ธัญญ่าขมวดคิ้ว “คุณทำอะไร… คุณทำอะไรในขณะที่ฉันเมา? ฉันเคยคิดว่าคุณเป็นคนท้องถิ่นในเมืองหลวง แต่คุณไม่ได้เป็นอย่างนั้นเลยเหรอ? ฟังนะ ฉันเข้าใจ คุณอยากประสบความสำเร็จ ฉันก็เหมือนกัน ฉันต้องการหยั่งรากในเมืองนี้และเติบโตขึ้น แต่ฉันก็รู้ด้วยว่าคุณต้องยืนบนพื้นให้ได้ก่อนถ้าคุณต้องการที่จะหยั่งราก! ไม่ว่าคุณกำลังวางแผนอะไรในตอนนี้ มันจะทำลายคุณเท่านั้น!“คุณเป็นเรื่องราวแห่งความสำเร็จสำหรับฉันแล้วนะเบคเค็ต คุณเป็นเจ้าของรถ บ้าน และงานที่มีรายได้สูง คุณฉลาด มีความรู้ มีการศึกษา! คุณมีสิ่งเหล่านี้แล้ว ทำไมคุณถึงยังทำอย่างนี้ล่ะ?”“ทั้งหมดนั่นเป็นภาพลวงตา! ผมบ้านหลังนั้น! รถคันนี้ก็ซื้อผ่านเงินกู้! และงานของผมอาจได้ค่าตอบแทนสูง แต่ 10 ปีก็ยังคงไม่เพียงพอสำหรับดาวน์อะไรในเมืองนี้!” เบคเค็ตกัดฟัน “ผมมองไม่เห็นอนาคตของตัวเองและผมเกลียดมัน! เกลียดที่ไม่รู้ว่าชีวิตจะพลิกผันเมื่อไร! แล้วก็คุณ… คุณเป็นตั๋วที่พระเจ้ามอบให้เพื่อให้หลุดพ้นจากเรื่องนี้และผมจะไม่ปล่อยคุณไปง่าย ๆ! คุณไม่รู้เหรอว่าเมืองที่มีกลิ่นเหม็นนี้ไม่ได้ขาดคนขี้โกงอย่างผมเลย ใครกันที่ไม่ดีกว่าหรือแย่กว่ากัน? ผมจะยืนอยู่เหนือฝูงชน
ธัญญ่าเป็นคนอ่อนโยนโดยธรรมชาติ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเธอจะไม่สามารถโกรธได้ “โอ้ ไม่ คุณไม่ได้ทำสิ่งเลวร้ายที่สุดกับฉัน แต่คุณปฏิเสธที่จะให้เสรีภาพฉันในการลงจากรถที่เหม็นอับคันนี้ไม่ใช่เหรอ? ซึ่งมันถือว่าเป็นการกักขังโดยมิชอบด้วยกฎหมายไหม? ฮะ? แล้วเจ้าหนุ่ม ความจริงที่ว่าคุณข่มขู่ทิฟฟานี่ด้วยการใช้ฉันล่ะ?!”เบคเค็ตเปิดประตูทันที “เอางี้ เราจะแสร้งทำเป็นว่ามันเป็นเรื่องตลกขบขัน ตกลงไหม? แค่โทรหาทิฟฟานี่แล้วบอกเธอว่าคุณโอเค สบายดี ครบ 32 ผมจะส่งคุณกลับทันที ตกลงไหม? แค่แสร้งทำเป็นว่านี่ผมเมาจนเลื้อน โอเค๊?“เถอะนะธัญ.. ผมพยายามที่จะประสบความสำเร็จในเมืองหลวงมาเป็นเวลาสิบปี สิบปี! ผมแค่อารมณ์เสียไปหน่อย โอเคนะ? อย่าเอาผิดผมเลย ได้โปรด!” เขาลดเสียงลงเมื่ออ้างดังนั้น “ถ้าผมลงเอยในคุก ผมจะต้องตายแน่ ๆ อนาคตของผมก็จบลงแล้ว! ได้โปรด พ่อแม่ผม… พ่อแม่ผมยังคงรอผมที่บ้านเกิด รอให้ผมนำชื่อเสียงและความภาคภูมิใจกลับบ้าน แต่ผมก็ยังล้มเหลวกับพวกเขา ผมเลยไม่ได้กลับบ้านมาหลายปีแล้ว…”เมื่อครั้งหนึ่งเราเคยถูกกัดแล้ว ครั้งที่สองเราก็จะเขินอาย ธัญญ่ากลัวว่าจะโดนหลอกอีก เธอจึงถามต่อว่า “แต่ที่ผ่านมาคุณ
ธัญญ่าประหลาดใจเล็กน้อย “คุณไม่ได้อยู่บ้านหรอกเหรอ?”ทิฟฟานี่ตอบอย่างเหม่อลอยว่า “เปล่า ฉันอยู่ที่บ้านแจ็คสัน…”ธัญญ่าตกใจเล็กน้อย “คุณ… กลับไปอยู่กับเขาแล้วเหรอ?”ทิฟฟานี่ไม่สามารถอธิบายตัวเองได้ “โอ้ แก้ไขปัญหาของตัวเองก่อนเถอะ กลับบ้านเลยนะ โทรหาฉันเมื่อเธอถึงบ้านแล้วด้วย! ฉันจะพาเธอไปที่สถานีตำรวจเพื่อปิดคดีเอง”หลังจากที่วางสาย ทิฟฟานี่ก็สังเกตเห็นว่าตอนนี้ยังไม่เจ็ดโมงด้วยซ้ำและเธอก็ค่อนข้างง่วงนอน เธอกลับไปที่เตียงและนอนลงอีกครั้ง เธอต้องการจะนอนต่ออีกสักสิบนาทีโดยถือโทรศัพท์ไว้ในมือ พลางรอโทรศัพท์จากธัญญ่าเมื่อเธอกลับถึงบ้านทันใดนั้น แจ็คสันก็เอามือมาโอบเอวเธอ ในความสะลึมสะลือของเธอ เธอขอให้เขาอย่ามายุ่งกับเธอด้วยการไม่สนใจเขา จากนั้นแจ็คสันก็ขยับมือไปที่หน้าอกของเธอด้วยความเคยชิน เขายังบีบหน้าอกเธอถึงสองครั้งด้วยซ้ำ เธอหันกลับไปมองเขาด้วยความตกใจ เมื่อสังเกตเห็นว่าเขายังหลับอยู่ เธอจึงระงับความรู้สึกที่อยากจะตบเขา เธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะขยับมือของเขาออกไปวินาทีถัดมา เขาขยับร่างกายเพื่อมาพิงเธออย่างใกล้ชิดก่อนที่เขาจะโอบกอดเธอแน่น โดยปราศจากความรู้สึกอับอายเขายังใช
เขาก้มศีรษะลงและดูดคอเธออย่างหลงใหล “ถ้าคุณไม่พูดความจริงกับผม ผมจะไม่ปล่อยคุณไป นอกจากนี้… ครั้งนี้ผมจะทำมันอย่างแน่นอน ผมจะนับถึงสิบ ถ้าคุณไม่เริ่มพูดก่อน ผมจะเริ่ม… หนึ่ง สอง สาม…”เมื่อเขานับถึงขวบ ทิฟฟานี่ก็ไม่สามารถรั้งตัวเองไว้ได้อีกต่อไป “ฉันจะพูด! ฉัน… ตอนนี้ฉันไม่มีความรู้สึกกับคุณแล้วจริง ๆ!” เธอโกหกโดยสิ้นเชิง เธอไม่สามารถเปิดเผยความคิดภายในที่น่าขยะแขยงและน่าสมเพชของเธอแก่เขาได้ รวมทั้งความนับถือตนเองที่ต่ำของเธอ ความสิ้นหวังของเธอ...เห็นได้ชัดว่าแจ็คสันไม่เชื่อเธอ เขาเอื้อมมือออกไปและเอาชนะการป้องกันครั้งสุดท้ายของเธอ ในเวลาเดียวกัน เขาก็ลดร่างกายของเขาลงเธอกรีดร้องและสูดลมหายใจเย็น ๆ เข้าเนื่องจากความเจ็บปวด ถึงกระนั้น… เธอยังคงปฏิเสธที่จะบอกความจริงกับเขา เธอตัดสินใจปล่อยให้มันเป็นไป...เขาใช้กำลังทั้งหมดที่มีกับเธอและสนุกกับทุกช่วงเวลาของมัน เขายังจูบเบา ๆ บนแก้มที่แดงก่ำของเธอด้วย “บอกความจริงมา… บอกผมเดี๋ยวนี้… ทำไม? ถ้าคุณไม่รักผมแล้ว ทำไมร่างกายของคุณถึงตอบสนองต่อสัมผัสของผมแบบนี้ล่ะ? คุณไม่โกหกผมไม่ได้หรอก…”เธออดทนและกัดฟันแต่ยังคงนิ่งเงียบ เขาเริ่มโกรธและ
เมื่อไปถึงที่สถานีตำรวจ พวกเขาก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงการถูกตำรวจดุได้ พวกเขาได้แจ้งความกับตำรวจเมื่อคืนก่อนและตำรวจก็ทำงานหนักตลอดทั้งคืน ทันใดนั้น พวกเขาก็อ้างว่ามันเป็นแค่ความเข้าใจผิด แน่นอนว่าพวกเขาจะถูกดุสำหรับเรื่องนั้นเมื่อพวกเขาปิดคดีและออกจากสถานีตำรวจ ในที่สุดธัญญ่าก็ตัดสินใจที่จะเปิดใจกับทิฟฟานี่ “พี่ทิฟฟานี่ หนูขอโทษ หนูโกหกคุณ อันที่จริง… เบคเค็ตต้องการใช้หนูเพื่อข่มขู่คุณ เขาไม่ได้เมาอะไรเลย แต่หลังจากที่เขารู้ว่าผลที่ตามมาจะเลวร้ายแค่ไหน เขาก็ขอร้องให้หนูปล่อยเขาไป นอกจากนี้ เขาไม่ได้ทำอะไรหนูเลย หนูก็เลยใจอ่อน… หนูแค่รู้สึกว่าเขาคล้ายกับหนู เราเป็นเพียงส่วนหนึ่งของคนที่ทำงานหนักอย่างขยันขันแข็งในเมืองนี้ เรามองไปข้างหน้าเพื่ออนาคตของเรา แต่ในความเป็นจริงเรากลับต้องทุกข์ทรมานอย่างมาก ชีวิตเราไม่ได้ง่าย ถ้าหนูไม่ยกโทษให้เขา ทั้งชีวิตของเขาจะถูกทำลายโดยการถูกขังอยู่ในคุก หนูขอโทษนะพี่ทิฟฟานี่”ทิฟฟานี่ไม่แปลกใจเลย “เธอคิดว่าพี่โง่เหรอ? พี่ดูออกนานแล้ว แต่พี่มีเรื่องจะขอจากเธอแค่เรื่องเดียว อย่าติดต่อเขาอีกเลย เขาไม่ใช่คนดี นอกจากนี้ หากเธอต้องการมีความสัมพันธ์ที่จริงจัง
ทิฟฟานี่รู้สึกเขินอายและอึดอัด “แต่แล้ว… เขาก็ยังคงฉวยโอกาสจากฉัน…”แอเรียนไม่เข้าใจความหมายของเธอ “ฉวยโอกาสจากเธอเหรอ? ปัจจุบันเขากำลังประสบความสูญเสียครั้งใหญ่ เขาจะฉวยโอกาสจากเธอได้ยังไง?”ทิฟฟานี่ถอดผ้าพันคอจากคอของเธอ ในไม่ช้า แอเรียนก็เข้าใจเมื่อเธอเห็นรอยดูดกระจัดกระจายไปทั่ว “ทำไม… เธอถึงไม่อยากกลับไปคบเขา? เธอเข้าไปพัวพันกับเขาได้ยังไง? ถ้าเธอสร้างปัญหาบางอย่างขึ้นมาล่ะ? ฉันจะไม่ดูถูกเรื่องแบบนี้ ฉันแค่กลัวว่าเธอจะเล่นกับไฟ”“ไม่ต้องห่วง มันเป็นแค่อุบัติเหตุ ฉันไม่ได้วางแผนที่จะเข้าไปพัวพันกับเขา แค่ครั้งเดียว อย่าพูดพล่ามอีกต่อไปเลย ให้ฉันดูหน่อยสิว่าวันนี้ลูกชายของเธอเป็นอย่างไรบ้างและว่าเขามีความสุขหรือไม่” ขณะที่เธอพูดอย่างนั้น เธอก็เอียงศีรษะและเอนหูแนบกับท้องของแอเรียน วันนี้ทารกเงียบอย่างน่าประหลาดเธองงเล็กน้อย “ปกติเขาค่อนข้างกระปรี้กระเป่า ทำไมวันนี้เขาเงียบจัง”แอเรียนสัมผัสท้องที่ปูดของเธอ ในไม่ช้าทารกก็เริ่มดิ้น ทิฟฟานี่ตระหนักได้แล้ว “ดูเหมือนว่าเขาจะรู้ว่าใครแตะตัวเขานะ เขาต้องรู้ว่าฉันไม่ใช่แม่ของเขาและกลัวคนแปลกหน้า หลังจากที่เขาเกิดมา ฉันจะทำให้เขาติดฉ
เมื่อสังเกตเห็นว่าทั้งแมรี่และมาร์คกำลังจ้องมองมาที่เธอ แอเรียนจึงเงยหน้ามองพวกเขา เธอสับสนเล็กน้อย “พวกคุณจ้องฉันทำไม?”มาร์คหัวเราะคิกคัก "ไม่มีอะไร ฉันเพิ่งสังเกตเห็นว่าตอนนี้ผิวของเธอดูสดใสขึ้นและร่างกายของเธอก็แข็งแรงขึ้น ฉันมีความสุขกับสิ่งนั้น กินให้อร่อยต่อเลย กินเยอะ ๆ เลย”มาร์คยิ้มแล้วเงียบ มันทำให้แอเรียนสูญเสียความอยากอาหารของเธอ เธอรู้สึกเหมือนกำลังถูกคุ้มกันและถูกบังคับให้เพิ่มน้ำหนักเหมือนหมูในคอกหมู แมรี่ยังอ้างว่าร่างกายของเธอมีสุขภาพที่ดีขึ้นและอวบอิ่มขึ้นมากในขณะนี้ เธอขมวดคิ้วและผลักกล่องอาหารกลางวันออกไป “ฉันไม่อยากกินแล้ว ฉันชั่งน้ำหนักเมื่อวานนี้และหนักกว่าเมื่อเดือนที่แล้วตั้ง 9 กิโลกรัม ถ้าตอนนี้ฉันควบคุมตัวเองไม่ได้ ฉันอาจเป็นโรคความดันโลหิตสูงได้นะ”มาร์คขมวดคิ้ว “เธอจะผอมลงเองหลังจากที่คลอดลูกนะ หมอไม่ได้กล่าวถึงเรื่องนี้เลย ความดันโลหิตเธอจะไม่สูงหรอก กินเยอะ ๆ ไปเลย ตอนนี้เธอชินกับอาหารของแจ็คสันจนเธอไม่อยากอาหารของคนอื่นแล้วเหรอ? ถ้าเขาว่างฉันจะขอให้เขาทำอาหารให้เธออีก”ตอนนี้แอเรียนรู้สึกรำคาญแล้ว เธอปฏิเสธที่จะกินข้าวต่อ “ฉันไม่ต้องการ เขาเป็นคนที่
'ถ้าคุณไม่ไป คุณจะต้องเผชิญกับผลที่ตามมาด้วยตัวเอง ผมจะไม่มาหาคุณอีกแน่นอน' แจ็คสันส่งข้อความมาเพิ่ม อาจเพราะกลัวว่าเธอจะปฏิเสธเธอพูดไม่ออกอีกครั้งแล้วนึกถึงเหตุการณ์ที่เลวร้ายในตอนเช้า เขาได้ขอโทษแล้ว เธอไม่มีเหตุผลที่จะต้องขุ่นเคืองเขา อย่างไรก็ตาม การไปบ้านของเขามี… ความหมายที่ลึกซึ้งอย่างชัดเจน เธอควรจะไปดีไหม? เธอขัดแย้งกับตัวเองในใจเนื่องจากเธอไม่ต้องการที่จะรักษาความสัมพันธ์ที่เป็นความลับระหว่างพวกเขาอย่างไรก็ตาม เธอกลัวว่าเขาจะไม่ติดต่อเธออีก เธอจึงถามใจตัวเอง เธอไม่ต้องการที่จะตัดความสัมพันธ์หรือการติดต่อกับเขา แล้วเธอก็ไม่ได้ต้องการที่จะให้เขาทำเช่นนั้นเช่นกันหลังจากที่คิดทบทวนแล้วเธอก็ยอมรับไปว่า: ‘ฉันจะไป ถ้าคุณสัญญาว่าคุณจะไม่ทำอะไรฉัน’ แจ็คสันไม่ได้ตอบ เขากลับขับรถมาหาเธอและบีบแตรแทน เธอรู้ว่าเขาหมายความว่าอะไร ขึ้นรถมา เขาจะขับให้เธอเองเธอขึ้นรถเขาไป “ฉันยังไม่ได้กินอะไรเลย ฉันเดาว่าคุณก็เหมือนกันใช่ไหม? ไปหาอะไรกินกันเถอะ”“อเลฮานโดรชวนคุณไปดินเนอร์ ถูกไหม? ดูเหมือนว่าผมจะสำคัญต่อคุณมากกว่าเขา ไม่อย่างนั้นคุณคงไม่ขอให้เขากลับไป” เขาพึมพำทิฟฟานี่หัวเราะแห้ง