ธัญญ่าประหลาดใจเล็กน้อย “คุณไม่ได้อยู่บ้านหรอกเหรอ?”ทิฟฟานี่ตอบอย่างเหม่อลอยว่า “เปล่า ฉันอยู่ที่บ้านแจ็คสัน…”ธัญญ่าตกใจเล็กน้อย “คุณ… กลับไปอยู่กับเขาแล้วเหรอ?”ทิฟฟานี่ไม่สามารถอธิบายตัวเองได้ “โอ้ แก้ไขปัญหาของตัวเองก่อนเถอะ กลับบ้านเลยนะ โทรหาฉันเมื่อเธอถึงบ้านแล้วด้วย! ฉันจะพาเธอไปที่สถานีตำรวจเพื่อปิดคดีเอง”หลังจากที่วางสาย ทิฟฟานี่ก็สังเกตเห็นว่าตอนนี้ยังไม่เจ็ดโมงด้วยซ้ำและเธอก็ค่อนข้างง่วงนอน เธอกลับไปที่เตียงและนอนลงอีกครั้ง เธอต้องการจะนอนต่ออีกสักสิบนาทีโดยถือโทรศัพท์ไว้ในมือ พลางรอโทรศัพท์จากธัญญ่าเมื่อเธอกลับถึงบ้านทันใดนั้น แจ็คสันก็เอามือมาโอบเอวเธอ ในความสะลึมสะลือของเธอ เธอขอให้เขาอย่ามายุ่งกับเธอด้วยการไม่สนใจเขา จากนั้นแจ็คสันก็ขยับมือไปที่หน้าอกของเธอด้วยความเคยชิน เขายังบีบหน้าอกเธอถึงสองครั้งด้วยซ้ำ เธอหันกลับไปมองเขาด้วยความตกใจ เมื่อสังเกตเห็นว่าเขายังหลับอยู่ เธอจึงระงับความรู้สึกที่อยากจะตบเขา เธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะขยับมือของเขาออกไปวินาทีถัดมา เขาขยับร่างกายเพื่อมาพิงเธออย่างใกล้ชิดก่อนที่เขาจะโอบกอดเธอแน่น โดยปราศจากความรู้สึกอับอายเขายังใช
เขาก้มศีรษะลงและดูดคอเธออย่างหลงใหล “ถ้าคุณไม่พูดความจริงกับผม ผมจะไม่ปล่อยคุณไป นอกจากนี้… ครั้งนี้ผมจะทำมันอย่างแน่นอน ผมจะนับถึงสิบ ถ้าคุณไม่เริ่มพูดก่อน ผมจะเริ่ม… หนึ่ง สอง สาม…”เมื่อเขานับถึงขวบ ทิฟฟานี่ก็ไม่สามารถรั้งตัวเองไว้ได้อีกต่อไป “ฉันจะพูด! ฉัน… ตอนนี้ฉันไม่มีความรู้สึกกับคุณแล้วจริง ๆ!” เธอโกหกโดยสิ้นเชิง เธอไม่สามารถเปิดเผยความคิดภายในที่น่าขยะแขยงและน่าสมเพชของเธอแก่เขาได้ รวมทั้งความนับถือตนเองที่ต่ำของเธอ ความสิ้นหวังของเธอ...เห็นได้ชัดว่าแจ็คสันไม่เชื่อเธอ เขาเอื้อมมือออกไปและเอาชนะการป้องกันครั้งสุดท้ายของเธอ ในเวลาเดียวกัน เขาก็ลดร่างกายของเขาลงเธอกรีดร้องและสูดลมหายใจเย็น ๆ เข้าเนื่องจากความเจ็บปวด ถึงกระนั้น… เธอยังคงปฏิเสธที่จะบอกความจริงกับเขา เธอตัดสินใจปล่อยให้มันเป็นไป...เขาใช้กำลังทั้งหมดที่มีกับเธอและสนุกกับทุกช่วงเวลาของมัน เขายังจูบเบา ๆ บนแก้มที่แดงก่ำของเธอด้วย “บอกความจริงมา… บอกผมเดี๋ยวนี้… ทำไม? ถ้าคุณไม่รักผมแล้ว ทำไมร่างกายของคุณถึงตอบสนองต่อสัมผัสของผมแบบนี้ล่ะ? คุณไม่โกหกผมไม่ได้หรอก…”เธออดทนและกัดฟันแต่ยังคงนิ่งเงียบ เขาเริ่มโกรธและ
เมื่อไปถึงที่สถานีตำรวจ พวกเขาก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงการถูกตำรวจดุได้ พวกเขาได้แจ้งความกับตำรวจเมื่อคืนก่อนและตำรวจก็ทำงานหนักตลอดทั้งคืน ทันใดนั้น พวกเขาก็อ้างว่ามันเป็นแค่ความเข้าใจผิด แน่นอนว่าพวกเขาจะถูกดุสำหรับเรื่องนั้นเมื่อพวกเขาปิดคดีและออกจากสถานีตำรวจ ในที่สุดธัญญ่าก็ตัดสินใจที่จะเปิดใจกับทิฟฟานี่ “พี่ทิฟฟานี่ หนูขอโทษ หนูโกหกคุณ อันที่จริง… เบคเค็ตต้องการใช้หนูเพื่อข่มขู่คุณ เขาไม่ได้เมาอะไรเลย แต่หลังจากที่เขารู้ว่าผลที่ตามมาจะเลวร้ายแค่ไหน เขาก็ขอร้องให้หนูปล่อยเขาไป นอกจากนี้ เขาไม่ได้ทำอะไรหนูเลย หนูก็เลยใจอ่อน… หนูแค่รู้สึกว่าเขาคล้ายกับหนู เราเป็นเพียงส่วนหนึ่งของคนที่ทำงานหนักอย่างขยันขันแข็งในเมืองนี้ เรามองไปข้างหน้าเพื่ออนาคตของเรา แต่ในความเป็นจริงเรากลับต้องทุกข์ทรมานอย่างมาก ชีวิตเราไม่ได้ง่าย ถ้าหนูไม่ยกโทษให้เขา ทั้งชีวิตของเขาจะถูกทำลายโดยการถูกขังอยู่ในคุก หนูขอโทษนะพี่ทิฟฟานี่”ทิฟฟานี่ไม่แปลกใจเลย “เธอคิดว่าพี่โง่เหรอ? พี่ดูออกนานแล้ว แต่พี่มีเรื่องจะขอจากเธอแค่เรื่องเดียว อย่าติดต่อเขาอีกเลย เขาไม่ใช่คนดี นอกจากนี้ หากเธอต้องการมีความสัมพันธ์ที่จริงจัง
ทิฟฟานี่รู้สึกเขินอายและอึดอัด “แต่แล้ว… เขาก็ยังคงฉวยโอกาสจากฉัน…”แอเรียนไม่เข้าใจความหมายของเธอ “ฉวยโอกาสจากเธอเหรอ? ปัจจุบันเขากำลังประสบความสูญเสียครั้งใหญ่ เขาจะฉวยโอกาสจากเธอได้ยังไง?”ทิฟฟานี่ถอดผ้าพันคอจากคอของเธอ ในไม่ช้า แอเรียนก็เข้าใจเมื่อเธอเห็นรอยดูดกระจัดกระจายไปทั่ว “ทำไม… เธอถึงไม่อยากกลับไปคบเขา? เธอเข้าไปพัวพันกับเขาได้ยังไง? ถ้าเธอสร้างปัญหาบางอย่างขึ้นมาล่ะ? ฉันจะไม่ดูถูกเรื่องแบบนี้ ฉันแค่กลัวว่าเธอจะเล่นกับไฟ”“ไม่ต้องห่วง มันเป็นแค่อุบัติเหตุ ฉันไม่ได้วางแผนที่จะเข้าไปพัวพันกับเขา แค่ครั้งเดียว อย่าพูดพล่ามอีกต่อไปเลย ให้ฉันดูหน่อยสิว่าวันนี้ลูกชายของเธอเป็นอย่างไรบ้างและว่าเขามีความสุขหรือไม่” ขณะที่เธอพูดอย่างนั้น เธอก็เอียงศีรษะและเอนหูแนบกับท้องของแอเรียน วันนี้ทารกเงียบอย่างน่าประหลาดเธองงเล็กน้อย “ปกติเขาค่อนข้างกระปรี้กระเป่า ทำไมวันนี้เขาเงียบจัง”แอเรียนสัมผัสท้องที่ปูดของเธอ ในไม่ช้าทารกก็เริ่มดิ้น ทิฟฟานี่ตระหนักได้แล้ว “ดูเหมือนว่าเขาจะรู้ว่าใครแตะตัวเขานะ เขาต้องรู้ว่าฉันไม่ใช่แม่ของเขาและกลัวคนแปลกหน้า หลังจากที่เขาเกิดมา ฉันจะทำให้เขาติดฉ
เมื่อสังเกตเห็นว่าทั้งแมรี่และมาร์คกำลังจ้องมองมาที่เธอ แอเรียนจึงเงยหน้ามองพวกเขา เธอสับสนเล็กน้อย “พวกคุณจ้องฉันทำไม?”มาร์คหัวเราะคิกคัก "ไม่มีอะไร ฉันเพิ่งสังเกตเห็นว่าตอนนี้ผิวของเธอดูสดใสขึ้นและร่างกายของเธอก็แข็งแรงขึ้น ฉันมีความสุขกับสิ่งนั้น กินให้อร่อยต่อเลย กินเยอะ ๆ เลย”มาร์คยิ้มแล้วเงียบ มันทำให้แอเรียนสูญเสียความอยากอาหารของเธอ เธอรู้สึกเหมือนกำลังถูกคุ้มกันและถูกบังคับให้เพิ่มน้ำหนักเหมือนหมูในคอกหมู แมรี่ยังอ้างว่าร่างกายของเธอมีสุขภาพที่ดีขึ้นและอวบอิ่มขึ้นมากในขณะนี้ เธอขมวดคิ้วและผลักกล่องอาหารกลางวันออกไป “ฉันไม่อยากกินแล้ว ฉันชั่งน้ำหนักเมื่อวานนี้และหนักกว่าเมื่อเดือนที่แล้วตั้ง 9 กิโลกรัม ถ้าตอนนี้ฉันควบคุมตัวเองไม่ได้ ฉันอาจเป็นโรคความดันโลหิตสูงได้นะ”มาร์คขมวดคิ้ว “เธอจะผอมลงเองหลังจากที่คลอดลูกนะ หมอไม่ได้กล่าวถึงเรื่องนี้เลย ความดันโลหิตเธอจะไม่สูงหรอก กินเยอะ ๆ ไปเลย ตอนนี้เธอชินกับอาหารของแจ็คสันจนเธอไม่อยากอาหารของคนอื่นแล้วเหรอ? ถ้าเขาว่างฉันจะขอให้เขาทำอาหารให้เธออีก”ตอนนี้แอเรียนรู้สึกรำคาญแล้ว เธอปฏิเสธที่จะกินข้าวต่อ “ฉันไม่ต้องการ เขาเป็นคนที่
'ถ้าคุณไม่ไป คุณจะต้องเผชิญกับผลที่ตามมาด้วยตัวเอง ผมจะไม่มาหาคุณอีกแน่นอน' แจ็คสันส่งข้อความมาเพิ่ม อาจเพราะกลัวว่าเธอจะปฏิเสธเธอพูดไม่ออกอีกครั้งแล้วนึกถึงเหตุการณ์ที่เลวร้ายในตอนเช้า เขาได้ขอโทษแล้ว เธอไม่มีเหตุผลที่จะต้องขุ่นเคืองเขา อย่างไรก็ตาม การไปบ้านของเขามี… ความหมายที่ลึกซึ้งอย่างชัดเจน เธอควรจะไปดีไหม? เธอขัดแย้งกับตัวเองในใจเนื่องจากเธอไม่ต้องการที่จะรักษาความสัมพันธ์ที่เป็นความลับระหว่างพวกเขาอย่างไรก็ตาม เธอกลัวว่าเขาจะไม่ติดต่อเธออีก เธอจึงถามใจตัวเอง เธอไม่ต้องการที่จะตัดความสัมพันธ์หรือการติดต่อกับเขา แล้วเธอก็ไม่ได้ต้องการที่จะให้เขาทำเช่นนั้นเช่นกันหลังจากที่คิดทบทวนแล้วเธอก็ยอมรับไปว่า: ‘ฉันจะไป ถ้าคุณสัญญาว่าคุณจะไม่ทำอะไรฉัน’ แจ็คสันไม่ได้ตอบ เขากลับขับรถมาหาเธอและบีบแตรแทน เธอรู้ว่าเขาหมายความว่าอะไร ขึ้นรถมา เขาจะขับให้เธอเองเธอขึ้นรถเขาไป “ฉันยังไม่ได้กินอะไรเลย ฉันเดาว่าคุณก็เหมือนกันใช่ไหม? ไปหาอะไรกินกันเถอะ”“อเลฮานโดรชวนคุณไปดินเนอร์ ถูกไหม? ดูเหมือนว่าผมจะสำคัญต่อคุณมากกว่าเขา ไม่อย่างนั้นคุณคงไม่ขอให้เขากลับไป” เขาพึมพำทิฟฟานี่หัวเราะแห้ง
เมื่อถึงจุด ๆ หนึ่งพวกเขาผล็อยหลับ ทิฟฟานี่ตระหนักว่าหูฟังและโทรศัพท์ของเธอวางอยู่บนโต๊ะข้างเตียงอย่างเรียบร้อยเมื่อเธอตื่นขึ้นมาในวันรุ่งขึ้น แจ็คสันน่าจะเก็บมันให้เธอ เมื่อเธอหลับไป จู่ ๆ เธอก็นึกถึงเมื่อตอนที่เธอตื่นมาเพราะหูฟังพันคอทุกครั้งที่เธอนอนคนเดียว...แจ็คสันตื่นแล้ว บนเตียงไม่มีวี่แววของเขาอยู่ แต่จุดของเขายังคงอุ่นอยู่ เธอได้ยินเสียงเคลื่อนไหวเบา ๆ จากข้างในห้องน้ำ เขากำลังอาบน้ำเมื่อคืนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เธอทั้งรู้สึกโล่งอกและบางส่วนของหัวใจของเธอก็ละลายและถูกเติมเต็มด้วยความรู้สึกอบอุ่นอย่างสบายตัวเขายังคงอยู่ในห้องน้ำหลังจากที่เธอรอเป็นเวลาสิบนาที กระเพาะปัสสาวะของเธอเต็ม เธอจึงวิ่งไปที่ประตูห้องน้ำและเคาะ “เร็ว ๆ หน่อย ฉันปวดฉี่…”เขาเปิดประตูออกพร้อมกับยาสีฟันเต็มปาก “ก็เข้ามาฉี่สิ ทำอย่างกับว่าผมไม่เคยเห็นอย่างนั้นแหละ”มุมริมฝีปากของเธอกระตุก “มีมารยาทหน่อยได้ไหม? ออกไปเดี๋ยวนี้!"เธอบังคับให้เขาออกไปก่อนที่จะทำธุระและเดินออกมาจากห้องน้ำอย่างช้า ๆ “เดินช้ากว่านี้ก็ได้นะ ยาสีฟันผมจะแห้งหมดอยู่แล้ว ช่วยมีเหตุผลกว่านี้ได้ไหม?” เขาถามอย่างขุ่นเคืองเธอจ้องเขาเข
เมื่อรู้สึกตัวได้ว่ากำลังสูญเสียการควบคุมของอารมณ์ ทิฟฟานี่จึงบังคับให้ตัวเองเย็นลง เธอไม่ได้วางแผนที่จะกลับไปคบกับเขา ดังนั้นเธอจึงไม่ควรไปกังวลเรื่องส่วนตัวของเขา “ฉันไม่มีสิทธิ์ที่จะทำอย่างนั้นหรอก มันเป็นเรื่องส่วนตัวของคุณ ฉันจะไม่มาที่นี่บ่อยขนาดนั้นด้วย เราสามารถเป็นเพื่อนกันได้ แต่คุณจะต้องชินกับการนอนหลับให้สบายโดยที่ไม่มีฉัน ฉันจะมานอนเป็นเพื่อนคุณในช่วงแรก ๆ เพราะมันเป็นช่วงปรับเปลี่ยนและมันจะยาก ฉันสามารถทำได้เท่านี้เพื่อชดเชยในสิ่งที่คุณเคยทำให้ฉันในอดีต… แค่นั้นแหละ เราต้องไปกันแล้ว”เขาบังคับให้ตัวเองเก็บอารมณ์ที่เกือบจะพังทลายเมื่อเขาได้ยินประโยคสุดท้ายของเธอ เธอยังคงจะมาอยู่เป็นเพื่อนเขา เขาได้ละทิ้งอัตตาของเขาไปหมดแล้ว ตราบใดที่เธอยอมที่จะมาพบเขา เขาก็จะไม่ปล่อยมือ เขาศรัทธาอย่างสูงสุดในทักษะการล่อผู้หญิงของเขาเขาเก็บอารมณ์ของเขาไว้ “ก็ได้… ผมจะไปส่งคุณที่บ้าน”ทิฟฟานี่บอกลาแจ็คสันเมื่อพวกเขาไปถึงข้างล่างของคอนโดเธอ ที่ทำงานเธออยู่ฝั่งตรงข้ามนี่เอง เพราะฉะนั้น หลังจากที่เธอเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้วเธอจะรีบดิ่งไปที่นั่นทันทีธัญญ่าจ้องเธออย่างสงสัยขณะที่เธอเดินผ่