ทัง โรลชูวมองเพื่อนของเธอ "มันก็ยากที่จะพูด"“ห้ะ!” หยิง เสี่ยวเซียวพ่นลมหายใจออกมา "ไม่มีทาง!"ไม่ใช่ว่าเธอขาดความมั่นใจ แต่เธอไม่สามารถคาดเดาจิตใจของ ลู เซียวเหยาและเธอไม่กล้าที่จะคาดหวังสูงเกินไป“อย่าด่วนตัดสินสิ” ทัง โรลชูวยิ้มอย่างมีความหมายหยิง เสี่ยวเซียวถอนหายใจอย่างหนัก “ลืมมันไปเถอะ อย่าไปพูดถึงมันเลย”ยิ่งพูดเรื่องนี้ก็ยิ่งรู้สึกหดหู่ เธอยอมปล่อยมันไปดีกว่าทัง โรลชูวยิ้มและไม่พูดอะไรอีกหยิง เสี่ยวเซียวทานอาหารของเธอต่อไป จากนั้นเธอก็จำบางเรื่องได้ จึงเงยหน้าขึ้น “อย่าลืมไปซื้อชุดหลังเลิกงานนี้นะ งานกาล่าการกุศลจะจัดขึ้นในอีกสองวัน”ทัง โรลชูวยิ้มและพูดว่า “แน่นอน ฉันจำได้”“และอย่าลืมโทรหาอันยีด้วย” หยิง เสี่ยวเซียวกล่าวเสริม"ฉันจะจำไว้ด้วยนะ" ทัง โรลชูวส่ายหัวและยิ้มอีกครั้ง'Love' เป็นสตูดิโอออกแบบชุดแต่งงานที่มีชื่อเสียง ซึ่งรับออกแบบชุดราตรีทุกประเภทว่ากันว่าเจ้าของที่นี่เป็นผู้หญิงที่สง่างามเป็นอย่างมาก เธออายุเกือบสี่สิบปีแต่ยังไม่เคยแต่งงาน เพราะเธออยากจะเป็นโสดมากกว่าต้องไปอยู่กับใครซักคน เธอไม่อยากทำงานบ้านที่น่าเบื่อบุคลิกของเธอดูเหมือนจะเป็นคนท
โลกมันกลมจริง ๆ นั่นแหละทัง โรลชูวเลิกคิ้วขึ้นและหันไปมอง ซอง อันยี และหยิง เสี่ยวเซียว “ทำเป็นมองไม่เห็นพวกเขา แล้วมาเลือกชุดของพวกเราต่อเถอะ”ไม่จำเป็นต้องเสียเวลากับคนแบบนี้ ซอง อันยี และ หยิง เสี่ยวเซียวต่างก็ยอมรับว่าดังนั้น ทั้งสองจึงหันไปเลือกเสื้อผ้าของตัวเองต่อไปหยาง เฉียนเฉียนรู้สึกไม่พอใจที่ถูกมองข้ามได้สิ ในเมื่อพวกเขาแสร้งว่าไม่เห็นเธอ เธอก็จะไม่ปล่อยไปง่าย ๆหยาง เฉียนเฉียนสูดหายใจเข้าลึก ๆ และเดินไปหาพวกเขาด้วยท่าทางหยิ่งยโส เธอมองชุดที่พวกเขากำลังเลือกและเยาะเย้ย “นี่ใครกันเนี่ย? ใช่ลูกสาวของพนักงานทุจริตคนนั้นรึเปล่า? เธอจะซื้อชุดราคาแพงพวกนี้ด้วยเงินที่พ่อแม่เธอยักยอกมาใช่ไหมล่ะ? กล้าดียังไง! ไม่รู้สึกละอายใจบ้างเหรอ!”ทันทีที่เธอพูดประชดประชันจบ ทุกคนในห้องโถงก็ได้ยินเสียงตบมันฟังชัดและดังมากซอง อันยีรู้สึกโกรธจนร่างกายของเธอหยุดสั่นไม่ได้ เธอตะโกนอย่างโกรธเคืองออกไปว่า "ฉันจะไม่ปล่อยให้เธอพูดถึงพ่อแม่ของฉันแบบนั้นหรอกนะ!"ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วเกินไปทัง โรลชูว และ หยิง เสี่ยวเซียวยังคงรู้สึกประหลาดใจอยู่ พวกเขารู้สึกขุ่นเคืองเมื่อได้ยินคำดูถูกของ หยา
"ทัง โรลชูว!" หยาง เฉียนเฉียนทนไม่ไหว และพุ่งเข้าไปหวังจะตบเธอในเวลาเดียวกัน ซอง อันยีรีบออกไปและผลัก หยาง เฉียนเฉียนออกไปหยาง เฉียนเฉียนไม่คิดว่าเธอจะเข้ามาขวางเอาไว้ เธอไม่ได้เตรียมใจเอาไว้ หลังจากถูกผลักเธอก็กำลังจะล้มและร้องตะโกรธออกมาด้วยความกลัวไม่มีใครคิดว่าทุกอย่างจะเป็นแบบนี้ ทุกคนที่อยู่ที่นั่นอึ้งกันไปหมด ในที่สุดเมื่อพวกเขารู้สึกตัว ฮัน อี้เฉินก็รีบเอื้อมมือไปหวังจะช่วยเธอ แต่มันก็สายเกินไปแล้วหยาง เฉียนเฉียนล้มลงกับพื้นอย่างแรง“เฉียนเฉียน!” ฮัน อี้เฉินร้องออกมาและรีบเข้าไปหาเธอทัง โรลชูว เห็นเลือดไหลออกมาจากใต้กระโปรงของ หยาง เฉียนเฉียนอย่างช้า ๆ รูม่านตาของเธอหดตัว หน้าของเธอเริ่มซีดเมื่อเห็นของเหลวสีแดงซอง อันยี และ หยิง เสี่ยวเซียวก็เห็นแบบนั้นเช่นกัน ซอง อันยีหน้าซีดเซียวขณะที่เธอจ้องไปที่ หยาง เฉียนเฉียนที่นั่งอยู่บนพื้นอย่างเหลือเชื่อเป็นไปได้ยังไงที่ หยาง เฉียนเฉียนกำลังตั้งครรภ์และเธอผลักหล่อน ผลักให้ล้มลงไปที่พื้น...ร่างกายของ ซอง อันยีสั่นเล็กน้อยด้วยความกลัว แม้ว่าเธอจะยังไม่แน่ใจว่าเธอกลัวอะไรทัง โรลชูว และ หยิง เสี่ยวเซียวมองหน้ากัน พวกเธอจ
หลังจากมาออกจากสตูดิโอชุดแต่งงานแล้ว พวกเธอก็มุ่งตรงไปที่โรงพยาบาลแทนที่จะกลับบ้านระหว่างทางไปที่นั่น หยิง เสี่ยวเซียว ยังคงยืนกรานว่าเธอไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจของอันยีที่จะไปเยี่ยม หยาง เฉียนเฉียน ที่โรงพยาบาลซอง อันยียังคงมองออกไปนอกหน้าต่างอย่างเงียบ ๆ และปล่อยให้ตัวเองรู้สึกผ่อนคลายโดยไม่พูดอะไรกลับไปเธอเข้าใจสิ่งที่เสี่ยวเซียวกำลังคิด ตามที่เสี่ยวเซียวพูดไป เรื่องที่เกิดขึ้นกับ หยาง เฉียนเฉียนเป็นความผิดของเธอเองทั้งหมด และเธอไม่มีสิทธิ์ตำหนิผู้อื่นแต่มันไม่ใช่ความตั้งใจของเธอที่จะไปเยี่ยม หยาง เฉียนเชียน เธอจะไปเยี่ยมลูกที่อยู่ในท้องต่างหากทารกเป็นเด็กบริสุทธิ์ทุกครั้งที่เธอหลับตา ภาพที่เธอเห็นจะเต็มไปด้วยสีแดงเพลิง มันทำให้จิตใจของเธอไม่สงบ เธอจะไม่มีวันรู้สึกสบายใจไปตลอดชีวิตถ้าเธอไม่ได้ไปเยี่ยมเมื่อพวกเธอมาถึงหน้าห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาล พวกเธอได้รู้จากพยาบาลมาว่า หยาง เฉียนเฉียนถูกส่งไปที่ห้องผ่าตัดแล้วดังนั้นพวกเธอจึงรีบไปที่หน้าห้องผ่าตัดเมื่อพวกเธอมาถึง พวกเธอก็เห็น ฮัน อี้เฉินอยู่ที่นั่นเขาเห็นพวกเธอด้วย"พวกคุณมาทำอะไรที่นี่?"ฮัน อี้เฉินมองพวกเธอด
บรรยากาศที่เงียบสงบ ร่มเย็น ทุก ๆ อย่างดูน่าอัศจรรย์มากจนมีเสียงหนึ่งพูดขัดขึ้นมา"ให้ตายสิ ฉันควรดื่มขวดไหนดีนะ"ลู เซียวเหยาเกาศีรษะด้วยความหงุดหงิด และหันไปมองทั้งคู่ที่กำลังดูจริงจังไม่แพ้กัน จากนั้นเขาก็ทรุดตัวลงด้วยความพ่ายแพ้ และนั่งตัวลงบนโซฟาด้วยท่าสบาย ๆ“เป็นอะไรไป นายไม่ได้บอกว่าอยากดื่มหรอกเหรอ?” เซิน โมเฟย ถามโดยไม่แม้แต่จะมองเขา“ก็นายกำลังทำงานอยู่นี่ ฉันจะกล้าดื่มได้ยังไง?”น้ำเสียงของเขาดูอ้างว้างมาก ราวกับว่าเขากำลังตำหนิพวกเขาที่กำลังทำงานหนักจนเขาไม่กล้าดื่มเซิน โมเฟยหัวเราะเบา ๆ “นายสามารถดื่มได้ตามสบายเพราะมันจะไม่ส่งผลกระทบต่องานของเราอยู่ดี”“แต่มันส่งผลต่ออารมณ์ของฉัน” ลู เซียวเหยาตอบอย่างเย็นชา ขณะที่เหลือบมองเขาเล็กน้อยเซิน โมเฟยเลิกคิ้วและพูดว่า “นั่นเป็นความผิดของเราเองแหละ”ขณะที่เขาพูด เขาก็ปิดแล็ปท็อปและหันไปมอง ลู เซียวเหยาด้วยรอยยิ้มจาง ๆ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยเล่ห์เพทุบาย “ทำไมวันนี้ไม่ไปที่บาร์ล่ะ?”"ฉันไม่มีอารมณ์"ไม่มีอารมณ์? ริมฝีปากของ เซิน โมเฟยยิ้มแบบล้อเลน “ลูกพี่ลูกน้องของฉัน มันผิดปกตินะ”“นายนั่นแหละที่ไม่ปกติ” ลู เซียวเหยา
เด็กปลอดภัยแล้ว เมื่อ ซอง อันยีได้ยินหมอพูดแบบนั้นกับ ฮัน อี้เฉินหัวใจที่เคยเต้นร้อนผ่าวอย่างตื่นตระหนก ก็ค่อย ๆ สงบลงดังเดิมแม้ว่าความเครียดและความกังวลจะลดลงมากโข ทว่ามือทั้งสองก็ยังสั่นเครือไม่หยุด รวมทั้งน้ำตาที่รื่นรินออกมาไม่ขาดสายทัง โรลชูวจึงยื่นแขนออกไปคว้าตัวอีกคนมากอดปลอบไว้แน่น และเอ่ยปลอบอย่างนุ่มนวล “ไม่ไปไรแล้วนะ อันยี”“เด็กนั่นโชคดีจริงนะ” หยิง เสี่ยวเซียวพึมพำออกมาเบา ๆ ทว่าสายตาคมสวยของทัง โรลชูวกลับตวัดมองเธอด้วยความไม่พอใจหญิงสาวพลันรีบอธิบายจนลิ้นแทบพัน “ฉันหมายถึงเธอคนนั้นเข้มแข็งดี”หยาง เฉียนเฉียนโดนส่งตัวกลับเข้าห้องพักฟื้น แต่ทัง โรลชูว และคนอื่น ๆ ไม่ได้เดินตามเธอไปด้วย พวกเขาเลือกที่จะออกจากโรงพยาบาลแทนไม่นานอันยีก็ได้รับสายจากโมเฟย อีกฝ่ายพูดว่าเพิ่งรู้ว่าพวกเขาอยู่ที่โรงพยาบาล และต้องการจะมาหา แต่อันยีห้ามคนปลายสายไว้ก่อน พร้อมบอกให้รออยู่ที่ รอยัล ไดนาสตี้ ไฮท์หลังจากนั้นทุกคนในที่นี่ก็รีบขับรถมุ่งไปยัง รอยัล ไดนาสตี้ ไฮท์ ทันที…“เกิดอะไรขึ้น?” ลู เซียวเหยาถามขึ้นทันควันเมื่อเห็นคนทั้งหมดกำลังเดินเข้ามาในพื้นที่เคหะลู เซียวเหยาเริ่มคิ
ขาเรียวจึงก้าวเท้าเข้าไปหาอีกคน พลางเอ่ย “ถ้าชอบก็ลองสวมดูนะ”พลันได้ยินเสียง ทัง โรลชูวก็ชะงักราวได้สติ เมื่อหันไปเห็นว่าเป็นซอง อันยี เธอก็เอ่ยตะกุกตะกักเชิงปฏิเสธ “ฉันจะไปทำงาน ไม่จำเป็นต้องสวมชุดแบบนี้หรอก”“เอาน่า ลองใส่ดูหน่อยเถอะ”ไม่พูดพร่ำทำเพลง อันยีก็ถือชุดพร้อมลากแขนของโรวชูวไปทางห้องลองเสื้อผ้า พร้อมยัดเยียดเดรสสวยให้อีกฝ่าย เธอส่งยิ้มบาง “ลองหน่อยนะ”หลังจากนั้นอันยีก็หมุนตัวเดินออกไปพอก้มมองชุดสวยในมือ ทัง โรลชูวก็ไม่แน่ใจว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี แต่เธอก็อดยอมรับไม่ได้ว่าชอบเดรสชุดนี้อยู่ไม่น้อยเลยทีเดียวเอาเถอะ ไหนไหนก็เข้ามาแล้ว ก็ลองใส่ดูหน่อยแล้วกันวันนี้ ลู ชินจินไม่ได้ทำงานล่วงเวลา และก่อนที่จะเลิกงาน เขาก็ได้โทรบอกทัง โรลชูวแล้วว่าจะไปรับเธอกลับบ้านพร้อมกัน ทว่าจู่ ๆ กลับได้ยินว่าเจ้าตัวไปเลือกชุดกับเสี่ยวเซียวและอันยีเสียก่อนดังนั้น ลู ชินจินเลยหักพวกมาลัยเปลี่ยนทางไปยังสตูดิโอร้านรับจัดงานแต่งงานแทน การปรากฏตัวโดยพละการของชายหนุ่ม ต่างทำให้พนักงานในร้านแตกตื่นจนรีบกุลีกุจอออกมาต้อนรับแทบไม่ทันแหม พวกหล่อนจะปล่อยโอกาสในการพรีเซนเตอร์ตัวเองกับหนุ่
สุดท้าย ทัง โรลชูวก็ไม่ได้ซื้อเดรสหวาบหวิวนั้นกลับบ้านและถึงแม้ว่าอยากจะซื้อ ชินจินก็ไม่เห็นด้วยอยู่ดีมีหรือที่เขาจะยอมให้เธอใส่ชุดที่โชว์รูปร่างสวยงามต่อหน้าผู้คนมากหน้าหลากตาแบบนั้น? ความงามของเธอต้องเป็นของเขาแต่เพียงผู้เดียวเท่านั้นใช่ จะว่าเขาเป็นพวกขี้หึงก็ว่าได้เมื่อโรลชูวเดินออกมาจากห้องลองชุด หยิง เสี่ยวเซียวก็รีบวิ่งเข้าไปกระซิบข้างหูเร็วควัน “ชูวชูว คืนนี้ก็ขอให้โชคดีนะจ๊ะ!”โรลชูวขมวดคิ้วไม่เข้าใจกับความหมายของประโยคเมื่อครู่แต่เมื่อเธอกลับถึงบ้าน เธอก็เข้าใจในทันทีร่างเล็กเดินตามร่างสูงของชินจินเข้าไปในห้องของพวกเขา“ชินจิน ฉันอยากจะ…”ทว่าก่อนที่คำว่า ‘อาบน้ำ’ จะได้หลุดออกมาจากริมฝีปาก มือหนาก็คว้าเอวบางรั้งไว้แน่น พร้อมดึงตัวเธอให้เข้าไปใกล้ในชั่วพริบตา แรงกดทำให้รับรู้ว่าตอนนี้กำลังโดนอีกฝ่ายกักขังร่างทั้งร่างตรึงไว้กับประตูลานหนา ร่างสูงโปร่งกดทับลงมาจนช่องหว่างระหว่างชายหญิงหายไป“ฉันยังไม่ได้อาบน้ำเลยนะ” โรลชูวพึมพำเสียงเบา พลางยกมือทาบลงบนอกหนาเชิงดันตัวคนตรงหน้าให้ถอยหลังออกห่างนัยน์ตาคู่สวยหลบลงราวกับไม่กล้าโต้ตอบนัยน์ตาคู่คมที่มองเธออยู่ชินจ