“โอ้ ในที่สุดก็มาทำงาน น่าเสียดายนะพลาดละครตอนเช้าไปเลย”ทันย่าและอีวอนน์ที่กำลังจิบกาแฟอยู่ในห้องนั่งเล่นขณะที่เฟนด์มาถึง คนที่มาก่อนพูดอย่างขุ่นเคือง“ละครตอนเช้า? เล่าให้ผมฟังหน่อย” เฟนด์เดินไปนั่งที่โซฟาและนั่งลงถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น“มีสาวสวยมาหาคุณ เธอบอกว่าชอบและอยากแต่งงานกับคุณ” อีวอนน์เยาะเย้ย “ฉันรู้นะข้างในคุณมีความสุขอยู่ล่ะสิ!” “สาวสวย? ใคร?" เฟนด์ประหลาดใจครู่หนึ่งก่อนจะตอบว่า “ผมว่าคนสวยกลุ่มเดียวที่ผมรู้จักคือคุณสองคน แล้วก็ภรรยา โอ๊ะ จริงสิ เทพีแห่งสงคราม ลาน่าด้วย ถึงอย่างนั้นแล้ว เธอก็ไม่ใช่พวกคุณนี่ ไม่ใช่ลาน่าแน่นอน ภรรยาผมก็แต่งกันแล้ว... แล้วจะเป็นใครได้อีก?” “ชารอน จอร์จ คุณช่วยเธอลดน้ำหนักไม่ใช่เหรอ? เธอลดได้แล้ว และตอนนี้เธอก็สวยขึ้นมาก!” ทันย่ายิ้มอย่างขมขื่น “เธอ?” ท่าทีของเฟนด์บิดเบี้ยวจนไม่สามารถอ่านออกได้เมื่อได้ยินสองคำนั้น ชื่อของเธอคนนั้น “เธอควรจะยอมแพ้ไปสิ ผมบอกเธอไปแล้วว่าไม่ชอบ แล้วเธอก็สัญญาว่าจะไม่มายุ่งด้วยอีกถ้าลดน้ำหนักได้สำเร็จ!” ใจของทันย่าและอีวอนน์เต้นแรงขึ้นอย่างไม่ทราบสาเหตุเมื่อได้ยินเช่นนั้น อีวอนน์ยังค่อน
กลิ่นน้ำหอมของเธอเข้าเต็มจมูกของเขา ร่างกายที่อ่อนนุ่มโค้งมนนั่งอยู่บนตักของเฟนด์ หัวใจเฟนด์เต้นอย่างผิดจังหวะอย่างคาดไม่ถึง สุดท้ายแล้วเขาก็เป็นผู้ชาย แม้ว่าจะเป็นทหาร แต่ก็ช่วยไม่ได้ที่จะรู้สึกเมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ถึงอย่างนั้นเขาก็ผลักซาซ่าออกอย่างรวดเร็ว “คุณทำอะไรน่ะ? เป็นผู้หญิงไร้ยางอายอย่างนี้ได้ยังไง?!” ใบหน้าของซาซ่าแดงราวกับมะเขือเทศ แต่เธอก็ยังยิ้มได้แม้ในขณะที่เฟนด์กำลังโมโห เธอยิ้ม “ฉันไม่ได้ไร้ยางอาย ฉันเป็นคนตรงไปตรงมาเพราะฉันชอบคุณ” เธอพูดอย่างเขินอาย “ไม่มีผู้ชายคนไหนโดนตัวฉันได้แบบนี้!” เฟนด์พูดไม่ออก ในสนามรบ เขามีวิธีการมากมายในการฆ่าศัตรู ง่ายพอ ๆ กับการหายใจ อย่างไรก็ตาม เขาไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรเมื่อต้องเผชิญหน้ากับผู้หญิง โดยเฉพาะผู้หญิงที่กล้าหาญอย่างเธอ เขายังคงแสดงสีหน้าเคร่งขรึม “คุณซาซ่า อย่าลืมสัญญาที่เราเคยให้ไว้ก่อนหน้านี้ คุณกลับคำไม่ได้นะ คุณเป็นถึงนายหญิงน้อยของตระกูลจอร์จ เข้าใจไหม?” ซาซ่าผงะไปครู่หนึ่ง เธอฉ.นและรู้สึกผิด เธอก้มหัว “แน่นอน แน่นอนว่าตอนนั้นฉันไม่เหมาะกับคุณ ด้วยรูปลักษณ์ของฉัน” เธอพูดอย่างเขินอาย “แต่ด้วยรูปลักษณ์
อีวอนน์เยาะเย้ยเฟนด์อย่างไม่แยแส การโต้เถียงนั้นทำให้เธอนึกถึงตอนที่เฟนด์เดินเข้าไปในห้องของเธอ ขณะที่เธอเพิ่งจะอาบน้ำอุ่น ๆ มา เธอยังคงไม่พอใจเขาจนถึงทุกวันนี้ เฟนด์ไม่คิดเลยว่าเขาจะตกเป็นเป้าเสียเอง “เฮ้ ใครบอกคุณ? คุณยังจำได้ไหมเนี่ยว่าใครเป็นคนแบกคุณขึ้นหลังในคืนที่คุณเมาแอ๋ถึงขนาดที่เดินกลับบ้านเองไม่ไหวน่ะ?” เฟนด์จงใจป่าวประกาศ “และตอนที่คุณอยู่บนหลังผม มือของผมก็ไม่ได้ว่างนะ ผมยังเปลี่ยนเสื้อผ้าให้คุณอีกด้วย! คุ้น ๆ ไหมล่ะ?”เฟนด์เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยน้ำเสียงประชด เขาจะไม่ยอมให้อีวอนน์มากระตุกหนวดเสือของเขาหรอก ในเมื่อเธอเป็นคนเยาะเย้ยเขาก่อนแก้มอันแสนน่ารักของอีวอนน์กลายเป็นสีชมพูทันที เธอกระทืบเท้าราวกับเด็ก แล้วบ่นด้วยน้ำเสียงที่ปนไปด้วยความขุ่นเคืองเล็กน้อย “ทันย่า ไหนเธอบอกว่าคนใช้ของเธอเป็นคนเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ฉัน แล้วทำไมเฟนด์ถึงบอกว่าเขาเปลี่ยนล่ะ นี่เธอโกหกฉันเหรอ?”การถูกกล่าวหาอย่างไม่คาดคิดทำให้ทันย่าชะงักไปชั่วครู่ แล้วเธอก็พูดไม่ออก เห็นได้ชัดว่าเฟนด์แต่งเรื่องขึ้นมาเพื่อที่จะล้อเธอเล่น แต่เธอดันเชื่ออย่างสนิทใจ ทันย่ายิ้มอย่างขมขื่นแล้วอธิบายว่า “น้
ตระกูลเทย์เลอร์ได้อาศัยอยู่ในหมู่บ้าน เนื่องจากบ้านนั้นไม่ได้ใหญ่หรือหรูหรา ตระกูลเทย์เลอร์จึงซื้อบ้านหลายหลังด้วยกัน เชื่อมไว้ด้วยกำแพงสูงและหนา แล้วทำให้มันกลายเป็นคฤหาสน์ของตระกูลเทย์เลอร์บนภูเขาเล็ก ๆ ไม่ไกลจากคฤหาสน์ของตระกูลเทย์เลอร์ มีบ้านพักหลังใหญ่และหรูหราหลังนึงตั้งอยู่ที่ตีนเขา และไม่ใช่เพียงแค่ที่ตั้งของบ้านพักที่เป็นเชิงกลยุทธ์เท่านั้น แต่ยังมีสวนสาธารณะที่แสนสะอาดและห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ตั้งอยู่ใกล้ ๆ อีกด้วยนั่นจึงเป็นสาเหตุที่บ้านพักนั้นมีราคาที่สูงเกินไปมาก โดยมีมูลค่าประมาณ 20 ถึง 30 ล้านเหรียญบ้านพักนั้นมีพื้นที่กว้างขวางและแบ่งแยกเป็นสามชั้นด้วยกัน มีการออกแบบภายในที่ดูหรูหราและมั่งคั่ง เจ้าของบ้านพักนั้นเป็นหัวหน้าครอบครัวของตระกูลชนชั้นสูงระดับที่สาม เขาจ่ายเงินเป็นจำนวนมากเพื่อบ้านพักหลังนี้ เจ้าของบ้านตัดสินใจย้ายที่จะไปอยู่ต่างประเทศเมื่อไม่นานมานี้ ดังนั้น เขาจึงเปิดประมูลบ้านหลังนี้ด้วยสถานที่ตั้งที่เป็นกลยุทธ์และไม่ไกลจากคฤหาสน์ของตระกูลเทย์เลอร์ ด้วยเหตุนี้ เมื่อเฟนด์เห็นบ้านหลังนี้ในทวินซิตี้เน็ตเวิร์คเมื่อวานนี้ เขาจึงตัดสินใจทันที เขาจะต้อ
ความคิดนั้นได้ตอกย้ำข้อสันนิษฐานของเขามากขึ้น ไอ้นักเลงนั่นตั้งใจจะซื้อบ้านพักหลังนี้เป็นของขวัญให้คุณปู่เทย์เลอร์จริง ๆทุก ๆ คนในตระกูลเทย์เลอร์รู้ว้าบ้านพักหลังนี้นั้นวิเศษขนาดไหน พวกเขาตื่นขึ้นมาเห็นมันและผ่านไปโดยอยู่ในสายตาของมัน บ้านพักหลังนั้นตั้งอยู่ตรงข้ามคฤหาสน์ของตระกูลเทย์เลอร์ พวกเขามองเห็นมันได้ทุกวัน เพราะฉะนั้น อีวานจึงมาเพื่อดูว่าเขาจะสามารถได้มันมาในราคา 20 ถึง 30 ล้านเหรียญได้หรือไม่ เขาอยากจะมอบบ้านหลังนี้เป็นของขวัญให้แก่คุณปู่เทย์เลอร์ หรือบางที เขาก็ย้ายไปอยู่บ้านหลังนั้นเสียเองพร้อมกับคุณปู่เทย์เลอร์อย่างไรก็ตาม คุณปู่เทย์เลอร์ได้ยึดติดกับบ้านหลังนี้เป็นอย่างมาก เมื่อไรก็ตามที่เขาออกไปข้างนอกในช่วงดึก ๆ เขามักจะบ่นพึมพำกับตัวเองอย่างใส่อารมณ์ว่า “บ้านพักหลังนั้น ที่อยู่ตรงข้ามคฤหาสน์ของเรา ถูกสร้างขึ้นมาอย่างยอดเยี่ยมเหลือเกิน ถ้าฉันมีโอกาสอยู่บ้านหลังนั้นนะ จะตายอย่างไม่เสียดายเลย”สำหรับทรัพย์สินที่จำเป็นในการซื้อบ้านหลังนี้ อีวานไม่รู้สึกอะไรแม้แต่น้อย เพราะเงินนั้นได้มาจากบริษัทของตระกูลเทย์เลอร์ นอกเหนือจากนั้นแล้ว ถ้าเขาจัดการซื้อบ้านพักหลังนี้ได้และใ
“อะไรนะ? นั่นสามีของเซเลน่า เทย์เลอร์ ราชินีแห่งความงามของอาณาเขตกลางนี่?”“ใช่ ไอ้กุ้งแห้งคนนี้โคตรโชคดีเลยที่ได้เซเลน่าเป็นภรรยา ใคร ๆ ก็อิจฉาเขาทั้งนั้น!”“มีอะไรน่าอิจฉากัน? ไอ้กุ้งแห้งนั่นเป็นลูกเขยของตระกูลเทย์เลอร์แค่ชื่อเท่านั้น เขาอาจจะโดนกระทำเหมือนขยะไร้ประโยชน์ตอนอยู่บ้านก็ได้ ได้ยินมาว่าตระกูลเทย์เลอร์ผลักไสพวกเขาออกจากคฤหาสน์ ฉันพนันเลยว่าเขาไม่ถูกยอมรับให้เป็นลูกเขยจริง ๆ หรอก!”“ใช่เลย! แม่ยายของเขาเกลียดความบ้าบิ่นของเขาจะตาย อย่างไรก็ตาม ครอบครัวของพวกเขาต้องเจ็บปวดเพราะเขามามากแล้ว!”นักธุรกิจหลายคนเริ่มนินทาว่าร้ายเกี่ยวกับพวกเขาด้วยท่าทีที่นิ่งเงียบ บางคนก็มองอย่างดูถูกดูแคลนเฟนด์ไม่ได้ให้ค่ากับเรื่องซุบซิบพวกนั้น เขาหันหน้าไปอีกฝั่งแล้วพูดว่า “นั่นสิอีวาน ช่างบังเอิญอะไรอย่างนี้! ฉันไม่คิดเลยว่าจะเจอนายที่นี่!”“เอ๊ะ ถ้าให้ฉันเดานะ นายขอเงินเดือนล่วงหน้าสองเดือนจากคุณทันย่า แล้วนายก็มาที่นี่เพื่อประมูลบ้านพักสุดหรูหลังนั้น เพื่อให้คุณปู่เทย์เลอร์เป็นของขวัญครบรอบ 70 ปี ใช่ไหมล่ะ?”อีวานหัวเราะอย่างดูถูกแล้วพูดต่อว่า “นายนี่ความคิดดีๆจริงเลยนะ! ของขวัญชิ้นน
ไม่กี่วินาทีผ่านไป และในไม่ช้า ราคาประมูลสูงขึ้นถึง 21 ล้านราคาประมูลพุ่งขึ้นสูงมาก ถึงขนาดที่บางคนต้องยอมแพ้กับการประมูล และหยุดเสนอราคาเพิ่ม “ยี่สิบสามล้าน!”ในที่สุด เฟนด์ก็ยกมือขึ้น แล้วเสนอราคาที่มากกว่าออกไป เผยให้เห็นหญิงสาวที่กำลังยืนยิ้มอย่างอบอุ่น“สุภาพบุรุษท่านนี้ ได้เสนอราคาถึงยี่สิบสามล้านเหรียญ! มีใครให้ราคาสูงกว่านี้ไหมคะ?”มุมปากของผู้หญิงคนนั้นเลิกขึ้น หลังจากได้ยินเฟนด์เสนอราคา เขาไม่ได้เพิ่มเงินเพียงแค่ล้านเดียว แต่เพิ่มถึงสองล้าน“ยี่สิบห้าล้าน!”อีวานยกมือขึ้น แล้วเพิ่มเงินอีกสามล้านอย่างไม่ลังเลใจ ราวกับว่าเขาเป็นคนที่รวยที่สุดในอาณาเขตกลาง หลังจากที่เขาเอามือลง เขาหันหน้าไปหาเฟนด์แล้วพูดว่า “เฟนด์ แกอย่ามาแข่งกับฉันเลย บ้านพักหลังนี้เป็นของขวัญวันเกิดสำหรับปู่ฉัน แกมันก็แค่ลูกเขย แกจะอยากสู้กับฉันไปทำไมกัน? แกไม่มีทรัพย์สินพอที่จะเอาชนะฉันด้วยซ้ำ!”“ฮ่าฮ่า! นายแน่ใจเหรอ?” เฟนด์เยาะเย้ยอย่างเย็นชา เงินก็แต่ตัวเลขสำหรับเขา เขาสามารถซื้อทรัพย์สินทั้งหมดของตระกูลเทย์เลอร์ โดยที่ยังรู้สึกเฉย ๆ ด้วยซ้ำ นับประสาอะไรกับบ้านพักแค่หลังเดียว“เฮ่! แกนี่มันหัว
เคนและอีวานสบตากัน ใบหน้าของพวกเขาบิดเบี้ยวด้วยความโกรธพวกเขาลืมเรื่องกฏของโรงประมูลไปซะสนิท พวกเขาทั้งหมดเป็นนายน้อยของตระกูลชั้นสูง เป็นธรรมดาที่พนักงานจะไม่สงสัยความสามารถในการใช้จ่ายของพวกเขา ดังนั้น พวกเขาจึงเข้ามาในโรงประมูลได้โดยไม่ถูกตรวจสอบใด ๆ ทั้งสินที่จริงแล้วมีประกาศกฏของโรงประมูลติดอยู่ที่ทางเข้าว่า เฉพาะบุคคลที่มีทรัพย์สินมากกว่า 50 ล้านเท่านั้น ที่จะสามารถเข้าโรงประมูลได้ พวกเขาทั้งสามไม่ได้สนใจป้ายประกาศเลยสักนิดหลังจากที่เฟนด์ช่วยเตือนความจำ พวกเขาก็คิดขึ้นมาได้ว่าไอ้สารเลวนั่นสามารถจ่ายเงินได้มากถึง 35 ล้านเหรียญ “ดูเหมือนว่า คุณทันย่าจะให้เงินล่วงหน้ามาสามเดือนเลยสินะ ต้องใช่สิ ต้องใช่แน่ ๆ ! เขามีเงิน 60 ล้านอยู่ในมือ! ”สีหน้าของนีลเย็นชาและเคร่งขรึมขึ้น ถ้านั่นเป็นเรื่องจริง มันคงไม่ง่ายแน่ที่อีวานจะแข่งกับเฟนด์ แล้วชนะการประมูลบ้านหลังนั้นสีหน้าของอีวานดูเย็นชา และน่าเกลียดยิ่งกว่าสีหน้าของนีลเสียอีก ถ้านั่นเป็นเรื่องจริง มันไม่หมายความว่า เฟนด์สามารถเสนอราคาได้มากที่สุดถึง 50 ล้านหรอกเหรอ? ถ้าเฟนด์แยกเงินที่ติดเขาไว้อยู่สิบล้านแล้วไม่แปลกใจเลยที่ไอ