโมโหมาก!”ลิลลี่เคยคิดจะสั่งให้ฮัดสันและคนอื่น ๆ ฆ่าเฟนด์ในระหว่างการประลอง โดยอาจให้พวกเขาบอกว่าพลั้งมือหรือควบคุมพลังของตัวเองไว้ไม่อยู่แม้ว่าพวกเขาพลาดในการฆ่าเฟนด์ แต่อย่างน้อยพวกเขาก็จะได้หยุดไม่ให้เฟนด์เป็นผู้ชนะและกลายเป็นผู้สืบทอดหัวหน้าตระกูลที่ทำให้ทุกคนงงมากกว่าคือหมอนั่นสามารถเอาชนะทุกคนในการประลองได้และได้รับตำแหน่งผู้สืบทอดตระกูล แล้วเขายังได้รับสมบัติของตระกูลวู๊ดอย่างไข่มุกน้ำแข็งด้วย“ใครจะไปรู้ว่าไอ้หมอนั่นจะมีทักษะยุทธแบบนั้น!” ผู้อาวุโสลำดับที่สามที่นั่งอยู่บนโต๊ะในห้องและยกเหล้าขาวดื่มอึกใหญ่ จากนั้นเขาก็คำรามออกมาว่า “ฉันคาดว่าระดับพลังยุทธของหมอนั่นน่าจะอยู่ในระดับกึ่งเทพขั้นสุดยอดสูงแล้ว รวมกับทักษะยุทธระดับกลางขั้นสอง มันจึงง่ายมากสำหรับเขาที่จะได้เป็นผู้ชนะการประลอง”“ดูเหมือนว่าเทคนิคของเขาจะทรงพลังมากด้วย ไม่แปลกใจเลยที่เขาจะชนะด้วยทักษะ
เอเลนพยักหน้ารับที่เฟนด์เตือน และพูดว่า “ใช่ คุณกินมากไม่ได้!”“โอ้ ที่รัก... เนื้อนี่มันหอมมาก แต่เรากินมากไม่ได้” เบ็นบ่นขณะกลืนน้ำลาย“ทุกคน นั่งกันเลย ไม่จำเป็นต้องมีพิธีการอะไร!” เฟนด์ยิ้มและพูดกับผู้เชี่ยวชาญแต่ละตระกูล “เราทุกคนคือสมาชิกของตระกูลวู๊ด และเช่นนั้น ทำให้เราทุกคนคือครอบครัวเดียวกัน ทุกคนต้องสนุกไปด้วยกัน ตกลงไหม?”“ใช่ ใช่! นายน้อยพูดถูก!” ทุกคนยิ้มและเริ่มต้นดื่มกันผ่านไปชั่วครู่ เฟนด์ก็หันไปหาแลนเซล็อตลูดว่า “อืม แลนเซล็อต ตระกูลสาขาเรียบร้อยดีไหม? บอกผมถ้ามันมีอะไรที่ต้องจัดการ ผมไม่ค่อยคุ้นเคยกับสถานการณ์ในตระกูลสาขามากเท่าไหร่”แลนเซล็อตเปิดปากขณะลังเลที่จะพูด เขาเหลือบมองผู้นำของตระกูลสาขาคนอื่น ๆ ตามสัญชาตญาณพวกเขาเหมือนอยากพูดแต่ก็กลัวที่จะพูดเฟนด์ผ่อนคลายพวกเขาทันทีที่เห็นท่าทางเช่นนั้น “ไม่ต้องกังวล พูดออกมาได้หมดเลย ผมจะไม่บอกใคร ฉะนั้นคุณไม่ต้องกังวลขนาดนั้น”แลนเซล็อตเงียบไปหลายวินาทีก่อนจะเริ่มเล่า “นายน้อย ผมจะพูดยังไงดี? ตระกูลสาขาสนับสนุนตระกูลหลักมาตลอด แม้แต่เนื้อสัตว์อสูรที่คุณกำลังกินก็มาจากสัตว์อสูรที่เราล่ามาในป่า เราสละชีวิตทุก ๆ เ
“เราไม่รู้ว่านายท่านรู้เรื่องนี้หรือไม่ แล้วเราก็ไม่กล้าถาม เรากลัวไประรานคนอื่นถ้าถามมากเกินไป” ชายชรา หนึ่งในผู้นำของตระกูลสาขาพูดอย่างขมวดคิ้ว สีหน้าเต็มไปด้วยความสิ้นหวังเห็นได้ชัดว่าพวกเขากลัวตระกูลหลักแต่ก็อยากได้ทรัพยากรเพิ่มในการต่อสู้สำหรับตระกูลสาขา“ใครเป็นคนคุมเรื่องนี้?” เฟนด์ถาม“ผู้อาวุโสลำดับแรกเป็นคนดูแล ตอนนั้นพวกเขาอยากได้แค่ห้าสิบเปอร์เซ็นต์ แต่หลังจากนั้นเขาต้องไปทำเรื่องอื่น ผู้อาวุโสลำดับสามจึงมาดูแลแทน” แลนเซล็อตยิ้ม “ไม่นานหลังจากที่เขาได้รับมอบหมายให้มาจัดการกับทรัพยาการเสริมทักษะยุทธ เขาก็บอกเราว่าคนระดับสูงตัดสินใจเพิ่มเป็นหกสิบเปอร์เซ็นต์ หลังจากที่สรุปกันในที่ประชุมแล้ว”“เขาบอกว่าตระกูลหลักมีการพัฒนาที่ดี และเด็ก ๆ หลายคนก็ก้าวหน้ากัน เขาขอให้เรามีน้ำใจและเสียสละให้ตระกูลหลักอีกเล็กน้อย พวกเขายังพูดอีกด้วยว่าจะให้เราเก็บทรัพยากรไว้หลังจากนายท่านของตระกูลดีขึ้น”ชายชราผมขาวหยักหน้า “ใช่ และเราก็เข้าใจความยากลำบากในตระกูลที่นายท่านต้องเจอ สุดท้ายแล้ว มันก็ดีที่จะไปสนใจที่ทรัพยากรและให้กลุ่มคนน้อย ๆ ไปฝ่าฟันแทน และนั่นก็คือสาเหตุที่ไม่มีใครพูดอะไรเลย อ
วันนี้ ผู้อาวุโสลำดับสามได้พูดอย่างเปิดเผยในฐานะของลิลลี่ และคู่กับข่าวลือที่ว่าพวกเขาสนิทกันขนาดไหน นี่ทำให้เขาแน่ใจว่าลิลลี่กับผู้อาวุโสลำดับสามทำงานร่วมกัน และมีส่วนในการรับผิดชอบเรื่องวางยาพิษพ่อเฟนด์ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่ทั้งหมด พวกเขาต้องทำงานร่วมกันเพื่อยักยอกทรัพยากรเสริมพลังยุทธอีกด้วยผู้นำของตระกูลสาขาสองสามคนตกใจเมื่อเห็นว่าเฟนด์นิ่งไปเช่นนั้นผู้อาวุโสคนหนึ่งของตระกูลสาขาเปลี่ยนเรื่องและพูดว่า "นายน้อยเฟนด์ อย่าเข้าใจเราผิดเลยนะ เราเล่าให้ฟังแบบไม่ได้โกรธแค้นอะไร เราแค่อยากระบาย เรารู้สึกว่าตระกูลสาขาขาดทรัพยากรเสริมพลังยุทธ ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น!"นายท่านตระกูลสาขาอีกคนพูดว่า "มาดื่มกันเถอะ นายน้อยเฟนด์ เราไม่เคยสงสัยผู้อาวุโสลำดับสามหรือนายหญิงคนแรกเลย โดยเฉพาะนายหญิง เธอเป็นภรรยาของนายท่าน เพราะงั้นเรามั่นใจว่าเธอจะไม่ทำอะไรแบบนี้!"แลนเซล็อตก็กลัวเช่นกันว่าเฟนด์จะโกรธและคิดว่าทุกอย่างคือความคิดของตระกูลหลัก เขารีบยกแก้วไวน์ขึ้นอย่างรวดเร็ว "ใช่ นายน้อยเฟนด์ เราแค่มาพูดคุยกันและเราไม่กล้าคาดเดาอะไรกันทั้งนั้น นอกจากนี้ ตระกูลหลักก็พัฒนาไปได้อย่างดี เรายินดีที่ตระกูล
"ถ้าอย่างนั้น นายน้อยเฟนด์ครับ พวกเราขอบคุณมากสำหรับความใส่ใจที่จะช่วยดำเนินการให้ ที่จริง เราก็แค่อยากบ่นและแสดงออก ไม่ต้องการอะไรไปมากกว่านั้น!" ชายแก่อธิบายอย่างระวัง "เหตุผลหลักคือมันไม่มีทางอื่นอีกแล้ว ที่จริง เราก็มีอัจฉริยะในตระกูลสาขา มีความสามารถทำประโยชน์ เราแต่ขาดทรัพยากร กล้าพูดเลยว่าวัสดุที่เรามีมันหายากมากและทำให้ระดับพลังยุทธของพวกเขาลดลง อนิจจา เราทำได้แค่มองอย่างกังวล"แลนเซล็อตก็พยักหน้าเช่นกัน "เช่นเดียวกับตระกูลสาขาของเรา อัจฉริยะพวกนั้นไม่มั่นใจและร้องเรียนตลอด แต่พวกเขาก็หาสมบัติที่ดีกว่าและหญ้าวิญญาณได้ถ้าระดับพลังยุทธพวกเขาเพิ่มขึ้น เราช่วยพวกเขาไม่ได้ ได้แค่ปลอบใจในตอนที่พวกเขาคลางแคลงใจ"ชายชราผมขาวพยักหน้า "ถูกต้อง ฉันสัญญากับหลานสาวก่อนจะมาที่นี่ไปว่าจะบอกสมาชิกในตระกูลหลักเกี่ยวกับเรื่องนี้ ฉันไม่ได้คาดหวังเพราะไม่รู้จะคุยกับใครดี หรือจะเล่าให้ใครฟังดี มันน่ากลัวนะ!"เมื่อพูดเช่นนั้น ชายชราผมขาวก็หยุดและมองเฟนด์ก่อนพูดต่อ "ต้องขอบคุณนายน้อยเฟนด์ที่เชิญเรามา เราได้คุยกันแล้วและตัดสินใจว่าจะบอกความกังวลให้คุณฟัง"แลนเซล็อตยกแก้วไวน์ขึ้นและดื่มให้กับเฟนด์