เอริกเองก็คิดว่ามันจะเสียเปล่าถ้าไม่ดื่ม "งั้นเหรอ? งั้นเทให้ผมเต็มแก้วเลย ผมจะหยุดดื่มเมื่อผมใกล้ตาย!”มุมปากของแจ็คสันโค้งงอ แม้ว่าจะถูกห้อมล้อมไปด้วยผู้หญิงที่พยายามอย่างเต็มที่ ดวงตาของเขากลับสะท้อนถึงจิตใจที่มีสติสัมปชัญญะดี “เฮ้ อย่าตายนะ ได้โปรด อย่าให้ฉันต้องลากศพนายกลับ”เอริกกระดกเครื่องดื่มหมดในครั้งเดียวแล้ววางแก้วลงด้วยท่าทางที่ไม่พอใจ “ฉันไม่ได้ดื่มแอลกอฮอล์มานานแล้ว พระเจ้ารู้ดีว่ามันรู้สึกดีแค่ไหน! อย่าหงุดหงิดเลยแจ็คสัน ฉันจะไม่ตายหรอก ฉันกินบางอย่างระหว่างทางมาที่นี่แล้ว มันน่าจะช่วยลดฤทธิ์เบียร์บางส่วนได้ สิ่งที่น่าสนใจกว่าคือนายต่างหาก! จู่ ๆ ก็เกิดอารมณ์อยากออกมาเล่นใช่ไหม? ฉันกลับคิดว่านายพอใจที่จะเป็นเด็กดีที่ไม่ออกไปซนแล้วเสียอีก”แจ็คสันไม่พูดอะไร แต่รอยยิ้มบนริมฝีปากของเขาจางลงผู้หญิงที่ยั่วยวนที่มีใบหน้าที่อาจได้รับการทำศัลยกรรมพลาสติกมากเกินไปก็ลุกขึ้นพร้อมกับโทรศัพท์ในมือ "คุณเวสต์ คืนนี้ฉันพาเพื่อนของฉันมาคนหนึ่งด้วย! เธอยังเป็นมือใหม่ ไม่สิ ฉันควรจะบอกว่าเธอไม่เคยโดนแตะต้องเลยด้วยซ้ำ เธอเพิ่งมาถึงและตอนนี้เธอกำลังถามว่าเธอจะเข้ามาทักทายได้ไหม คุณอย
มือของซาช่าแข็งทื่ออยู่ครู่หนึ่ง ความอับอายได้หยุดเธอไว้ อย่างไรก็ตาม เธอกลับตอบอย่างตรงไปตรงมาว่า “ใช่ค่ะ”แจ็คสันปัดมือของเธอออกจากเขา “ไปอาบน้ำก่อนแล้วค่อยมานอนลงบนเตียง”เฉดสีชมพูผุดขึ้นบนใบหน้าของซาช่าขณะที่เธอพยักหน้า เธอไปอาบน้ำอย่างรวดเร็วอย่างเชื่อฟังก่อนที่เธอจะออกไปโดยเหลือแต่ผ้าเช็ดตัวรอบตัว เธอตรวจสอบการตอบสนองของแจ็คสันขณะที่เธอนอนลงบนเตียงตามที่เขาได้สั่งเธอไว้แจ็คสันมองดูการเคลื่อนไหวของเธอด้วยใบหน้าที่นิ่งเฉยพลางจัดเนคไทตัวเองให้เรียบร้อย “กรุณาไปใส่เสื้อผ้าด้วย ฉันจะไม่ทำอะไรในคืนนี้ ฉันแค่อยากให้เธอมานอนข้าง ๆ ฉัน”ซาช่าตกตะลึง “อะ-อะไรนะ?”แจ็คสันไม่พูดซ้ำ สิ่งที่เขาต้องการไม่ใช่เซ็กส์แต่เป็นการนอน ตั้งแต่ที่ทิฟฟานี่ทิ้งเขาไป เขาก็ไม่ได้มีความสุขในยามค่ำคืนอีกเลยเอริกกลับบ้านไปและพบว่าธัญญ่าไม่ได้นอนอยู่ในห้องของเธอแต่กลับกำลังรอเขาอยู่ในห้องนั่งเล่นพร้อมกับซุปอุ่น ๆ ที่เธอได้ทำไว้ให้เขา เมื่อรู้ว่าเอริกจะไม่สามารถปฏิเสธที่จะดื่มเหล้าได้ถ้าเขาออกไปข้างนอกเธอจึงได้เตรียมซุปสำหรับการรักษาอาการปวดท้องที่อาจเกิดขึ้นได้ไว้ท่ามกลางเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามมา เอริก
“สิ่งเดียวที่เหมาะสมระหว่างเราคือการออกไปสนุกกัน ต่อจากนี้ไปไม่ต้องมาที่สำนักงานฉันหรืออะไรทำนองนั้นอีก ที่นี่มีคนรอบตัวเยอะเกินไปและจะมีการนินทาอย่างแน่นอนซึ่งจะส่งผลกระทบต่อฉัน เข้าใจไหม? เธอเป็นแค่คู่นอนของฉัน ไม่ใช่แฟนของฉันและเธอจะไม่มีวันได้เป็นภรรยาของฉันแน่นอน นั่นไม่ใช่ที่ของเธอ”ซาช่าอึ้ง เธอแค่คิดว่าเขาแตกต่างจากที่เดสเดโมนาและคนอื่น ๆ ได้อธิบายถึงเขา เมื่อคืนเขาไม่ได้แตะต้องเธอเลยแต่เขายังให้เงินเธอเหมือนเดิม เธอคิดว่าเขาเป็นคนดีมาก นั่นเป็นเหตุผลที่เธอต้องการที่จะรู้จักเขาบางทีพวกเขาอาจจะได้เริ่มความสัมพันธ์ เธอไม่คิดว่าเขาจะเทถังน้ำเย็นใส่เธอโดยเปรียบเปรยและเผยให้เห็นถึงความจริงอันโหดร้าย ความสัมพันธ์ของพวกเขาต้องเป็น 'ความลับ' เสมอ "ฉันเข้าใจ ฉันจะไปเดี๋ยวนี้… คุณจะโทรหาฉันไหม?”แจ็คสันไม่ตอบซาช่ากลัวมากเกินที่จะอืดอาด เธอจึงจากไปเร็วมากอายหยุดเธอตอนที่เธอรอลิฟต์ อายถามเธอด้วยสีหน้าที่ไม่เป็นมิตรว่า “เธอเป็นใคร? ความสัมพันธ์ของเธอกับคุณเวสต์คืออะไร?”แม้ว่าซาช่าจะเรียบร้อยต่อหน้าแจ็คสันเสมอแต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเธอจะขี้อายต่อหน้าผู้หญิงคนอื่น เมื่อเห็นความเก
เอริกรู้สึกประหลาดใจ “คุณ… มันจะไม่เป็นการรบกวนใช่ไหม? ไม่เป็นไร ผมสามารถรอจนกว่าพวกเขาจะส่งมันมาได้… ไม่จำเป็นต้องฝืนตัวเอง”ทิฟฟานี่ยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ “ไม่เป็นไร เราแค่เลิกกัน ไม่ใช่ว่าเราได้กลายเป็นศัตรูกันสักหน่อย ทำไมสิ่งนี้ต้องรบกวนฉันด้วยล่ะ? ฉันไม่ได้กังวล คุณไม่ต้องกังวลหรอก ฉันรับประกันว่าจะทำมันให้เสร็จ คุณเป็นหัวหน้า คุณตัดสินใจเลย”ทิฟฟานี่อาจดูมั่นใจเมื่อเธอพูดคำเหล่านั้นแต่เมื่อเธอไปถึงชั้นล่างของสำนักงานของแจ็คสัน เธอก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกวิตกกังวล เธอจะเผชิญหน้ากับเขาได้อย่างไร? เธอมองดูเวลาบนนาฬิกาของเธอ เหลือเวลาอีกครึ่งชั่วโมงกว่าจะถึงครึ่งหลังของวันทำงาน แจ็คสันไม่น่าจะอยู่ในช่วงเวลานี้ ดังนั้นเธอจึงยังมีเวลาเตรียมจิตใจให้พร้อม เธอสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ แล้วเดินเข้าไป สิ่งต่าง ๆ ไม่ได้เป็นไปอย่างราบรื่นอย่างที่เธอต้องการ ลิฟต์ยังอยู่บนชั้นยี่สิบห้า ดังนั้นเธอจึงต้องรอสักครู่เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาเล่นขณะที่รอลิฟต์ เธอเก็บโทรศัพท์เมื่อลิฟต์มาถึงที่ชั้นเธอด้วยเสียง "ดิง" เธอมองเข้าไปในลิฟต์ มันว่างเปล่า เธอถอนหายใจอย่างโล่งอก เธอนึกภาพออกว่ามันจะน่าอึดอัดแค่ไหนหากเธ
ไม่เคยมีใครเทียบอารมณ์ที่ไม่คงที่ของเธอได้และเธอจะไม่ปล่อยให้ตัวเองถูกดูหมิ่นแม้ว่าเธอจะอารมณ์เสีย เธอเหยียบเซ็นเซอร์ลิฟต์แล้ววางมือบนสะโพก “ไม่มีลายเซ็นก็จะไม่มีการประชุม ฉันเป็นแค่ลูกจ้าง ฉันมีเวลาเหลือเฟือ”แจ็คสันมองเธออย่างใจเย็น ดวงตาของเขาวาววับด้วยอารมณ์บางอย่างที่ไม่อาจอ่านออกได้ “คุณควรจะขอร้องผมไม่ใช่เหรอ? นี่เป็นวิธีที่คุณขอความช่วยเหลืองั้นเหรอ? ผมมีสิทธิ์ปฏิเสธที่จะลงนามในเอกสารนั้นนะ”เธอถูกทำให้พูดไม่ออกชั่วขณะ ก่อนที่เธอจะคิดออกก็มีคนผลักเธอออกไปให้พ้นทางและในที่สุดลิฟต์ก็ปิดลงอารมณ์ที่เสียของเธอเพิ่มขึ้น เนื่องจากเขาต้องการให้มันเป็นอย่างนั้น เธอก็จะยอมจำนน อะไรก็ตามที่เขาทำได้ เธอจะทำได้ดีกว่า!…ในลิฟต์สีหน้าของแจ็คสันมืดลง “ใครบอกให้คุณผลักเธอ?”สีหน้าของคนที่ผลักไสทิฟฟานี่เปลี่ยนไป “ตะ-แต่… เราจะไปไหนไม่ได้หากผมไม่ผลักเธอออกไป…”แจ็คสันจัดเนคไทด์ของเขาด้วยความหงุดหงิด “อ่อนโยนกว่านั้นหน่อยไม่ได้หรือไง?”พนักงานคนนั้นถึงกับพูดไม่ออก…เมื่อเขากลับมาที่ห้องทำงานหลังจากการประชุมกับพนักงาน แจ็คสันก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติทันทีที่เขาก้าวเข้าไป กลิ่นของก
เธอชะงักฝีเท้าพลางรู้สึกปวดร้าวในหัวใจ ดูเหมือนจะมีความเศร้าในน้ำเสียงของเขา ...ก่อนที่ลมหมุนแห่งอารมณ์ของเธอจะสงบลง เขายังคงพูดประโยคของเขาต่อไปว่า “คุณทำโต๊ะของผมเลอะเทอะ อย่างน้อยคุณควรจะทำความสะอาดมันก่อน”เธอกัดฟันและเดินออกไปโดยไม่หันหลังกลับ “ไอ้เ**้ย! ทำเองเลย!"สีหน้าเย็นชาที่สร้างมาอย่างดีบนใบหน้าของแจ็คสันพังทลายลงทันทีที่เธอปิดประตูห้องทำงานของเขา เขานั่งลงบนเก้าอี้ที่ยังคงอุ่นจากก้นของเธอพลางหลับตาลงและสูดหายใจเข้าลึก ๆ ส่วนหนึ่งของความเศร้าโศกในใจของเขาได้รับการบรรเทาเขาคิดว่าเขามีอาการประสาทหลอนเมื่อเขาเจอเธอที่ลิฟต์และเพิ่งรู้ว่ามันเป็นเรื่องจริงเมื่อเธออ้าปากพูด เขาไม่รู้ว่าจะเผชิญหน้าเธออย่างไร เธอเป็นผู้หญิงคนเดียวที่เขาไม่สามารถลืมได้ การไม่ได้เห็นเธอนั้นทรมานเพียงใด การได้เห็นเธอยิ่งทรมานเท่านั้น…ทิฟฟานี่ค้นพบว่าเธอมีน้ำตาในดวงตาของเธอเมื่อในที่สุดเธอก็เข้าไปในรถ เธอดึงกระดาษทิชชู่ออกมาแล้วเช็ดมันออกจนหมด อย่างไรก็ตาม น้ำตาของเธอยังคงเต็มเปี่ยมพลางขู่ว่าจะไหลอาบแก้มของเธอ เธอควบคุมอารมณ์ไม่ได้และควบคุมน้ำตาไม่ให้ไหลอาบหน้าไม่ได้ เธอน่าจะรู้ว่าพวกเขาไม่ส
ธัญญ่าหน้าแดงและยิ้มอย่างเขินอาย “คุณไม่รู้จักเขา… หนูพบเขาทางออนไลน์ เราต่างก็อยู่ในอุตสาหกรรมเดียวกันและได้พูดคุยกันมากมายเกี่ยวกับการออกแบบแฟชั่น เขาดูมีวัฒนธรรม ที่ประณีตและมีความสามารถหลากหลาย เขาอยู่ในวงการนี้นานกว่าหนูด้วย หนูเดาว่าเขาคงเป็นรุ่นพี่หนูแหละ เรายังไม่เคยพบกันแต่เขาดูเหมือนเป็นคนดี หน้าตาไม่ได้สำคัญจริง ๆ หนูอยากเจอเขาแบบตัวต่อตัว แต่เขาก็ยุ่งอยู่เสมอ”ทิฟฟานี่เริ่มตระหนักเมื่อเธอได้ยินคำพูดของธัญญ่า “แสดงว่าไม่มีใครรู้ว่าอีกคนเป็นใคร เธอไม่เคยพบเขาและไม่เคยออกเดทกัน นี่หมายความว่าเธอแอบชอบเพื่อนออนไลน์ของเธอเหรอ? เธอบ้าไปแล้วหรือเปล่า? เธอรู้ไหมว่าเขามาจากที่ไหน? ชื่อของเขา? เขาอายุเท่าไหร่หรือสูงแค่ไหน? อย่างน้อยเธอก็ควรจะรู้สิ่งเหล่านี้ ถูกไหม?”ธัญญ่าดูงุนงง “หนูไม่รู้… ชื่อออนไลน์ของเขาคือ 'ฮัช' หนูไม่รู้ชื่อ อายุ หรือส่วนสูงของเขา หนูรู้แค่ว่าเขาอยู่ในเมืองหลวง แต่หนูไม่รู้ว่าเขาเกิดที่นี่หรือเปล่า หนูแค่รู้สึกดีกับเขา ยังไม่มีการพัฒนาที่โรแมนติกแต่หนูต้องการอย่างนั้น หนูกำลังพยายามอย่างมาก ดังนั้น ได้โปรดอย่าทำลายความหวังของหนูนะ”ทิฟฟานี่ไม่สนใจที่จะขุด
รอยยิ้มของแอเรียนชัดขึ้น “ไม่ต้องห่วง ฉันสบายดีจริง ๆ ไม่ต้องกังวลและทำงานของคุณไปเถอะ ฉันจะรอคุณอยู่ที่บ้าน”ทิฟฟานี่ที่นั่งข้างแอเรียนกำลังเหม่อลอย ในขณะนั้น ในที่สุดเธอก็พบว่าเธอต้อวชดใช้สำหรับการเพลิดเพลินกับอาหารมื้อนี้ เธอมาหาของอร่อยเพื่อบรรเทาอารมณ์ที่ไม่ดีของเธอ แต่เธอกลับต้องมารู้สึกอิจฉาเมื่อเห็นปฏิสัมพันธ์ของมาร์คและแอเรียน ด้วยเหตุผลนี้ เธอจึงอุทานเสียงดัง“มาร์ค พอแล้ว คุณเคยเย็นชาและห่างเหินมาก่อน ทำไมตอนนี้คุณถึงดูเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง? คุณเป็นคนที่มีสองบุคลิกหรือว่าตอนนี้คุณเปลี่ยนไปแล้วจริง ๆ ? ฉันสงสัยจริง ๆ นะมาร์ค!”ในไม่ช้ามาร์คก็เปลี่ยนน้ำเสียงและฟื้นคืนสู่ท่าทางปกติของเขา เขาพูดอย่างเย็นชาว่า “เพลิดเพลินกับอาหารของคุณไปเถอะ อย่ายุ่งเรื่องของคนอื่น”ทิฟฟานี่กลอกตา "ก็ได้ คุณอ่อนโยนต่อแอริเท่านั้น ดูเหมือนว่าคุณจะมีสองบุคลิกจริง ๆ น่ากลัวชะมัด”แอเรียนใช้ผ้าเช็ดมือเช็ดมือตัวเองให้สะอาดก่อนที่เธอจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วพูดกับมาร์คว่า “พอแล้ว ฉันกำลังทานอาหารอยู่ ฉันจะคุยกับคุณอีกทีภายหลังนะ อย่าทำงานจนเหนื่อยเกินไปล่ะ อย่าลืมพักผ่อนให้เพียงพอด้วย”หลังจากการโท