“จะเป็นไปได้ยังไง? เขาก็แค่คนตาบอดเท่านั้นแหละน่า” ทันย่าแย้ง ขณะที่เธอหันไปมองชายตาบอด “เขาผิดปกติตรงไหนล่ะ?”“ใช่ มันน่าเศร้ามากกว่านะ ที่เขาต้องมาตาบอดตอนอายุเท่านี้น่ะ” ชารอนพึมพำ พลางมองไปที่ชายตาบอดเช่นเดียวกันเฟนด์ทำท่าทีกลุ้มใจอยู่ในใจ เมื่อเขาได้ยินเหตุผลของสาวทั้งสอง “ดูดี ๆ สิ” เฟนด์ยืนกราน “ไม้เท้าเขาแปลก ๆ รึเปล่า ลองคิดดูสิ ว่าทำไมเขาถึงเดินตามผู้หญิงที่ใส่กระโปรงอย่างไม่หยุดหย่อนแบบนั้น?”อีวอนน์เป็นคนแรกที่ตอบโต้กลับมา หลังจากที่ได้ยินเหตุผลของเฟนด์ เธอรีบตรงไปหาชายที่แกล้งตาบอดที่กำลังถือไม้เท้าอยู่ทันที “ให้ตาย! ไอ้นี่มันโรคจิตชัด ๆ” เธอพูดเสียงแข็ง “แถมมันยังแอบถ่ายอีกด้วย!” อีวอนน์เกลียดคนโรคจิตแบบนี้จริง ๆ “มันจะเป็นไปได้ยังไงกัน? นี่เขา…!” ชารอนโกรธจัดเมื่อเธอคิดได้กำลังเกิดอะไรขึ้น ชารอน เฟนด์ และทันย่า ตามหลังอีวอนน์ไปอีวอนน์เป็นคนแรกที่เดินเข้าไปใกล้ ๆ ชายคนนั้น ก่อนจะต่อยแรง ๆ จนชายคนนั้นร่วงบนไปกับพื้น “ไอ้โรคจิต!”“โอ๊ย!” ชายคนนั้นร้องออกมาเมื่อเขาล้มลงไปบนพื้น เขาตะโกนออกมา “ช่วยด้วย! มีคนแกล้งคนตาบอด!”เสียงร้องให้ช่วยของชายคนนั้นดึงดูดความสนใจขอ
ทันย่าดันเธอออกมาจากฝูงชน ขณะที่เธอตะโกนเพื่อปกป้องอีวอนน์ ลูกพี่ลูกน้องของเธอ“ใช่ พวกเราเห็นกับตา แต่เธอกลับโดนต่อว่าทั้ง ๆ ที่เธอหวังดีกับพวกคุณแท้ ๆ” ชารอนเองก็ก้าวขึ้นมาข้างหน้า “พวกคุณพูดออกมาได้ยังไงว่าเธอแกล้งคนตาบอด ทั้ง ๆ ที่เธอช่วยพวกคุณน่ะ?!”มีชายคนนึงในฝูงชนจ้องมองชารอนอย่างตั้งใจก่อนที่เขาจะอุทานออกมา “เฮ้ นั่นมันนายหญิงคนเล็กของตระกูลจอร์จนี่? ฉันได้ยินมาว่าเธอโตขึ้นมาเป็นสาวสวย ฉันคงจำเธอไม่ได้แน่ถ้าฉันไม่ได้ยินเสียงของเธอน่ะ เธอเป็นผู้หญิงที่สวยจริง ๆ”“ผู้หญิงคนนั้นจะเป็นคุณทันย่าสินะ?” ชายอีกคนอุทานขึ้นมา “ฉันก็ว่าทำไมเธอดูคุ้น ๆ …นั่นมันคุณทันย่าจริง ๆ ด้วย!”คนอื่น ๆ ก็เริ่มจำทันย่าได้เช่นกัน พวกเขาจึงเริ่มพูดคุยเกี่ยวกับเธอ พวกเขาไม่รู้เลยว่าจะได้เจอคนที่มือชื่อเสียงเช่นนี้“ฉันเชื่อที่คุณทันย่าพูดนะ คุณทันย่าอยู่ในตระกูลเดรค ลูกสาวของชายที่รวยที่สุดในอาณาเขตกลาง เธอจะโกหกเราไปทำไมล่ะ?” ผู้หญิงคนนึงพูดขึ้นมา เพื่อปกป้องทันย่า “ใช่ ฉันได้ยินมาว่าคุณทันย่าคัดค้านเรื่องที่ไม่ยุติธรรมตลอด และเธอยังชอบทำงานจิตอาสาอีกด้วย เธอจะโกหกไปทำไม จริงไหม?” ผู้หญิงคนอื่น
เฟนด์ยิ้มอย่างเยือกเย็นในใจ เมื่อเขาเห็นท่าทีของชายตาบอด เขาพุ่งต่อยไปที่จมูกของชายตาบอดทันทีอย่างไรก็ตาม เฟนด์ต่อยเขาอย่างช้า ๆ “ทำอะไรน่ะ?” ชายคนที่ช่วยชายตาบอดจับแขนของเฟนด์ทันที “แค่ปล้นของคนตาบอกยังไม่พอ นี่นายจะทำร้ายเขาด้วยเหรอ? นายไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่ทำแบบนี้! นายนี่มันไม่ใช่คนแล้ว!” “ฮ่าฮ่า ถ้าฉันเดาไม่ผิด ดูเหมือนว่า พวกนายสามคนจะทำงานกับเขาสินะ! ฉันเดาถูกไหมล่ะ?!”เฟนด์หัวเราะ เขาขยับมือนิดหน่อย ก่อนจะดึงมือออกมาจากอีกฝ่าย เขามองไปที่พวกเขาอย่าแรง ๆ “แสดงต่อสิ!”ชายสองคนเดินเข้ามาทันที “ไอหนุ่ม นายทำเกินเหตุไปแล้วนะ นายพูดจาไร้สาระอะไรอย่างนั้น? สำหรับเราแล้ว นายมันก็แค่คนบ้า นายพูดว่าอะไรนะ พวกเรามาเป็นกลุ่มอย่างงั้นเหรอ? มันไม่สำคัญหรอกนะที่นายจะแกล้งคนตาบอด แต่นายใส่ร้ายพวกเราด้วยเหมือนกันงั้นเหรอ?”“ใช่ เล่นมันเลย!” ชายคนที่จับแขาเฟนด์ก่อนหน้านี้พูดขึ้นมาทั้งสามล้อมรอบเฟนด์ทันทีปัง! ปัง! ปัง!อย่างไรก็ตาม เฟนด์เตะพวกเขา และทั้งสามคนก็กระเด็น ไปตกลงบนพื้นที่ห่างออกไปสองถึงสามเมตร แต่ละคนสำลักเลือดออกมา“เป็นไปได้ยังไงกัน? เขาโคตรแข็งแรงเลย!” ผู้คนที่อยู่
“นายจะถ่ายรูปพวกนี้ไปทำไมกัน?” เฟนด์ยิ้มอย่างเยือกเย็น ก่อนจะถามต่อ “ฉันไม่คิดว่านายจะเก็บไว้ดูเองหรอกนะ ใช่ไหมล่ะ?”เขามองไปที่อีกฝ่าย ที่ใช้แรงทั้งหมดที่มีพยายามไต่ขึ้นมาบนพื้น แล้วพยักหน้า “ใช่ พวกเราทั้งสี่คนเก็บเอาไว้ดู พวกเราแค่อยากรู้อยากเห็น!”“อยากรู้อยากเห็นอย่างงั้นเหรอ?” ท่าทีของเฟนด์เปลี่ยนเป็นเย็นชาทันที เขาออกแรงไปที่ต้นขาของชายคนนั้นมากกว่าเดิม“อ๊าก!” ชายคนนั้นร้องออกมาเสียงดังทันที เขาเจ็บปวดมาก ถึงขนาดที่ว่าเส้นเลือดที่หน้าผากของเขาปูดออกมากร็อบ! เสียงกระดูกหักดังขึ้นมาอย่างชัดเจน “โอ้พระเจ้า แรงเขาดีจริง ๆ !”“ใช่ บอดี้การ์ดของตระกูลเดรคน่ะ ไม่ใช่คนโง่นะ มันน่ากลัวมากที่เพียงแค่เขาเหยียบครั้งเดียว กระดูกของชายคนนั้นก็หักอย่างไม่มีชิ้นดี!”“ฮ่าฮ่า ทำให้คนในตระกูลเดรคโกรธเหมือนฆ่าตัวตายชัด ๆ ถ้าใครในตระกูลเดรคอยากฆ่าใครสักคน ก็ไม่ต่างอะไรจากการฆ่ามดนั่นแหละ!”ฝูงชนรอบ ๆ พวกเขา เริ่มพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น “คุณทันย่า คุณชารอน และน้องสาวที่แสนน่ารัก ขอบคุณทุกคนมาก ๆ นะคะ!” สาว ๆ กลุ่มนั้นเดินเข้ามาขอบคุณเฟนด์และคนอื่น ๆ ทันที “ฮ่าฮ่า ไม่เป็นไรหร
“ตอนนี้เธอกลัวงั้นเหรอ? ตระกูลอื่น ๆ ที่ไร้ประโยชน์คงจะกลัวตระกูลเดรคอะไรนั่น แต่คนจากคิงส์ตัน ฮอลล์ไม่กลัวหรอกนะ!” เขาหัวเราะออกมาเสียงดัง เมื่อเห็นทันย่าหน้าหม่นลง“คิงส์ตัน ฮอลล์แข็งแกร่งรึเปล่า? แข็งแกร่งกว่าตระกูลของคุณอย่างนั้นเหรอ?” เฟนด์ขมวดคิ้วด้วยท่าทีสงสัยเขารู้ว่าทันย่าเป็นคนที่ไม่กลัวอะไร และชอบสร้างความตื่นเต้นให้ผู้อื่นอยู่เสมอ เขาไม่เคยเห็นเธอกลัวมาก่อนอย่างไรก็ตาม ทันย่ากำลังกลัวสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ มันทำให้เขารู้สึกแปลก ๆจะเป็นไปได้หรือว่า คนที่มีอิทธิพลอย่างลับ ๆ พวกนี้ จะแข็งแกร่งกว่าตระกูลเดรค?ทันย่ามองไปที่เฟนด์ ก่อนจะอธิบายอย่างเงียบ ๆ “พวกคิงส์ตัน ฮอลล์มีพรรคพวกจำนวนมาก และถือว่าเป็นผู้มีอิทธิพลที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในอาณาเขตกลาง นอกเหนือจากนั้นแล้ว พวกเขามีนักสู้ที่มีฝีไม้ลายมือดีเยอะมาก พลังของพวกเขาสามารถสู้กับตระกูลเดรคของพวกเราได้ ถ้าพวกเราหาเรื่องพวกเขา ไม่ต้องเดาเลยว่าใครจะเป็นฝ่ายชนะ!”อีวอนน์ก็พยักหน้าทันที ก่อนจะพูดว่า “จริง ๆ แล้ว นี่ไม่ค่อยสำคัญเท่าไหร่ ที่สำคัญที่สุดคือพวกเราเข้าใจร่วมกันว่า จะเก็บเรื่องพวกนี้ไว้เป็นความลับ เขาก็พัฒนาข
“กรีนสกาย ฮอลล์อย่างงั้นเหรอ?” เฟนด์ครุ่นคิด แล้วพูดออกมา “ก็ได้ พวกนายกลับไปก่อนก็ได้ แล้วบอกคนในกรีนสกาย ฮอลล์ด้วยล่ะ ว่าเดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันไปหา วันนี้เราต้องจัดการปัญหานี้ให้ได้ และบอกเหตุผลดี ๆ ให้ฉันฟัง มิฉะนั้น นายจะมาโทษฉันไม่ได้ ถ้าฉันทำอะไรขึ้นมา!”“ก็ได้ ไอหนุ่ม นายพูดออกมาเองนะ พรุ่งนี้มาหาเราที่กรีนสกาย ฮอลล์ มาคนเดียวล่ะ พวกเราจะรอนายอยู่ที่นั่น!” ชายคนนั้นรู้สึกโล่งภายในใจ อย่างน้อย เขากับเพื่อนก็กลับไปได้สักทีในตาของเขา เฟนด์พยายามจะหาทางออก ขณะที่เขาพูดว่าเขาจะไปที่กรีนสกาย ฮอลล์คนเดียวเพื่อไปจัดการพวกเขาเขาเดาว่า เฟนด์ไม่กล้าพอที่จะมาที่กรีนสกาย ฮอลล์คนเดียว ในวันพรุ่งนี้ อย่างไรก็ตาม ถ้าเขายั่วโมโหกรีนสกาย ฮอลล์ ก็เหมือนเขายั่วโมโหคิงส์ตัน ฮอลล์ด้วย อะไรก็ตามที่เฟนด์พูดออกมา ก็เพื่อที่จะหาทางออกให้ตัวเอง เพราะทันย่า ที่ชอบออกมาเปิดหูเปิดตา จะได้ไม่ต้องอับอายหลังจากที่เขาพูดจบ ชายทั้งสามก็รีบพยุงชายที่ขาหักขึ้นมา และรีบออกไปทันที“นาย…นายไม่ได้จะไปจริง ๆ ใช่ไหม พรุ่งนี้น่ะ? กรีนสกาย ฮอลล์ ไม่มีอะไรน่ากลัว แต่ถ้านายจะไปแล้วทำให้เรื่องมันแย่กว่าเดิม มันก็ไม่ต่างอะไ
“เขานี่แปลกจริง ๆ ฉันห่วงเขาแทบตาย แต่เขาดันทำราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นซะงั้น!” ชารอนเม้มปากก่อนจะเดินเข้าไปต่อคิว“เฟนด์ มาด้วยกันสิ!” ทันย่าตามหลังเฟนด์ ก่อนจะผลักเขาให้เข้าไปต่อคิว เมื่อเธอเห็นว่าเขาทำหน้าเหมือนไม่อยากเล่น“เอ่อ ไม่เป็นไรน่า พวกคุณเล่นกันไปเลย ผมคิดว่ามีแต่เด็กเท่านั้นแหละที่เล่น มันเด็กเกินไป!” เฟนด์ยิ้มอย่างขมขื่น เขาหมดหนทาง“นี่ นายว่าพวกเราเด็กงั้นเหรอ?” อีวอนน์หันมากรอกตาใส่เฟนด์ “ฉันไม่สนใจหรอกนะ ไหน ๆ เราก็มาที่นี่แล้ววันนี้ อยากน้อยนายก็ต้องเล่นเครื่องเล่นทั้งหมดเป็นเพื่อนพวกเรา”“ใช่เลย! พวกเราจะพาคุณไปสัมผัสประสบการณ์ทำตัวแบบเด็ก ๆ อย่างพวกเราวันนึง!” ทันย่าก็พูดขึ้นมาทันที“เฟนด์ ฟังจากเสียงของคุณแล้ว เป็นไปได้จริง ๆ เหรอ ที่คุณไม่เคยไปสวนสนุกเลยสักครั้งน่ะ?” ชารอนครุ่นคิด อดไม่ได้ที่จะถามเฟนด์ยิ้มอย่างขมขื่น และคร่ำครวญออกมา “ใช่ ผมอยากจะมาที่นี่ตั้งแต่เด็ก ๆ แล้ว อย่างไรก็ตาม ครอบครัวของผมจนเกินไป ผมทำได้เพียงแค่มองคนอื่นเล่นจากด้านนอกเท่านั้น หลังจากที่ผมโตขึ้น ผมก็วุ่นอยู่กับงาน ผมเริ่มทำงานส่งอาหาร และหลังจากนั้น ผมก็ได้เป็นทหาร เพราะฉะนั้น
“คุณเคยเล่นมาก่อนรึเปล่า?” เฟนด์ถาม แล้วมองไปที่อีวอนน์ เดรค“อืมม ฉันอยากเล่นมาตลอด แต่ไม่เคยมีโอกาสได้เล่นเลย!” อีวอนน์พูด และยิ้มอย่างเข้มแข็ง“งั้นเราเข้าไปด้วยกันเถอะ! ผมสงสัยจริง ๆ ว่ามันจะเป็นยังไง ผมค่อนข้างมั่นใจเลยว่าโลกนี้ไม่มีผี และถึงมี ผมก็ไม่กลัวหรอก เพราะผมคิดว่าถ้าผีนั่นดีจริง เขาคงสามารถฆ่าปีศาจที่จะเข้ามาหาเขาได้!” เฟนด์พูดอย่างไม่แยแส “ใช่ เราลองไปกันเถอะ แต่คุณต้องสัญญานะ ว่าคุณจะดูแลพวกเราไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม?” ชารอน จอร์จพูดแทรกขึ้นมา มันเป็นโอกาสที่หายากมากที่จะได้ออกมาเที่ยวกับเฟนด์ และเธอก็คงไม่มีทางพลาดโอกาสนั้นไปแน่“ใช่ ถ้าคุณไปด้วย ฉันก็จะลองดู!”ทันย่าหัวเราะ ก่อนจะพูดว่า “จริง ๆ และฉันก็ค่อนข้างสงสัยเหมือนกัน ฉันได้ยินมาว่า ผีที่ว่า จริง ๆ แล้วก็คือคนแต่งตัวเป็นผีนั่นแหละ มันจะน่ากลัวสักแค่ไหนกันเชียว!”“ฮ่าฮ่า งั้นไปกันเถอะ!” เฟนด์พูดขึ้นมา ก่อนจะเดินเขาไปในบ้านผีสิงพร้อมสาวสวยทั้งสามคน“อ๊า!” เพียงไม่กี่ก้าวเท้านั้น ชารอน จอร์จพบว่าตัวเธอนั้นขี้กลัวมาก ๆ และจับแขนของเฟนด์แน่น หน้าของเธอดูเหมือนจจะหดลง แล้วเธอก็แสดงท่าทีที่กลัวอย่างสุดขีด