Share

บทที่ 10

ทัง โรลชูวย้ายออกจากบ้านในเช้าของอีกวันหลังจากที่ทะเลาะกับทัง ซอง

ลู ชินจินให้มู่ หลิงมารับทัง โรลชูว เธออดไม่ได้ที่จะหันกลับไปมองบ้านของเธอที่เคยอยู่ด้วยความรู้สึกอันหนักอึ้ง

ที่นี่เคยเป็นบ้านของเธอมานานกว่ายี่สิบปี เธอรู้สึกไม่ชินเท่าไหร่ที่จะต้องย้ายออกไป

อย่างไรก็ตาม เธอไม่ได้หมกมุ่นกับความรู้สึกนั้นนานเท่าไหร่

เพราะเธอไม่เหลือเยื่อใยให้กับบ้านหลังนั้นแล้ว

คฤหาสน์ของลู ชินจินอยู่ในพื้นที่ที่เรียกว่ามังกรหลวงวิว ตั้งอยู่ทางตอนใต้ที่รุ่งเรืองของเมือง อย่างไรก็ตาม มันอยู่ในย่านที่ค่อนข้างจะเงียบสงบห่างจากความวุ่นวายภายในเมือง ภายในชุมชนมีรั้วรอบขอบชิดอย่างสวยงามพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกแบบสุดหรูและมีการรักษาความลับเป็นชั้นหนึ่ง ไม่ใช่ทุกคนที่มีเงินจะสามารถซื้อคฤหาสน์นี้ได้ ผู้อาศัยส่วนใหญ่จะร่ำรวยและเป็นคนใหญ่คนโต

ลู ชินจินรออยู่ที่นั่นเมื่อมู่ หลิงพาทัง โรลชูวมาส่งที่คฤหาสน์ของเขา

เขาสวมสูทสีน้ำเงินเข้ม ตัดเย็บด้วยความประณีตและดูเรียบง่ายและเนคไทที่สวยงามโดยรวมแล้วทำให้เขาดูสง่างามและสูงส่ง ตาสีเข้มของเขา ทั้งยาวและดูลึกความเย็นชาของเขาทำให้ไม่สามารถรู้ได้เลยว่าเขาคิดอะไรอยู่

ทัง โรลชูวอดไม่ได้ที่จะตกตะลึง ผู้ชายคนนี้เป็นคนที่มีเสน่ห์อยู่ตลอดเวลาจริง ๆ

“นั่นคือของทุกอย่างที่คุณมีเหรอ?” ลู ชินจินเดินเข้าไปหาเธอและชี้ไปที่กระเป๋าเดินทางที่อยู่ข้างหลังของเธอ

ทัง โรลชูวตั้งสติ เธอฝืนยิ้มและถามออกไปว่า “ทำไมเหรอคะ? มันดูน้อยเกินไปเหรอ?”

“เปล่า คฤหาสน์ของผมไม่ใหญ่มาก แต่ของของคุณก็ดูน้อยเกินไป แต่มันก็ไม่ใช่ปัญหาหรอก เอาไว้คุณค่อยซื้อทุกอย่างที่ต้องการในภายหลัง” ลู ชินจินพูด

เขาเรียกคนรับใช้ออกมาเอากระเป๋าของเธอขึ้นไปเก็บที่ชั้นบน ในเวลานั้น คิ้วของเขาก็ขมวดขึ้นขณะมองไปที่เธออย่างน่าสงสัย “ทำไมคุณดูไม่ค่อยดีนัก? เมื่อคืนคุณไม่ได้นอนเหรอ?”

ทัง โรลชูวชะงัก เธอพยักหน้าอย่างจริงจังแล้วพูดว่า “ฉันนอนไม่ค่อยหลับค่ะ”

เธอรู้สึกผิดหวังมากกับครอบครัวของเธอ แล้วเธอจะหลับลงได้ยังไง?

ลู ชินจินมองไปที่เธอก็รู้ทันทีว่าเธอผ่านอะไรมาบ้าง เขายื่นมือออกไปลูบแก้มของเธอและพูดว่า “ต่อไปนี้ไม่มีใครมารังแกคุณได้อีกแล้วเมื่อคุณอยู่กับผม”

มือใหญ่ ๆ ของเขาดูอบอุ่นอย่างไม่น่าเชื่อ

ทัง โรลชูวยิ้มอย่างสดใสและพูดว่า “ฉันเชื่อคุณค่ะ”

“เราขึ้นไปดูชั้นบนกันไหม?” ลู ชินจินพูด

เขายกมือลงและใช้คำพูดด้วยการส่งสายตาที่ลึกซึ้ง

ทัง โรลชูวพยักหน้าและพูดว่า “ไปสิคะ”

จากนั้นทั้งสองก็เดินขึ้นไปที่ชั้นบน ภายในแต่ละห้องนั้นดูกว้างขวางมาก มีการตกแต่งอย่างหรูหราแต่ดูเรียบง่ายตามสไตล์ของลู ชินจิน

ทัง โรลชูวมองไปรอบ ๆ ห้องและดูเหมือนว่าทุกอย่างภายในห้องจะถูกจัดเรียงใหม่ ดูเหมือนว่านอกจากเฟอร์นิเจอร์สำหรับผู้ชายแล้ว จะมีเฟอร์นิเจอร์สำหรับผู้หญิงอีกด้วย ตู้เสื้อผ้าถูกแบ่งออกเป็นสองส่วน เห็นได้ชัดว่าเขาได้เตรียมเอาไว้ให้เธอ

“ชอบหรือเปล่า?” ลู ชินจินเดินไปที่ตู้ไวน์ก่อนจะรินไวน์แดงสองแก้วพร้อมถามทัง โรลชูว จากนั้นเขาก็เดินเข้าไปหาเธอ

ทัง โรลชูวรับแก้วไวน์มาจากเขา ใบหน้าของเธอแดงระเรื่อ เธอพูดว่า “นี่...เราต้องนอนห้องเดียวกันเหรอคะ?”

“มันเป็นเรื่องธรรมดาของคนที่แต่งงานกันแล้ว!” ลู ชินจินพูดอย่างไม่รู้สึกอะไรในขณะที่เขากำลังจิบไวน์อยู่

ทัง โรลชูวเคอะเขิน เธออดไม่ได้ที่จะมองไปที่เตียงขนาดใหญ่ที่อยู่ตรงหน้า

มันเป็นเตียงเดี่ยว ทุกอย่างดูใหม่อย่างเห็นได้ชัดเจน เตียงนอนได้รับการตกแต่งอย่างสวยงามและมีกลีบกุหลาบกระจัดกระจายอยู่เต็มเตียง ซึ่งกุหลาบถูกจัดเรียงเป็นคำว่า “ขอให้มีความสุขในการแต่งงาน” เหมือนจะเป็นความคิดที่ดีในการเพิ่มบรรยากาศให้โรแมนติกมากยิ่งขึ้น

ทัง โรลชูวคิดว่าลู ชินจินจะจัดให้เธอนอนคนเดียว แต่ก็เห็นได้ชัดแล้วว่าเขาบอกว่าเธอจะต้องนอนเตียงเดียวกับเขา

เธอรู้สึกเขินอายมาก แก้มของเธอมีสีแดงจนไปถึงลำคอที่เรียวสวยของเธอก็เปลี่ยนเป็นสีชมพูระเรื่อ

ลู ชินจินมองไปที่เธอด้วยรอยยิ้มบาง ๆ เมื่อเห็นว่าเธอเขินอาย เขายกมือขึ้นมาจับที่คางของเธอและยกหน้าของเธอขึ้นก่อนจะพูดว่า “คุณผู้หญิง ผมเคยสัญญาเอาไว้ว่าผมจะไม่แตะต้องตัวคุณ นี่คุณกำลังทดสอบความอดทนของผมอยู่ใช่ไหม?”

เสียงของเขาทุ้มต่ำนุ่มนวลราวกับดนตรีอันไพเราะ

เธอรู้สึกได้ถึงลมหายใจอุ่น ๆ ที่พุ่งเข้ามาผสมกับกลิ่นโคโลญจน์ที่สดชื่นและสง่างามของเขา เธอสัมผัสได้ถึงออร่าของผู้ชายคนนี้ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์แห่งความยั่วยวน

หัวใจของเธอเต้นไม่เป็นจังหวะจนเธอรู้สึกประหม่าเล็กน้อย

เธอไม่ใช่คนที่เข้าใจอะไรยาก เธอรู้ทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น

เธออดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลายอย่างประหม่า จนไม่รู้จะทำตัวยังไง

ดวงตาของลู ชินจินเปลี่ยนไปเมื่อเห็นความประหม่าของเธอ ใบหน้าของเขามีรอยยิ้มบาง ๆ เขาพูดออกมาว่า “ไม่ต้องเป็นห่วง ผมได้ให้สัญญากับคุณเอาไว้แล้วว่าจะไม่แตะเนื้อต้องตัวคุณเมื่อคุณยังไม่พร้อม”

เมื่อได้ยินสิ่งที่เขาพูดเธอก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก เธอแอบขอบคุณในความเป็นสุภาพบุรุษของเขา

หลังจากที่พวกเขาจดทะเบียนสมรสไป ดูเหมือนว่าลู ชินจินจะเป็นคนจัดการทุกอย่าง ตั้งแต่การทานอาหารค่ำอย่างโรแมนติก รวมไปถึงการที่เขาไปช่วยเธอเอาไว้ที่ในบริษัทของเธอ

เธอเป็นคนเรียกร้องให้เขาแต่งงานกับเธอ แต่ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ได้ทำอะไรเพื่อเขาเลย

ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้?

เมื่อทัง โรลชูวนึกถึงสิ่งนี้ เธอก็อดไม่ได้ที่จะกัดฟันแน่น ก่อนจะตัดสินใจยกมือขึ้นมาคว้าที่มุมเสื้อของลู ชินจินทันที

“ฮืม?” ลู ชินจินหันมามองเธอด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย

ทัง โรลชูวหลบสายตาและพูดอย่างเคอะเขินว่า “ถ้าคุณต้องการมันจริง ๆ ฉัน...จะไม่ขัดข้องเลย เรา...เราแต่งงานกันแล้ว มันจะเกิดอะไรขึ้น...ก็คงต้องปล่อยให้มันเป็นไป ฉันยินดี...และฉันก็ยอมรับได้”

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status