ซอง มอ เม้มริมฝีปากแน่นและไม่พูดอะไรทัง โรลชูว รีบให้ หยิง เสี่ยวเซียว ดู และขอให้เธอแก้ไขปัญหานี้ด้วยตัวเองเสี่ยวเซียวมุ่ยริมฝีปากล่างของเธอและพูดช้า ๆ "ซอง มอ ฉันไม่รู้ว่าพ่อแม่ของฉันบอกอะไรกับคุณ แต่ระหว่างเรามันเป็นไปไม่ได้ สองสามปีที่ผ่านมา คุณก็รู้แล้วมันไม่มีทางเป็นไปได้เลย ช่างมันเถอะนะ ตอนนี้กลับไปบอกพ่อแม่ของฉันให้ชัดเจน เพราะมันเป็นไปไม่ได้ที่เราจะอยู่ด้วยกัน"ในตอนนี้ ซอง มอ เม้มริมฝีปากของเขาเพื่อเยาะเย้ยตัวเอง "เสี่ยวเซียว คุณยังโทษผมอยู่ใช่ไหม?""โทษคุณงั้นเหรอ?" หยิง เสี่ยวเซียว เลิกคิ้วด้วยความประหลาดใจและพูดอย่างขบขัน "โทษคุณเรื่องอะไร คุณเป็นแค่คนแปลกหน้าสำหรับฉัน"ความเจ็บปวดแสดงออกทางหน้าอันหล่อเหลาของ ซอง มอ เขายิ้มอย่างขมขื่น “งั้นก็กลายเป็นว่า ผมเป็นแค่คนแปลกหน้าเท่านั้น”พวกเขาหลอก ซอง มอ แถมตอนนี้เสี่ยวเซียวยังพูดแบบนั้นอีก สายตาที่แสดงออกถึงความเศร้าโศกและเหงาของ ซอง มอ ทำให้ ทัง โรลชูว รู้สึกเสียใจเล็กน้อยเธอถอนหายใจเบา ๆ เมื่อพิจารณาจากเรื่องที่พวกเขากำลังพูดถึง พวกเขาต้องรู้จักกันมาก่อน ดูจากท่าทางของเสี่ยวเซียว คงมีบางอย่างเกิดขึ้นระหว่างพวกเขา
ทัง โรลชูว มอง หยิง เสี่ยวเซียว เธอด้วยความโกรธและพูดว่า "มันชัดเจนมากเลยนะ""ก็ได้" หยิง เสี่ยวเซียว มุ่ยหน้า “ฉันเคยรู้จักเขาเมื่อนานมาแล้ว เขาเป็น...ลูกชายของเพื่อนพ่อน่ะ”"ฉันคิดว่ามีมากกว่านั้น" ถ้านั่นคือความสัมพันธ์ของพวกเขา เธอจำเป็นต้องพูดจาหยาบคายกับเขาขนาดนั้นเลยเหรอ?หยิง เสี่ยวเซียว เม้มริมฝีปากแน่นและมองไปที่ ลู เซียวเหยา เธอครุ่นคิดสักครู่ก่อนที่จะพูดว่า "เขาเป็นแฟนเก่าของฉัน""แฟนเก่า?!" ทัง โรลชูว อุทานด้วยความประหลาดใจ สิ่งนี้อธิบายสามารถอธิบายได้แล้วว่าทำไมเสี่ยวเซียวถึงทำแบบนั้นกับเขาลู เซียวเหยา สูญเสียการควบคุมและหัวเราะออกมาดัง ๆ “ยังไงล่ะ ฉันเดาถูก”หยิง เสี่ยวเซียว ขมวดคิ้ว “นายคิดอะไรอยู่?”“ฉันคิดว่าต้องมีเรื่องอะไรบ้างอย่างระหว่างเธอกับเขาแน่ ๆ เธอถึงได้ทำกับ ซอง มอ แบบนั้น ไม่งั้นพวกผู้หญิงจะไม่มีวันทำกับผู้ชายแบบนั้นแน่นอน” ลู เซียวเหยา กางมือออก "แต่ก็ไม่ได้คิดว่าจะถูกน่ะนะ ฉันคงเป็นอัจริยะแน่ ๆ"ท่าทางของ หยิง เสี่ยวเซียว แข็งกระด้าง ความโกรธเกรี้ยวฉายไปทั่วดวงตาของเธอ เธอจ้องมองเขาอย่างเกลียดชัง "ใช่ นายคงเป็นอัจฉริยะ"ลู เซียวเหยา ลูบจมูกของเ
ลู เซียวเหยา ยิ้ม "พี่สะใภ้ พี่ไม่เชื่อผม พี่คิดว่า ซอง มอ เป็นคนดีใช่ไหม?"“จริง ๆ แล้ว ลู เซียวเหยา พูดถูก ซอง มอ ดูเหมือนคนที่ไม่มีพิษมีภัย แต่ข้างในเขาเป็นคนเลวทราม” หยิง เสี่ยวเซียว หรี่ตาลงเล็กน้อย หัวใจของเธอพล่านด้วยอารมณ์ที่ซ่อนอยู่ทัง โรลชูว เลิกคิ้วของเธอ "เสี่ยวเซียว แกมีความสัมพันธ์ที่แย่กับเขา คำพูดของแกมันดูเป็นเรื่องส่วนตัวเลยไม่น่าเชื่อถือน่ะ""แต่..." เธอเห็นท่าทีของเสี่ยวเซียวเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน และเธอกำลังจะระเบิด เธอจึงกลับคำพูด "ฉันไม่ควรตัดสินความดีหรือความเลวจากการที่พบเขาเพียงแค่ครั้งเดียว"“พี่สะใภ้ ถ้าพี่สนใจ ผมสามารถแสดงไฟล์ของ ซอง มอ ให้พี่ดูได้” เพราะคำพูดเพียงอย่างเดียวไม่สามารถพิสูจน์ได้ พวกเขาต้องมีหลักฐาน“ได้สิ” ทัง โรลชูว พยักหน้า "อย่างนั้นฉันจะเข้าใจว่าแฟนเก่าของเสี่ยวเซียวเป็นคนยังไง""ฉันพูดถูกไหม? เสี่ยวเซียว" เธอมอง หยิง เสี่ยวเซียว ด้วยรอยยิ้ม"ถูกต้อง" หยิง เสี่ยวเซียว ยกแก้วกาแฟของเธอขึ้นจากโต๊ะแล้วจิบด้วยสีหน้าสิ้นหวัง"งั้นเซียวเหยาส่งข้อมูลมาที่อีเมลของฉัน" ทัง โรลชูว เห็นว่าเธอไม่ขัดข้องลู เซียวเหยา พยักหน้า "ได้เลย ผมจะส่ง
คฤหาสน์ตระกูลทังเซา เสี่ยวหวัน ถือชามซุปร้อน ๆ ไปในห้องของชั้นที่สอง"โรลโรล แม่ขอเข้าไปได้ไหม?" เธอถามอย่างระมัดระวังไม่มีเสียงตอบรับจากภายในห้องกลับมา เธอขมวดคิ้วแล้วเปิดประตูเข้าไปอย่างเบามือ ไฟในห้องไม่ได้เปิด นั่นจึงทำให้ทั้งห้องมืดสนิทเซา เสี่ยวหวัน เอื้อมมือไปกดสวิตช์ที่ผนังโดยสัญชาตญาณ แต่เสียงเย็นชาของลูกสาวเธอก็ดังขึ้น“อย่าเปิดนะ!”หัวใจของ เซา เสี่ยวหวัน สั่น เธอถอยมือออกจากสวิตซ์ไฟทันที จากนั้นเธอก็ลืมตาขึ้นให้กว้างที่สุดเพื่อมองหาลูกสาวของเธอในห้องนี้"โรลโรล แม่ทำซุปมาให้ลูกนะ กินไหม?"“ไม่”“แต่...”เซา เสี่ยวหวัน ก้าวไปข้างหน้าเพราะเธอต้องการพูดกับลูกสาวของเธอมากกว่านี้ แต่ก็เธอก็เหยียบเข้ากับอะไรบางอย่างบนพื้น เธอสะดุ้งจนกรีดร้องออกมา ชามในมือของเธอร่วงหล่นลงบนพื้นเนื่องจากความตกใจของเธอชามแตกและน้ำซุปก็หก"ออกไปจากที่นี่!"ลูกสาวตำหนิเธออย่างไร้ความปรานี และน้ำเสียงของเธอก็ช่างเย็นชาเซา เสี่ยวหวัน ไม่ทำอะไรต่อไป เธอโกรธ เธอหันกลับไปเพื่อเปิดไฟอย่างรวดเร็วห้องที่เคยมืดก็สว่างขึ้นทันทีตอนนี้ เซา เสี่ยวหวัน สามารถมองเห็นคนที่นอนอยู่บนเตียงได้อย่
หลังจากนั้น กู โรลโรล ก็ถามว่า "แม่คะ แล้วเมื่อไหร่ ทัง โรลชูว จะพา ทัง ซอง ไปอเมริกา?""อีกไม่กี่วันนี้ พวกเขาเตรียมเอกสารเสร็จแล้ว"อีกไม่กี่วัน? ความแค้นปรากฏขึ้นในดวงตาของ กู โรลโรล "แม่อยากเห็น ทัง โรลชูว ทรมานไหมล่ะ?""ลูกจะทำอะไร?" เซา เสี่ยวหวัน ถาม"ทัง โรลชูว สนใจเรื่องของพ่อเธออยู่ใช่ไหมล่ะ งั้นเรามาทำให้พ่อของเธอหายไปจากโลกนี้ดีไหมล่ะ" ขณะที่เธอพูดคำที่เยือกเย็นและดุร้ายจากปากของเธอ"ลูกหมายความว่า..." แม้ว่า เซา เสี่ยวหวัน จะสงสัยว่าเธอตั้งใจจะทำอะไร แต่เธอก็ตกใจ"ตุบ!"ทันใดนั้นก็มีเสียงแปลก ๆ ดังมาจากนอกห้อง เซา เสี่ยวหวัน และ กู โรลโรล สบตากันอย่างรวดเร็วและรีบเปิดประตูออกไปดูถ้าหากมีคนมาได้ยินที่พวกเธอพูดด้วยกัน มันคงไม่ใช่เรื่องที่ดีเท่าไหร่เซา เสี่ยวหวัน รีบวิ่งออกไป เมื่อเธอยืนอยู่หน้าห้อง เธอก็เห็นลุงจ้าวกำลังรีบลงบันไดไปอย่างรวดเร็วแสงส่องเข้าไปในดวงตาของเสี่ยวหวัน เธอรีบตะโกน "ลุงจ้าว!"เมื่อลุงจ้าวได้ยินเธอเรียกขาก็หยุดเดิน และรีบหันกลับมาถามด้วยความเคารพ "ท่านผู้หญิง มีอะไรให้ผมรับใช้ครับ"เซา เสี่ยวหวัน เดินไปหาขาแล้วหรี่ตาลงเล็กน้อย “ลุงจ้าวเจ้
เธอเห็นชายแปลกหน้าเดินออกมา เขามีใบหน้าที่ดูธรรมดาและมีรูปร่างที่ค่อนข้างผอม แต่เขาก็มีกลิ่นของภัยคุกคามซึ่งเป็นลางไม่ดีเอาซะเลยชายคนนี้อันตรายมาก!กู โรลโรล ขมวดคิ้วของเธอจ้องชายคนนั้นด้วยความระมัดระวังมีผู้ชายอีกคนอยู่ในบ้าน แต่เธอไม่เคยรู้เลยงั้นเหรอ?ชายคนนั้นเดินขึ้นมาและพยักหน้าให้ กู โรลโรล จากนั้นเขาก็มอง เซา เสี่ยวหวัน "คุณต้องการให้ผมทำอะไร?"เซา เสี่ยวหวัน หันไปมองลุงจ้าวที่นอนอยู่ที่เชิงบันได “หลี่ อู กำจัดร่างเขา”หลี่ อู มองร่างของลุงจ้าวที่นอนอยู่เซา เสี่ยวหวัน หันกลับมามองเขาและพูดว่า "อะไร? ไม่ได้ทำบ่อยเหรอ? กลัวทำไม?"หลี่ อู ถอนสายตาและจ้องมองเธออย่างเย็นชา จากนั้นเขาก็หมุนตัวและลงบันไดเขาได้ยินคำพูดถากถางของ เซา เสี่ยวหวัน แล้วยังไงล่ะ? สิ่งที่เธอพูดเป็นเรื่องจริง พวกเขากำจัดศพไปมากแล้วดังนั้นเขาจึงไม่มีเหตุผลที่จะต้องเถียงเธอ"แม่ผู้ชายคนนี้คือใคร" เมื่อ หลี่ อู ขยับร่างกายของลุงจ้าวอย่างไม่เกรงกลัว คิ้วของ กู โรลโรล ก็ขมวดเข้าหากันแน่นขึ้น เธอพบว่า หลี่ อู เป็นผู้ชายที่ซับซ้อนมากยิ่งขึ้น"ลูกไม่ต้องกังวลว่าเขาเป็นใคร จำไว้ว่าเขาจะเป็นคนช่วยลูกในอน
ที่วังมังกรหลวง มีโคมไฟและแสงไฟระยิบระยับหลากสีประดับผนังด้านนอก ทำให้ดูสวยงามมาก เมื่อมองจากระยะไกลลู ชินจิน ขับรถของเขาตรงไปที่ลานจอดรถชั้นใต้ดิน จากนั้นพวกเขาขึ้นลิฟต์สังเกตการณ์ไปยังร้านอาหารที่ชั้นบนสุดพวกเขาเดินช้า ๆ ไปตามทางเดินที่ปูด้วยกระเบื้องหินอ่อนสีดำ จนกระทั่งร้านพวกเขาเห็นร้านอาหารในทันทีที่ ทัง โรลชูว เห็นร้านอาหารนี้เป็นครั้งแรก เธอก็รู้สึกความรู้สึกประหลาดใจไฟในห้องอาหารหลักสว่างไสวทำให้ร้านอาหารทั้งหมดดูตระการตาพนักงานเสิร์ฟสวย ๆ ยิ้มหวานต้อนรับพวกเขาและพาไปยังโต๊ะที่ ลู ชินจิน จองไว้ทัง โรลชูว นั่งลงและมองไปนอกหน้าต่าง บานหน้าต่างกว้างมาก ทำให้พวกเขาห็นทิวทัศน์ของ เมืองปักกิ่งที่คึกคัก สุดลูกหูลูกตา"สวยเกินไปแล้ว!" เธออ้าปากค้างด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย ใบหน้าที่สวยงามของเธอยิ้มแย้มแจ่มใสด้วยความสุขลู ชินจิน จ้องมองเธออย่างอ่อนโยนและยิ้มเล็กน้อย “ดีแล้วที่คุณชอบ”"ชอบค่ะ ชอบมากเลยด้วย" เธอดูมีความสุขมากจริง ๆ เพราะน้ำเสียงของเธอร่าเริงมากเมื่อเห็นเธอหลงใหลกับทิวทัศน์ยามค่ำคืน ลู ชินจิน ก็ยิ้ม จากนั้นเขาก็ก้มหน้าและดูเมนู หลังจากดูไปซักพักเขาก็เริ่
เพลงเปียโนไพเราะถูกบรรเลงอยู่ในห้องอาหาร บรรยากาศช่างโรแมนติกและอบอุ่นเป็นอย่างยิ่งลู ชินจิน มองเธอด้วยรอยยิ้มจาง ๆ ในดวงตา เขาถามเบา ๆ ว่า "คุณจะทำให้ผมมั่นใจได้ยังไง?""ขอมือหน่อยสิ" ทัง โรลชูว ยิ้มอย่างมีเลศนัยลู ชินจิน เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย แต่ก็ยื่นมือไปให้เธอทัง โรลชูว จับมือของเขาเปิดฝ่ามือของเขาและมองไปที่เขา จากนั้นเธอก็ก้มหน้าและเขียนอะไรบางอย่างลงบนฝ่ามือของเขา"คุณคือทิวทัศน์ที่สวยงามที่สุด"นี่คือสิ่งที่เธอเขียนความอ่อนโยนเอ่อล้นในดวงตาสีดำของ ลู ชินจิน ส่วนโค้งของปากของเขาก็ยิ่งเน้นมากขึ้น"คุณคิดว่ายังไง?" ทัง โรลชูว เงยหน้าขึ้นและมองเขาด้วยรอยยิ้มที่มีเสน่ห์ “ตอนนี้คุณรู้สึกมั่นใจแล้วรึยัง?”"มาก" ลู ชินจิน จับมือของเธอและถามเบา ๆ "คุณไปเรียนทำอะไรแบบนี้มาจากไหน?""อืม..." ทัง โรลชูว ครุ่นคิดสักพักแล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม "เพราะคุณไง ฉันจำมาจากคุณนั่นแหละ""เพราะผม" ลู ชินจิน พูดซ้ำคำพูดขอเธอ จากนั้นเขาก็ถาม "เป็นเพราะผมงั้นเหรอ""คุณคิดว่าไงล่ะ?" ทัง โรลชูว หรี่ตาลงอย่างซุกซน“งั้นผมจะบอกรักคุณให้มาก ๆ เลย ในอนาคตคุณจะได้บอกผมบ้าง” เขาพูดแบบติดตลกครึ่ง ๆ กล