ทิฟฟานี่ยักไหล่ “ไม่มีอะไรพิเศษระหว่างเรา ความสัมพันธ์ของเรายังคงอยู่ในสภาวะที่ไม่สงบนี้ จริง ๆ แล้วฉันมองเขาเป็นแค่เพื่อนคนหนึ่งที่ฉันดื่มหรือทานอาหารด้วยในบางครั้ง และฉันก็ไม่สนใจว่าเขาจะคิดยังไงกับฉันด้วย เธอรู้ไหม ฉันไม่ได้ออกไปหาเขาบ่อยขนาดนั้นด้วยซ้ำ และฉันคิดว่าในอนาคตฉันจะมีโอกาสทำแบบนั้นน้อยลงด้วย… เอาน่าแอริ ฉันไม่ได้สนใจเขาเลย หยุดจ้องฉันแบบนั้นได้แล้ว มันจะทำให้ฉันอารมณ์เสียเปล่า ๆ นะที่รัก”ทั้งคู่ไปถึงที่ร้านอาหารจีนที่พวกเธอเลือกไว้และพบว่าอเลฮานโดรและเจตต์กำลังรอพวกเธออยู่แล้ว หลังจากที่สาว ๆ นั่งลง เจตต์ก็ยื่นเมนูให้แอเรียนและพูดว่า “พวกเราสั่งอาหารไปบ้างแล้ว แต่ถ้าพวกคุณอยากรับอะไรเพิ่มก็สั่งได้เลยนะครับคุณเทรมอนต์” แอเรียนสำรวจเจตต์อย่างระมัดระวังโดยไม่สนใจเมนู “ถ้าคุณสั่งแล้วก็ไม่เป็นไรค่ะ อาหารโปรดของทิฟฟานี่ก็คืออาหารโปรดของฉันเหมือนกัน”เจตต์พยักหน้าอย่างเข้าใจก่อนจะส่งเมนูคืนให้พนักงานเสิร์ฟที่ยืนอยู่ใกล้ ๆตอนนั้นเองที่แอเรียนใช้โอกาสเพื่อที่จะสำรวจดูอเลฮานโดร สมิธ ทันใดนั้นเธอก็รับรู้ได้ถึงลางสังหรรณ์แปลก ๆ จากเขาโดยไม่ทราบสาเหตุ“คุณเทรมอนต์ คุณจ้องผม
เมื่อทั้งคู่ไปถึงที่หน้าห้องทำงานของมาร์ค พวกเธอก็พบกับเดวี่ที่ดูเบื่อหน่ายจนจนปัญญา เมื่อเขาเห็นพวกเธอ แววตาของเขาก็เป็นประกาย “สวัสดีครับนายหญิง! ในที่สุดคุณก็มาแล้ว!”แอเรียนยิ้มเยาะเย้ยใส่เขา “หืม นั่นไม่ใช่สีหน้าท่าทางที่คนเราจะทำเมื่อทุกอย่างเรียบร้อยดีไม่ใช่เหรอ? ไม่ต้องห่วง ฉันมาช่วยแล้ว”ทว่าสถานการณ์ในห้องทำงานกลับทำให้เธอต้องตกตะลึง แทนที่สมอร์จะร้องไห้หรือโวยวายอย่างที่คาดคิด เขากลับซุกอยู่ในแขนของพ่อเขาระหว่างที่พ่อเขากำลังตั้งอกตั้งใจทำงาน หนุ่มน้อยกำลังเล่นอยู่กับปากกาแท่งหนึ่งตามลำพังอย่างสนุกสนานจนแววตาเป็นประกายพลางพูดพล่ามโดยปราศจากความหมายกับตัวเอง ภาพตรงหน้าแอเรียนตัดกับความทรงจำของเด็กน้อยขี้โวยวายที่เธอมีโดยสิ้นเชิง ระหว่างที่เธอจ้องด้วยความประหลาดใจ แมรี่ก็เข้ามาหาเธอจากด้านข้าง “โอ้ สวัสดีค่ะนายหญิง ฉันเพิ่งเปลี่ยนผ้าออมให้นายน้อยแอริสโตเติลและทุกอย่างก็เรียบร้อยดี คุณไปพักผ่อนตามสบายเลยค่ะ ที่นี่ไม่มีอะไรให้ต้องห่วง ดูเหมือนว่าแค่ฉันกับนายท่านก็สามารถจัดการหนุ่มน้อยอยู่ได้แล้ว ดูเขาสิ! วันนี้ท่านแอริสโตเติลประพฤติตนดีมาก ไม่โวยวาย ไม่ร้องไห้ อุ๊ย ฉันว่
ธัญญ่าพยักหน้าอย่างเจียมตัว “คะ-ค่ะป้าซัมเมอร์”ธัญญ่าสงสัยว่าซัมเมอร์คิดว่าเธอควรจะมาที่นี่เมื่อมากับทิฟฟานี่เท่านั้นหรือเปล่า ธัญญ่าค้นพบว่านั่นคือโศกนาฏกรรมของชีวิตเธอ เธอจะเป็นคนที่ติดสอยห้อยตามของคนอื่นเสมอ แต่ไม่ใช่วันนี้ วันนี้เธอมาด้วยตัวของเธอเอง แววตาของซัมเมอร์สื่อถึงความผิดหวังอย่างเห็นได้ชัด “โอ้ งั้นเหรอ เอ่อ งั้น… มีอะไรให้ฉันช่วยหรือเปล่า?”ธัญญ่าก้าวไปข้างหน้าอย่างกล้าหาญและดึงผลการตรวจการตั้งครรภ์ออกมาจากกระเป๋าของเธอ “หนูเพิ่งได้รับผลการตรวจนี้มา หนูว่าคุณป้าควรดูมัน”ซัมเมอร์งงงวย ทำไมอยู่ ๆ ถึงต้องให้เธอดูผลการตรวจอะไรด้วย? มันใช่เรื่องของเธอตรงไหน? ทว่าเธอก็ยังรับผลตรวจนั้นจากมือของธัญญ่าตามมารยาทและพบว่ามันคือผลการตรวจการตั้งครรภ์ “อ๋ออ ยินดีด้วยนะจ๊ะที่รัก!” ซัมเมอร์ยิ้มอ่อน ๆ “เธอเจอคนที่ใช่แล้วใช่ไหม? จะแต่งงานกันเมื่อไหร่เหรอ?”ธัญญ่าเงียบไปชั่วครู่ก่อนจะประกาศว่า “พ่อของลูกในท้องหนูคือ… แจ็คสัน เวสต์”รอยยิ้มของซัมเมอร์จางหายไปทันที “อะ-อะไรนะ? เธอล้อเล่นใช่ไหม? ฉันรู้จักลูกชายของฉันดี แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือเธอเป็นเพื่อนของทิฟฟ์! พวกเธอทำแบบนี้ได
ต่างกับภรรยาของเขา แอตติคัสกลับรู้สึกเห็นใจหญิงสาวผู้น่าสงสารคนนี้และคิดว่าซัมเมอร์โหดร้ายกับเธอเกินไปเล็กน้อย“เอิ่ม ธัญญ่า? ฉันว่าเธอกลับบ้านและไปคิดเรื่องนี้ให้ดี ๆ ก่อนดีกว่า อย่าถือสาภรรยาฉันเลยนะ อย่างที่เธอเห็น เขามีนิสัยชอบพูดโพล่งไปหน่อย” เขาพูดอย่างใจดี “แต่อย่างไรก็ตาม ซัมเมอร์จะจริงจังกับสิ่งที่พูดเสมอและฉันเองก็เห็นด้วยกับซัมเมอร์ ถึงแม้ว่ามันจะน่าเสียดาย แต่ถ้าหากแจ็คสันไม่ได้ต้องการลูกของเขามันก็จะดีที่สุดหากเธอจะเอามันออก เธอไม่คิดงั้นเหรอ? เธอไม่ต้องกลัวว่าเธอจะเสียหายหรืออะไรนะ ยังไงเราก็ต้องชดใช้ให้เธออยู่แล้ว แต่สำหรับตอนนี้ เธอกลับไปก่อนดีกว่า ช่วงนี้อากาศแห้งแล้งมาก เพราะฉะนั้นฉันจะให้คนขับรถฉันไปส่งเธอนะ ตกลงไหม?” ธัญญ่าพยักหน้าและพึมพำ “ค่ะ ขอบคุณค่ะ…”หลังจากความเกลียดชังและการดูถูกเหยียดหยามที่เธอได้รับ การแสดงความเห็นอกเห็นใจของแอตติคัสได้กลายเป็นเรื่องที่อบอุ่นใจเรื่องเดียวสำหรับเธอในช่วงพักหลัง ๆ นี้ที่หน้าต่างฝรั่งเศสในห้องนอนของเธอ ซัมเมอร์กำลังมองดูรถของครอบครัวพวกเขารับธัญญ่าเข้าไปก่อนที่จะขับออกไปจนลับสายตาเธอหันไปหาแอตติคัสและโพล่งต่อ
เมื่อแจ็คสันไปถึงที่อพาร์ทเม้นท์ของธัญญ่าเขาก็จอดรถที่ข้างถนนและปลดบล็อกเบอร์เธอก่อนที่จะกดโทรออกเมื่อสายถูกเชื่อมต่อเขาก็ตรงเข้าประเด็นทันที “ข้างล่าง”ธัญญ่าช็อคและเงียบไปชั่วครูก่อนที่เธอจะตอบกลับ “คุณอยู่… ข้างล่างเหรอ?”เขาวางสายทันทีเนื่องจากเขาไม่มีอารมณ์ที่จะตอบอะไรอีกไม่ถึงห้านาทีธัญญ่าก็ลงมาถึงข้างล่าง แจ็คสันปลดล็อกประตูรถและหญิงสาวคนนั้นก็ขึ้นไปนั่งบนที่ของเธอที่เบาะหลัง “เอิ่ม คุณมาหาฉันเหรอ..?” “เธอไม่ใช่เหรอที่ตามหาฉัน?” แจ็คสันตอบอย่างเฉยเมย “เธอไม่น่าไปที่คฤหาสน์เวสต์ เธอต้องการอะไร?” แสดงว่าเขามาหาเธอเพียงเพราะเธอไปที่บ้านของครอบครัวเขามา ไม่ใช่เพราะเรื่องอื่นใด ธัญญ่าก้มหัวลงพลางกำชายเสื้อตัวเองอย่างแน่น“ฉันแค่ต้องการเก็บลูกคนนี้ไว้” เธอกล่าว “ฉันรู้ว่าตอนนี้ฉันไม่ต่างอะไรกับขยะชิ้นหนึ่งสำหรับคุณ และแม้กระทั่งก่อนหน้านี้ ฉันก็เป็นเพียงเพื่อนคนหนึ่งของผู้หญิงที่คุณชอบ แต่… ฉันชอบคุณมานานแล้ว ฉันรักคุณ ฉันไม่เคยมีโอกาสได้บอกคุณ แต่หลังจากที่คุณเลิกกับทิฟฟานี่ ฉัน-” แจ็คสันขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนที่เขาจะตะคอกออกมาว่า “เธอช่วยข้ามเรื่องไร้สาระพวกนั้นได้ไหม? ฉั
ทิฟฟานี่กัดฟันและเดินถอยหลังสองก้าว “ขอร้องล่ะ อย่ามาโวยวายหน้าบ้านฉัน เรื่องระหว่างเธอกับแจ็คสันไม่ใช่ธุระกงการอะไรของฉัน เธอต้องการแบบนี้ไม่ใช่เหรอ? เธอเต็มใจนอนกับเขา และเธอก็ตั้งใจจะท้องกับเขาด้วย ถ้าเขาไม่ต้องการให้เธอให้กำเนิดลูกของเขา นั่นมันก็เรื่องระหว่างเธอสองคน ทำไมเธอต้องมาขอความช่วยเหลือจากฉันด้วย? เธอคิดว่าฉันจะสามารถบังคับให้เขาแต่งงานกับเธอและปล่อยให้เธอเก็บลูกไว้ได้เหรอ? ฉันไม่ได้ใจกว้างขนาดนั้นนะ ฉันช่วยอะไรเธอไม่ได้หรอก ช่วยกลับไปซะเถอะ!” ธัญญ่าจับชายเสื้อของทิฟฟานี่โดยไม่ยอมปล่อย “ขอร้องนะทิฟฟานี่… ฉันไม่มีครอบครัวหรือญาติคนไหน ฉันไม่รู้จักใครที่นี่เลย ฉันตัวคนเดียวและฉันก็ไม่รู้ว่าฉันควรจะทำอย่างไรดี ฉันผิดเอง ฉันทำผิดต่อเธอ ตีฉันเลย ถ้ามันจะทำให้เธอรู้สึกดีขึ้น ฉันแค่อยากให้เธอคุยกับพี่แจ็คสันให้เขายอมให้ฉันเก็บลูกไว้ ถ้าฉันเอาเด็กคนนี้ออก ฉันจะไม่สามารถท้องได้อีกเลย ได้โปรด…” ทิฟฟานี่ไม่ได้โง่ขนาดนั้น เธอไม่ต้องการเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องวุ่นวายนี้ สิ่งเดียวที่ต้อการคือไม่ให้ลิเลียนได้ยินความโกลาหลนี้ เธอไม่อาจให้ลิเลียนรู้เรื่องนี้ได้ ไม่อย่างนั้นเธอจะต้องทะ
ทิฟฟานี่ถอนหายใจด้วยความโล่งอกครั้งใหญ่ เธอหมดแรงจนต้องพิงกำแพงพลางหน้าซีด เธอรอจนกว่าตัวเองจะสงบสติลงก่อนที่เธอจะเริ่มหากุญแจและเข้าไปในบ้าน “ลูกได้คุยกับใครข้างนอกนั้นหรือเปล่า?” ลิเลียนถามอย่างงงงวย “แม่ได้ยินเสียงคนคุยกันแต่แม่ขึ้นเกียจลุกขึ้นไปดู ลูกคุยกับใครเหรอ?” “แค่บังเอิญเจอเพื่อนร่วมงานเก่าน่ะ เราก็เลยคุยกันนิดหน่อย หนูไปทำกับข้าวก่อนนะ” ทิฟฟานี่อธิบายโดยไม่เต็มใจนักที่คฤหาสน์เทรมอนต์เมื่อแอเรียนกลับไปถึงบ้าน มาร์คกับแอริสโตเติลก็กลับมาเรียบร้อยแล้ว ทั้งคู่เพิ่งจะพากันอาบน้ำเสร็จ ตอนนี้เธอดูเหมือนแม่ที่ไร้ประโยชน์มาก มาร์คทั้งสามารถหาเงินและเลี้ยงลูกได้ ซึ่งมันทำให้เธอรู้สึกต่ำต้อย เธอก้าวไปข้างหน้าโดยไม่สามารถยับยั้งความรู้สึกของตนเองได้ “มานี่มาสมอร์ มาให้หม่ามี๊อุ้มหน่อยน๊า”มาร์คหลบเลี่ยงเธอด้วยความรังเกียจ “ไปอาบน้ำก่อน พวกเราเพิ่งอาบเสร็จ วันนี้ร้อนมากและเธอก็เหงื่อออกมาทั้งวันแล้ว…” นานมากแล้วที่เขาไม่ได้ต่อว่าเธอ เธอเสียความรู้สึก “นี่คุณดุฉันเหรอ?” เขาจ้องเธออย่างใจเย็น “ทำไม? ฉันดุไม่ได้เหรอ? ฉันนึกว่าเธอชินกับมันไปแล้วซะอีก แต่ก่อนฉันดุเธออกจะบ่อย”
มาร์คไม่มีท่าทีว่าจะไปไหนเลย เขาถอดเสื้อของเขาออกก่อนที่จะเอื้อมมือไปนวดหลังที่นุ่มและเปลือยของเธอ “ฉันจะช่วยเธอ… แอริสโตเติลเริ่มหมดความอดทนแล้ว ถ้าฉันช่วยเธอจะได้เสร็จไว ๆ ไง” บรรยากาศในห้องน้ำที่ชื้นนั้นเริ่มเปลี่ยนไป แอเรียนก้มหน้าโดยไม่กล้าสบตาเขา เธอยังคงไม่ชินที่จะต้องยืนอยู่ตรงหน้าเขาอย่างโป๊เปลือย โดยเฉพาะเมื่อเธอเพิ่งจะคลอดลูกเมื่อไม่นานมานี้ หุ่นเธอไม่ได้กระชับอย่างที่มันเคยเป็น โดยเฉพาะส่วนหน้าท้อง “ไม่ต้อง ฉันอาบน้ำเร็วมาก คุณออกไปเถอะ ฉันไม่ชินจริง ๆ นะ…”เขาเอื้อมมือไปจับคางเธอและบังคับให้เธอต้องหันหลังมามองเขา “เธอหมายความว่าอะไร? ถ้าเธอยังไม่ชิน เธอก็จะต้องทนจนกว่าเธอจะชิน ฉันเป็นสามีของเธอนะ ทำไมฉันจะมองเธอไม่ได้?” สายตาที่จริงจังของเขาจับจ้องไปที่ดวงตาของแอเรียนและเธอก็รู้สึกราวกับว่าเธอถูกดึงเข้าไปในภวังค์ ริมฝีปากบางและอ่อนโยนของเขาดูเซ็กซี่และน่าดึงดูดยิ่งขึ้นเมื่ออยู่ในห้องน้ำที่มีหมอก เธอสามารถมองเห็นโครงร่างของกล้ามเนื้อเขาตรงหน้าเธอได้อย่างชัดเจน ซึ่งมันทำให้จิตใจของเธอพุ่งซานไปครึ่งจังหวะราวกับว่าเธอไม่สามารถใช้งานมันได้ในขณะนั้นเมื่อเธอฟื้นคืนสติ