บทที่ 4

หลังจากที่ทัง โรลชูวและซอง อันยีทานข้าวเสร็จเรียบร้อยแล้วพวกเธอก็กลับไปที่ทำงาน

ทั้งสองเดินเข้ามาที่ทำงานเห็นเพื่อนร่วมงานหลายคนยืนดูอะไรบางอย่างในคอมพิวเตอร์และคุยกันเสียงดัง

“โอ้วมายก้อด! นี่มันผู้ชายจริง ๆ ใช่ไหม? ไม่เว่อร์เกินไปหน่อยเหรอ!”

“มันต้องมีอะไรบางอย่างที่เร่าร้อนเกิดขึ้นข้างในนั้นอย่างแน่นอน!”

“จี ยินเฟงเป็นคนรักษาภาพพจน์มาตลอด เขาพลาดตกเป็นเป้าของปาปารัสซีได้ยังไง? ฉันกลัวว่าจะทำให้ภาพพจน์ที่เขาสร้างมาทั้งหมดพังกันพอดี”

“เฮ้! โรลชูว อันยี มาดูนี่สิ เขาตั้งชื่อเรื่องว่า “ทายาทแห่งจีกรุ๊ปพาหญิงสาวจากไนท์คลับไปที่โรงแรม ออกมาอีกทีหลังจากผ่านไป 3 ขั่วโมง”

เพื่อนร่วมงานกวักมือเรียกซอง อันยีและทัง โรลชูวให้มาดู

ทัง โรลชูวและซองอันยีหยุดมองหน้ากันและรีบเดินเข้าไปดูทันที

ข่าวของจี ยินเฟงและหญิงสาวลึกลับแพร่กระจายไปทั่วโลกออนไลน์ ปาปารัสซีถ่ายรูปเขาได้ในขณะที่เขาก้มตัวลงจูบผู้หญิงคนนั้นอย่างดูดดื่มขณะโอบอ้อมแขนรอบตัวเธอ

ด้วยความที่เขาเป็นทายาทของจีกรุ๊ป จี ยินเฟง รักษาภาพลักษณ์ของตัวเองมาตลอด เขาดูเป็นสุภาพบุรุษในที่สาธารณะ ดังนั้น เขาจึงเป็นที่ชื่นชอบในสังคมออนไลน์มาก

“หึ! เขาเป็นคนแย่มาก ๆ” ซอง อันยีพูดและหัวเราะเยาะ จากนั้นเธอก็หันไปหาโรลชูวและพูดว่า “ไปกันเถอะแก อย่าไปดูโพสต์พวกนั้นให้เสียสายตาเลย”

ทัง โรลชูวกลับไปนั่งที่โต๊ะของเธอโดยไม่พูดอะไรแม้แต่คำเดียว ถึงแม้ว่าโพสต์นั้นจะมีผลต่อความรู้สึกของเธอก็ตาม

ไม่นานหลังจากที่เธอนั่งลง จี ยินเฟงก็โทรเข้ามาหาเธอ

ทัง โรลชูวคิดอยู่สักพักหนึ่งก่อนที่จะรับสาย แต่เธอไม่มีโอกาสที่จะได้พูดก่อน จี ยินเฟงพูดด้วยความโกรธว่า “ทัง โรลชูว ผมไม่คิดเลยว่าคุณจะทำแบบนี้จริง ๆ นี่เป็นการแก้แค้นของคุณใช่ไหม? คุณตั้งใจใช้รูปเหล่านั้นเพื่อที่จะทำให้ผมเลิกกับพี่สาวของคุณงั้นเหรอ?”

เมื่อทัง โรลชูวได้ยินเรื่องที่เขาพูด เธอถึงกับงงแล้วพูดว่า “ฉันไม่เข้าใจว่าคุณพูดเรื่องอะไรอยู่”

“อย่าแกล้งทำมาเป็นไม่รู้ โรลชูว โรลโรลบอกกับผมหมดทุกอย่างแล้ว! และผมก็รู้อีกด้วยว่าคุณรู้ว่าเราแอบคบกันอยู่ เพราะงั้นคุณก็เลยต้องการประกาศให้ทุกคนรู้ใช่ไหม? โรลชูว ผมจะทำให้คุณรู้ว่าคุณไม่ควรทำอย่างนี้ โรลโรลเป็นพี่สาวของคุณ เพราะฉะนั้นคุณไม่ควรเขียนข่าวว่าเธอเป็นผู้หญิงจากไนท์คลับ และที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งนะ คุณไม่ควรประกาศข่าวนี้ในขณะที่เธอกำลังตั้งท้องอยู่” จี ยินเฟงพูดอย่างนั้นรู้สึกผิดหวังมากกับการกระทำของทัง โรลชูว

ทัง โรลชูวไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เธอได้ยิน มันควรจะเป็นความอบอุ่นจากแสงอาทิตย์ในเดือนมิถุนายน แต่เธอรู้สึกหนาวเย็นเหมือนกับอยู่ในถ้ำน้ำแข็ง

‘ฮ่า ๆ ไร้สาระมาก!’

เขาเป็นคนที่นอกใจเธอนะ แต่เขากลับไม่รู้สึกเสียใจ ไม่เอ่ยขอโทษ ไม่มาอธิบาย เมื่อเขาโทรหาเธอ แต่กลับโทรมาเพื่อด่าทอแล้วก็กล่าวหาเธอ

นี่คือผู้ชายที่เธอรักมานานกว่า 10 ปี

ทัง โรลชูวช่างน่าสงสารจริง ๆ

“ใช่แล้วล่ะ ฉันต้องการแก้แค้นพวกคุณ” ทัง โรลชูวพูดอย่างเย็นชาและไม่แสดงอาการว่าเธอรู้สึกเสียใจ ทั้งที่ในใจของเธอมันทั้งเจ็บปวดและทรมานมาก เธอพูดต่อว่า “จี ยินเฟง ทำไมคุณไม่ถามตัวเองก่อนว่าฉันเคยทำให้คุณเสียใจไหมตอนที่เราคบกัน? คุณเป็นคนที่หักหลังฉันก่อน เพราะฉะนั้นฉันไม่คิดว่าฉันได้ทำอะไรผิดกับคุณ”

“ฉันผิดหวังกับเธอมากจริง ๆ ฉันไม่คิดว่าเธอจะเป็นผู้หญิงที่เจ้าคิดเจ้าแค้นขนาดนี้” จี ยินเฟงพูดด้วยน้ำเสียงที่ผิดหวัง

“ฉันก็ไม่เคยคิดมาก่อนว่าคุณจะแอบไปคบกับกู โรลโรลเหมือนกัน” ทัง โรลชูวพูดประชด “จี ยินเฟง คุณควรบอกฉันให้เร็วกว่านี้สิ ถ้าคุณคิดว่าฉันไม่คู่ควรกับคุณ ฉันจะหลีกทางให้คุณเอง แต่คุณกับใช้วิธีนี้ มันไม่ดูโหดร้ายเกินไปหน่อยเหรอ?”

“พูดอะไรไปตอนนี้ก็คงจะไม่มีประโยชน์แล้วล่ะ โรลชูว แล้วคุณจะเสียใจกับสิ่งที่คุณทำลงไป!” จี ยินเฟงพูดก่อนตัดสาย

ทัง โรลชูวจ้องมองโทรศัพท์แล้วหัวเราะขึ้นมา

พวกเขาเป็นเหมือนรักแรกของกันและกัน แต่ตอนนี้ ความสัมพันธ์ของพวกเขาดูเหมือนเป็นเรื่องตลกไร้สาระ แล้วเธอก็เพิ่งรู้ว่าเธอเป็นคนโง่ที่สุด

โรลชูว แกไม่น่ายอมรับเรื่องนี้ในเมื่อแกไม่ได้เป็นคนทำ…” ซอง อันยีโผล่มา เธอได้ยินทุกอย่างที่พวกเขาคุยกันและรับไม่ได้ที่จี ยินเฟงด่าเพื่อนของเธอ

หากเขาอยู่ตรงหน้าเธอ เธอแทบจะฆ่าเขาได้โดยไม่ลังเล

อย่างไรก็ตาม เธอกังวลว่าเพื่อนของเธอจะรับความรู้สึกทั้งหมดนี้คนเดียวไม่ไหว

“ยังไหวอยู่แก เรื่องนี้มันทำให้ฉันชนะได้ง่ายขึ้น” ทัง โรลชูว พูดพร้อมกับถอนหายใจเข้าลึก ๆ และยิ้มให้กับเธอ

ถึงแม้ว่าเธอจะเสียใจมากแต่เธอจะไม่ยอมถูกพวกเขาทำร้ายอยู่ฝ่ายเดียว

ทั้งสองคนจี ยินเฟงและกู โรลโรล พวกเขาจะต้องชดใช้!

“ไปกันใหญ่แล้วจริง ๆ ตอนนี้ มีบางอย่างที่ผิดปกติเกี่ยวกับข่าวนี้ มันช่างบังเอิญอะไรอย่างนี้ ดูเหมือนว่าคนอยู่เบื้องหลังต้องการให้จี ยินเฟงเป็นคนคิดว่าแกเป็นคนทำ” ซอง อันยีพูดขณะกัดฟันแน่นเพราะรู้สึกไม่พอใจแทนเพื่อนของเธอ

ทัง โรลชูวนิ่งอยู่สักพักก่อนที่เธอจะคิดอะไรขึ้นมาได้

“บางทีแกก็พูดถูก” เธอพูด

.

“‘ฮึม?” ซอง อันยีถามด้วยความสงสัยว่าทำไมเธอไม่คิดอะไรเลยในสิ่งที่พูดไปก่อนหน้านี้

“จี ยินเฟงคิดมาตลอดว่าฉันไม่รู้เรื่องของเขากับ กู โรลโรล แต่ตอนนี้เขากลับบอกว่าฉันเป็นคนที่ออกข่าว ดังนั้นกู โรลโรลจะต้องอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้แน่นอน! เขาต้องการให้จี ยินเฟงเกลียดฉันและลืมความรู้สึกดี ๆ ที่เคยมีให้กัน และเธอก็ทำสำเร็จจริง ๆ!” ทัง โรลชูวพูดอย่างข่มขืน

เมื่อซอง อันยีได้ยินเช่นนั้นก็รู้สึกโกรธขึ้นมาทันทีและพูดอย่างโกรธเกรี้ยวว่า “มันช่างน่ารังเกียจ ไร้ยางอาย หน้าด้านหน้าทนจริงๆ! ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าหล่อนจะใช้วิธีสกปรกเช่นนี้แย่งเขาไป ฉันรู้จักหล่อนมากขึ้นก็ตอนนี้แหละ คน ไร้ยางอาย! หึ! น่าโมโหจริง ๆ อยากจะถลกหนังคู่รักคู่นี้ออกมาจริง ๆ…”

ในขณะที่ฝั่งของทัง โรลชูวกำลังมีเรื่องวุ่นวายนั้น มู่ หลิงก็เดินเข้ามาในห้องทำงานของประธานใหญ่ของธันเดอร์โบลท์ เอนเตอร์เทรนเมนต์กรุ๊ปและวางเอกสารจำนวนหนึ่งลงบนโต๊ะทำงานของลู ชินจิน

“ท่านครับ นี่เป็นข้อมูลทุกอย่างที่ท่านต้องการครับท่านประธานลู” เขาพูด

“อืม” เขาหันมาจากคอมพิวเตอร์แล้วหยิบเอกสารบนโต๊ะของเขาขึ้นมา

เอกสารนี้มีข้อมูลและรายละเอียดเกี่ยวกับทัง โรลชูว ประวัติทุกอย่างตั้งแต่วัยเด็ก ครอบครัวความรัก การทำงานและประวัติทุกคนที่เกี่ยวข้องกับเธอ ทุกอย่างได้บอกเอาไว้อย่างชัดเจน

ลู ชินจินหยิบเอกสารจากบนโต๊ะ คิ้วของเขาขมวดเป็นปมและมีประกายในแววตาเมื่อเขาอ่านเอกสารนั้น

จิตใจของมู่ หลิงลงไปกองอยู่ที่พื้นเมื่อเห็นลู ชินจินมีท่าทีที่ไม่พอใจ

ปกติแล้วเขาจะไม่แสดงออกชัดเจนเช่นนี้ แต่เห็นได้ชัดเมื่อเขาอ่านเอกสารเหล่านั้น

นี่เป็นครั้งแรกที่มู่ หลิงเห็นลู ชินจินสนใจผู้หญิงขนาดนี้ เขารีบรายงานต่อไปว่า “ท่านครับ มีเรื่องที่น่าสนใจเกิดขึ้นเมื่อบ่ายวันนี้ ไทม์ เอนเตอร์เทนเมนต์ ทิ้งระเบิดลูกใหญ่เกี่ยวกับสถานะ การคบกันของจี ยืนเฟง หลังจากผมสืบดูก็พบว่ากู โรลโรลเป็นคนปล่อยข่าว ผมกลัวว่าเธอจะโยนความผิดทั้งหมดให้กับคุณลู ตอนนี้ จีกรุ๊ปกำลังจัดการแถลงข่าว ผมกลัวว่าจะเกิดภาพลักษณ์ที่ไม่ดีกับบคุณลู”

ดวงตาของลู ชินจินหลี่ลง เขาถามว่า “ตอนนี้เธอที่อยู่ไหน?”

“เธอกำลังทำงานอยู่ที่ออฟฟิศของเธอครับ” มู่ หลิงกล่าว

ลู ชินจินใช้เวลาคิดอยู่สักพัก ในที่สุดเขาก็ลุกขึ้นจากโต๊ะทำงานและคว้าเสื้อที่แขวนอยู่ขึ้นมาใส่ “ไปเตรียมรถให้พร้อมและติดต่อกับผู้จัดการของไทม์ เอนเตอร์เทรนเมนต์ บอกเขาว่าฉันต้องการจะคุยด้วยเกี่ยวกับการลงทุนภาพยนตร์ก่อนหน้านี้” เขากล่าว

“ครับท่าน!” มู่ หลิงพยักหน้าและออกจากห้องทำงานไปทันที