ทัง โรลชูวได้ยินน้ำเสียงเยาะเย้ยของเขา เธอจึงเอ่ยปากปกป้องเพื่อนที่ดีที่สุดของเธอ “เสี่ยวเซียวไม่ได้ใจร้อนนะ ลุงหยิงต้องการพบเซียวเหยา เธอก็เลย…” เธอยักไหล่ "เข้าใจไหม?"ลู ชินจินส่ายหัวและหัวเราะ “เซียวเหยาเกลียดการที่ต้องไปเจอผู้ใหญ่ที่สุด เขาหนีเสือปะจระเข้ชัด ๆ”ทัง โรลชูวรู้สึกพูดไม่ออก“คุณหมายความว่าตระกูลลูเป็นเสือ ส่วนตระกูลหยิงเป็นจระเข้ใช่ไหม?”ลู ชินจินมองไปข้างหน้าเพื่อตั้งใจขับรถ และยิ้มออกมาเล็กน้อย “ผมเชื่อเลยว่าครั้งนี้มันไม่ง่ายสำหรับเซียวเหยา”ในตระกูลลู พี่ชายคนโตของเขาสามารถป้องกันเขาจากการกดขี่ของชายชราได้แต่ในตระกูลหยิง คุณหยิงไม่ใช่คนที่จะถูกหลอกได้ง่าย ๆ การแสดงของเซียวเหยากับเสี่ยวเซียวอาจจะไม่ราบลื่นนักทัง โรลชูวเลิกคิ้วขึ้น เธอเข้าใจสิ่งที่เขาหมายถึง แต่...เรื่องนี้มันอาจจะช่วยความสัมพันธ์ปลอม ๆ นั้นได้...หลังจากรับประทานอาหารเสร็จแล้ว ลู เซียวเหยาเดินไปกับลุงหยิงเพื่อที่จะเล่นหมากรุกด้วยกัน แต่เนื่องจากเขาไม่รู้ระดับของลุงหยิง ลู เซียวเหยาจึงระมัดระวังทุกการเดินหมากรุก เพราะเขากลัวที่จะเอาชนะคู่ต่อสู้ของเขาโชคดีที่ลุงหยิงมีความสามารถสูง ทำให้
หยิง เสี่ยวเซียวเข้ามาในห้องพร้อมผลไม้หนึ่งจาน เมื่อเธอเห็นว่าพ่อของเธอยังคงเล่นหมากรุกอยู่กับ ลู เซียวเหยา เธอก็วางจานผลไม้ไว้บนโต๊ะทำงานก่อนจะเดินไปยืนด้านข้างของ ลู เซียวเหยาลู เซียวเหยาหันไปมองเธอ เขายิ้มอย่างอ่อนโยนก่อนจะหันกลับมามองกระดานหมากรุกนายหยิงเหลือบมองลูกสาวของเขาเล็กน้อย แล้วถามอย่างเป็นกันเองว่า “ทำไมไม่ไปอยู่กับแม่ล่ะ?”“แม่อยากดูละครค่ะ และไม่อยากให้ไปรบกวน” หยิง เสี่ยวเซียวรู้สึกว่ามันน่าขบขันที่แม่ไล่ให้เธอขึ้นมาข้างบนเพื่อดูพวกเขา แต่เธอก็รู้ว่าแม่ของเธอกังวลว่าพวกเขาจะเข้ากันไม่ได้ดูเหมือนว่าแม่ของเธอจะคิดมากไปพวกเขาดูสงบสุขระหว่างเล่นหมากรุก อย่างน้อยก็ในสายตาของเธอมันเป็นแมทช์ที่ยาก เพราะทั้งสองต่อสู้กันแบบตัวต่อตัว การแข่งขันจบลงในชั่วโมงต่อมาคราวนี้คุณหยิงแพ้หลังจากที่เคลื่อนหมากไปเพียงสามครั้ง“เล่นดีนะครับ คุณลุง” ลู เซียวเหยามองนายหยิงด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตน ดวงตาของเขาอ่อนโยนในขณะที่เขายิ้มอย่างสุภาพนายหยิงเงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยสีหน้าสงบนิ่ง ปราศจากความยินดีหรือความโกรธใด ๆแต่ ลู เซียวเหยาดูเหมือนจะรู้สึกถึงกลิ่นอายแปลก ๆ เขาขมวดคิ้วเล
นายหยิงจ้องมองพวกเขาอย่างเงียบ ๆ ก่อนจะถอนหายใจออกมาในท้ายที่สุด “ช่างเถอะ งั้นไว้เจอกัน”...ขณะเดินออกจากคฤหาสน์หยิง ลู เซียวเหยาจับมือ หยิง เสี่ยวเซียวขณะที่เขาหันหลังกลับไปมองคฤหาสน์สไตล์ยุโรปนั้น เขาบ่นติดตลกว่า “ที่นี่จะเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ฉันจะไม่กลับมาอีก”เมื่อได้ยินคำพูดของเขา หยิง เสี่ยวเซียวก็หันไปมองคฤหาสน์ของเธอเช่นกัน ความโศกเศร้าปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอ ขณะที่เธอหันไปมองเขา “นายเกลียดที่นี่มากเลยเหรอ?”ลู เซียวเหยาหันกลับมาและจ้องตาของเธอ เขายิ้มอย่างอ่อนโยนและพยักหน้าอย่างจริงใจ “ฉันไม่อยากมาที่นี่อีกจริง ๆ”จากนั้นเขาก็ปล่อยมือเธอและเดินตรงไปที่รถเมื่อมือของเธอว่างเปล่า หัวใจของเธอก็ว่างเปล่าเช่นกัน ความขมขื่นกระจายทั่วหัวใจของเธอเธอกำมือของเธอเข้าหากันหา ๆ ขณะที่เธอสูดหายใจเข้าลึก ๆ และวิ่งเข้าไปหาเขาเมื่อเขากำลังจะเปิดประตูรถ เธอก็รีบตะโกนว่า "ลู เซียวเหยา"ลู เซียวเหยาหันกลับมา ร่างเพรียวบางพุ่งเข้ามาหาเขา ทำให้เขากอดเธอโดยที่ยังไม่ทันได้ตั้งตัวความอบอุ่นบนริมฝีปากของเธอทำให้เขาเบิกตากว้างด้วยความตกใจ เมื่อดวงตาของเขาสบเข้ากับดวงตาที่สดใสของเธอ“พวกเ
ลู เซียวเหยาเดินออกจากลิฟต์ตรงไปที่ห้องของเขา ในขณะที่เขากำลังใส่รหัสผ่านของตัวเองประตูฝั่งตรงข้ามของเขาก็เปิดออก พร้อมกับเสียงกรีดร้อง หญิงสาวคนหนึ่งพุ่งออกมาและชนเข้ากับเขาโดยบังเอิญหญิงสาวเงยหน้าขึ้นเมื่อรู้สึกว่าเธอชนเข้ากับใครบางคน เมื่อเธอเห็นหน้าเขา เธออุทานว่า “คุณนี่!”นั่นเป็นสถานการณ์ที่ไม่ธรรมดา มันทำให้ ลู เซียวเหยาเปิดประสบการณ์ฆ่าแมลงสาบเป็นครั้งแรกเขาห่อแมลงสาบที่ตายแล้วด้วยทิชชู่ก่อนจะโยนมันลงในโถส้วมเพื่อชำระมันทิ้งไปจากนั้นเขาก็เดินออกไปและเห็นหญิงสาวเดินออกจากครัวพร้อมกับขวดน้ำเมื่อเห็นเขา หญิงสาวจึงถามอย่างเร่งรีบว่า “คุณฆ่ามันแล้วใช่ไหม?”ลู เซียวเหยาพยักหน้า “ใช่ มันตายแล้ว”หญิงสาวถอนหายใจอย่างโล่งอก "ในที่สุดฉันก็รอดแล้ว"จากนั้นเธอก็ส่งขวดน้ำให้ขา “นี่ ขอโทษที่ทำให้ลำบากใจนะ”ลู เซียวเหยารับขวดน้ำมาไว้ในมือ และมองเธออย่างเย้ยยัน “คุณกลัวแมลงสาบขนาดนั้นเลยเหรอ?”หญิงสาวมองเขา “ผู้หญิงทุกคนกลัวแมลงสาบหรอกน่า”"จริงเหรอ?" ลู เซียวเหยาเลิกคิ้วขึ้น "ไม่เห็นจะรู้เลย"หญิงสาวยิ้มก่อนจะพูดเปลี่ยนเรื่อง “ฉันไม่คิดว่าจะเป็นคุณนะ ที่อยู่ห้องตรงข้ามฉัน”
ทัง โรลชูวมองเพื่อนของเธอ "มันก็ยากที่จะพูด"“ห้ะ!” หยิง เสี่ยวเซียวพ่นลมหายใจออกมา "ไม่มีทาง!"ไม่ใช่ว่าเธอขาดความมั่นใจ แต่เธอไม่สามารถคาดเดาจิตใจของ ลู เซียวเหยาและเธอไม่กล้าที่จะคาดหวังสูงเกินไป“อย่าด่วนตัดสินสิ” ทัง โรลชูวยิ้มอย่างมีความหมายหยิง เสี่ยวเซียวถอนหายใจอย่างหนัก “ลืมมันไปเถอะ อย่าไปพูดถึงมันเลย”ยิ่งพูดเรื่องนี้ก็ยิ่งรู้สึกหดหู่ เธอยอมปล่อยมันไปดีกว่าทัง โรลชูวยิ้มและไม่พูดอะไรอีกหยิง เสี่ยวเซียวทานอาหารของเธอต่อไป จากนั้นเธอก็จำบางเรื่องได้ จึงเงยหน้าขึ้น “อย่าลืมไปซื้อชุดหลังเลิกงานนี้นะ งานกาล่าการกุศลจะจัดขึ้นในอีกสองวัน”ทัง โรลชูวยิ้มและพูดว่า “แน่นอน ฉันจำได้”“และอย่าลืมโทรหาอันยีด้วย” หยิง เสี่ยวเซียวกล่าวเสริม"ฉันจะจำไว้ด้วยนะ" ทัง โรลชูวส่ายหัวและยิ้มอีกครั้ง'Love' เป็นสตูดิโอออกแบบชุดแต่งงานที่มีชื่อเสียง ซึ่งรับออกแบบชุดราตรีทุกประเภทว่ากันว่าเจ้าของที่นี่เป็นผู้หญิงที่สง่างามเป็นอย่างมาก เธออายุเกือบสี่สิบปีแต่ยังไม่เคยแต่งงาน เพราะเธออยากจะเป็นโสดมากกว่าต้องไปอยู่กับใครซักคน เธอไม่อยากทำงานบ้านที่น่าเบื่อบุคลิกของเธอดูเหมือนจะเป็นคนท
โลกมันกลมจริง ๆ นั่นแหละทัง โรลชูวเลิกคิ้วขึ้นและหันไปมอง ซอง อันยี และหยิง เสี่ยวเซียว “ทำเป็นมองไม่เห็นพวกเขา แล้วมาเลือกชุดของพวกเราต่อเถอะ”ไม่จำเป็นต้องเสียเวลากับคนแบบนี้ ซอง อันยี และ หยิง เสี่ยวเซียวต่างก็ยอมรับว่าดังนั้น ทั้งสองจึงหันไปเลือกเสื้อผ้าของตัวเองต่อไปหยาง เฉียนเฉียนรู้สึกไม่พอใจที่ถูกมองข้ามได้สิ ในเมื่อพวกเขาแสร้งว่าไม่เห็นเธอ เธอก็จะไม่ปล่อยไปง่าย ๆหยาง เฉียนเฉียนสูดหายใจเข้าลึก ๆ และเดินไปหาพวกเขาด้วยท่าทางหยิ่งยโส เธอมองชุดที่พวกเขากำลังเลือกและเยาะเย้ย “นี่ใครกันเนี่ย? ใช่ลูกสาวของพนักงานทุจริตคนนั้นรึเปล่า? เธอจะซื้อชุดราคาแพงพวกนี้ด้วยเงินที่พ่อแม่เธอยักยอกมาใช่ไหมล่ะ? กล้าดียังไง! ไม่รู้สึกละอายใจบ้างเหรอ!”ทันทีที่เธอพูดประชดประชันจบ ทุกคนในห้องโถงก็ได้ยินเสียงตบมันฟังชัดและดังมากซอง อันยีรู้สึกโกรธจนร่างกายของเธอหยุดสั่นไม่ได้ เธอตะโกนอย่างโกรธเคืองออกไปว่า "ฉันจะไม่ปล่อยให้เธอพูดถึงพ่อแม่ของฉันแบบนั้นหรอกนะ!"ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วเกินไปทัง โรลชูว และ หยิง เสี่ยวเซียวยังคงรู้สึกประหลาดใจอยู่ พวกเขารู้สึกขุ่นเคืองเมื่อได้ยินคำดูถูกของ หยา
"ทัง โรลชูว!" หยาง เฉียนเฉียนทนไม่ไหว และพุ่งเข้าไปหวังจะตบเธอในเวลาเดียวกัน ซอง อันยีรีบออกไปและผลัก หยาง เฉียนเฉียนออกไปหยาง เฉียนเฉียนไม่คิดว่าเธอจะเข้ามาขวางเอาไว้ เธอไม่ได้เตรียมใจเอาไว้ หลังจากถูกผลักเธอก็กำลังจะล้มและร้องตะโกรธออกมาด้วยความกลัวไม่มีใครคิดว่าทุกอย่างจะเป็นแบบนี้ ทุกคนที่อยู่ที่นั่นอึ้งกันไปหมด ในที่สุดเมื่อพวกเขารู้สึกตัว ฮัน อี้เฉินก็รีบเอื้อมมือไปหวังจะช่วยเธอ แต่มันก็สายเกินไปแล้วหยาง เฉียนเฉียนล้มลงกับพื้นอย่างแรง“เฉียนเฉียน!” ฮัน อี้เฉินร้องออกมาและรีบเข้าไปหาเธอทัง โรลชูว เห็นเลือดไหลออกมาจากใต้กระโปรงของ หยาง เฉียนเฉียนอย่างช้า ๆ รูม่านตาของเธอหดตัว หน้าของเธอเริ่มซีดเมื่อเห็นของเหลวสีแดงซอง อันยี และ หยิง เสี่ยวเซียวก็เห็นแบบนั้นเช่นกัน ซอง อันยีหน้าซีดเซียวขณะที่เธอจ้องไปที่ หยาง เฉียนเฉียนที่นั่งอยู่บนพื้นอย่างเหลือเชื่อเป็นไปได้ยังไงที่ หยาง เฉียนเฉียนกำลังตั้งครรภ์และเธอผลักหล่อน ผลักให้ล้มลงไปที่พื้น...ร่างกายของ ซอง อันยีสั่นเล็กน้อยด้วยความกลัว แม้ว่าเธอจะยังไม่แน่ใจว่าเธอกลัวอะไรทัง โรลชูว และ หยิง เสี่ยวเซียวมองหน้ากัน พวกเธอจ
หลังจากมาออกจากสตูดิโอชุดแต่งงานแล้ว พวกเธอก็มุ่งตรงไปที่โรงพยาบาลแทนที่จะกลับบ้านระหว่างทางไปที่นั่น หยิง เสี่ยวเซียว ยังคงยืนกรานว่าเธอไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจของอันยีที่จะไปเยี่ยม หยาง เฉียนเฉียน ที่โรงพยาบาลซอง อันยียังคงมองออกไปนอกหน้าต่างอย่างเงียบ ๆ และปล่อยให้ตัวเองรู้สึกผ่อนคลายโดยไม่พูดอะไรกลับไปเธอเข้าใจสิ่งที่เสี่ยวเซียวกำลังคิด ตามที่เสี่ยวเซียวพูดไป เรื่องที่เกิดขึ้นกับ หยาง เฉียนเฉียนเป็นความผิดของเธอเองทั้งหมด และเธอไม่มีสิทธิ์ตำหนิผู้อื่นแต่มันไม่ใช่ความตั้งใจของเธอที่จะไปเยี่ยม หยาง เฉียนเชียน เธอจะไปเยี่ยมลูกที่อยู่ในท้องต่างหากทารกเป็นเด็กบริสุทธิ์ทุกครั้งที่เธอหลับตา ภาพที่เธอเห็นจะเต็มไปด้วยสีแดงเพลิง มันทำให้จิตใจของเธอไม่สงบ เธอจะไม่มีวันรู้สึกสบายใจไปตลอดชีวิตถ้าเธอไม่ได้ไปเยี่ยมเมื่อพวกเธอมาถึงหน้าห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาล พวกเธอได้รู้จากพยาบาลมาว่า หยาง เฉียนเฉียนถูกส่งไปที่ห้องผ่าตัดแล้วดังนั้นพวกเธอจึงรีบไปที่หน้าห้องผ่าตัดเมื่อพวกเธอมาถึง พวกเธอก็เห็น ฮัน อี้เฉินอยู่ที่นั่นเขาเห็นพวกเธอด้วย"พวกคุณมาทำอะไรที่นี่?"ฮัน อี้เฉินมองพวกเธอด