ธัญญ่าประทับใจในความเอื้อเฟื้อของเอริก เธอพยักหน้าและชวนทิฟฟานี่ไปรับประทานอาหารกลางวันด้วยกันโทรศัพท์ของเธอดังขึ้นระหว่างที่รับประทานอาหารกลางวัน มันเป็นข้อความแจ้งเตือนจากแอปพลิเคชันบนโซเชียลมีเดีย เธอเคยตั้งตารอเสียงแจ้งเตือนนั้นเพราะนั่นหมายความว่า “ฮัช” ได้ส่งข้อความถึงเธอ แต่ตอนนี้เธอใจเย็นกับเรื่องนี้มาก เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาและตรวจสอบดูข้อความนั้น เธอตกใจเมื่อเห็นว่ามันเป็นคำขอเป็นเพื่อนจากฮัช เธอเหลือบมองทิฟฟานี่อย่างรู้สึกผิดผู้ซึ่งนั่งตรงข้ามโต๊ะจากเธอ จากนั้นเธอก็ยอมรับคำขอเป็นเพื่อนนั้นอย่างระมัดระวังเธอไม่ได้ส่งข้อความถึงฮัชก่อนเพราะเธอต้องการที่จะรอดูว่าเหตุใดฮัชจึงส่งคำขอเป็นเพื่อนถึงเธอทั้ง ๆ ที่เขาเป็นคนที่บล็อกเธอตั้งแต่แรกไม่นานหลังจากนั้น ฮัชก็ส่งข้อความถึงเธอ: 'ผมขอโทษ ผมไม่ควรจะหมกมุ่นขนาดนั้นและทำเรื่องแบบนั้นลงไป ตอนนี้ผมเสียใจจริง ๆ ผมไม่ควรใช้ความไว้วางใจของคุณที่มีต่อผมเพื่อแสวงหากำไร ผมออกจากงานแล้ว ผมจะไม่ก้าวเข้าสู่วงการนี้อีก ผมถูกบริษัทฟ้องเรียกค่าเสียหายจำนวนมากด้วย ก่อนหน้านี้ผมแย่จริง ๆ ผมจึงบล็อกหมายเลขของคุณไป ตอนนี้พอผมนึกถึงมันแล้ว ผมรู้
หลังจากที่ธัญญ่าแต่งหน้าแต่งตัวเสร็จ เบคเค็ตก็โทรมาอย่างที่ได้สัญญาเอาไว้ “ผมมาถึงแล้ว ผมอยู่ที่ล็อบบี้ คุณลงมาสิ”เสียงของเบคเค็ตไพเราะมาก พวกเขาได้คุยกันผ่านข้อความเท่านั้น นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาโทรคุยกัน หัวใจของธัญญ่าเต้นแรงขึ้น “โอเค ฉันจะไปเดี๋ยวนี้”เธอเห็นรถของเบคเค็ตที่ล็อบบี้ข้างนอก มันไม่ใช่รถหรูอะไร แต่มันดูสะอาดและใหม่ รถนั้นเป็นรถทะเบียนเมืองหลวง เธอขึ้นรถไปและกลิ่นบนรถก็ลอยมาเตะจมูกเธอ เธอชอบมัน มันทำให้เธอประทับใจเขาเพิ่มขึ้น เบคเค็ตตรงกับที่เธอคิดไว้ไม่มีผิด เขาเป็นคนอ่อนโยนและประณีต เขาดูเรียบร้อยและสะอาดสะอ้านมาก บนรถของเขาไม่มีฝุ่นแม้แต่นิดเดียว เธอรู้สึกผิด “ขอโทษที่ต้องรบกวน” เบคเค็ตยิ้มพลางหันข้างมาช่วยเธอคาดเข็มขัดนิรภัย ธัญญ่ารู้สึกได้ว่าหัวใจของเธอเต้นแรงขึ้นอีกเมื่อพวกเขาใกล้ชิดกัน “ระ-เราจะไปทานข้าวที่ไหนกันเหรอ?” เธอพูดตะกุกตะกักเพื่อสงบหัวใจที่เต้นรัวของเธอ เบคเค็ตกลับไปนั่งตัวตรง “อะไรก็ได้ แล้วแต่คุณเลย”สำหรับธัญญ่า เขาดูเหมือนสุภาพบุรุษมาก เขาเจ๋งและหล่อเหลา ความประทับใจที่ดีของเธอที่มีต่อเขายิ่งทยานขึ้นไปอีก “ฉันกินอะไรก็ได้ คุณ… กำลังมี
หลังจากที่ชื่นชมทิวทัศน์เสร็จแล้วเขาก็ดึงโทรศัพธ์ของธัญญ่าออกมาเพื่อหาเบอร์ทิฟฟานี่ หลังจากนั้นเขาก็ส่งข้อความหาเธอ: ‘ถ้าคุณอยากได้ธัญญ่ากลับไปแบบตัวเป็น ๆ ก็ไปสารภาพกับสื่อซะว่าคุณเป็นคนลอกงานผม ผมต้องการเห็นคำตอบในข่าวพรุ่งนี้’ทิฟฟานี่ลุกขึ้นยืนเมื่อเธอได้รับข้อความนั้น อเลฮานโดรจ้องเธออย่างเฉยเมย “มีอะไรเหรอ?”ทิฟฟานี่หน้าซีดนิดหน่อย “ฉันไม่รู้จะอธิบายยังไง… ฉันเกรงว่าฉันจะต้องไปก่อน ไว้ฉันจะเลี้ยงข้าวคุณคราวหน้านะ โทษที!”อเลฮานโดรขมวดคิ้ว “คุณสามารถบอกผมได้นะ ผมจะช่วยคุณอย่างเต็มที่”ทิฟฟานี่ส่ายหัว “ไม่เป็นไร ฉันไม่อยากรบกวนคุณ ไว้ค่อยคุยกันนะ ฉันต้องไปก่อน!”เธอรีบวิ่งออกจากร้านอาหารเร็วดั่งสายฟ้า อเลฮานโดรจ้องเจตต์ที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ตาเขม็ง เจตต์เข้าใจเขาและปฏิบัติตามทันที “คุณเลนครับ ให้ผมไปส่งคุณนะครับ!” ทิฟฟานี่ไม่ปฏิเสธข้อเสนอนั้น เธอไม่ได้ขับรถมาและการรอแท็กซี่ก็จะเสียเวลา ให้เจตต์ไปส่งจะสะดวกสบายกว่ามาก เธอรู้ดีว่าใครเป็นคนส่งข้อความนั้น เบคเค็ตเคยเป็นพนักงานของแจ็คสันและแจ็คสันน่าจะเป็นคนเดียวที่จะสามารถช่วยเธอได้ในตอนนี้ เธอไม่ต้องการที่จะให้คนนอกอย่างอเลฮานโดรช่
หลังจากที่วางสาย ทิฟฟานี่ที่ตื่นตระหนกก็เริ่มเดินวนเป็นวงกลมเพราะการรอได้ทรมานเธอเธอไม่รู้ว่าเธอรอไปนานแค่ไหนแล้ว แต่อนิจจา รถของแจ็คสันก็ปรากฏตัวขึ้นในสายตาของเธอ เมื่อเขาขับมาใกล้ขึ้นเธอก็รีบเดินเข้าไปหาเขา “ขึ้นมา”ทิฟฟานี่เปิดประตูและขึ้นไปนั่งบนเบาะข้างคนขับอย่างเร่งรีบและถามเซ้าซี้ “คุณติดต่อเบคเค็ตได้ไหม? ฉันไม่มีเบอร์เขาและธัญก็ไม่รับสายและ โอ้พระเจ้า ฉันกลัว!” แจ็คสันนวดหน้าผากของตนเพื่อบรรเทาอาการปวกหัว “ก่อนอื่น คาดเข็มขัดก่อน ผมจะโทรหาไอ้เบคเค็ตนั้นเดี๋ยวนี้แหละ”มือของทิฟฟานี่สั่นเมื่อเธอพยายามบังคับมือตัวเองให้คาดเข็มขัด ธัญญ่าเป็นเด็กกำพร้าผู้โดดเดี่ยวและไม่มีญาติที่ยังมีชีวิตอยู่เหลือเลย หากเกิดอะไรขึ้นกับธัญญ่า ทิฟฟานี่จะต้องรู้สึกผิดไปจนตาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อการเหตุการณ์ครั้งนี้มุ่งเป้าไปที่ตัวทิฟฟานี่เองในกรณีที่แย่ที่สุด เธอจะต้องทำตามข้อเรียกร้องของเขา เธอจะต้องยอมรับว่าเธอลอกงานของเบคเค็ตแจ็คสันเห็นได้จากอาการตัวสั่นของเธอว่าเธอกลัวแค่ไหน เขาจึงช่วยเธอคาดเข็มขัด “ใจเย็น ๆ ก่อนทิฟฟานี่ ให้ผมหาตำแหน่งที่ชัดเจนของเบคเค็ตก่อนนะ ธัญญ่าต้องอยู่กับเขาแน่นอน
”คุณไม่ได้เชื่อจริง ๆ ใช่ไหมว่าการอยู่ที่บ้านของผมจะอันตรายกว่าการโดนลักพาตัว?” แจ็คสันเหน็บ “ฟังนะ ผมแค่ไม่ต้องการให้อะไรเกิดขึ้นกับคุณก่อนที่เราจะแก้ไขปัญหาของธัญญ่าได้ เข้าใจไหม? เพราะสิ่งสุดท้ายที่ผมต้องการคือปัญหาที่ทับซ้อนกัน หากคุณกังวลว่าผมจะทำอะไรคุณขนาดนั้น ก็ได้ ผมจะไปส่งคุณที่บ้านผมแล้วผมจะไปนอนที่ออฟฟิศ”ข้อยินยอมที่ชัดเจนของเขาทำให้ทิฟฟานี่ยากที่จะปฏิเสธข้อเสนอของเขาได้ ส่วนใหญ่เป็นเพราะที่จริงแล้วเธอกลัวที่จะกลับบ้าน ถ้าเบคเค็ตเห็นว่าเขาสามารถทำอะไรกับธัญญ่าได้อย่างไม่มีปัญหา เขาก็จะสามารถซุ่มโจมตีทิฟฟานี่ในคอนโดมิเนียมของเธอได้เช่นกันและถ้าเขาจับเธอได้… แม้ว่าเธอจะออกมาจากเงื้อมมือของเขาทั้งเป็นได้ แต่เธอก็คงจะต้องเย็บแผลมากมายแน่นอน“อะ-เอ่อ ถ้าคุณยืนยัน… งั้นขอโทษที่ต้องรบกวนด้วย” ทิฟฟานี่ยอมอ่อนข้อแจ็คสันไม่ตอบอะไร ทิฟฟานี่ไม่เคยพูดกับเขาอย่างเป็นทางการมาก่อน ดังนั้นตอนนี้เขาจึงปรับตัวเข้ากับมันได้ยากรถหยุดก่อนถึงทางเข้าของไวท์ วอเตอร์ เบย์ วิลล่า เมื่อจำรถของแจ็คสันได้ รปภ.จึงยกตัวกั้นขึ้นทันทีแจ็คสันเลื่อนกระจกลงและมองไปที่ชายคนนั้น “โย่ นี่คือแฟนของผม จำ
ดวงตาของแจ็คสันฉายแววของความดีใจ เขาลุกขึ้นและตามทิฟฟานี่กลับเข้าไปในห้องนอนเธอถอดแจ็กเก็ตออก โดยเหลือเสื้อชั้นในและกางเกงยีนส์ทรงสกินนี่ไว้ก่อนจะปีนขึ้นบนที่นอน ในขณะเดียวกัน แจ็คสันซึ่งใส่ชุดนอนมองมาที่เธอและถามว่า “นี่คุณจะไม่ถอดกางเกงยีนส์นั้นจริง ๆ เหรอ? ผมจะไม่พูดถึงว่ามันสกปรกแค่ไหนหลังจากที่ใส่มันมาแล้วทั้งวัน แต่คำถามของผมคือ มันไม่อึดอัดและจะทำให้คุณนอนไม่สบายเหรอ?”เธอจ้องหน้าเขา “หึ พยายามได้ดีนะ แต่ฉันจะไม่ถอดมันออก! ถ้าคุณคิดว่ามันสกปรกก็ไม่ต้องนอนกับฉันสิ!”จากนั้น หลังจากที่จำได้ว่านี่คือบ้านของเขา ทิฟฟานี่ที่อายก็รวบรวมความสำนึกในตนเองมากพอที่จะพูดว่า “คุณยืนยันว่าจะให้ฉันมาที่นี่เองหนิ!”แจ็คสันเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าด้วยความรำคาญเล็กน้อยและโยนเสื้อสเวตเตอร์สีขาวบาง ๆ ของเขาให้เธอ “ผมหมายถึงว่าคุณควรจะเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นที่จะทำให้นอนหลับสบายขึ้นมาก ไม่ต้องกังวล เสื้อของผมยาวพอที่จะคลุมถึงหัวเข่าของคุณเลยแหละ”ความเงียบของทิฟฟานี่เป็นหนึ่งในข้อตกลงโดยปริยาย เธอคว้าเสื้อสเวตเตอร์และมุ่งหน้าเข้าห้องน้ำหลังจากที่เธอเปลี่ยนเสื้อเสร็จ เธอก็ตกใจมากที่เห็นว่าแจ็คสันไม่ไ
ธัญญ่าขมวดคิ้ว “คุณทำอะไร… คุณทำอะไรในขณะที่ฉันเมา? ฉันเคยคิดว่าคุณเป็นคนท้องถิ่นในเมืองหลวง แต่คุณไม่ได้เป็นอย่างนั้นเลยเหรอ? ฟังนะ ฉันเข้าใจ คุณอยากประสบความสำเร็จ ฉันก็เหมือนกัน ฉันต้องการหยั่งรากในเมืองนี้และเติบโตขึ้น แต่ฉันก็รู้ด้วยว่าคุณต้องยืนบนพื้นให้ได้ก่อนถ้าคุณต้องการที่จะหยั่งราก! ไม่ว่าคุณกำลังวางแผนอะไรในตอนนี้ มันจะทำลายคุณเท่านั้น!“คุณเป็นเรื่องราวแห่งความสำเร็จสำหรับฉันแล้วนะเบคเค็ต คุณเป็นเจ้าของรถ บ้าน และงานที่มีรายได้สูง คุณฉลาด มีความรู้ มีการศึกษา! คุณมีสิ่งเหล่านี้แล้ว ทำไมคุณถึงยังทำอย่างนี้ล่ะ?”“ทั้งหมดนั่นเป็นภาพลวงตา! ผมบ้านหลังนั้น! รถคันนี้ก็ซื้อผ่านเงินกู้! และงานของผมอาจได้ค่าตอบแทนสูง แต่ 10 ปีก็ยังคงไม่เพียงพอสำหรับดาวน์อะไรในเมืองนี้!” เบคเค็ตกัดฟัน “ผมมองไม่เห็นอนาคตของตัวเองและผมเกลียดมัน! เกลียดที่ไม่รู้ว่าชีวิตจะพลิกผันเมื่อไร! แล้วก็คุณ… คุณเป็นตั๋วที่พระเจ้ามอบให้เพื่อให้หลุดพ้นจากเรื่องนี้และผมจะไม่ปล่อยคุณไปง่าย ๆ! คุณไม่รู้เหรอว่าเมืองที่มีกลิ่นเหม็นนี้ไม่ได้ขาดคนขี้โกงอย่างผมเลย ใครกันที่ไม่ดีกว่าหรือแย่กว่ากัน? ผมจะยืนอยู่เหนือฝูงชน
ธัญญ่าเป็นคนอ่อนโยนโดยธรรมชาติ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเธอจะไม่สามารถโกรธได้ “โอ้ ไม่ คุณไม่ได้ทำสิ่งเลวร้ายที่สุดกับฉัน แต่คุณปฏิเสธที่จะให้เสรีภาพฉันในการลงจากรถที่เหม็นอับคันนี้ไม่ใช่เหรอ? ซึ่งมันถือว่าเป็นการกักขังโดยมิชอบด้วยกฎหมายไหม? ฮะ? แล้วเจ้าหนุ่ม ความจริงที่ว่าคุณข่มขู่ทิฟฟานี่ด้วยการใช้ฉันล่ะ?!”เบคเค็ตเปิดประตูทันที “เอางี้ เราจะแสร้งทำเป็นว่ามันเป็นเรื่องตลกขบขัน ตกลงไหม? แค่โทรหาทิฟฟานี่แล้วบอกเธอว่าคุณโอเค สบายดี ครบ 32 ผมจะส่งคุณกลับทันที ตกลงไหม? แค่แสร้งทำเป็นว่านี่ผมเมาจนเลื้อน โอเค๊?“เถอะนะธัญ.. ผมพยายามที่จะประสบความสำเร็จในเมืองหลวงมาเป็นเวลาสิบปี สิบปี! ผมแค่อารมณ์เสียไปหน่อย โอเคนะ? อย่าเอาผิดผมเลย ได้โปรด!” เขาลดเสียงลงเมื่ออ้างดังนั้น “ถ้าผมลงเอยในคุก ผมจะต้องตายแน่ ๆ อนาคตของผมก็จบลงแล้ว! ได้โปรด พ่อแม่ผม… พ่อแม่ผมยังคงรอผมที่บ้านเกิด รอให้ผมนำชื่อเสียงและความภาคภูมิใจกลับบ้าน แต่ผมก็ยังล้มเหลวกับพวกเขา ผมเลยไม่ได้กลับบ้านมาหลายปีแล้ว…”เมื่อครั้งหนึ่งเราเคยถูกกัดแล้ว ครั้งที่สองเราก็จะเขินอาย ธัญญ่ากลัวว่าจะโดนหลอกอีก เธอจึงถามต่อว่า “แต่ที่ผ่านมาคุณ