ทิฟฟานี่สงบสติอารมณ์และก้มลงหยิบกระเป๋าถือตัวเอง “เอ่อ… ไม่เป็นไร… ฉันสบายดี อืม… ฉันสัญญากับแจ็คสันไว้แล้วว่าจะไปกินข้าวเย็นกับเขา ฉันไปก่อนนะ เจอกันพรุ่งนี้” จากนั้นเธอก็หันหลังและเดินจากไปอย่างรวดเร็วราวกับว่าเธอกลัวอะไรบางอย่าง อีธาน นานมาแล้วตั้งแต่ที่เธอได้ยินชื่อนั้นครั้งสุดท้าย เธอยังคงบอบช้ำ ครั้งหนึ่งเธอเคยรักและเกลียดผู้ชายคนนี้อย่างสุดซึ้ง ผู้ชายคนนี้ได้ผลักเธอลงนรกเอง… เขากลับมาแล้วเหรอ?แอเรียนและมาร์คมองหน้ากันพลางรู้สึกหนักใจ พวกเขาไม่ได้พูดคุยกันในหัวข้อนั้นต่อ แมรี่ไม่รู้ถึงสถานการณ์ เธอจึงดึงของแปลก ๆ ออกจากถุงพลาสติกในมือ “แอริ คุณหมอบอกว่าคุณต้องรีบปั๊มนมโดยเร็วที่สุด ตอนนี้หน้าอกของคุณบวมขึ้นหรือยัง?”แอเรียนเหลือบมองมาร์คแล้วใบหน้าของเธอก็เริ่มร้อนขึ้น “ปะ-เปล่า… ปกติดี… ฉันไม่คิดว่าฉันต้องทำอย่างนั้นในตอนนี้หรอกนะ… ลูกไม่ได้อยู่กับฉันอยู่แล้ว ฉันป้อนเขาไม่ได้อยู่ดี”"คุณอายเหรอ?" แมรี่ถามด้วยรอยยิ้ม “ฉันเฝ้าดูคุณเติบโตและฉันก็เลี้ยงคุณมาด้วย นายท่านก็เป็นสามีของคุณ มีอะไรให้ต้องอายด้วยเหรอ? มาเถอะ แรก ๆ จะเจ็บแต่คุณต้องทน ในอนาคตมันจะเจ็บทุกครั้งที่คุณให้นม
จากนั้น ดูเหมือนว่าจะมีใครเปิดประตูด้วยกุญแจ ทิฟฟานี่ได้ยินเสียงของธัญญ่าและแจ็คสันก่อนที่เธอจะถูกดึงเข้าไปในอ้อมแขนของใครบางคน เธอไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นต่อจากนั้นเมื่อเธอตื่นขึ้นอีกครั้ง เธอก็อยู่ในโรงพยาบาลแล้ว ซึ่งเป็นโรงพยาบาลเดียวกับแอเรียน อย่างไรก็ตาม แอเรียนอยู่ในแผนกนรีเวชวิทยาในขณะที่เธอถูกส่งตัวมาที่โรงพยาบาลเนื่องจากมีไข้แจ็คสันและธัญญ่าคอยดูแลเธออยู่ในวอร์ด แจ็คสันเริ่มจู้จี้เธอเมื่อเห็นว่าเธอตื่นแล้ว “เช้านี้คุณยังสบายดีอยู่เลย คุณมีไข้ได้อย่างไร? คุณไม่ฉลาดพออยู่แล้ว คุณจะกลายเป็นคนโง่เขลาอย่างสมบูรณ์ถ้าผมได้สังเกตเร็วกว่านี้”“ฉันไม่ได้อยากจะให้มันเป็นอย่างนี้ซะหน่อย” เธอแย้งอย่างอ่อนแรง “เช้านี้ฉันยังสบายดีอยู่เลย ฉันไม่รู้ว่าฉันลงเอยแบบนี้ได้ยังไง… แย่ชะมัด”ธัญญ่าก้าวมาพูดว่า “หนูดีใจที่คุณไม่ได้เป็นอะไร งั้นหนูจะกลับก่อนนะ” เธออาจไม่แสดงออก แต่ลึก ๆ แล้วเธอรู้สึกรำคาญเล็กน้อย เธอวางแผนว่าจะรับประทานอาหารกลางวันที่บ้านของเอริก จากนั้นเธอจะชักชวนให้เขาไปซื้อของกับเธอในตอนบ่าย โชคไม่ดีที่แจ็คสันโทรมาขอให้เธอกลับมาบ้านและเปิดประตูให้เขาโดยทำลายแผนของเธออย่างสิ้นเ
ทิฟฟานี่ถึงกับพูดไม่ออกแจ็คสันอารมณ์บึ้งตึงตลอดทางกลับบ้าน เพียงเพราะว่าทิฟฟานี่นั้นปฏิเสธที่จะทิ้งช่อดอกไม้นั่นไป เธอให้เหตุผลว่าเพราะเธอนั้นได้ติดค้างความช่วยเหลือจากอเลฮานโดรและไม่อยากให้ใครต้องเสียแรงโดยเปล่าประโยชน์ อย่างไรก็ตาม ตัวเขาเองนั้นก็ไม่ยอมที่จะเอามันไปทิ้งแทนเธอเช่นกัน เขาจึงไม่มีทางเลือกและทำได้เพียงโยนช่อดอกไม้ไปไว้หลังรถอย่างห้วน ๆเมื่อทิฟฟานี่มาถึงชั้นแรกของคอนโด ทิฟฟานี่เองก็พยายามกลั้นความโกรธไว้ในขณะที่กำลังปลอบเขาด้วย “โอเค ฉันถึงบ้านแล้ว ฉันจะเข้าไปก่อนนะ ขอบคุณสำหรับวันนี้ เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันจะเลี้ยงข้าวคุณเป็นการตอบแทน”อารมณ์และท่าทางของแจ็คสันแผ่วลงเล็กน้อย “พักผ่อนให้เพียงพอเมื่อถึงบ้านด้วยนะ ให้ผมเอาดอกไปนี่ไปแล้วกัน บ้านผมทั้งจืดชืดและว่างเปล่า เอาพวกมันไปตกแต่งให้มีชีวิตชีวาก็คงจะดี”ทิฟฟานี่แทบจะพูดไม่ออก “ได้… ได้สิ ขอแค่คุณไม่โยนมันทิ้งก็พอ มันคงจะน่าเสียดายมาก เอาไปไว้ตกแต่งที่บ้านแหละดีแล้ว”เมื่อทิฟฟานี่เข้ามาถึงห้องของเธอ เธอก็เห็นธัญญ่ากำลังนั่งดูทีวีและกินผลไม้ที่ซัมเมอร์ซื้อมาให้ ทิฟฟานี่ไม่ได้อยากยุ่งย่ามอะไรกับเธอเพราะเรื่องนี้ “ขอบ
"ใช่แล้ว" แจ็คสันพูดจากอีกฝั่งของสาย "ดึกขนาดนี้แล้ว แถมคุณยังไม่ได้ทานอะไร กว่าผมจะทำอาหารให้คุณเสร็จมันก็จะไม่ทันเอา ผมก็เลยสั่งอาหารมาให้ตอนผมกลับมาถึงบ้าน ได้รับอาหารแล้วหรือยัง? ทานให้เสร็จแล้วก็ไปนอนนะ”เธอรู้สึกอบอุ่นและนุ่มนิ่มขึ้นมา เธอแปลกใจมากในความเป็นห่วงเป็นใยของเขา "ขอบคุณนะ... งั้นฉันจะไปทานอาหารก่อนนะ"เธอจำได้ว่าธัญญ่ากำลังทำราเมนให้เธอหลังจากที่เธอวางสายไปแล้ว เธอรีบตะโกนบอกว่า "ธัญ ไม่ต้องทำอาหารแล้วนะ แจ็คสันสั่งอาหารมาให้แล้ว แถมดูจะเยอะซะด้วย เธอทานข้าวรึยัง? มาทานด้วยกันไหม?"ธัญญ่าจึงปิดไฟที่เตา บะหมี่ที่กำลังจะสุกจากน้ำที่เดือดปุด ๆ ค่อย ๆ แผ่วลง "หนูกินแล้ว คุณทานให้อร่อยเลย"เมื่อเธอเดินผ่านห้องนั่งเล่น เธอไม่แม้แต่จะมองทิฟฟานี่ด้วยซ้ำ ทิฟฟานี่จึงรู้สึกผิดมาก "ธัญ มากินด้วยกันสิ ฉันไม่รู้ว่าแจ็คสันจะสั่งอาหารมาให้ ขอโทษนะ..."ธัญญ่าหันกลับมาพร้อมกับการฝืนยิ้มเล็ก ๆ บนหน้าเธอ "หนูไม่หิวน่ะ คุณทานเถอะ"เช้าวันต่อมา ทิฟฟานี่เห็นบะหมี่ที่เกือบสุกแช่อยู่ในหม้อจากเมื่อวานเมื่อเธอตื่นขึ้นมาเพื่อทำอาหารเช้า ตอนนี้บะหมี่เละแทบเป็นโจ๊ก ถึงแม้ปกติแล้วเธอจะเป็นคนท
ธัญญ่าก้มหน้าอย่างเขินอาย “พอได้แล้ว…”ทิฟฟานี่รู้แจ้งเมื่อเห็นสีหน้าของเธอ “ก็ได้ ๆ ฉันเข้าใจ นี่ถือว่าเป็นข่าวดีเลย ไม่ต้องห่วงนะ ฉันจะทำทุกอย่างที่ฉันสามารถทำได้เพื่อที่เธอสองคนจะได้คบกัน เราควรจะเก็บคนดี ๆ ไว้ในครอบครัวเสมอ ใครมาก่อนก็จะได้ก่อน เดี๋ยวฉันชวนเขาให้” ทั้งกลุ่มตกลงที่จะไปเจอกันที่ห้างสรรพสินค้า ธัญญ่าเองก็ตั้งใจแต่งตัวสวยอย่างมีความสุข เอริกเป็นคนสุดท้ายที่มาถึง… และเขาไม่ได้มาคนเดียว เขาพาผู้หญิงคนหนึ่งมาด้วยผู้หญิงที่ยืนอยู่ข้างเอริกดูเหมาะสมกับเขามาก เธอแพรวพราว สวยงามและช่างเปล่งประกายอย่างยิ่ง… ใบหน้าของธัญญ่าถอดสีและเธอก็ไม่แน่ใจว่าเธอควรจะตอบสนองอย่างไร ทิฟฟานี่ไม่เคยรู้มาก่อนว่าเอริกมีแฟนแล้ว เธอรู้สึกกระอักกระอ่วนมากเมื่อเห็นสีหน้าที่แปลกไปของธัญญ่า “เอริก อะไรกันเนี่ย? คนนี้คือใครเหรอ? ไม่คิดจะแนะนำเธอหน่อยเหรอ?”เอริกโอบไหล่ผู้หญิงคนนั้นด้วยความมั่นใจ “แฟนผมเอง วิกกี้ นาดาลิน นี่เป็นครั้งแรกที่เธอมีโอกาสได้เจอพวกคุณทุกคน พวกเราคุยกันมาครึ่งปี แล้วก็เริ่มคบกันเมื่อเธอกลับมาที่รัฐ เราวางแผนจะย้ายไปอยู่ด้วยกันด้วย” วิกกี้ไม่ได้แต่งตัวหรูหรามากนัก เธอ
ทิฟฟานี่เริ่มจะปวดหัว เธอมีความอดทนทางด้านอรามณ์ที่ต่ำอย่างเหลือเชื่ออยู่แล้ว เธอจึงไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรดี เมื่อเธอไม่เหลือทาง เธอจึงหันไปขอความเชื่อเหลือจากเอริก “เอ่อ… เอริก แฟนคุณเพิ่งจะกลับมาที่ประเทศ คุณควรใช้เวลาอยู่กับเธอมากขึ้นนะ เลิกเป็นผู้ชายไร้ความรู้สึกขนาดนั้นได้แล้ว” วิกกี้กลับไปหาเอริกอย่างมีความสุขก่อนที่เขาจะทันได้พูดอะไรก่อนที่เธอจะกอดแขนเขาข้างหนึ่งและซบไหล่เขาด้วยท่าทางที่ควรจะน่ารัก “ริคกี้ของฉันเป็น “ผู้ชายที่ไร้ความรู้สึก” เฉพาะกับผู้หญิงคนอื่น แต่เขาเอาใจใส่ฉันมาก! คุณจะซื้อของขวัญให้ลูกของเพื่อนไม่ใช่เหรอ? ไปกันเถอะ รสนิยมของริคกี้ไม่ดีเท่าฉันหรอก ฉันจะเลือกให้เขาเอง!” เมื่อพวกเขาไปถึงที่ชั้นสองของห้างสรรพสินค้า ธัญญ่าก็อดไม่ได้ที่จะขอตัวไปเข้าห้องน้ำ ทิฟฟานี่จึงวิ่งตามธัญญ่าไปด้วยความเร่งรีบ ธัญญ่าเพียงแต่ยืนอยู่หน้าอ่างล้างมือด้วยใบหน้าที่โศกเศร้า ทิฟฟานี่จึงขอโทษอย่างระมัดระวัง “ฉันไม่เคยรู้เลยว่าเอริกมีแฟนแล้ว ถึงว่าทำไมไม่มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างเธอสองคนทั้ง ๆ ที่อาศัยอยู่ด้วยกันมาตั้งนาน การที่เขามีแฟนแล้วทำให้ทุกอย่างกระจ่างมาก… ไม่เป็นไรนะ ยัง
แจ็คสันพยักหน้าอย่างใจกว้าง “ไม่มีปัญหา นายกับมาร์คมีความสำคัญสำหรับฉันพอ ๆ กันนั่นเเหละ ฉันจะต้องให้ของขวัญพวกนายเหมือนกันแน่นอน นายควรจะใช้มันให้เป็นประโยชน์มากที่สุดนะ”หลังจากที่ช้อปปิ้งกันเสร็จทิฟฟานี่ก็ลากธัญญ่าไปเยี่ยมแอเรียนด้วย แจ็คสันไม่ได้มาด้วยเนื่องจากเขาถูกซัมเมอร์เรียกให้ไปหาทางโทรศัพท์เมื่อเอริกและวิกกี้อยู่ตามลำพัง วิกกี้ก็แสร่งทำหน้าเจ็บปวด “ริคกี้… เพื่อนคุณ… ไม่ชอบฉันเหรอ?”หัวของเอริกเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม “เพื่อนคนไหน?”วิกกี้ควงแขนเขาด้วยท่าทางที่ออดอ้อนแล้วกระทืบเท้าเบา ๆ “ทุกคนเลย! นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้มีโอกาสเจอพวกเขาแต่พวกเขาไม่แม้แต่อยากจะไปทานข้าวกับฉันทั้ง ๆ ที่ฉันอาสาว่าจะเลี้ยงเอง แจ็คสันยังพยายามจะอวดดีกับฉันด้วยซ้ำ คุณมองไม่ออกเหรอ?” เอริกส่ายหน้าอย่างสื่อตรง “ไม่เห็นจะมีอะไรผิดปกติเลย คุณคิดไปเอง พวกเขาไม่ใช่คนอย่างนั้นสักหน่อย แอเรียนเพิ่งจะคลอดลูก แถมยังคลอดก่อนกำหนดด้วย อย่าทำลายความสัมพันธ์ของเราเลย ร่าเริงหน่อยสิ ผมจะพาคุณไปหาอะไรอร่อย ๆ กินนะ ไปกันเถอะ” ณ คฤหาสน์เวสต์ซัมเมอร์กำลังตัดแต่งพุ่มไม้ในสวนเมื่อแจ็คสันไปถึง ขาของเ
นี่เป็นครั้งแรกที่ซัมเมอร์เข้ามาแทรกแซงในเรื่องส่วนตัวของแจ็คสัน เขาไม่ได้รู้สึกรำคาญแต่อย่างใด เขากลับพยายามกอบกู้ภาพลักษณ์ของทิฟฟานี่ในมุมมองของซัมเมอร์โดยสัญชาตญาณ “เธอไม่ได้กลับบ้านมาหลายคืนเพราะเธอนอนอยู่ที่บ้านผม แม่คิดอะไรของแม่ครับเนี่ย? ผมรู้เรื่องที่แม่เพิ่งพูดมาเมื่อกี่หมดแล้ว ไม่ต้องห่วงครับ แต่แม่ยังไม่ได้ตอบคำถามผมเลยว่าใครบอกแม่? แม่ไม่ได้ส่งคนไปตามดูทิฟฟ์ใช่ไหม? แม่ว่างขนาดนั้นเลยเหรอ?” “โอ้ เธอไปนอนบ้านลูกจริง ๆ เหรอ?” ซัมเมอร์ถาม “ถ้าอย่างนั้นเรื่องลูกสองคนก็ยังมีหวังอยู่สินะ? เพื่อนบ้านทิฟฟ์บอกแม่น่ะ… ลูกก็รู้จักเธอ ผู้หญิงที่ชื่อธัญญ่าไง เธอดูเป็นคนที่ซื่อสัตย์นะ แม่ก็เลยไม่คิดว่าเธอจะโกหกแม่ อีกอย่าง เธอเป็นเพื่อนทิฟฟ์ด้วย แม่ไม่ได้ส่งนักสืบไปตามดูเธอแน่นอน แม่ไม่ได้ว่างขนาดนั้น!” ธัญญ่าบอกซัมเมอร์อย่างนั้นเหรอ? แจ็คสันรู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ปกติ ธัญญ่ารู้ดีว่าทิฟฟานี่ไปนอนบ้านเขาไม่ใช่เหรอ? หรือบางที… ทิฟฟานี่อาจจะไปนอนบ้านคนอื่นนอกเหนือจากบ้านเขาด้วย? ยิ่งเขาคิดเท่าไหร่เขาก็ยิ่งไม่พอใจ “ถ้าไม่มีเรื่องอะไรอีก ผมจะต้องไปก่อนนะครับแม่ มันไม่ใช่อย่างที่แม่คิด