หลังจากเสียงกรีดร้องและการต้อต้านของ หยาง เฉียนเฉียน ดังขึ้นนั้น ทัง โรลชูว ก็ถอดผ้าพันแผลที่หน้าผากของเธอออกและเปิดแผลเล็ก ๆ นั่นมันเป็นบาดแผลเล็ก ๆ“หยาง เฉียนเฉียน เธอคิดว่าสถานีตำรวจเป็นของเธอเหรอ?” ทัง โรลชูว โยนผ้าพันแผลลงบนร่างกายของ หยาง เฉียนเฉียน “หรือเธอคิดว่าตัวเองร่ำรวยพอที่จะส่งอันยีเข้าคุกเพียงแค่ใช้เส้นสายของเธอ?”เมื่อเห็นว่าเธอถูกเปิดเผย หยาง เฉียนเฉียน ก็หยุดแกล้งและพูดว่า "แล้วถ้าเป็นเรื่องจริงล่ะ? ในสายตาของฉัน ซอง อันยี ก็เป็นแค่มดตัวเล็กที่กำลังจะถูกฉันขยี้ด้วยมือของฉันไง”น้ำเสียงเย่อหยิ่งของ หยาง เฉียนเฉียน ทำให้ เสี่ยวเซียว โกรธ เธอกำลังจะตบ หยาง เฉียนเฉียน แต่ ทัง โรลชูว ดึงเธอออกไป “เสี่ยวเซียว อย่าประมาทนังคนนี้”“แต่...” เสี่ยวเซียวแทบคลั่งด้วยความโกรธทัง โรลชูว อธิบายว่า "เสี่ยวเซียว เมื่อสุนัขกัดเธอ เธอจะกัดสุนัขกลับไหม?""ทัง โรลชูว ใครกันแน่ที่เป็นสุนัข?"จากนั้น เสี่ยวเซียว ก็เข้าใจความหมายทันทีและโต้กลับ "ใครก็ได้ ที่กำลังร้อนตัวอยู่"ทำให้คนนั้นโกรธได้สำเร็จ ขณะที่เธอพูด เธอก็ทำหน้าตลกใส่ หยาง เฉียนเฉียน เธอลืมตาขึ้นด้วยความสับสนและจ้องม
ทัง โรลชูว ให้ ลู เซียวเหยา และ เสี่ยวเซียว ไปด้วยกัน"แล้วเธอล่ะ?" เสี่ยวเซียว ถามเธอ“ฉันจะไปเยี่ยมพ่อน่ะ”ทัง ซอง ยังคงหมดสติ หมอบอกว่ายาที่ใช้ทำลายระบบประสาทส่วนกลางของสมองอย่างรุนแรง แม้ว่าเขาจะตื่นขึ้นมาเขาก็อาจจะเป็นเจ้าชายนิทราเซา เสี่ยวหวัน และลูกสาวของเธอมาอยู่กับตระกูลทังไม่นาน หลังจากที่แม่ของเธอเสียชีวิต ทัง โรลชูว ในตอนนั้น ไม่อยากจะเชื่อว่าพ่อของเธอรักคนอื่นได้อย่างง่ายดายและรวดเร็วขนาดนี้ เธอจึงเกลียดพ่อของเธอมาโดยตลอดความสัมพันธ์ของเธอกับพ่อจึงแย่มากในช่วงหลายปีที่ผ่านมาพอมาคิดได้ตอนนี้ เธอไม่ฉลาดเลยในตอนนั้น ความสัมพันธ์ของเธอและพ่อไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เธอจึงเปิดโอกาสให้เขาไปหา เซา เสี่ยวหวัน และลูกสาวของเธอ ซึ่งนั้นเป็นสิ่งที่คนสองคนนั้นต้องการมากเธอเป็นคนโง่จริง ๆ!ทัง โรลชูว ว่าให้ตัวเองก่อนที่จะจับมือที่เย็นเฉียบของพ่อของ เธอพึมพำ “พ่อคะ ถ้าตอนนั้นพ่อไม่เข้าข้าง กู โรลโรล ขนาดนั้น พวกเราก็คงไม่ต้องมาอยู่ในสภาพนี้ พ่อก็จะได้ไม่ต้องเป็นอย่างนี้เพราะ เซา เสี่ยวหวัน และลูกสาวของเธอ”“คราวนี้ หนูจะไม่ปล่อยพวกนั้นไปเด็ดขาด พ่อจะไม่ต้องไปอยู่กับคนพวกนั้นแล้วนะ
ฉันไม่เหนื่อยหรอกตราบใดที่มีคุณอยู่ข้าง ๆ ฉันเสียงของเขาสั่นเล็กน้อย ราวกับว่าเขากำลังพยามที่จะข่มความรู้สึกที่ล้นหลามของเขาทัง โรลชูว เม้มปากเเน่น อีกมือกุมที่หน้าอกของเธอ ดวงตาคู่สวยเอ่อล้นไปด้วยน้ำตาแห่งความเจ็บปวด ทำให้เธอยิ่งดูน่าสงสารเข้าไปอีก“ผมคงไม่สามารถที่จะควบคุมตัวเองได้ ถ้าคุณยังมองผมด้วยสายตาแบบนั้นอยู่”ลู ชินจิน ยิ้มพร้อมทั้งพูดกึ่งติดตลกกึ่งจริงจังว่าถ้าไม่ใช่เพราะสถานที่ เขาคงจะกอดเธอแน่นพร้อมกับจูบริมฝีปากแดงนุ่มนิ่มนั่นแล้วได้ยินเช่นนั้น ทัง โรลชูว ก็เลิกคิ้วสูง สายตาของเธอฉายแววซุกซน และจู่ ๆ เธอก็พุ่งตัวจู่โจมจูบที่ริมฝีปากของเขาดวงตาของเขาสะท้อนแสงวิบวับในขณะที่เขาโอบกอดเธอแน่น ไม่อยู่เฉย เขาจูบเธอกลับ ลิ้นของเขาทำให้เธอสูญเสียประสาทรับรสของตัวเองไปเธอค่อย ๆ ตอบรับเขาอย่างเขินอาย แต่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกแรงกล้า เมื่อลิ้นของทั้งสองบรรจบกัน บรรยากาศก็เริ่มร้อนแรงขึ้นหนุ่มสาวสูญเสียการควบคุมตัวเอง ก่อนที่เขาจะไม่สามารถห้ามใจตัวเองได้ ลู ชินจิน ถอนจูบอย่างไม่ค่อยเต็มใจ จ้องมองไปยังริมฝีปากน่ารักของเธอด้วยสายตาร้อนแรง เขาสัมผัสลูบไล้ฝีปากเธ
เธอจ้องมองพ่อของเธออย่างแน่วแน่ก่อนจะเดินออกจากห้องไปหลังจากที่เธอหันหลังกลับ หยดน้ำตาไหลลงมาอาบแก้มพ่อของเธอ ภายในห้องเงียบสงัดไม่มีเสียงอื่นใดนอกจากเสียงของเครื่องวัดคลื่นหัวใจที่ยังคงทำงานต่อไปทัง โรลชูว เดินทางออกจากโรงพยาบาลและตรงไปยัง ทัง กรุ๊ป ทันทีเมื่อเข้ามาถึง แผนกต้อนรับส่วนหน้า เธอถูกห้ามไว้“คุณคะ คุณได้นัดไว้หรือเปล่าคะ?”นับตั้งแต่ความสัมพันธ์ระหว่างเธอและพ่อย่ำแย่ลง เธอก็แทบจะไม่ได้มาที่ ทัง กรุ๊ป อีกเลย ไม่แปลกที่จะไม่มีใครจำเธอได้“ฉันไม่ได้นัดไว้” ทัง โรลชูว ตอบกลับอย่างซื่อตรง“ถ้าอย่างนั้นเราคงไม่สามารถให้คุณเข้าไปได้” สาวสวยที่ทำงานเป็นแผนกต้อนรับส่วนหน้ายิ้มให้เธออย่างสุภาพทัง โรลชูว เลิกคิ้วสูง “ฉันเป็นลูกสาวของท่านประธานทัง ชื่อ ทัง โรลชูว”เธอยื่นบัตรประชาชนให้พนักงานดูพนักงานสาวสวยถึงกับตะลึงไปชั่วขณะก็จะตอบอย่างนุ่มนวลว่า “ต้องขอโทษด้วยจริง ๆ ค่ะ แม้ว่าคุณจะเป็นลูกสาวของท่านประธานแต่คุณก็ไม่สามารถเข้าไปได้ถ้าไม่ได้นัดไว้ค่ะ” “เธอเริ่มทำงานที่นี่ตั้งแต่เมื่อไหร่?” ทัง โรลชูว ถามขึ้นหญิงสาวชะงักไปเล็กน้อย “ช่วงครึ่งปีหลังของปีที่แล้วค่ะ”นั
หลังจากที่ได้ยืนยันตัวตนของผู้หญิงคนนั้น และเธอเองก็ไม่ชอบ กู โรลโรล หญิงสาวพนักงานต้อนรับก็ยอมให้ ทัง โรลชูว ผ่านเข้าประตูไปหลังจากพูดคุยกับลุงหยาง ทัง โรลชูว ก็ได้ทราบว่าพนักงานเก่าแก่ที่เคยอยู่ร่วมก่อตั้งบริษัทกับพ่อของเธอถูกไล่ออกไปหลายคนลุงหยางบอกว่า ทัง กรุ๊ป คงจะถูกทำลายลงในไม่ช้า ถ้าเหตุการณ์แบบนี้ยังคงเกิดขึ้นเรื่อย ๆทัง โรลชูว เดินตรงไปยังชั้นที่ห้องทำงานผู้บริหารตั้งอยู่ ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิมอย่างที่เธอจินตนาการไว้ ยกเว้นก็แต่เหล่าคุณลุงคุณป้าที่ครั้งหนึ่งเคยเรียกเธอว่า “ชูวชูว” ด้วยความรักและเอ็นดู ซึ่งตอนนี้ไม่อยู่แล้ว“ยินเฟง ฉันไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับการบริหารจัดการองค์กรเลย ถ้าฉันได้สืบทอด ทัง กรุ๊ป ฉันจะยกมันให้คุณ คุณคิดว่ายังไงคะ?”ประตูของห้องทำงานไม่ได้ปิดสนิท มันเปิดแง้มอยู่ ทำให้ใครก็ตามที่ผ่านไปผ่านมาสามารถได้ยินบทสนทนาได้“นั่นคงไม่เหมาะนัก บริษัทนี้คือผลพวงของการทำงานอย่างหนักของพ่อของคุณ ผมคิดว่าคิดว่ามันคงดูไม่ดีถ้าคุณจะยกมันให้ผม” ได้ยินคำปฏิเสธของ จี ยินเฟง เธอเบ้หน้าให้กับความเสแสร้งที่แฝงอยู่ของเขา“ยินเฟง ไม่มีอะไรเสียหายหรอกค่ะ เพราะพอเ
ณ ขณะนั้น หัวใจของเธอถูกเติมเต็มไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย เธอรู้สึกแย่มาก ๆเธอสัมผัสรูปภาพอย่างแผ่วเบา และจ้องเขม็งไปยังผู้หญิงด้านหลังเธอ เธอข่มเสียงต่ำเพื่อเตือนเธอ “กู โรลโรล เธอก็รู้ว่าพ่อของฉันดูแลเธอและแม่เธออย่างดี ถ้าเธอยังยืนยันที่จะทำแบบนี้ต่อไป ฉันจะไม่มีวันปล่อยเธอไปแน่” จี ยินเฟง ไม่ได้ปริปากพูดอะไรสักคำตลอดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เเม้กระทั่งตอนที่ ทัง โรลชูว เดินออกไป เขาก็ยังคงจ้องไปที่ประตู “ยินเฟง” กู โรลโรล ผลักเขาอย่างไม่สบอารมณ์ เขารู้สึกตัว หันกลับมาจ้องเธอ และถามออกมาเบา ๆ “เกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอ?” “บอกฉันมา คุณยังชอบ ทัง โรลชูว อยู่ใช่ไหม?” กู โรลโรล จ้องเขาเขม่งจี ยินเฟง มองเธอกลับอย่างเงียบ ๆ กระพริบตาปริบ ๆสักพัก เขาจึงยิ้มกรุ่มกริ้มพร้อมกับกอดเธอแน่น “จะเป็นอย่างนั้นได้ยังไง เรากำลังจะแต่งงานกันนะ ผมจะยังชอบ ทัง โรลชูว ได้ยังไงกัน”“คุณห้ามชอบเธอเด็ดขาด” กู โรลโรล ซบลงบนอกเขาอย่างว่าง่าย “ฉันให้ ทัง กรุ๊ป กับคุณได้ แต่กับ ทัง โรลชูว ฉันไม่ยอมหรอกนะ”เธอไม่ได้เห็นสายตาอันชั่วร้ายของ จี ยินเฟงเขาต้องการ ทัง กรุ๊ปและเขาก็ต้องการ ทัง โรลชูว ด้วย!
หลังจากมื้อเย็น ลู ชินจิน อาสาเป็นคนล้างจาน ทัง โรลชูว รับหน้าที่เช็ดและเก็บไม่มีเสียงพูดคุยระหว่างพวกเขาแต่ทั้งคู่ก็เพลิดเพลินกับความเงียบที่เเสนสบายใจทัง โรลชูว หันไปมองสายน้ำที่ไหลลงบนมือของสามีเธอ นิ้วของเขาเรียงยาวเรียวสวยไม่เหมาะเลยที่มือสวยคู่นี้จะต้องมาใช้ล้างจานเขาเต็มใจอย่างยิ่งที่จะช่วยทำอาหาร ล้างจาน หรือแม้กระทั่งทำงานบ้านต่าง ๆ ฐานะของเขาไม่จำเป็นต้องทำอะไรแบบนี้ด้วยซ้ำถ้าเธอไม่ได้รู้จักเขา และทั้งคู่ไม่ได้แต่งงานกัน เธอก็คงคิดว่าไม่มีทางที่ผู้บริหาร ลู ชินจิน แห่งธันเดอร์โบลท์ เอนเตอร์เทรนเมนต์ กรุ๊ป จะสามารถทำอาหารได้ และล้างจานเป็นคนที่เป็นถึงผู้บริหารไม่ควรที่จะต้องมาทำงานบ้านน่าเบื่อเหล่านี้แต่ความคิดเหล่านั้นก็กลับกลายเป็นอีกอย่างเมื่อเธอได้แต่งงานกับเขาคิดได้เช่นนั้น เธอก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา“มีอะไรงั้นเหรอ?” ลู ชินจิน หันกลับมามองเธอพร้อมกระซิบถาม“เปล่าค่ะ” ทัง โรลชูวส่ายหน้า “แค่คิดว่าคุณนี่น่าทึ่งจริง ๆ”ลู ชินจิน มองไปที่เธอ สายตาที่เขาจ้องมองเธอมันช่างนุ่มลึกราวกับห้วงมหาสมุทรเธอรู้สึกเขินอายเล็กน้อยที่โดนจับจ้องเช่นนั้น เธอหันหน้าก
เธอยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นสักพักก่อนที่จะกลับห้องของเธอภายในห้องเงียบสงัด ผ้าม่านปิดแน่น ไฟในห้องสลัวมีเพียงโคมไฟที่อยู่บนผนังเท่านั้นที่ให้แสงสว่างลู ชินจิน ค่อย ๆ เปิดประตูและเดินเข้าไปในห้อง สายตาของเขาจับจ้องไปยังก้อนบางอย่างบนเตียง ดวงตาของเต็มไปด้วยความอารมณ์หลากหลายลุ่มลึกยิ่งกว่าทะเลสาบแต่ไม่แสดงความรู้สึกอะไรออกมาบางสิ่งในหัวใจเขากระตุกเมื่อเขาก้มลงบรรจงจูบที่หน้าผากของเธอขนตา ทัง โรลชูว สั่นไหวขณะที่เธอกุมผ้าห่มของเธอแน่น เธอรับรู้ได้ถึงสัมผัสอันอ่อนโยนบนไปหน้าของเธอเธอกังวลว่าเขาจะจับได้ว่าเธอแกล้งนอนหลับโชคดีที่เขาไม่รู้และผละออกไปหลังจากไม่นานเธอแอบถอนหายใจอย่างโล่งใจก่อนที่เขาจะทิ้งตัวลงนอนข้าง ๆเขาไม่ได้กอดเธอ บางทีเขาอาจจะกลัวว่าจะทำให้เธอตื่นเธอกำผ้าปูเตียงแน่นก่อนที่จะปล่อยมัน กำและปล่อยกำและปล่อยอยู่อย่างนั้นทำอยู่สักพัก เธอสูดลมหายใจเข้าลึก หมุนตัวกลับไปหาเขา และวางหัวของเธอลงบนตัวเขาลู ชินจิน ตกตะลึงไปสักพักก่อนที่จะอมยิ้มออกมาเขากอดเธอแน่น “ทำไมคุณยังไม่นอนอีกล่ะ?”“ฉันนอนไม่หลับ” เธอตอบกลับเสียงเศร้าบนหน้าอกของเขา“ทำไมล่ะ?” ถามกลับอย่างอ่อ