"ครับ" ชายคนนั้นรับคำสั่งและเดินจากไปทั้งห้องเงียบสงบอีกครั้งเนื่องจากไม่มีอาการร้ายแรงอะไร ทัง โรลชูว จึงขอให้ ลู ชินจิน พาเธอไปที่โรงพยาบาลที่พ่อของเธอรักษาตัวอยู่“พ่อคะ หนูสามารถช่วย ทัง กรุ๊ป ไว้ได้แล้ว” ทัง โรลชูว ยิ้มเล็กน้อย ขณะที่เธอจ้องมองใบหน้าของพ่อที่ยังไม่ได้สติ"พ่อคะ ลุงเฉินบอกว่าตอนนี้พ่อน่าจะภูมิใจในตัวหนูมากเลยนะ พ่อคิดอย่างนั้นไหมคะ?"เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ทัง โรลชูว ก็หัวเราะเบา ๆ สองสามครั้ง "หนูรู้ว่าพ่อคงยังไม่ภูมิใจหรอก พ่อน่าจะมองว่าหนูเป็นแค่เด็กดื้ออยู่เหมือนเดิม"เธอมองเขาอย่างเงียบ ๆ รอยยิ้มบนริมฝีปากของเธอค่อย ๆ จางลง ดวงตาของเธอฉายแววความโศกเศร้าออกมา เธอหวังเป็นอย่างยิ่งว่าพ่อของเธอจะลุกขึ้นมาชี้ที่เธอ และบอกว่าเธอยังเป็นแค่เด็กดื้อ เป็นแค่เด็กที่ไม่รู้จักโตแต่พ่อของเธอก็ยังคงไม่ได้สติอยู่เหมือนเดิม เขานอนนิ่งสงบ จนเธอรู้สึกเจ็บปวดเมื่อมองเขาเธอหายใจเข้าลึก ๆ และยิ้มเล็กน้อย "พ่อคะ อีกไม่กี่วันพ่อจะได้ไปอเมริกาแล้ว หนูรู้ว่าพ่อคงจะว่าหนูที่ส่งพ่อไปยังที่ที่ไม่คุ้นเคย แต่ถ้าพ่อฟื้นขึ้นมา มันก็คุ้มที่พ่อจะต่อว่าหนู"จากนั้นเธอก็เริ่มหัวเราะทั้
ในห้องส่วนตัว มีเฟอร์นิเจอร์สวยหรู โต๊ะกลมขนาดใหญ่และเลานจ์ ทีวี ที่แขวนอยู่บนผนังที่ปูด้วยวอลล์เปเปอร์อย่างดีกำลังเล่นละครทีวียอดนิยมมีผลไม้ทุกประเภท ขนมหวาน และน้ำชาบนโต๊ะน้ำชาทัง โรลชูว นั่งอยู่บนโซฟา เธอเอื้อมมือไปหยิบเค้กที่ถูกตกแต่งอย่างสวยงาม และทันทีที่กัดลงไปกลิ่นหอมของดอกหอมหมื่นลี้ก็โชยเขาจมูกของเธอ“อันยี เสี่ยวเซียว มันอร่อยมากเลย พวกแกอยาก…กินไหม?” ทัง โรลชูว หันไปถามเพื่อนของเธอแต่แล้วเธอก็ต้องตกใจเมื่อเห็นภาพตรงหน้านี่มันเกิดอะไรขึ้น?ทั้ง ซอง อันยี และ หยิง เสี่ยวเซียว ต่างก็ร้องไห้ เสียงสะอื้นของพวกเธอดังขึ้นเป็นครั้งคราว ทั้งคู่ดูเศร้ามากทัง โรลชูว รีบวางเค้กในมือของเธอลงและเช็ดปากก่อนจะถามอย่างใจจดใจจ่อ "พวกแกเป็นอะไรไป?"หยิง เสี่ยวเซียว หันกลับมา เธอชี้ไปที่ทีวีด้วยน้ำตาคลอเบ้า "ละครทีวีนี้มันน่าสะเทือนใจเกินไป มันทำให้พวกเราร้องไห้"เธอมองไปในทิศทางที่นิ้วของเพื่อนเธอชี้ไป และพบว่าเป็นคู่รักกำลังทะเลาะกันบนหน้าจอทีวี ผู้หญิงคนนี้วิ่งจากด้านหนึ่งไปยังอีกด้านหนึ่งด้วยความโกรธ และผลก็คือมีโศกนาฏกรรมเกิดขึ้นในขณะที่ชายคนนั้นอ้าปากค้าง ผู้หญิงก็ถูกรถชน ร
ซอง อันยี ขมวดคิ้วและถามว่า "ชูวชูว กู โรลโรล จะยอมแพ้ง่ายขนาดนี้เลยเหรอ?"ทัง โรลชูว ยิ้มและส่ายหัว "ไม่ เธอคงไม่ยอมแน่ ตอนนี้เธอกับ จี ยินเฟง คงกำลังวางแผนจะจัดการฉัน"“แล้วยังไงล่ะ เราไม่เคยกลัวพวกนั้นอยู่แล้ว ตอนนี้เราไม่จำเป็นต้องกลัวเลยด้วยซ้ำ” ใบหน้าของ หยิง เสี่ยวเซียว เต็มไปด้วยความเฉยเมย เมื่อนึกถึงคู่รักที่น่ารังเกียจ กู โรลโรล และ จี ยินเฟง เธอพบว่าตัวเองรู้สึกคลื่นไส้ เธอไม่อยากเอ่ยชื่อของพวกเขาเธอจึงพยายามเปลี่ยนประเด็น "อืม อย่าพูดถึงพวกนั้นเลย ฉันรู้สึกอยากจะอ้วก มาคุยเรื่องของพวกเรากันดีกว่า"“ถ้าแกไม่ต้องการพูดถึงพวกนั้นแล้วล่ะก็...” ซอง อันยี เลิกคิ้วมองเธอพลางยิ้มอย่างมีเลศนัย "บอกฉันสิ ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างแกกับ ลู เซียวเหยา"ทัง โรลชูว ตกใจไปชั่วครู่ ถ้าอันยีไม่ขุดเรื่องนี้มาพูด เธอก็คงจะลืมไปแล้ว"ใช่ ระหว่างแกกับเซียวเหยาคืออะไร?" เธอจึงถามด้วยข้างหน้าของเธอมีตุ๊กตาสองตัวที่กำลังทำหน้าอยากรู้อยากเห็น หยิง เสี่ยวเซียว กัดริมฝีปากของเธอและครุ่นคิดอยู่สักครู่ แต่แล้วเธอก็พูดขึ้นช้า ๆ "จะมีอะไรอีกล่ะ ก็เมื่อวาน เขาชวนฉันไปเดทที่ ซี กาแล็คซี่ ใช่ไหมล่ะ?ทั
พวกเขาใช้เวลาทานอาหารเย็นไปกว่าสองชั่วโมง และเมื่อพวกเขาออกมาจากโรงแรมก็เป็นเวลากว่าสี่ทุ่มแล้วค่ำคืนของฤดูใบไม้ร่วงมันหนาวราวกับอยู่ในน้ำลมที่กระโชกแรง ทำให้ ทัง โรลชูว ตัวสั่น อากาศมันหนาวมากทันใดนั้นเสื้อโค้ทอุ่น ๆ ก็ปกคลุมไหล่ของเธอ เสียงทุ้มที่ฟังดูห่วงใยของ ลู ชินจิน ดังขึ้นข้างเธอ “สวมสิ จะได้ไม่เป็นหวัด”ทัง โรลชูว เงยหน้าขึ้นและยิ้มให้เขา จากนั้นเธอก็สวมเสื้อโค้ทของเขาอย่างเชื่อฟัง"อุ่นจัง"“CEO ลู ฉันไม่รู้ว่าคุณจะเป็นคนเอาใจใส่ขนาดนี้เลยนะ”เสียงล้อเลียนของ หยิง เสี่ยวเซียว ดังขึ้นมาจากข้าง ๆ เธอ ทัง โรลชูว หันไปมองเพื่อนของเธอ "เสี่ยวเซียว แกรู้สึกหนาวเหรอ อยากได้โค้ทของเซียวเหยาไหม?"รอยยิ้มบนริมฝีปากของ หยิง เสี่ยวเซียว หายไป บ้าเอ้ย เธอแค่ล้อเลียน CEO ลู นิดหน่อยเอง ชูวชูวก็รีบปกป้องเขาทันทีเลย แถมยังใช้ ลู เซียวเหยา เยาะเย้ยของเธออีก นี่มันผู้หญิงอะไรกัน!เมื่อเห็นแบบนี้ ซอง อันยี ก็ปิดปากของเธอแน่นและขมวดคิ้ว ดวงตาของเธอเป็นประกายด้วยแสงที่ส่องข้างทาง มันทำให้เธอดูน่ารักมากในสายตาโมเฟยเซิน โมเฟย หลงอยู่ในภวังค์ เขาต้องการสัมผัสใบหน้าของเธอ"ชินจินและฉัน
ทัง โรลชูว เม้มริมฝีปากของเธอขณะที่เธอมองเขาเดินจากไปอย่างเงียบ ๆ จู่ ๆ เธอก็รู้สึกว่าตัวเองทำผิดแต่...เธอหันกลับไปมอง ซอง อันยี ที่ตอนนี้กำลังก้มหน้า เธอถอนหายใจเบา ๆ สิ่งที่ผิดพลาดไม่สามารถแก้ไขได้ ในสถานการณ์แบบนี้เธอต้องควบคุมตัวเองและเข้มแข็ง ไม่งั้นเธอจะต้องเสียใจเรื่องในอนาคตที่มันจะต้องเจ็บปวดมากกว่านี้เธอหายใจเข้าลึก ๆ และเงยหน้าขึ้นมองไปที่ ลู ชินจิน “ไปส่งอันยีกับเสี่ยวเซียวกันค่ะ”ก่อนที่ ลู ชินจิน จะตอบ ลู เซียวเหยา ก็พูดแทรกขึ้นมา “พี่สะใภ้ผมไปส่งเอง พี่กับพี่ชายไปพักผ่อนเถอะ”"แต่..." ทัง โรลชูว มอง หยิง เสี่ยวเซียว อย่างลังเลเสี่ยวเซียวจะอึดอัดหรือเปล่านะ?แต่เสี่ยวเซียวก็เห็นด้วย "ใช่ ให้ ลู เซียวเหยา ไปส่งพวกเราเถอะ"พูดตามตรงว่า ทัง โรลชูว ก็รู้สึกอ่อนเพลียมาก ทั้งวันเธอเดินทางไปทั่วเลย ทั้งโรงพยาบาล แถมยังต้องคุยเรื่องธุรกิจอีกดังนั้นเธอจึงไม่ปฏิเสธเขาอีกต่อไป "เอาล่ะ เซียวเหยาไปส่งพวกเธอให้ดีล่ะ""ครับผม"ลู เซียวเหยา หยิง เสี่ยวเซียว และ ซอง อันยี เดินไปที่ลานจอดรถสิ่งที่เกิดขึ้นต่อไปทำให้พวกเขาทั้งหมดตกตะลึงเซิน โมเฟย ที่พวกเขาคิดว่ากลับไปแล้ว
รถ SUV สีดำ กำลังซิ่งอยู่บนถนน และมุ่งหน้าไปในทิศทางตรงกันข้ามกับย่านใจกลางเมืองภายในรถ ซอง อันยี กำลังบีบที่จับประตูอย่างแรง เธอพยายามจะเปิดประตูแต่มันถูกล็อคไว้ จึงเป็นไปไม่ได้ที่เธอจะสามารถเปิดมันออกได้หลังจากพยายามอย่างไร้ความหมาย เธอก็ยอมแพ้ และหันไปจ้องคนขับด้วยความโกรธ"เซิน โมเฟย นี่มันคือการลักพาตัวนะ คุณเข้าใจไหม? มันผิดกฎหมาย!" เธอคำรามเสียงดังเซิน โมเฟย ที่กำลังฟุ้งซ่าน หันมามองเธอ และยิ้มเล็กน้อย “ผมทำผิดกฎหมายเพราะคุณไง ไม่ใช่เหรอ?”ซอง อันยี ตกใจเล็กน้อย จากนั้นเธอก็ส่งเสียงหัวเราะเย็น ๆ ออกมา “อย่าพยายามทำให้ฉันใจอ่อนด้วยคำพูดแบบนั้น ฉันไม่ใช่เด็กสามขวบ”เขาอ้างว่ายินดีที่จะทำผิดกฎหมายเพื่อเธอ!ถ้าเธอบอกให้เขาไปฆ่าคน เขาจะทำไหม?“ผมจะทำ!”จู่ ๆ เสียงของเขาก็ดังขึ้นซอง อันยี เงยหน้าขึ้นด้วยความประหลาดใจ เธอจ้องมองไปในดวงตาที่มุ่งมั่นของเขา จู่ ๆ เธอก็ตระหนักว่าเธอได้เปล่งความคิดในใจออกมาดังเกินไป“งั้นก็ฆ่าคนเพื่อฉันสิ” แค่พูดใครก็ทำได้!"ฆ่าใคร" เขาถาม“ตัวเองไง!”มันเป็นคำพูดที่เยือกเย็น ไร้อารมณ์“คุณอยากให้ผมตายจริง ๆ เหรอ?” เซิน โมเฟย ถามอย่างใจ
"อันยี แม้สุดปลายทางของเราจะเป็นเหว ผมก็จะกอดคุณและโดดลงไปด้วยกัน"เขากระซิบข้างหูเธอ และฝังลึกเข้าไปในร่างกายของเธอในตอนนั้นพวกเขาเป็นของกันและกัน เขาไม่มีงานหมั้นและไม่มีคู่หมั้นอะไรทั้งนั้นเธอยกมือขึ้นเพื่อลูบไล้ดวงตาและคิ้วของเขา สายตาของเธอเต็มไปด้วยความเสน่หาแม้ว่าตอนสุดท้ายจะสำคัญ แต่สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าคือเรื่องราวระหว่างนั้นริมฝีปากของเธอโค้งขึ้น ตราบใดที่ทั้งสองคนรักกัน ก็จะไม่มีอะไรต้องกลัวแม้แต่ในนรกเมื่อเธอเข้าใจแล้ว หัวใจของเธอก็สงบลง เธอบีบจมูกเขาอย่างซุกซนเมื่อมองไปที่ทะเลที่ไร้ขอบเขต อันยียืนอยู่ที่ริมดาดฟ้า เอวของเธอกดติดกับราวบันได เธอจ้องมองเขาอย่างเย็นชา"อันยี อย่าทำอะไรโง่ ๆ มันอันตราย มานี่เร็ว"เขาเดินเข้าไปหาเธออย่างระมัดระวังแต่เมื่อเขาอยู่ห่างจากเธอเพียงไม่กี่ก้าว จู่ ๆ เธอก็หมุนตัวและกระโดดลงไปในน้ำ“อันยี!” เขาอดไม่ได้ที่จะกรีดร้อง จากนั้นเขาก็กระโดดลงไปตามเธอน้ำทะเลเย็นมาก เขาพยายามดันตัวให้โผล่พ้นน้ำจนลืมไปว่าเขาว่ายน้ำไม่เป็น ทันทีที่เขาโผล่ขึ้นมา คลื่นก็ซัดเข้าเหนือศีรษะของเขา และฉุดเขาลงมาอีกครั้งเขาค่อย ๆ สูญเสียการเคลื่อนไหว แล
ซอง อันยี หันหน้าไปมองเขาแล้วส่ายหัวเบา ๆ "ไม่เป็นไร ฉันจัดการเอง"เซิน โมเฟย ยิ้มจากนั้นเขาก็โอบกอดเธอจากด้านหลัง คางของเขาวางอยู่บนศีรษะของเธอ เขาพูดเบา ๆ ว่า "ถ้าคุณอยากให้ผมช่วยก็บอกนะ""ค่ะ" ซอง อันยี ตอบอย่างนุ่มนวลเธอไม่อยากทำให้เขาเดือดร้อน แม้ว่าพวกเขาจะเป็นคู่รักกัน แต่เธอก็ยังไม่อยากจะล้ำเส้นเขา“อันยี” จู่ ๆ เขาก็เรียก"ห้ะ?" ซอง อันยี หันศีรษะไปด้านข้างเขาก้มหน้าลงและจูบที่ริมฝีปากของเธอเช้าวันนี้มันถูกยกให้เป็นเช้าที่น่าหลงใหลและโรแมนติกทันทีที่ ทัง โรลชูว มาถึงบริษัทเธอก็ตรงไปที่ห้องทำงานของ CEO โดยไม่สนใจแผนกที่เธอทำงานเมื่อเธอเห็นเลขา เธอก็ยิ้มให้เล็กน้อย "รองผู้จัดการทัง CEO และคุณอัน รอคุณอยู่ข้างในแล้ว"ทัง โรลชูว หุบรอยยิ้มของเธอ และผลักประตูเข้าไปในห้องทำงานระหว่างทางไปทำงาน เธอได้รับโทรศัพท์จากอันยี เธอบอกให้เธอไปที่ห้องทำงานของโมเฟย เพราะมีบางอย่างจะบอกเธอเมื่อเธอผลักประตูให้เปิดออกและเห็นทั้งคู่กอดกัน เธอก็ช็อคทันที"เกิดอะไรขึ้น?"“ชูวชูว”ซอง อันยี หนีออกจากอ้อมกอดของ เซิน โมเฟย เมื่อเห็นเพื่อนที่ดีของเธอยืนอยู่ที่ประตูเมื่อได้ยินเสียง