“ที่รัก ที่นี่คึกคักและมีชีวิตชีวามาก มันเหมือนเมืองสมัยโบราณเลย ทุกที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายและบรรยากาศแบบสมัยโบราณ! ฉันเริ่มหลงรักเมืองนี้แล้ว!” เซเลน่าเดินไปตามถนนในเมืองและอดไม่ได้ที่จะอุทานออกมาถึงความงดงามอันเก่าแก่ของเมืองนั้ ผู้คนต่างเดินเท้าบนถนน พ่อค้าแม่ค้า ลูกค้า และคนอื่น ๆ สามารถเจอได้บนท้องถนนที่เต็มไปด้วยคนพลุกพล่าน บางคนสวมชุดโบราณแต่ก็ดูหรูหรา ผู้ชายบางคนก็ตั้งใจไว้ผมยาว ถ้าไม่ใช่เพราะบางคนแต่งตัวแบบสมัยใหม่และถือโทรศัพท์มือถืออยู่ในมือ เฟนด์กับเซเลน่าคงคิดว่าพวกเขาได้ย้อนเวลากลับไปซะแล้ว “ที่รัก ถ้าคุณสวมชุดโบราณพวกนั้น คุณต้องสวยมากแน่!” เฟนด์เห็นร้านขายเสื้อผ้าโบราณอยู่ไม่ไกลนัก เขาจึงดึงเซเลน่าเข้าไปในร้าน “ที่รัก ลองใส่ดูสิ!” “อืมม...ก็ได้ แต่มันก็เขินอะ!” แก้มของเซเลน่าเปลี่ยนเป็นสีชมพู ถึงอย่างนั้นเธอก็เลือกเสื้อผ้าสองสามชุดแล้วลองสวมดู “โอ้...ที่รัก คุณงดงามมากจริง ๆ! ถ้าคุณเกิดในสมัยโบราณ คุณก็ยังคงเป็นราชินีแห่งความงามแน่!” เมื่อมองดูเซเลน่าที่สวมชุดโบราณอย่างมีความสุข เฟนด์ก็พยักหน้าอย่างพอใจ “หน้าไม่อาย! เรามีลูกโตขนาดนี้แล้ว! คุณยังจะมาชมฉันแบ
ชายร่างท้วมขมวดคิ้วเข้าหากัน บ่งบอกถึงความลังเลใจ ผู้หญิงคนนั้นเห็นว่าชายคนนนั้นลังเล เธอจึงไม่มีความสุข เธอบีบติ่งหูของเขาและตะโกนใส่เขาอย่างโมโห “คุณต้องเอาชุดนั้นมาให้ฉัน ได้ยินไหม? อย่าลืมนะว่าคุณเป็นแค่ลูกเขยนอกคอกของตระกูลเรา อย่าบังอาจมาขัดคำสั่งของฉัน! ถ้าฉันบอกพ่อว่าคุณรังแกฉัน คุณอาจจะตายได้ในไม่ช้า!” ชายคนนั้นกลัวจนใจร่วงไปอยู่ที่ตาตุ่มเมื่อได้ยินคำขู่นั้น เขากลัวมากจนต้องตอบกลับไปแทบจะในทันทีว่า “โอเคที่รัก โอเค ปล่อยหูผมได้แล้ว ผมจะไปเอาชุดนั้นมาให้คุณ!” หลังจากฉากนั้นลง ชายคนนั้นก็เดินเข้ามาหาเฟนดกับเซเลน่าพร้อมภรรยาของเขาและคนอีกกลุ่มหนึ่ง เฟนด์ไม่ได้เตรียมตัวว่าสถานการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้น เขากำลังจะไปทานอาหารค่ำที่ร้านบาร์บีคิวใกล้ ๆ แต่พวกเขากลับถูกกลุ่มคนหยุดเอาไว้ก่อนที่จะได้เข้าไปในร้านอาหาร “หื้ม? มีอะไรงั้นเเหรอ? มีอะไรผิดปกติเหรอ? ฉันคิดว่าไม่เคยเจอพวกคุณมาก่อนนะ!” เฟนด์ยิ้มอย่างเย็นชาเมื่อมองไปที่กลุ่มคนตรงหน้าเขา เขาเป็นผู้ฝึกยุทธระดับเทพแท้จริงและเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งหัวหน้าตระกูลวู๊ด ถ้าคนพวกนี้อยากมาหาเรื่อง คนพวกนี้คงอยากตายมากแน่ ๆ แต่ถึงอย่างนั
“โอ้ เด็กน้อย ชีวิตของแกช่างต่ำต้อยจริง ๆ ฉันไม่คิดว่าแกจะพูดแบบนี้ กล้าดียังไงมาขู่ฉัน!” ผู้หญิงคนนั้นขมวดคิ้วเมื่อได้ยินอย่างนั้น “ดูเหมือนว่าวันนี้เงินจะใช้แก้ปัญหาไม่ได้ ฉันวางแผนจะจ่ายให้เงินแกสำหรับค่าเสื้อผ้า แต่ตอนนี้ ฉันไม่อยากทำแบบนั้นแล้ว ในเมื่อแกอยากตายมาก ฉันก็จะจัดให้!” หลังจากที่เธอพูดคำสุดท้ายจบ เธอก็ชี้ไปที่เฟนด์กับเซเลน่าแล้วสั่งเสียงเข้มว่า “ฆ่าหมอนี่ซะ แล้วถอดชุดของผู้หญิงคนนี้ออกมา ฉันไม่เชื่อว่า สิ่งที่ฉัน ออทัมน์ แมค อยากได้ ฉันจะเอามันมาไม่ได้! ยกเว้นแค่ไม่กี่คนในพื้นที่ภูเขาที่ฉันไม่อาจไปทำให้โกรธเคืองได้!” “เฮ้ ไอ้บ้า แกอยากหาเรื่องตายเองนะ ใครสั่งให้แกปฏิเสธข้อเสนอดี ๆ จากคุณหนูแมคของเรา! แกจะมาโทษคุณหนูของเราไม่ได้นะ!” บอดี้การ์ดหลายคนเยาะเย้ยออกมาขณะที่พวกเขาเดินเข้ามาหาเฟนด์พร้อมกับกำหมัดแน่น 'คนพวกนี้ช่างหยิ่งยโสและโอหังนักนะ?' เฟนด์คิดในใจ รอยยิ้มเย็นชาปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา พวกมันอยากให้เซเลน่าถอดเสื้อผ้าออกบนถนนจริง ๆ งั้นเหรอ? ข้อเสนอนี้เองที่ปลุกสัตว์ร้ายในตัวเฟนด์ให้ตื่นขึ้นได้สำเร็จ เฟนด์พยายามลดอารมณ์ลงในเรื่องต่าง ๆ เพื่อเซเลน่า แต่
เฟนด์ถอนหายใจออกมาอย่างเย็นชา และในเสี้ยววินาทีเขาก็หายตัวไป เขาไปปรากฏตัวท่ามกลางบอดี้การ์ดด้วยความเร็วแสงขณะที่เหวี่ยงแขนออกไป ชั่วพริบตา บอดี้การ์ดทั้งหมดก็นอนตายอยู่บนพื้น “อะไรวะเนี่ย!” ชายร่างท้วมและผู้หญิงอวบที่เห็นเหตุการณ์นั้นดวงตาเบิกตากว้างเกือบเท่าจาน พวกเขาอ้าปากค้างและทรุดลงกับพื้น พวกเขาตกใจมาก บอดี้การ์ดที่พวกเขาพามาด้วยนั้นเป็นผู้ฝึกยุทธระดับสูง และหนึ่งในนั้นเป็นถึงปรมาจารย์ระดับหนึ่ง! ทั้งคู่ไม่คิดว่าคนของพวกเขาจะถูกฆ่าตายภายในเวลาแค่ไม่กี่วินาที “ดู...ดูเหมือนหมอนี่จะอยู่ในระดับสูงกว่าปรมาจารย์แล้ว ความสามารถในการต่อสู้และทักษะยุทธของเขาไม่เลวเลย ในที่สุดฉันก็เข้าใจแล้วว่าทำไมเมื่อกี้เขาถึงไม่กลัวเลย เพราะถ้าเขากับภรรยารีบออกจากที่นี่ไปและไม่สร้างปัญหาใหญ่อย่างนี้ขึ้น พวกเขาก็น่าจะปลอดภัย!” เคย์ล่าพึมพำกับตัวเองขณะมองดูเหตุการณ์อยู่ข้าง ๆ “ไอ้บ้า ฉันคือคุณหนูแมคนะ! กล้าดียังไงมาฆ่าคนของฉัน! แกอยากมีปัญหากับตระกูลแมคงั้นเหรอ?” ผู้หญิงคนนั้นก็เดือดจัด แต่ในเวลาเดียวกันเสียงของเธอก็สั่น เธอเอาตระกูลแมคมาใช้เป็นเครื่องมือเพื่อข่มขู่เฟนด์ “หึ ฉันรู้ แล้วฉั
“ก็ได้ แกพูดแล้วนะ!”ชายร่างท้วมพยักหน้า เขากัดฟันและยกดาบขึ้นในมือ “ที่รัก อดทนหน่อยนะ” เขาบอกกับออทัมน์ที่อยู่บนพื้น “ผมมียาแก้ปวดและยาที่ห้ามเลือด คุณจะปลอดภัย แค่กัดฟันทนและผ่านมันไปให้ได้!”“ฮืออ ฉันกลัว!”ออทัมน์กลัวมากจนเธอเกือบจะร้องไห้ เธอมองไปที่เฟนด์ “ฉันผิดเอง” เธอพูด “ได้โปรด ปล่อยเราไปเถอะนะ ฉันจะให้เงินคุณหนึ่งพันล้านเหรียญ เป็นไง? หนึ่งพันล้านเหรียญเลยนะ!”“หึ แกคิดจริง ๆ เหรอว่าฉันจะสนใจเงินหนึ่งพันล้านเหรียญ?”เฟนด์หัวเราะ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความดูถูกเหยียดหยาม“อ๊า!”ชายร่างท้วมเหวี่ยงดาบฟันแขนของผู้หญิงคนนั้น เลือดพุ่งกระฉูดออกมาทันทีที่ดาบสัมผัสกับผิวหนัง แขนก็ขาดออก“ผมมียาอยู่นี่!”หลังจากที่เขาฟันแขนภรรยาเสร็จ ชายร่างท้วมก็เหวี่ยงดาบไปด้านข้างและให้ยาแก้ปวดกับเธอและใส่ยาเพื่อให้หยุดเลือดไหล“อ๊า!”ถึงอย่างนั้น ผู้หญิงคนนั้นก็ยังเจ็บปวดมากจนหน้าซีดไปหมด เหงื่อเย็นไหลออกมาบนหน้าผาก และเธอดูเหมือนเธอจะหมสติได้ตลอดเวลาด้วยการช่วยเหลือจากชายร่างท้วมอย่างรวดเร็ว ทั้งคู่หายวับไปจากสายตาของเฟนด์เฟนด์หยิบดาบที่วางอยู่บนพื้นและเช็ดคมดาบบนร่างของบอดี้การ์ด
เคย์ล่าสันนิษฐานว่าเฟนด์คงกลัว ตอนที่เธอเห็นคิ้วของเขาขมวดเข้าหากัน “ใช่แล้ว ฉันจะอธิบายทุกอย่างให้ฟังนะ” เธอพูด “บางครั้ง คนตระกูลวู๊ดจะมีเพื่อนสนิทที่คอยแนะนำใครสักคนให้ หรือ พวกเขาอาจจะลงจากภูเขามาเพื่อเลือกผู้ฝึกยุทธที่มีพรสวรรค์สักสองสามคนเพื่อเข้าสู่ตระกูลวู๊ด ซึ่งเรื่องนี้ก็เกิดขึ้นได้ยาก แต่บางคนก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของตระกูลวู๊ดได้เพราะแบบนั้น!”เคย์ล่าหยุดไปสักพักก่อนที่จะพูดต่อว่า “สมาชิกในตระกูลแมคคนหนึ่งโชคดีพอที่จะเข้าไปในตระกูลวู๊ดได้ และเขาสามารถเข้ากับพวกเขาได้ดี ดังนั้นตอนนี้เขาจึงคิดว่าได้ถือหางเสือ และเขายังเป็นผู้ฝึกยุทธระดับเทพแท้จริงขั้นกลางด้วย คุณแมคจึงทำตัวอวดดีเพราะเหตุผลนี้!”“รีบออกไปเถอะพ่อหนุ่ม มันจะสายเกินไปถ้าคุณไม่ออกไป ดูจากนิสัยของเธอ ฉันมั่นใจว่าออทัมน์จะไม่ปล่อยเรื่องนี้ไปแน่! อีกอย่าง คุณเป็นคนตัดแขนลูกสาวลำดับที่หนึ่งของตระกูลแมค นายท่านแมคก็คงไม่ปล่อยคุณไปเหมือนกันแน่!”ชายชราแนะนำเฟนด์กับเซเลน่าอย่างวิตกกังวล“ขอบคุณสำหรับความห่วงใยของพวกคุณ แต่ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ๆ เราก็ไม่ควรออกไปจากที่นี่มากกว่านะ!”เฟนด์ยกมือขึ้นเพื่อทำความเคารพทั้งสองค
“ฮึ่ม ฉันทนเห็นมันไม่ได้หนิ ฉันดูดีในชุดแบบโบราณ ผู้หญิงคนนั้นไม่มีสิทธิ์ที่จะดูดีมากไปกว่าฉัน สิ่งที่เห็นมันทำให้ฉันโมโห!”ผู้หญิงคนนั้นโกรธจัด สายตาของเธอเต็มไปด้วยความร้ายกาจ “เรารีบกลับกันเถอะ” เธอพูด “เราจะปล่อยทั้งคู่ไปแบบนั้นไม่ได้ ฉันจะให้พ่อไปฆ่ามัน!”ชายร่างท้วมถึงกับพูดไม่ออก แต่เขาก็ไม่มีคำคัดค้านใด ๆ เพราะยังไงซะ เขาก็เป็นเพียงลูกเขยที่ไปอาศัยอยู่กับตระกูลแมค ไม่มีฐานะพิเศษอะไรในตระกูลแมคเลย ถ้าเขาไม่ยอมต่อความปรารถนาของเธอ เธอและตระกูลของเธอคงทำให้ชีวิตของเขาทุกข์ทรมาน“ตอนนั้นผมไม่มีทางเลือกหนิที่รัก ยังโกรธผมอยู่ไหม?”ชายร่างอ้วนพยุงเธอเดินไปข้างหน้าสีหน้าของออทัมน์มืดลง “มันเป็นความผิดของคุณที่เป็นนักสู้ที่ห่วยแตกและอ่อนแอ ฉันคงไม่ถูกรังแกแบบนี้ถ้าคุณไม่ใช่คนไร้ประโยชน์” เธอตะคอกออกมาและจ้องไปที่สามีของเธอ “ดูชายคนนั้นสิเมื่อกี้นี้สิ เขาไม่มีอะไรเหมือนคุณเลย คุณมันก็แค่ผู้ฝึกยุทธระดับหกที่อายุมากแล้วก็เท่านั้น คุณคงจะถูกหัวเราะเยาะถ้าเรื่องนี้หลุดออกไป...”…ชายร่างท้วมพูดไม่ออก เขาเพิ่งช่วยออทัมน์จนกระทั่งพวกเขามาถึงตระกูลแมค“คุณหนู เกิด-เกิดอะไรขึ้น?”บอดี
เอซมองลูกเขยที่อ่อนแอของเขา แล้วเขาก็พากลุ่มผู้อาวุโสและนักสู้ที่ทรงพลังรีบไปยังที่สถานนั้น พวกเขาทั้งหมดเคลื่อนตัวเร็วมาก ราวกับว่าพวกเขาเป็นดั่งเงาที่วิ่งแข่งในความมืด“รอผมด้วย…”ชายร่างท้วมที่อ่อนแอถูกทิ้งไว้ข้างหลังอย่างรวดเร็ว เขาเหนื่อยมากจนหอบหายใจไม่หยุด ตามความเร็วของนักสู้พวกนั้นไม่ทัน“พ่อ หนูคิดว่าพวกคงไปแล้ว เมื่อกี้หนูไม่น่าบอกพวกเขาเลยว่าหนูเป็นลูกสาวของตระกูลแมค ตอนนี้พวกเขารู้แล้ว พวกเขาต้องหนีไปแล้วแน่!”ระหว่างทาง ออทัมน์พูดกับพ่อของเธอสีหน้าของเอซดุดันขึ้น เขาไม่พูดอะไรเลยสักคำ ความโกรธเดือดขึ้นมาในเส้นเลือดของเขา“เอ๊ะ พวกเขายังอยู่ที่นี่ พวกเขาอยู่ตรงนั้นค่ะพ่อ พวกเขากำลังกินบาร์บีคิวกันอยู่!”อย่างไรก็ตาม ไม่นานดวงตาของออทัมน์ก็เป็นประกายขึ้นหลังจากที่เธอเห็นคนสามคนกำลังกินอาหารอยู่ที่ร้านบาร์บีคิว“ทำไมเคย์ล่าถึงไปอยู่ที่นั่น? เธอเป็นเพื่อนของพวกเขาเหรอ?”เอซกำหมัดแน่นในขณะที่เขาเฝ้าดูเหตุการณนั้นจากระยะไกล“หนูไม่คิดว่าเคย์ล่าจะรู้จักพวกเขานะ ก่อนหน้านี้เธอยังเคยโน้วน้าวทั้งคู่ให้ขายเสื้อผ้าให้หนูอยู่เลย บางทีพวกเขาอาจเลี้ยงข้าวเธอเพราะพวกเขาคิดว่าเ