ตามที่เธอเดาเอาไว้ พ่อชินจินไม่ชอบเธอเป็นอย่างมากเมื่อ ลู ชินจินดึงเธอให้นั่งลง ชายชราก็พูดอย่างเย็นชาว่า "ชินจิน ทำไมแกถึงพาคนนอกมาด้วย?"ทัง โรลชูวหันไปมอง ลู ชินจิน เธอรู้สึกเสียใจ เสียใจจนไม่กล้าแม้แต่จะยิ้มออกมา“คนนอก?” ลู ชินจินหันไปมองพ่อของเขาอย่างเย็นชา พร้อมรอยยิ้มเย้ยหยันบนริมฝีปากของเขา “อย่าทำเป็นลืมไปหน่อยเลยว่า ตอนที่แม่ของผมยังมีชีวิตอยู่ พ่อเป็นคนพาคนนอกกลับมาที่บ้าน อย่างไร้ยางอาย”เขากวาดตามองไปที่หลิน เสวียจี ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน มันทำให้ใบหน้าของ หลิน เสวียจีซีดเผือก เขาพูดต่อ "อีกอย่าง ชูวชูว เป็นภรรยาของผม แบบถูกต้องตามกฎหมาย เธอไม่ใช่คนนอก"ลู ติงแบงจ้องเขาด้วยสายตาที่ไร้ความรู้สึกใด ๆ มันไม่เหมือนกับสายตาที่พ่อจะมอบให้ลูกชายเลยลู ชินจินมองเข้าไปในดวงตาของเขาอย่างกล้าหาญ ท่าทางที่สง่างามของเขาไม่ได้ดูด้อยกว่าพ่อของเขาเลยแม้แต่น้อยทัง โรลชูวที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เขากำลังเหงื่อแตก เธอสามารถสัมผัสได้ถึงรัศมีความเยือกเย็นที่เล็ดลอดออกมาจากร่างกายของชินจิน เขาคงเกลียดชังพ่อของตัวเองเป็นอย่างมากเช่นเดียวกับที่เธอรู้สึกต่อพ่อของเธอเอง ดังนั้น...
หลิน เสวียจี รู้ว่าเธอรู้ทันว่าเธอไปแอบสืบมาแล้ว เธอไม่ได้รู้สึกอับอายเลย แต่เธอกลับยอมรับอย่างตรงไปตรงมา “เราได้สั่งให้คนไปสืบเรื่องของคุณแล้วจริง ๆ เพราะคุณแต่งงานกับชินจิน เราจึงต้องการทำความเข้าใจเรื่องของภรรยาของเขา”"หึ" ลู ชินจินหัวเราะเยาะและมองไปที่ ลู ติงแบง และ หลิน เสวียจี ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความรังเกียจ “อย่าบอกนะว่าการสืบที่พวกคุณตามสืบภรรยาของผม เพราะเป็นห่วงผมน่ะ”ลู ติงแบงจ้องเขม็งเขา ใบหน้าของเขากำลังตึงเครียด และไม่ได้พูดอะไรออกไปแต่ หลิน เสวียจียังคงยิ้ม เธออธิบาย "ชินจิน ครอบครัวอย่างเราน่ะ มีผู้หญิงมากมายที่พยายามจะเอาชนะใจเธอ..."เมื่อเขาได้ยินเรื่องนี้ ลู ชินจินก็พูดแสร้งขึ้นไปทันที “หมายถึงตัวเองเหรอป้าหลิน?”หลิน เสวียจีตกใจและเข้าใจว่าเขาหมายถึงอะไร รอยยิ้มบนใบหน้าของเธอค่อนข้างเกร็ง “ชินจิน เธอ...”ลู ชินจินยิ้มอย่างดูถูกเหยียดหยาม “ผมพูดอะไรผิดไปเหรอครับ? ก็คุณพยายามเข้าหาพ่อผม แล้วก็ไล่แม่ผมไปนี่ครับ? ให้ความสำคัญเมียน้อยมากว่าภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของตัวเอง”ใบหน้าของ หลิน เสวียจีซีดลง เธอหันไปมองทางติงแบงอย่างไม่พอใจสามีของเธอเหลือบมองเธอแ
ในการเผชิญหน้าระหว่างพ่อและลูกชาย ไม่มีฝ่ายใดเต็มใจที่จะยอมแพ้ บรรยากาศตึงเครียดราวกับอยู่ในสนามรบในท้ายที่สุด ลู ชินจินก็ดึง ทัง โรลชูวให้เดินออกไปจากบ้านหลังนี้โดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย เขาแสดงท่าทางที่แน่วแน่ของเขาให้ ลู ติงแบงได้เห็นแม้ว่าเขาจะรู้ว่าผลลัพธ์จะเป็นแบบนี้ แต่ ลู ติงแบงก็ยังโกรธเคืองความอวดดีของลู ชินจิน“อาจี ดูเขาสิ! เย่อหยิ่งและไม่ให้เกียรติผมเลย ผมจะยอมยกทุกอย่างไปให้เขาได้ยังไง?”เมื่อเธอได้ยินเขาพูดว่าเขาตั้งใจจะทิ้งทุกอย่างไว้ให้กับลู ชินจิน ความอาฆาตพยาบาทก็แวบผ่านดวงตาของหลิน เสวียจี แต่เธอก็รีบเก็บซ่อนมันเอาไว้อย่างดี จากนั้นเธอก็เอื้อมมือออกไปและลูบหน้าอกของ ลู ติงแบง เบา ๆ ปลอบโยนเขาอย่างอ่อนโยน “คุณไม่สามารถบังคับเด็กอย่างชินจินได้หรอกค่ะ ยิ่งคุณทำอย่างนั้น เขาก็จะยิ่งต่อต้านคุณมากขึ้น เราต้องคุยกับเขาดี ๆ”“พูดดี ๆ กับเขายังไง” น้ำเสียงของ ลู ติงแบงยังคงฟังดูรุนแรงมากหลิน เสวียจีคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วเธอก็พูดว่า "ถ้ามันไม่ได้ผล ฉันสามารถไปคุยกับ ทัง โรลชูวได้"เมื่อได้ยินแบบนั้น ลู ติงแบงก็จ้องมองเธออย่างเงียบ ๆ เป็นเวลานาน ในที่สุด เขาพยักหน้า พูดด้
"ห๊ะ?""คุณโอเคไหม?"ลู ชินจินหันไปมองเธอ และยิ้ม "ผมสบายดี ไม่ต้องห่วง""จริงนะ?" ทัง โรลชูวไม่อยากจะเชื่อเขา เธอเม้มปากแล้วถามไปว่า “เราจะไปแบบนี้จริงเหรอ?”เมื่อนึกถึงคำพูดของพ่อของเขา ทัง โรลชูวก็รู้สึกกังวลเล็กน้อย เธอกลัวจริง ๆ ว่าพ่อของเขาจะทำบางอย่างกับเซียวเหยา ถ้าเป็นแบบนั้น พ่อของเขาอาจจะต่อต้านความสัมพันธ์ของเซียวเหยาและเสี่ยวเซียว เหมือนที่เขาทำกับเธอรึเปล่า?มันเคยเกิดขึ้นกับเธอแล้ว เธอไม่ต้องการให้เพื่อนของเธอต้องมาเจอชะตากรรมเดียวกัน“ถ้าคุณกังวลเรื่องของเซียวเหยา คุณไม่จำเป็นต้องกังวลเลย ตราบใดที่ยังมีผมอยู่ พ่อคงไม่กล้าทำอะไร”เขาพูดด้วยน้ำเสียงเด็ดเดี่ยวทัง โรลชูวรู้สีกว่าตัวเองกังวลเกินเหตุ “เขาเป็นใคร เขาคือ ลู ชินจิน แม้ว่าเขาจะไม่มีพลังพิเศษอะไร แต่เขาเป็นคนที่สามารถปกป้องครอบครัวและเพื่อน ๆ ของเธอได้”ทัง โรลชูวยิ้มแย้มแจ่มใส “ค่ะ ฉันไม่จำเป็นต้องกังวลเลย เพราะฉันเชื่อคุณ”"ขอบคุณที่คุณเชื่อใจผม" ลู ชินจินหันไปมองเธอ และยิ้มออกมาทัง โรลชูวยิ้มแล้วหันไปมองข้างนอกหน้าต่าง เธอถามด้วยความสงสัยว่า “เราจะกลับไปวันนี้เลยเหรอ?”"คุณอาจจะไม่ได้มาเมืองจิงบ่อ
นอกจากต้นเมเปิลแล้ว ก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ ภายในสวนสาธารณะอีกด้วย แต่เนื่องจากพวกเขามาสายไปหน่อย หลังจากที่ชมต้นเมเปิลเสร็จแล้วก็เป็นเวลาเย็นแล้ว ทัง โรลชูวจึงทำได้เพียงแค่กลับไปก่อน เธออยากจะเที่ยวมากกว่านี้หลังจากที่ ลู ชินจินขับรถออกมาจากสวนสาธารณะสักพัก เขาก็หันไปมองทัง โรลชูว และเห็นเธอกำลังจ้องมองออกไปนอกหน้าต่าง ดวงตาของกำลังแสดงออกว่าเธอไม่อยากกลับรอยยิ้มจาง ๆ ปรากฏขึ้นที่มุมริมฝีปากของเขา และเขาก็พูดเบา ๆ ว่า "ไว้เรามาที่นี่ด้วยกันอีกไหม?""มาอีกเหรอคะ?"ทัง โรลชูวหันไปมองเขา พวกเขาทั้งคู่ต่างก็ยุ่งมาก แล้วพวกเขาจะได้มาที่นี่ด้วยกันอีกวันไหน?เธอยิ้มเล็กน้อย “ไว้เราค่อยมาก็ได้”หลังจากพูดจบ เธอก็หันกลับไปมองข้างนอกหน้าต่างอีกครั้ง ภาพทัศนียภาพทำให้หัวใจของเธอสั่นไหวเมื่อรถของพวกเขาเคลื่อนลงจากเนินเขาไปยังย่านใจกลางเมือง ท้องฟ้าก็มืดสนิทแล้ว ท้องถนนตอนนี้เต็มไปด้วยรถมากมาย จราจรติดขัด รถต่างก็เคลื่อนที่ไปข้างหน้าราวกับหอยทากทัง โรลชูวอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา “รถติดในเมือง แย่ที่สุด!”“คุณแค่ต้องทำความคุ้นเคยกับมัน” เห็นได้ชัดว่า ลู ชินจินคุ้นเคยกับเรื่องแ
ลู ชินจินเป็นสมาชิกของคลับแห่งนี้ และเขาเคยมาที่นี่บ่อย ๆ ดังนั้นพนักงานทุกคนที่ทำงานที่นี่มาหลายปีจึงจำเขาได้ ทันทีที่เขาเข้าไปในคลับเฮาส์ ก็มีคนเข้ามาทักทายเขาด้วยความเคารพ “สวัสดีตอนเย็นครับ ประธานลู”“คุณชูและคนอื่น ๆ มารึยัง?” ลู ชินจินถาม“ครับ พวกเขากำลังรอคุณอยู่ในห้องส่วนตัว”ทัง โรลชูวมองชายที่เดินเข้ามาหาพวกเขา ดวงตาของเธอกำลังจดจ่อกับป้ายชื่อที่ติดอยู่บนหน้าอกของเขา และเธอก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นได้ "ผู้ชายคนนี้คือ ผู้จัดการของที่แห่งนี้"ผู้จัดการกวาดสายตาไปทาง ทัง โรลชูวก่อนจะหันไปยิ้มให้ ลู ชินจิน “ซีอีโอลู เชิญทางนี้ครับ ผมจะพาคุณไป”ในฐานะที่เขาเป็นพนักงาน สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ไม่ล่วงละเมิดความเป็นส่วนตัวของแขกแม้ว่าผู้จัดการจะรู้สึกอยากรู้อยากเห็นมากขนาดไหนเกี่ยวกับผู้หญิงของลู ชินจิน แต่เขาก็ไม่กล้าที่จะถามอะไรออกไปผู้จัดการพาพวกเขาไปที่ห้องส่วนตัวบนชั้น 27 แล้วหันกลับไปก่อนเดินกลับไป เขาก็อดไม่ได้ที่จะเหลือบมอง ทัง โรลชูวอีกครั้ง เมื่อเขาบังเอิญไปสบตาเข้ากับเธอ มันทำให้เขาตกใจมากจนรีบถอนสายตาจากไปอย่างรวดเร็วทัง โรลชูวมองเห็นความตื่นตระหนกของเขา ทำให้เธอไ
ทัง โรลชูวถามสิ่งที่พวกเขาชอบก่อนที่จะสั่งอาหารชู หยวนอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา “พี่สะใภ้ช่างมีน้ำใจจริง ๆ”ทัง โรลชูวมองเขาและพูดด้วยรอยยิ้มจาง ๆ "นั่นคือสิ่งที่ฉันควรทำ พวกเธอเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของชินจิน ฉันอยากให้พวกเธอคอยอยู่ข้างเขานี่นา"เมื่อเขาได้ยินแบบนั้น เซิน มูก็เลิกคิ้วขึ้น “พี่กำลังพยายามเอาชนะใจพวกเราอยู่ใช่ไหม พี่สะใภ้?”“ถูกต้อง” ทัง โรลชูวยอมรับอย่างตรงไปตรงมา จากนั้นเธอก็แสร้งทำเป็นว่าร้ายต่อลู ชินจิน “ชินจิน อย่าทำให้ฉันโกรธนะ ไม่งั้นพวกเขาจะเกลียดคุณแน่”ลู ชินจินเลิกคิ้วเรียวขึ้นเล็กน้อย ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความสนุกสนานและความอ่อนโยน เขาพูดเบา ๆ ว่า “อย่ากังวลเลยคุณผู้หญิง ไม่มีวันนั้นหรอก”ทัง โรลชูว กัดริมฝีปากของเธอเบา ๆ รอยยิ้มหวานทบนหน้าเล็ก ๆ ที่สวยงามของเธอในเวลานี้ จู่ ๆ ก็เกิดเสียงร้องไห้ขึ้นมาจากด้านข้างเธอ “ไม่นะ ฉันว่าฉันตาบอด!”ทัง โรลชูวรีบหันไปมองตามทิศทางของเสียงนั้น เธอเห็น หลิง เหยาเอามือทั้งสองข้างปิดหน้าเขา เธอถามอย่างกังวลเล็กน้อย "อาเหยา เป็นอะไรไหม?"“เขาตาบอดเพราะความรักที่พี่มีต่อชินจิน” เซิน มูตอบแทน หลิง เหยาทัง โรลชูวรู้
“ใช่ ฉันล้อเล่น” เซิน มูเห็นด้วย ขณะที่เขาหัวเราะออกมาอย่างเสียงดังบรรยากาศภายในห้องส่วนตัวนั้นเต็มไปด้วยความสนุกและผ่อนคลาย ทุกคนต่างพูดคุยกันอย่างเป็นกันเองทัง โรลชูวอารมณ์ดี เธอเลยดื่มมากไปหน่อย เธอเมื่อหน้าแดง เธอเริ่มเมาแล้วเวียนหัว ภายใต้แสงไฟสว่างจ้า เธอดูเย้ายวนยิ่งกว่าเดิม“ไปเถอะพี่สะใภ้ ดื่มกับผมอีกหน่อยได้ไหม”หลิง เหยาขยับตัวเข้าไปใกล้ ทัง โรลชูวด้วยมืออีกข้างที่ถือแก้วไวน์ ในเวลานี้ น้ำเสียงเย็นเยียบดังขึ้นข้างหูของเขา “อาเหยา นิสัยเดิมของนายกลับมาอีกแล้วเหรอ?”เมื่อหลิงเหยาได้ยินเช่นนั้น หัวใจของเขาก็เต้นเร็วขึ้น ๆ ด้วยความตื่นตระหนก เขาหันไปหาชายผู้คนนั้นทันที และยิ้มอย่างประจบสอพลอ “พี่ครับ ผมมีความสุขจนลืมตัวไป”ภายใต้สายตาที่แหลมคมของเขา ก็นุ่มนวลขึ้นเรื่อย ๆ สุดท้ายก็สายตาของเขาก็กลับไปเป็นปกติเมื่อเห็นเช่นนั้น เซิน มูก็ยิ้มและพูดแก้ตัวให้ หลิง เหยา “ชินจิน ถ้าเธอจะเมาคืนนี้ก็ไม่เป็นไรนะ พวกเราไม่ถือ ถ้ากลับบ้านไม่ไหวก็นอนค้างมันที่นี้เลย ดีไหมล่ะ”ลู ชินจินหันไปมอง ทัง โรลชูวที่กำลังเมาอยู่ ราวกับว่าเธอสังเกตเห็นสายตาของเขา เธอหันกลับมาและยิ้มให้เขา พร้อ