ห้องนั่งเล่นตกอยู่ในความเงียบเซิน โมเฟยนั่งข้าง ซอง อันยีทั้งสองหันไปสบตากันและยิ้มออกมาหลังจากนั้น เซิน โมเฟยก็หันไปมอง ทัง โรลชูวและตอบว่า "พี่สะใภ้ ที่พี่กังวลถูกแล้ว แต่ผมไม่มีทางเลิกกับอันยี"“ไม่มีทางเลิกกัน?”ทัง โรลชูวขมวดคิ้วเล็กน้อย ที่จริงแล้วยังมีเรื่องที่ค้างอยู่บางอย่างระหว่างพวกเขา ซึ่งทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ซับซ้อนกว่าการสัญญาว่าจะไม่เลิกราซะอีกแต่เมื่อเธอเห็นสายตาที่แน่วแน่ของโมเฟย เธอก็กลืนคำพูดของเธอลงไป ก่อนที่จะมองดูพวกเขาด้วยความโกรธ “ก็ได้ ฉันรู้ว่าพวกนายรักกัน”ซอง อันยียิ้มอย่างเขินอายก่อนจะบ่นออกมา “เรากำลังพูดเรื่องเสี่ยวเซียวกับเซียวเหยาอยู่ไม่ใช่เหรอ ทำไมจู่ ๆ ถึงคุยเรื่องของฉันกันล่ะ?”ทัง โรลชูวอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ “ใช่ ทำไมจู่ ๆ ก็มาคุยเรื่องแกนะ”หลังจากนั้นเธอก็เลิกคิ้ว และหันไปมอง เซิน โมเฟย “โมเฟย นายต้องรับผิดเรื่องนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะนายปรากฏตัวอย่างกะทันหัน ฉันก็คงไม่เปลี่ยนเรื่องคุยหรอก”เซิน โมเฟยกอดไหล่ของ ซอง อันยี ขณะที่รอยยิ้มสดใสผุดขึ้นบนใบหน้าที่หล่อเหลาของเขา “ก็ได้ ผมจะรับผิดชอบเอง”เมื่อได้ยินแบบนั้น ทัง โรลชูว และซอง อัน
ลู เซียวเหยาไม่ตอบเธอ เขาหยิบกุ้งที่วางลงไปในชามขึ้นมาและแกะเปลือกออกก่อนจะวางลงในชามของ หยิง เสี่ยวเซียวจากนั้นเขาก็จ้องเข้าไปในดวงตาของเธออย่างอ่อนโยน ในขณะที่เขาพูด “ฉันจะเอาเปลือกออกให้แล้วนะ ถ้าเธออยากกิน”แม้ว่าเธอจะรู้ว่านี่เป็นเพียงการแสดง แต่เธอก็ตกหลุมรักกับท่าทางที่อ่อนโยนของเขาคราวนี้เธอตัดสินใจที่จะเพลิดเพลินไปกับความห่วงใยที่อ่อนโยนต่อเธอเธอก้มหน้าลงเพื่อซ่อนอารมณ์ และหยิบกุ้งขึ้นมาแล้วใส่เข้าไปในปากของเธอ เพื่อลิ้มรสชาติของมันลู เซียวเหยาจ้องที่เธอด้วยดวงตาคู่หนึ่งที่อ่อนโยนราวกับน้ำในสายตาของคนอื่น ๆ พวกเขาต่างก็ดูมีความรักอย่างลึกซึ้งนายหยิงใช้ศอกดันนางหยิงที่นั่งข้าง ๆ คนที่ถูกดันหันไปมองเธอเล็กน้อย แต่เธอส่งสัญญาณให้เขาหันไปมองเสี่ยวเซียวดังนั้นเขาจึงหันไปมองเสี่ยวเซียวและเห็นท่าทีของ ลู เซียวเหยาขณะที่เขามองไปที่เธอเสียงของนางหยิงดังอยู่ข้างหู “ดูสิว่าเซียวเหยามองลูกสาวของเรายังไง เขารักเธอจริง ๆ สายตาของเขาไม่ได้โกหกเลย”นายหยิงเพ่งสายตาและดื่มไวน์ด้วยสีหน้าที่งุนงงเขาอยากให้ลูกสาวของเขามีแฟนที่ชอบมาตลอด แต่เมื่อลูกสาวพาแฟนมาที่บ้าน เขากลับรู้สึกไ
ในวัยเท่านี้ เขาต้องเป็นคนที่มีความสามารถมากหรือมีพื้นฐานที่ดี เพราะเขาเป็นถึงผู้จัดการทั่วไปของบริษัทข่าวบันเทิงไทม์นายหยิงตรวจสอบเขาอย่างครุ่นคิดก่อนที่จะหันกลับมามอง หยิง เสี่ยวเซียว และถามด้วยท่าทางเคร่งขรึม "ลูกแน่ใจใช่ไหม ว่าเขาคือคนที่ใช่”"แน่ใจค่ะ" หยิง เสี่ยวเซียว พยักหน้านายหยิงมองเธออย่างลึกซึ้ง “พ่อนุญาตให้เธอสองคนคบกันได้ แต่…” เขาหยุดพูดเล็กน้อย “พ่อจะคอยดูว่าเขารักลูกจริงไหม หรือลูกแค่พาเขามาหลอกพ่อ”หยิง เสี่ยวเซียว และ ลู เซียวเหยาชำเลืองมองกันเล็กน้อย แม้ว่าพวกเขาจะมีความผิด แต่เธอก็ยังพูดด้วยความมั่นใจที่แสร้งทำเป็นมั่นใจ “คุณพ่อคะ พ่อจะคอยดูได้นานเท่าทีพ่ออยากดูได้เลยค่ะ เราไม่กังวลอะไรหรอก”คุณท่านมองดูพวกเขาก่อนจะตอบอย่างเป็นกันเองว่า “กินข้าวกันเถอะ อาหารจะเย็นแล้ว”ประโยคดังกล่าวทำให้ หยิง เสี่ยวเซียวถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอกดังนั้น การพบปะผู้ปกครองครั้งแรกของ ลู เซียวเหยาจึงจบลงด้วยดี...ค่ำคืนนั้นหนาวเหน็บเหมือนน้ำแข็งเมื่อ ทัง โรลชูวเดินออกมาจากอาคาร ลมที่พัดมาทำให้เธอตัวสั่นอย่างควบคุมไม่ได้"เย็นจนเป็นน้ำแข็งแล้ว!"เธอถูมือของเธอ ขณะที่เธอ
ทัง โรลชูวได้ยินน้ำเสียงเยาะเย้ยของเขา เธอจึงเอ่ยปากปกป้องเพื่อนที่ดีที่สุดของเธอ “เสี่ยวเซียวไม่ได้ใจร้อนนะ ลุงหยิงต้องการพบเซียวเหยา เธอก็เลย…” เธอยักไหล่ "เข้าใจไหม?"ลู ชินจินส่ายหัวและหัวเราะ “เซียวเหยาเกลียดการที่ต้องไปเจอผู้ใหญ่ที่สุด เขาหนีเสือปะจระเข้ชัด ๆ”ทัง โรลชูวรู้สึกพูดไม่ออก“คุณหมายความว่าตระกูลลูเป็นเสือ ส่วนตระกูลหยิงเป็นจระเข้ใช่ไหม?”ลู ชินจินมองไปข้างหน้าเพื่อตั้งใจขับรถ และยิ้มออกมาเล็กน้อย “ผมเชื่อเลยว่าครั้งนี้มันไม่ง่ายสำหรับเซียวเหยา”ในตระกูลลู พี่ชายคนโตของเขาสามารถป้องกันเขาจากการกดขี่ของชายชราได้แต่ในตระกูลหยิง คุณหยิงไม่ใช่คนที่จะถูกหลอกได้ง่าย ๆ การแสดงของเซียวเหยากับเสี่ยวเซียวอาจจะไม่ราบลื่นนักทัง โรลชูวเลิกคิ้วขึ้น เธอเข้าใจสิ่งที่เขาหมายถึง แต่...เรื่องนี้มันอาจจะช่วยความสัมพันธ์ปลอม ๆ นั้นได้...หลังจากรับประทานอาหารเสร็จแล้ว ลู เซียวเหยาเดินไปกับลุงหยิงเพื่อที่จะเล่นหมากรุกด้วยกัน แต่เนื่องจากเขาไม่รู้ระดับของลุงหยิง ลู เซียวเหยาจึงระมัดระวังทุกการเดินหมากรุก เพราะเขากลัวที่จะเอาชนะคู่ต่อสู้ของเขาโชคดีที่ลุงหยิงมีความสามารถสูง ทำให้
หยิง เสี่ยวเซียวเข้ามาในห้องพร้อมผลไม้หนึ่งจาน เมื่อเธอเห็นว่าพ่อของเธอยังคงเล่นหมากรุกอยู่กับ ลู เซียวเหยา เธอก็วางจานผลไม้ไว้บนโต๊ะทำงานก่อนจะเดินไปยืนด้านข้างของ ลู เซียวเหยาลู เซียวเหยาหันไปมองเธอ เขายิ้มอย่างอ่อนโยนก่อนจะหันกลับมามองกระดานหมากรุกนายหยิงเหลือบมองลูกสาวของเขาเล็กน้อย แล้วถามอย่างเป็นกันเองว่า “ทำไมไม่ไปอยู่กับแม่ล่ะ?”“แม่อยากดูละครค่ะ และไม่อยากให้ไปรบกวน” หยิง เสี่ยวเซียวรู้สึกว่ามันน่าขบขันที่แม่ไล่ให้เธอขึ้นมาข้างบนเพื่อดูพวกเขา แต่เธอก็รู้ว่าแม่ของเธอกังวลว่าพวกเขาจะเข้ากันไม่ได้ดูเหมือนว่าแม่ของเธอจะคิดมากไปพวกเขาดูสงบสุขระหว่างเล่นหมากรุก อย่างน้อยก็ในสายตาของเธอมันเป็นแมทช์ที่ยาก เพราะทั้งสองต่อสู้กันแบบตัวต่อตัว การแข่งขันจบลงในชั่วโมงต่อมาคราวนี้คุณหยิงแพ้หลังจากที่เคลื่อนหมากไปเพียงสามครั้ง“เล่นดีนะครับ คุณลุง” ลู เซียวเหยามองนายหยิงด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตน ดวงตาของเขาอ่อนโยนในขณะที่เขายิ้มอย่างสุภาพนายหยิงเงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยสีหน้าสงบนิ่ง ปราศจากความยินดีหรือความโกรธใด ๆแต่ ลู เซียวเหยาดูเหมือนจะรู้สึกถึงกลิ่นอายแปลก ๆ เขาขมวดคิ้วเล
นายหยิงจ้องมองพวกเขาอย่างเงียบ ๆ ก่อนจะถอนหายใจออกมาในท้ายที่สุด “ช่างเถอะ งั้นไว้เจอกัน”...ขณะเดินออกจากคฤหาสน์หยิง ลู เซียวเหยาจับมือ หยิง เสี่ยวเซียวขณะที่เขาหันหลังกลับไปมองคฤหาสน์สไตล์ยุโรปนั้น เขาบ่นติดตลกว่า “ที่นี่จะเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ฉันจะไม่กลับมาอีก”เมื่อได้ยินคำพูดของเขา หยิง เสี่ยวเซียวก็หันไปมองคฤหาสน์ของเธอเช่นกัน ความโศกเศร้าปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอ ขณะที่เธอหันไปมองเขา “นายเกลียดที่นี่มากเลยเหรอ?”ลู เซียวเหยาหันกลับมาและจ้องตาของเธอ เขายิ้มอย่างอ่อนโยนและพยักหน้าอย่างจริงใจ “ฉันไม่อยากมาที่นี่อีกจริง ๆ”จากนั้นเขาก็ปล่อยมือเธอและเดินตรงไปที่รถเมื่อมือของเธอว่างเปล่า หัวใจของเธอก็ว่างเปล่าเช่นกัน ความขมขื่นกระจายทั่วหัวใจของเธอเธอกำมือของเธอเข้าหากันหา ๆ ขณะที่เธอสูดหายใจเข้าลึก ๆ และวิ่งเข้าไปหาเขาเมื่อเขากำลังจะเปิดประตูรถ เธอก็รีบตะโกนว่า "ลู เซียวเหยา"ลู เซียวเหยาหันกลับมา ร่างเพรียวบางพุ่งเข้ามาหาเขา ทำให้เขากอดเธอโดยที่ยังไม่ทันได้ตั้งตัวความอบอุ่นบนริมฝีปากของเธอทำให้เขาเบิกตากว้างด้วยความตกใจ เมื่อดวงตาของเขาสบเข้ากับดวงตาที่สดใสของเธอ“พวกเ
ลู เซียวเหยาเดินออกจากลิฟต์ตรงไปที่ห้องของเขา ในขณะที่เขากำลังใส่รหัสผ่านของตัวเองประตูฝั่งตรงข้ามของเขาก็เปิดออก พร้อมกับเสียงกรีดร้อง หญิงสาวคนหนึ่งพุ่งออกมาและชนเข้ากับเขาโดยบังเอิญหญิงสาวเงยหน้าขึ้นเมื่อรู้สึกว่าเธอชนเข้ากับใครบางคน เมื่อเธอเห็นหน้าเขา เธออุทานว่า “คุณนี่!”นั่นเป็นสถานการณ์ที่ไม่ธรรมดา มันทำให้ ลู เซียวเหยาเปิดประสบการณ์ฆ่าแมลงสาบเป็นครั้งแรกเขาห่อแมลงสาบที่ตายแล้วด้วยทิชชู่ก่อนจะโยนมันลงในโถส้วมเพื่อชำระมันทิ้งไปจากนั้นเขาก็เดินออกไปและเห็นหญิงสาวเดินออกจากครัวพร้อมกับขวดน้ำเมื่อเห็นเขา หญิงสาวจึงถามอย่างเร่งรีบว่า “คุณฆ่ามันแล้วใช่ไหม?”ลู เซียวเหยาพยักหน้า “ใช่ มันตายแล้ว”หญิงสาวถอนหายใจอย่างโล่งอก "ในที่สุดฉันก็รอดแล้ว"จากนั้นเธอก็ส่งขวดน้ำให้ขา “นี่ ขอโทษที่ทำให้ลำบากใจนะ”ลู เซียวเหยารับขวดน้ำมาไว้ในมือ และมองเธออย่างเย้ยยัน “คุณกลัวแมลงสาบขนาดนั้นเลยเหรอ?”หญิงสาวมองเขา “ผู้หญิงทุกคนกลัวแมลงสาบหรอกน่า”"จริงเหรอ?" ลู เซียวเหยาเลิกคิ้วขึ้น "ไม่เห็นจะรู้เลย"หญิงสาวยิ้มก่อนจะพูดเปลี่ยนเรื่อง “ฉันไม่คิดว่าจะเป็นคุณนะ ที่อยู่ห้องตรงข้ามฉัน”
ทัง โรลชูวมองเพื่อนของเธอ "มันก็ยากที่จะพูด"“ห้ะ!” หยิง เสี่ยวเซียวพ่นลมหายใจออกมา "ไม่มีทาง!"ไม่ใช่ว่าเธอขาดความมั่นใจ แต่เธอไม่สามารถคาดเดาจิตใจของ ลู เซียวเหยาและเธอไม่กล้าที่จะคาดหวังสูงเกินไป“อย่าด่วนตัดสินสิ” ทัง โรลชูวยิ้มอย่างมีความหมายหยิง เสี่ยวเซียวถอนหายใจอย่างหนัก “ลืมมันไปเถอะ อย่าไปพูดถึงมันเลย”ยิ่งพูดเรื่องนี้ก็ยิ่งรู้สึกหดหู่ เธอยอมปล่อยมันไปดีกว่าทัง โรลชูวยิ้มและไม่พูดอะไรอีกหยิง เสี่ยวเซียวทานอาหารของเธอต่อไป จากนั้นเธอก็จำบางเรื่องได้ จึงเงยหน้าขึ้น “อย่าลืมไปซื้อชุดหลังเลิกงานนี้นะ งานกาล่าการกุศลจะจัดขึ้นในอีกสองวัน”ทัง โรลชูวยิ้มและพูดว่า “แน่นอน ฉันจำได้”“และอย่าลืมโทรหาอันยีด้วย” หยิง เสี่ยวเซียวกล่าวเสริม"ฉันจะจำไว้ด้วยนะ" ทัง โรลชูวส่ายหัวและยิ้มอีกครั้ง'Love' เป็นสตูดิโอออกแบบชุดแต่งงานที่มีชื่อเสียง ซึ่งรับออกแบบชุดราตรีทุกประเภทว่ากันว่าเจ้าของที่นี่เป็นผู้หญิงที่สง่างามเป็นอย่างมาก เธออายุเกือบสี่สิบปีแต่ยังไม่เคยแต่งงาน เพราะเธออยากจะเป็นโสดมากกว่าต้องไปอยู่กับใครซักคน เธอไม่อยากทำงานบ้านที่น่าเบื่อบุคลิกของเธอดูเหมือนจะเป็นคนท