คิ้วของ ทัง โรลชูว เลิกขึ้นจนแทบมองไม่เห็น จากนั้นเธอก็ยิ้ม “จริง ๆ แล้ว มันไม่สำคัญหรอก ผู้ชายที่ฉันแต่งงานด้วยคือคุณ ฉันไม่สนใจเรื่องอื่นเลย”เมื่อจ้องมองใบหน้าเล็ก ๆ ที่มีชีวิตชีวาและสวยงามของเธอ หัวใจของ ลู ชินจิน ก็สั่นไหว เขาไม่สามารถต้านทานความอ่อนโยนที่กำลังจะเอ่อล้นในหัวใจของเขาได้ เขาก้มศีรษะลงและจูบริมฝีปากสีทับทิมของเธอเล็กน้อยหลังจากจูบเธอเบา ๆ แล้ว เขาก็ยังคงประทับริมฝีปากของเธอไว้ “ชูวชูว...”เสียงของเขาเรียกเธออย่างอ่อนโยนและโหยหา มันทำให้หัวใจของ ทัง โรลชูว สั่นเล็กน้อย เธออดไม่ได้ที่จะเกี่ยวคอของเขาด้วยแขน จากนั้นเธอก็ยกศีรษะขึ้นเพื่อจูบริมฝีปากของเขาอย่างเพลิดเพลินเขาวางเธอลงบนเตียงอย่างแผ่วเบา จากนั้นเขาก็ปีนขึ้นไปบนตัวของเธอและจูบที่ริมฝีปากของเธออีกครั้งลมค่อย ๆ พัดผ้าม่านด้านหลังของทั้งคู่ที่กำลังอยู่ในอ้อมแขนของกันและกันดวงจันทร์ซ่อนตัวอยู่ในก้อนเมฆคื่นนี้เป็นคืนฤดูใบไม้ร่วงที่แสนจะยาวนานทัง โรลชูว หลับไปเพราะ ลู ชินจิน เธอหมดแรงและเมื่อเธอตื่นขึ้นมาก็บ่ายแล้วโชคดีที่เธอไม่ต้องทำงาน เนื่องจากวันนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์หลังจากทานอาหารกลางวันช้าก
ในขณะที่ ทัง โรลชูว วางสายโทรศัพท์เธอก็รีบวิ่งขึ้นไปชั้นบน เมื่อเธอลงมาอีกครั้งเธอก็เปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วป้าอูเห็นจึงรีบถามเธอ "คุณนายจะออกไปข้างนอกเหรอคะ?""ใช่ค่ะป้าอู คืนนี้ป้าไม่ต้องเตรียมอาหารเย็นให้พวกเรานะคะ ชินจินกับฉันคงกินข้าวนอกบ้าน" ทัง โรลชูว กล่าวเธอรีบเปลี่ยนรองเท้า"ค่ะ เข้าใจแล้ว"หลังจากใส่รองเท้าในตู้รองเท้าแล้ว ทัง โรลชูว ก็โบกมือให้ป้าอู "ป้าอู ฉันไปแล้วนะคะ"ป้าอูมองอย่างงงงวย ใบหน้าของเธอดูวิตกกังวล เธอพึมพำ “มีอะไรที่ด่วนขนาดนั้นเลยเหรอ คุณนาย?”มีอะไรที่ด่วนงั้นเหรอ?!ไม่เลย เป็นคุณหยิงที่นัดบอด โชคไม่ดีที่เธอพบกับผู้ชายแปลก ๆ และเธอก็ต้องการคนมาช่วยเธอในสวนฉินหลานช่างเป็นชื่อที่สง่างามมากนอกจากนี้ยังเป็นร้านอาหารจีนชั้นสูงอีกด้วยเนื่องจากชายคนนี้ขอให้เธอไปพบในร้านอาหารที่ดีแบบนี้ เขาจึงดูเหมือนจะไม่เลวร้ายเกินไปแต่ทางโทรศัพท์เสี่ยวเซียวก็บอกว่าเขาน่ากลัวแค่ไหนเธออยากรู้มากว่าผู้ชายแปลก ๆ แบบไหนที่สามารถทำให้เสี่ยวเซียวกลัวได้มากขนาดนี้แน่นอนว่าเธอจะต้องไม่เห็นฉากนี้เพียงลำพังดังนั้นเธอจึงชวน ลู เซียวเหยา ไปด้วยพวกเขาสองคนนัดพ
พวกเขาช่างเป็นคู่รักที่ชอบกัดกันจริง ๆ! พวกเขาจะทะเลาะกันทุกครั้งที่มีความเห็นไม่ตรงกันทัง โรลชูว ถอนหายใจเบา ๆ จากนั้นก็ก้าวไปกระซิบที่หูของ หยิง เสี่ยวเซียว "เสี่ยวเซียวฉันเป็นคนพา เซียวเหยามาเพื่อช่วยแก ถ้าแกไล่เขากลับ จะไม่มีใครช่วยแกนะ"หยิง เสี่ยวเซียว จ้อง ลู เซียวเหยา และกัดริมฝีปากของเธอ จากนั้นเธอก็พูดอย่างไม่เต็มใจว่า "ก็ได้"ในขณะนั้นเสียงที่อบอุ่นและจริงใจดังขึ้น"เสี่ยวเซียวนี่เพื่อนของคุณเหรอ?"เมื่อได้ยินเสียงนั้น ทัง โรลชูว ก็หันหน้าไปมอง เมื่อหันไปมองเธอก็พบกับใบหนาที่อ่อนเยาว์กำลังมองมาที่เธอเช่นกันทัง โรลชูว รู้สึกประหลาดใจมากก็เสี่ยวเซียวบอกว่าคู่นัดบอดของเธอเป็นคนแปลก ๆ นี่นา? เธอเลยจินตนาการว่าเขาเป็นคนที่น่าเกลียด แต่เขากลับดูดีอย่างไม่น่าเชื่อเขามีรูปลักษณ์ที่ชัดเจนมาก ดวงตาของเขาตี่ ม่านตาของเขามีสีเข้มราวกับหมึกลึกจนมองไม่เห็นก้นบึ้งเมื่อเธอได้ยินเสียงจากด้านหลัง อารมณ์ร้อนก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าเล็ก ๆ ที่สวยงามของ หยิง เสี่ยวเซียว เธอไม่สนใจชายคนนั้นโดยสิ้นเชิงและรีบดึง ทัง โรลชูว เข้ามาในห้องเมื่อเธอเดินผ่านเขา ทัง โรลชูว สามารถมองเห็นใบหน้าของเขา
ซอง มอ จ้องมอง ลู เซียวเหยา และ หยิง เสี่ยวเซียว เป็นระยะเวลาหนึ่ง จากนั้นเขาก็โค้งริมฝีปากของเขาให้เป็นรอยยิ้ม "เสี่ยวเซียว ถ้าคุณแค่ต้องการปฏิเสธผม คุณไม่จำเป็นต้องหาแฟนปลอม ๆ มาก็ได้"ทัง โรลชูว รู้สึกประหลาดใจ เขารู้การแสดงของเสี่ยวเซียวเวลานี้รอยยิ้มบนริมฝีปากของ หยิง เสี่ยวเซียว ได้หยุดนิ่ง เธอกัดริมฝีปากของเธอและหันหน้าไปกดจูบหนัก ๆ ที่ริมฝีปากของ ลู เซียวเหยาทัง โรลชูว เบิกตากว้างทันที อะไรเนี่ย? เสี่ยวเซียวบ้าไปแล้วเหรอ?เธอมอง ซอง มอ อย่างระมัดระวังและพบว่าใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นสีดำ ดวงตาสีดำของเขากลายเป็นสีดำมากขึ้นลู เซียวเหยา ซึ่งเคยมีประสบการณ์มาแล้วครั้งหนึ่งทำให้เขาสงบมาก ริมฝีปากของเขาโค้งเป็นรอยยิ้มชั่วร้าย “เสี่ยวเซียว เธอไม่ต้องอายหรอก”หยิง เสี่ยวเซียว ขมวดคิ้วเล็กน้อย เธอไม่เข้าใจว่าเขาหมายถึงอะไรสิ่งที่เกิดขึ้นต่อไปนี้ ทำให้ ทัง โรลชูว ไม่เพียงแต่เบิกตากว้าง แต่ปากของเธอก็เช่นกัน เธอกำลังตะลึง!เธอเห็น ลู เซียวเหยา หันศีรษะไปด้านข้างยกมือขึ้นจับด้านหลังศีรษะของ หยิง เสี่ยวเซียว และจูบเธอโดยตรงที่ริมฝีปากสีแดงที่แยกออกเล็กน้อยรูม่านตาของเธอหดตัวแล
ซอง มอ เม้มริมฝีปากแน่นและไม่พูดอะไรทัง โรลชูว รีบให้ หยิง เสี่ยวเซียว ดู และขอให้เธอแก้ไขปัญหานี้ด้วยตัวเองเสี่ยวเซียวมุ่ยริมฝีปากล่างของเธอและพูดช้า ๆ "ซอง มอ ฉันไม่รู้ว่าพ่อแม่ของฉันบอกอะไรกับคุณ แต่ระหว่างเรามันเป็นไปไม่ได้ สองสามปีที่ผ่านมา คุณก็รู้แล้วมันไม่มีทางเป็นไปได้เลย ช่างมันเถอะนะ ตอนนี้กลับไปบอกพ่อแม่ของฉันให้ชัดเจน เพราะมันเป็นไปไม่ได้ที่เราจะอยู่ด้วยกัน"ในตอนนี้ ซอง มอ เม้มริมฝีปากของเขาเพื่อเยาะเย้ยตัวเอง "เสี่ยวเซียว คุณยังโทษผมอยู่ใช่ไหม?""โทษคุณงั้นเหรอ?" หยิง เสี่ยวเซียว เลิกคิ้วด้วยความประหลาดใจและพูดอย่างขบขัน "โทษคุณเรื่องอะไร คุณเป็นแค่คนแปลกหน้าสำหรับฉัน"ความเจ็บปวดแสดงออกทางหน้าอันหล่อเหลาของ ซอง มอ เขายิ้มอย่างขมขื่น “งั้นก็กลายเป็นว่า ผมเป็นแค่คนแปลกหน้าเท่านั้น”พวกเขาหลอก ซอง มอ แถมตอนนี้เสี่ยวเซียวยังพูดแบบนั้นอีก สายตาที่แสดงออกถึงความเศร้าโศกและเหงาของ ซอง มอ ทำให้ ทัง โรลชูว รู้สึกเสียใจเล็กน้อยเธอถอนหายใจเบา ๆ เมื่อพิจารณาจากเรื่องที่พวกเขากำลังพูดถึง พวกเขาต้องรู้จักกันมาก่อน ดูจากท่าทางของเสี่ยวเซียว คงมีบางอย่างเกิดขึ้นระหว่างพวกเขา
ทัง โรลชูว มอง หยิง เสี่ยวเซียว เธอด้วยความโกรธและพูดว่า "มันชัดเจนมากเลยนะ""ก็ได้" หยิง เสี่ยวเซียว มุ่ยหน้า “ฉันเคยรู้จักเขาเมื่อนานมาแล้ว เขาเป็น...ลูกชายของเพื่อนพ่อน่ะ”"ฉันคิดว่ามีมากกว่านั้น" ถ้านั่นคือความสัมพันธ์ของพวกเขา เธอจำเป็นต้องพูดจาหยาบคายกับเขาขนาดนั้นเลยเหรอ?หยิง เสี่ยวเซียว เม้มริมฝีปากแน่นและมองไปที่ ลู เซียวเหยา เธอครุ่นคิดสักครู่ก่อนที่จะพูดว่า "เขาเป็นแฟนเก่าของฉัน""แฟนเก่า?!" ทัง โรลชูว อุทานด้วยความประหลาดใจ สิ่งนี้อธิบายสามารถอธิบายได้แล้วว่าทำไมเสี่ยวเซียวถึงทำแบบนั้นกับเขาลู เซียวเหยา สูญเสียการควบคุมและหัวเราะออกมาดัง ๆ “ยังไงล่ะ ฉันเดาถูก”หยิง เสี่ยวเซียว ขมวดคิ้ว “นายคิดอะไรอยู่?”“ฉันคิดว่าต้องมีเรื่องอะไรบ้างอย่างระหว่างเธอกับเขาแน่ ๆ เธอถึงได้ทำกับ ซอง มอ แบบนั้น ไม่งั้นพวกผู้หญิงจะไม่มีวันทำกับผู้ชายแบบนั้นแน่นอน” ลู เซียวเหยา กางมือออก "แต่ก็ไม่ได้คิดว่าจะถูกน่ะนะ ฉันคงเป็นอัจริยะแน่ ๆ"ท่าทางของ หยิง เสี่ยวเซียว แข็งกระด้าง ความโกรธเกรี้ยวฉายไปทั่วดวงตาของเธอ เธอจ้องมองเขาอย่างเกลียดชัง "ใช่ นายคงเป็นอัจฉริยะ"ลู เซียวเหยา ลูบจมูกของเ
ลู เซียวเหยา ยิ้ม "พี่สะใภ้ พี่ไม่เชื่อผม พี่คิดว่า ซอง มอ เป็นคนดีใช่ไหม?"“จริง ๆ แล้ว ลู เซียวเหยา พูดถูก ซอง มอ ดูเหมือนคนที่ไม่มีพิษมีภัย แต่ข้างในเขาเป็นคนเลวทราม” หยิง เสี่ยวเซียว หรี่ตาลงเล็กน้อย หัวใจของเธอพล่านด้วยอารมณ์ที่ซ่อนอยู่ทัง โรลชูว เลิกคิ้วของเธอ "เสี่ยวเซียว แกมีความสัมพันธ์ที่แย่กับเขา คำพูดของแกมันดูเป็นเรื่องส่วนตัวเลยไม่น่าเชื่อถือน่ะ""แต่..." เธอเห็นท่าทีของเสี่ยวเซียวเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน และเธอกำลังจะระเบิด เธอจึงกลับคำพูด "ฉันไม่ควรตัดสินความดีหรือความเลวจากการที่พบเขาเพียงแค่ครั้งเดียว"“พี่สะใภ้ ถ้าพี่สนใจ ผมสามารถแสดงไฟล์ของ ซอง มอ ให้พี่ดูได้” เพราะคำพูดเพียงอย่างเดียวไม่สามารถพิสูจน์ได้ พวกเขาต้องมีหลักฐาน“ได้สิ” ทัง โรลชูว พยักหน้า "อย่างนั้นฉันจะเข้าใจว่าแฟนเก่าของเสี่ยวเซียวเป็นคนยังไง""ฉันพูดถูกไหม? เสี่ยวเซียว" เธอมอง หยิง เสี่ยวเซียว ด้วยรอยยิ้ม"ถูกต้อง" หยิง เสี่ยวเซียว ยกแก้วกาแฟของเธอขึ้นจากโต๊ะแล้วจิบด้วยสีหน้าสิ้นหวัง"งั้นเซียวเหยาส่งข้อมูลมาที่อีเมลของฉัน" ทัง โรลชูว เห็นว่าเธอไม่ขัดข้องลู เซียวเหยา พยักหน้า "ได้เลย ผมจะส่ง
คฤหาสน์ตระกูลทังเซา เสี่ยวหวัน ถือชามซุปร้อน ๆ ไปในห้องของชั้นที่สอง"โรลโรล แม่ขอเข้าไปได้ไหม?" เธอถามอย่างระมัดระวังไม่มีเสียงตอบรับจากภายในห้องกลับมา เธอขมวดคิ้วแล้วเปิดประตูเข้าไปอย่างเบามือ ไฟในห้องไม่ได้เปิด นั่นจึงทำให้ทั้งห้องมืดสนิทเซา เสี่ยวหวัน เอื้อมมือไปกดสวิตช์ที่ผนังโดยสัญชาตญาณ แต่เสียงเย็นชาของลูกสาวเธอก็ดังขึ้น“อย่าเปิดนะ!”หัวใจของ เซา เสี่ยวหวัน สั่น เธอถอยมือออกจากสวิตซ์ไฟทันที จากนั้นเธอก็ลืมตาขึ้นให้กว้างที่สุดเพื่อมองหาลูกสาวของเธอในห้องนี้"โรลโรล แม่ทำซุปมาให้ลูกนะ กินไหม?"“ไม่”“แต่...”เซา เสี่ยวหวัน ก้าวไปข้างหน้าเพราะเธอต้องการพูดกับลูกสาวของเธอมากกว่านี้ แต่ก็เธอก็เหยียบเข้ากับอะไรบางอย่างบนพื้น เธอสะดุ้งจนกรีดร้องออกมา ชามในมือของเธอร่วงหล่นลงบนพื้นเนื่องจากความตกใจของเธอชามแตกและน้ำซุปก็หก"ออกไปจากที่นี่!"ลูกสาวตำหนิเธออย่างไร้ความปรานี และน้ำเสียงของเธอก็ช่างเย็นชาเซา เสี่ยวหวัน ไม่ทำอะไรต่อไป เธอโกรธ เธอหันกลับไปเพื่อเปิดไฟอย่างรวดเร็วห้องที่เคยมืดก็สว่างขึ้นทันทีตอนนี้ เซา เสี่ยวหวัน สามารถมองเห็นคนที่นอนอยู่บนเตียงได้อย่