เฟนด์อุ้มไคลี่ที่กำลังวิ่งมาหาเขา ก่อนจะหอมแก้มที่จ้ำม่ำของเธอ การกระทำของเขา ล้วนเต็มไปด้วยความรัก และความหลงไหล“อืมมม!”ไคลี่พยักหน้า ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงไร้เดียงสา “แม่บอกว่า แม่จะขอพ่อให้พาหนูไปเมืองข้างล่าง เราจะได้สนุกกันตอนพ่อกลับมา!”“ฮ่าฮ่า ก็ได้ ก็ได้! พ่อจะพาไคลี่ตัวน้อย กับคุณแม่ไปในเมืองแล้วเรามาเล่นกันนะ!”เฟนด์หัวเราะอย่างสุดใจ“นี่ลูกสาวของคุณเหรอ? เธอน่ารัก และดูดีมาก ๆ เลย!”ไดอาเนียลล่าที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เฟนด์ อดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างกระอักกระอ่วนเมื่อเห็นพ่อลูกแสดงความรักต่อกัน“ใช่ เธอชื่อไคลี่ล่ะ!”เฟนด์ยิ้มออกมา เขาอุ้มไคลี่ไว้ในอ้อมแขน ก่อนจะเดินไปทางลาน่า ฟีโอน่า และคนอื่น ๆ "เอาล่ะ ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว สาวสวยคนนื้คือภรรยาคุณ ฉันพูดถูกไหม? หุ่นดีมาก!”ก่อนที่เฟนด์จะแนะนำคนอื่น ๆ ให้รู้จักกับไดอาเนียลล่า เธอมองลาน่าอยากพิถีพิถัน ก่อนจะพูดออกมาพร้อมรอยยิ้มลาน่าได้สติขึ้นมาทันที เธอหน้าแดง "ไม่ ไม่นะ ฉันไม่ใช่ภรรยาของเขานะ ฉันเป็นลูกศิษย์ของเขาล่ะ! ฉันชื่อลาน่า!” เธอรีบอธิบายหลังจากอธิบายเสร็จ ลาน่าก็มองไปที่เฟนด์ ก่อนจะถามว่า “อาจารย์ แล้วผู้หญิงคนนี้
“แน่นอน อยากสิ! มันคงดีมาก ถึงจะเป็นผู้ฝึกยุทธระดับแรกก็ตาม อย่างน้อยร่างกายของเราก็จะแข็งแรงขึ้น ไม่เป็นหวัดหรือป่วยง่าย หลังจากฝึกแล้ว ร่างกายคงแข็งแกร่งกว่าคนทั่วไปแน่นอน!”แต่ฟีโอน่ากลับยิ้มอย่างขมขื่น และพูดว่า “โชคไม่ดี ที่เฟนด์บอกว่าเราผ่านวัยที่จะเป็นผู้ฝึกยุทธมานานแล้ว พอแก่แล้ว ก็จะเป็นผู้ฝึกยุทธไม่ได้ มันไม่ใช่แค่ความสามารถ แต่ร่างกายที่แก่แล้วก็มีผลด้วยเหมือนกัน เราชำระล้างร่างกายไม่ได้!”อย่างไรก็ตาม ไดอาเนียลล่ายิ้มหวาน จนทำให้ทุกคนตกใจ "เอาล่ะ แต่มีวิธีที่จะทำให้ทั้งคู่เป็นผู้ฝึกยุทธได้ค่ะ! แล้วฉันก็รู้ด้วยว่าทำยังไง!”เฟนด์อดไม่ได้ที่จะอ้าปากค้างกับคำพูดของเธอ “เป็นไปไม่ได้! คุณมีวิธีอะไรอีกล่ะ ที่จะทำให้พวกเขากลายเป็นผู้ฝึกยุทธได้น่ะ?”“คุณพูดจริงรึเปล่า? วิเศษไปเลย! คุณคาเบลโล คุณมีวิธีจริง ๆ ใช่ไหม? คงดีมากเลย ถ้าเราฝึกและได้กลายเป็นผู้ฝึกยุทธบ้าง!”แอนดรูว์สัมผัสได้ความหวังที่เกิดขึ้นในตัวเขา เมื่อเขาได้ยินคำพูดของไดอาเนียลล่า เขาถามด้วยความตื่นเต้น ไดอาเนียลล่าพยักหน้าอีกครั้งเพื่อยืนยัน ในขณะเดียวกัน เธอก็กลอกตาไปที่เฟนด์ “จุ๊ จุ๊ เฟนด์ คุณยังไม่มีประสบการณ
ความสุขของฟีโอน่าเบ่งบานราวกับดอกไม้ เธอยิ้ม “ใช่ คุณกับเฟนด์เป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน เพราะงั้นถ้าว่างเมื่อไหร่ก็มาที่ตระกูลวู๊ดแล้วมานั่งคุยกันสิ! ทำตัวให้เหมือนอยู่บ้านเลย มาบ่อย ๆ สิ!”“แม่ พูดเรื่องอะไรน่ะ? ตระกูลคาเบลโลกับตระกูลวู๊ดไม่ค่อยถูกกันอยู่นะ ผมว่ามันไม่เหมาะหรอก”เฟนด์ถึงกับพูดไม่ออกกับการกระทำของฟีโอน่า เขาเลยเตือนเธอในทางกลับกัน ไดอาเนียลล่ากลับกลอกตาใส่เฟนด์ และพูดออกมาอย่างไม่พอใจ “ฉันมาที่นี่ตอนไหนก็ได้ ไม่ได้หรือไง?”เฟนด์ถึงกับพูดไม่ออกอีกครั้ง “แน่นอน ต้องยกเว้นคุณอยู่แล้วสิ!” เขายิ้มอย่างกระอักกระอ่วนลาน่าดูฉากที่เกิดขึ้นตรงหน้าของเธอย่างพิถีพิถัน เธออดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วด้วยความสงสัยเล็กน้อย ทำไมเธอรู้สึกเหมือนเฟนด์กลัวอะไรไดอาเนียลล่าสักอย่างอย่างงั้นล่ะ? หรือมันเป็นภาพลวงตาหรืออะไรกันแน่?“เฟนด์ ลูกกลับมาแล้ว!”ในตอนนี้เอง โจแอนที่กำลังเดินเล่นอยู่กับแนชก็เข้ามาร่วมวง“ครับแม่ ผมคิดว่าการแข่งขันจะเริ่มในไม่ช้าแล้ว ก็เลยรีบกลับมาก่อน!”เฟนด์ตอบพลางยิ้ม“นี่…นี่ไม่ใช่นายหญิงน้อยที่สามของตระกูลคาเบลโลหรอกเหรอ? ไดอาเนียลล่า คาเบลโล ใช่ไหม? ฉันขอทราบหน่อ
“เป็นอะไรไป? คุณไม่รู้เหรอ ว่าเฟนด์เป็นลูกชายของฉันน่ะ?”แนชเลิกคิ้ว เขางงกับสถานการณ์ปัจจุบัน ไดอาเนียลล่าตามลูกชายของเขากลับมาที่ตระกูลวู๊ด แต่กลับไม่รู้ว่าเฟนด์เป็นลูกชายของเขางั้นเหรอ? ดูเหมือนผู้หญิงคนนี้จะไม่มีพิษภัยอะไรสินะบางที เฟนด์อาจจะรู้ก็ได้ว่าเธอเป็นคนจิตใจดี และไม่ได้มีความคิดชั่วร้ายอะไรเลยยอมให้เธอมากับเขาด้วย“ฉันไม่รู้ค่ะ! เขาไม่บอกฉันเลย!”ไดอาเนียลล่ากลอกตามองเฟนด์อีกครั้ง “เอ๊ะ? เดี๋ยวนะคะ! คุณมีลูกชายคนเดียว ชื่อแลนซ์ วู๊ด ไม่ใช่เหรอคะ?”“คุณคาเบลโล ผมจะอธิบายให้คุณฟังเป็นการส่วนตัวทีหลัง ส่วนเรื่องที่ไม่ได้บอกว่าเป็นลูกของหัวหน้าตระกูล ก็เพราะคุณไม่ได้ถามนี่!”เฟนด์ยิ้มหวานและตอบกลับไปไดอาเนียลล่าหัวเราะ “ฉันคิดว่าคุณอาจจะเป็นลูกชายของผู้อาวุโสหรือผู้พิทักษ์ ฉันไม่คิดว่าคุณจะสูงส่งขนาดนี้จริง ๆ !”“ยังไงก็เถอะ คุณคาเบลโล ขอฉันทราบหน่อยสิ ว่ามาทำอะไรที่ตระกูลวู๊ด?”แนชเผยความสงสัยในใจออกมาพลางยิ้มจาง ๆ“ฉันบังเอิญไปเจอโจรชั่วเข้าค่ะ ระหว่างเดินทาง พวกเขาจับตัวฉัน และนายน้อยเฟนด์ก็เข้ามาช่วยฉันจากเงื้อมมือพวกเขา อีกอย่าง ฉันสงสัยด้วยค่ะ ว่าตระกูลวู๊ดอย
“เฮ้ ไม่มีอะไรหรอกน่า เฟนด์เคยช่วยชีวิตฉันไว้ ตอนนี้เขาเป็นเหมือนพี่ชายของฉัน เราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน! ถือว่ามันเป็นรางวัลสำหรับสิ่งที่เฟนด์เคยทำก็แล้วกัน อย่าใส่ใจนักเลยค่ะ!” ไดอาเนียลล่าหัวเราะเบา ๆ ขณะอธิบาย เธอวางมือบนไหล่ของเฟนด์พลางยิ้มกว้างออกมาบนใบหน้า ราวกับว่าพวกเขาเป็นพี่น้องในสนามรบกัน “คุณกำลังพูดถึงน้ำชำระล้างไขกระดูกใช่ไหม? น้ำนี่มันล้ำค่าเกินไป! แม้ว่าคนในตระกูลคาเบลโลที่เริ่มฝึกฝนตั้งแต่เด็กก็ยังไม่ได้รับน้ำนี่เลย บ่อน้ำอันล้ำค่าของตระกูลคาเบลโลก็ไม่ได้ผลิตน้ำได้มากขนาดนั้นในหนึ่งปีสำหรับพวกเขา จริงไหม? ยิ่งไปกว่านั้น น้ำชนิดนี้เหมาะสำหรับผู้ฝึกวรยุทธ ใครก็ตามที่ได้รับมันจะทำให้ระดับพลังยุทธของพวกเขาก้าวหน้าขึ้นมาก!” แนชประหลาดใจกับข้อเสนอของไดอาเนียลล่าที่จะให้น้ำชำระล้างไขกระดูกบางส่วนแก่พวกเขา คิ้วของเขาขมวดเข้าหากัน เขาพูดต่อว่า “ตระกูลคาเบลโลคงจะต้องเก็บสมบัติดังกล่าวไว้อย่างปลอดภัย และมอบให้กับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องสำคัญเท่านั้น อีกอย่าง บ่อน้ำนั่นก็สามารถผลิตน้ำได้เพียงแค่สำหรับห้าถึงหกคนต่อปีไม่ใช่เหรอ? ฉันเกรงว่าพ่อของคุณจะไม่เห็นด้วยกับความคิดง่าย ๆ แบ
“ฮ่า ๆ ขอบคุณมาก! งั้นฉันขอไปดูที่พักก่อน!” ไดอาเนียลล่าตะโกนออกมาอย่างมีความสุขราวกับว่าเธอเป็นเด็กที่ได้รับคำชมจากพ่อแม่ “งั้นก็ไปกันเถอะ เฟนด์พาคุณหนูคาเบลโลกลับไปพักผ่อนก่อน พวกลูกคงจะเหนื่อยจากการรีบเดินทางกลับมาที่นี่!” แนชพยักหน้าอย่างพึงพอใจและสั่งลูกชายของเขา จากนั้นเฟนด์ก็ส่งไคลี่ให้โจแอน และออกไปพร้อมไดอาเนียลล่า หลังจากที่เงาของทั้งสองคนหายไปจากสายตาของคนกลุ่มนั้น โจแอนก็หัวเราะและแสดงความเห็นออกมาว่า “คุณหนูคาเบลโลเป็นคนใจกว้างและมีน้ำใจจริง ๆ เธอได้มอบหญ้าวิญญาณให้กับเราเพื่อตอบแทนที่เฟนด์ช่วยเหลือเธอไว้ แต่เธอก็ยังจะสัญญาว่าจะเอาสมบัติของตระกูลคาเบลโลมาให้เราด้วย! ผู้หญิงคนนี้ช่างเป็นคนอบอุ่นจริง ๆ!” แต่แนชไม่คิดอย่างนั้น “ทำไมผมรู้สึกว่ามันมีอะไรมากกว่านั้นระหว่างมิตรภาพของเฟนด์กับคุณหนูคาเบลโล? มันเหมือนไม่ใช่แค่เป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน เพราะยังไงซะ น้ำชำระล้างไขกระดูกก็ไม่ใช่สมบัติธรรมดา เธอยังเต็มใจที่จะขโมยมันมาให้เราอีก ยิ่งไปกว่านั้น มันตั้งสามส่วน! เห็นได้ชัดว่าการกระทำดังกล่าวนั้นมันมากกว่ามิตรภาพธรรมดา ๆ คุณไม่คิดงั้นเหรอ?” เขาอธิบายด้วยใบหน้าที่มีรอยย
อีธานกับแซมก็รู้สึกประหลาดใจเหมือนกันเมื่อเห็นว่าอาจารย์ของพวกเขากลับมาแล้ว มุมปากของพวกเขาโค้งขึ้น เผยให้เห็นฟันสีขาวมุก“พี่เขย ทำไมพี่ถึงพาสาวสวยกลับมาด้วยล่ะ? จุ๊ ๆ แถมเธอยังสวยมาอีกด้วย! อย่าบอกนะว่า พี่ออกไปเที่ยวแล้วพาเมียน้อยกลับมาด้วย?” เอเลนสังเกตเห็นการปรากฏตัวของไดอาเนียลล่าข้าง ๆ เฟนด์และแซวทั้งคู่อย่างติดตลก แต่ทว่าสีหน้าของเฟนด์กลับมืดลงทันที “เธอกำลังพูดเรื่องไร้สาระอะไร? นี่คือนายหญิงน้อยลำดับที่สามของตระกูลคาเบลโล! บังเอิญพี่ช่วยชีวิตเธอไว้จากพวกโจรในระหว่างเดินทาง ดังนั้นเธอจึงตัดสินใจตามพี่มาเที่ยวที่ตระกูลวู๊ด และอีกไม่กี่วันจะออกเดินทางไปพร้อมเราเพื่อไปงานประลองยุทธ ตระกูลคาเบลโลก็เข้าร่วมการประลองครั้งนี้ด้วย!” “ฮ่า ๆ! ดูสิ ทำไมพี่ต้องกังวลด้วยล่ะ? ฉันแค่ล้อเล่น เธอสวยมากและมีเสน่ห์จริง ๆ!” เอเลนพูดพลางหัวเราะเบา ๆ กับการตอบสนองครั้งใหญ่ของเฟนด์ “สาวสวยคนนี้คือภรรยาของคุณเหรอ?” ไดอาเนียลล่าก้าวออกมาข้างหน้าสองก้าวและมองพิจารณาเซเลน่าตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างระมัดระวัง เธอสัมผัสได้ว่าเซเลน่านอกจากจะหน้าตาสวยและงดงามแล้ว ยังเป็นผู้ใหญ่มากกว่าเธออีกด้วย เซ
ไม่นานตอนเย็นก็มาถึง เฟนด์พาทุกคนไปที่เมืองเพื่อทานอาหารอร่อย ๆ และเดินเล่นในยามค่ำคืนเมืองนี้เจริญรุ่งเรืองและพัฒนาไปมาก แถมยังมีโรงเรียนอยู่ในเมืองด้วย เฟนด์วางแผนจะให้ไคลี่ฝึกฝนอยู่ที่บ้านของตระกูลวู๊ด และให้เธอเข้าเรียนที่โรงเรียนในเมืองเพื่อเรียนรู้ได้ด้วย ฟังดูเป็นแผนที่สมบูรณ์แบบครูในโรงเรียนก็สอนตามหลักสูตรที่กำหนดไว้และกระตือรือร้นที่จะถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับโลกภายนอกให้กับเด็ก ๆ ด้วยอย่างเช่น นักเรียนได้รับการสอนให้รู้จักหญ้าวิญญาณระดับหนึ่งหรือหญ้าวิญญาณระดับสอง มีการสอนความรู้พื้นฐานของการฝึกวรยุทธ ตลอดจนลักษณะของสัตว์อสูรบางชนิดในป่าเพราะยังไงซะ เด็ก ๆ ที่เข้าเรียนในโรงเรียนนี้ก็มักจะเป็นเด็กที่มาจากครอบครัวชาวยุทธ และเมื่อโตขึ้น พวกเขาก็จะฝึกฝนจนกลายเป็นผู้ฝึกยุทธในที่สุดกลุ่มคนทั้งหมดกลับไปที่บ้านของตระกูลวู๊ดในตอนค่ำ เฟนด์เหนื่อยจากงานที่ยุ่งตลอดทั้งวัน เขาล้มตัวลงนอนและไม่นานก็หลับไปเช้าวันรุ่งขึ้น เฟนด์ตื่นขึ้นและถามเซเลน่าว่า “ที่รัก ช่วงนี้คุณฝึกวรยุทธเป็นยังไงบ้าง? ผมไม่อยู่มาสักพักแล้ว และคุณแค่ต้องไปรับไคลี่จากโรงเรียนเท่านั้น ดังนั้นมันก็ไม่น่าจะใช้เ