เอมี่เลิกวิจารณ์ทิฟฟานี่ คงอาจเป็นเพราะมันสายมากแล้ว “สำหรับวันนี้เธอก็ไปทำความคุ้นเคยกับที่ทำงานใหม่ของเธอก่อนแล้วกัน เธอจะทำงานกับฉัน โต๊ะของเธอก็พร้อมแล้ว อยู่ข้างหลังเธอ ซ้ายมือ”ทิฟฟานี่หันหน้าไปทางซ้ายเพื่อสำรวจดูแล้วเธอก็แปลกใจมาก ทำไม่หัวหน้าแผนกถึงได้นั่งทำงานกับผู้อำนวยการ? โต๊ะทำงานของเธออยู่ฝั่งตรงข้ามของห้องโดยหันหน้าเข้าหาโต๊ะของเอมี่ และมิหนำซ้ำมันยังถูกตกแต่งเหมือนกับของเอมี่อีกด้วย ในบริษัทเครือนี้หัวหน้าแผนกถือว่าเป็นตำแหน่งที่สูงเหรอ? “เธอไม่ได้มาที่นี่เพื่อเป็นหัวหน้าแผนก ตำแหน่งของเธอคือผู้ช่วยผู้อำนวยการ” เอมี่อธิบายราวกับว่าเธอเข้าใจความมึนงงของทิฟฟานี่ “ฉันรู้ว่าเธอยังมีประสบการณ์ไม่มากนัก ดังนั้นฉันจะช่วยเธอและเป็นที่ปรึกษาให้เธอเอง คุณเวสต์เขาสั่งมาอย่างนั้น” ผู้ช่วยผู้อำนวยการเหรอ? เธอไม่ได้มาเพื่อเป็นหัวหน้าแผนกหรอกเหรอ? ทิฟฟานี่ตื่นตระหนก ถ้าแจ็คสันรู้เข้าว่าเธอได้มาเป็นผู้ช่วยผู้อำนวยการที่บริษัทในเครือของเขา เขาจะต้องบ้าคลั่งแน่ ๆ! เธอรู้ตัวดีว่าเธอไม่ได้เก่งพอที่จะทำงานในตำแหน่งนี้ ทีนี้เธอรู้แล้วว่าซัมเมอร์ได้จัดการทั้งหมดไว้แล้วและเพียงหลอกเธอ
ทิฟฟานี่จ้องมองเพดานและตอบอย่างสงบว่า “หนูขอโทษที่ทำให้คุณผิดหวัง มันเป็นความผิดของหนูเอง… มันไม่ใช่ความผิดของแจ็คสันเลยค่ะ” หากเพียงแต่ว่าเธอไปหาแจ็คสันเร็วกว่านั้น ธัญญ่าก็จะไม่เหลือโอกาสได้ทำอะไรเลย ทิฟฟานี่ต่อว่าตัวเองเพราะเรื่องนั้นไม่รู้กี่หนแล้ว ทว่าโชคไม่ดีที่มันเกิดขึ้นไปแล้ว แล้วแบบนี้เธอจะทำอะไรได้อีกล่ะ? ซัมเมอร์เป็นคนประเภทที่จะไม่ล้ำเส้นใคร เธอพูดถึงเรื่องนี้เพียงเพราะเธอมั่นใจว่าทิฟฟานี่รู้แล้ว เธอไม่อาจสามารถแสร้งทำเป็นไม่รู้ได้ เพราะเธอไม่ต้องการรู้สึกเหินห่างกับทิฟฟานี่ “งั้นเราไม่พูดเรื่องนี้กันดีกว่า พักผ่อนให้เต็มที่นะ พรุ่งนี้เธอจะได้มีแรงลุยงาน ถ้ามีปัญหาอะไรก็โทรมาหาฉันได้ตลอดนะ เธอก็เหมือนลูกสาวฉันมาเสมอ หากฉันจะต้องตีเธอหรือแจ็คสัน ฉันจะเลือกตีแจ็คสัน ราตรีสวัสดิ์จ่ะ” หลังจากที่วางสายทิฟฟานี่ก็ส่งข้อความบอกแอเรียนว่าเธอมาถึงโดยสวัสดิภาพแล้ว เธอเหนื่อยมาก คงจะเป็นเพราะเธอออกเดินทางตั้งแต่เช้ามืด ดังนั้นเธอจึงไม่สนที่จะทานข้าวเย็นก่อนแต่กลับหลับไปอย่างรวดเร็วณ คฤหาสน์เทรมอนต์แอเรียนสบายใจเมื่อเห็นข้อความของทิฟฟานี่ ทิฟฟานี่ที่หนังหนาและแข็งแกร่งที่
ทนายความยิ้ม “คุณช่างมีวิธีขู่เขิญที่พิเศษจริง ๆ นะครับ ค่อนข้างกล้าเลยนะ ดูเหมือนว่าคุณจะไม่เซ็นสัญญานี้ งั้นผมขอแจ้งขั้นตอนการเรียกร้องค่าเลี้ยงดูเด็กให้คุณทราบเลยนะครับ ก่อนอื่น คุณจะต้องพิสูจน์ว่าคุณเวสต์เป็นพ่อของลูกคุณจริง ๆ จากนั้นคุณจะต้องยื่นอุทธรณ์ค่าเลี้ยงดูเด็ก ถ้าคุณเวสต์ปฏิเสธ กระบวนการนี้ก็จะยืดเยื้อไป คุณเป็นผู้หญิงที่อยู่คนเดียวตามลำพังและไม่มีรายได้ คุณสามารถผ่านการตั้งครรภ์นี้ไปได้จริงเหรอ? ลองคิดอย่างระมัดระวังดูนะครับ ผมขอตัวกลับก่อน” ธัญญ่ากวาดแก้วบนโต๊ะกาแฟลงบนพื้นอย่างโกรธจัดขณะที่มองดูทนายความเดินจากไป เธอตั้งใจแน่วแน่ที่จะให้กำเนิดเด็กคนนี้ถึงแม้ว่าท้ายที่สุดเธอจะไม่ได้อะไรจากมันก็ตาม เธออาจจะตัวคนเดียวแต่เธอไม่มีอะไรให้ต้องกังวล ตราบใดที่เด็กคนนี้ยังอยู่… ตราบใดที่เธอยืนกรานว่าเขาเป็นของแจ็คสัน เวสต์ มันก็จะเป็นหนามในใจทิฟฟานี่ เลนเสมอ ถ้าเธอไม่ได้แจ็คสัน ทิฟฟานี่ก็จะไม่มีวันได้เขาเช่นกัน! การอยู่รอดของธัญญ่าไม่ใช่ธุระกงการอะไรของใคร!นอกจากนี้… ตราบใดที่เธอมีลูกคนนี้ แจ็คสันอาจจะสำนึกได้ในวันใดวันหนึ่งและยอมรับเธอและลูกด้วยความเต็มใจ…ทนายความโทรหาแ
ซัมเมอร์ไปถึงที่พักของธัญญ่า แน่นอนว่าเธอจะไม่แสร้งทำเป็นสงบ เธอเคาะประตูจนกว่าธัญญ่าจะเปิดก่อนจะวางเงินสด $30,000 ต่อหน้าหล่อน “$30,000 นับเอาเอง มันเพียงพอสำหรับค่าเอาเด็กออกและโภชนาการที่เธอจำเป็นต้องได้รับหลังจากนั้นด้วย” ธัญญ่าจ้องไปที่กองเงินบนโต๊ะและรู้สึกราวกับว่าศักดิ์ศรีของเธอถูกดูถูกอย่างมากที่สุด “คนรวยย่อมชอบใช้เงินเพื่อดูถูกคนอื่นจริง ๆ ว่าไหม? หนูอาจจะจน แต่หนูยังมีศักดิ์ศรีอยู่”“โอ้ จริงเหรอ?” ซัมเมอร์ยิ้มเยาะเย้ย “ไหนล่ะศักดิ์ศรีของเธอ? ทำไมฉันถึงไม่เห็นเลยนะ? ผู้หญิงที่มีศักดิ์ศรีจริง ๆ ไม่มีวันไปหาผู้ชายกลางดึกกลางดื่นและจะไม่มีวันฉวยโอกาสจากคนอื่นหรือขู่คนอื่นเพื่อเรียกร้องค่าเลี้ยงดูเด็กหลังจากที่ท้องโดยไม่ได้ตั้งใจหรอก ถ้าฉันเป็นเธอ ฉันจะมองว่าเรื่องนี้เป็นเพียงอุบัติเหตุและเอาเด็กนั้นออกโดยไม่ลังเลเลย นั่นต่างหากที่เรียกว่าศักดิ์ศรี! ศักดิ์ศรีของเธอไม่ได้มีความหมายอะไรต่อเธอเลย แล้วแบบนี้เธอจะให้คนอื่นเคารพเธอได้อย่างไร?” “ทำไมคุณถึงมั่นใจนักว่ามันเป็นเพียงอุมัติเหตุ?” ธัญญ่าเถียง “คุณมีสิทธิ์อะไรมากล่าวหาว่าหนูฉวยโอกาสคนอื่น? ไม่มีใครสามารถยืนยันได้ว่
”ไม่มีทาง” ธัญญ่ายังยืนหยัดเช่นเคย “เอาเลย บังคับให้หนูเอาเขาออกสิ หนูขอท้า!” ซัมเมอร์ชี้หน้าธัญญ่าและด่าอย่างโกรธเคือง “ทิฟฟ์และแจ็คสันไม่น่าใจดีกับเธอเลย พวกเขาส่งสารเธอเพราะเธอไม่เหลือใคร แต่สุดท้ายเธอก็แว้งกัดพวกเขา! คนอย่างเธอถูกลิขิตให้มีชีวิตที่น่าสมเพช! เธอทำตัวเธอเองนะธัญญ่า! ตอนนี้ฐานะครอบครัวของทิฟฟ์ก็ไม่ได้เหมาะสมกับครอบครัวเวสต์เช่นกัน แต่ฉันยอมรับทิฟฟ์เพราะทิฟฟ์แตกต่างจากเธอ ความยากจนทางทรัพย์สินและความยากจนทางจิตใจมันต่างกันนะ เธอเข้าใจไหม?”นั่นเป็นชะตากรรมของเธอเหรอ? คำพูดของซัมเมอร์ดูเหมือนจะแทงใจดำของธัญญ่า เธอลุกขึ้นยื่นและตบมือของซัมเมอร์ออกไป “คุณไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจว่าชีวิตหนูจะเป็นอย่างไร!”“เธอกล้าแตะตัวฉันเหรอ?” ซัมเมอร์ตกใจกับการตอบโต้ของธัญญ่า“ออกไป!” ธัญญ่าตะโกนอย่างหอบเหนื่อย “ออกไปจากบ้านของหนู! หนูไม่มีวันเซ็นสัญญานั้นเด็ดขาด! หนูจะให้กำเนิดเด็กคนนี้ หนูจะทำให้แน่ใจว่าเด็กคนนี้จะต้องตราตรึงอยู่ในจิตใจทุกคน คุณพูดถูก ตราบใดที่หนูไม่มีความสุข หนูจะดึงพวกคุณทุกคนให้ลงนรกไปกับหนู! ทิฟฟานี่ไม่มีวันเพิกเฉยต่อเรื่องนี้ได้แน่นอน โอกาสสำหรับความสัมพันธ์ข
ทั้งหมดไม่ใช่ความผิดของธัญญ่าเลย แต่เธอจะต้องรับผิดตลอด เพื่ออะไรกัน? การต้องแบกรับความผิดที่เธอไม่ได้ทำมันยุติธรรมตรงไหน? แล้วทำไมซัมเมอร์ถึงต้องเปิดโปงความทรงจำที่เจ็บปวดเหล่านี้ด้วย?!เมื่อเธอฟื้นคืนสติได้ในที่สุด ธัญญ่าก็ปล่อยมือจากคอของซัมเมอร์ด้วยความหวาดกลัวและร้องว่า “โอ้พระเจ้า… โอ้พระเจ้า! หนูขอโทษ! หนูขอโทษ หนูไม่ได้ตั้งใจ หนูขอโทษ! ได้โปรดอย่าตะคอกหนูนะ… ได้โปรดหยุดทรมานหนูด้วยคำพูดเหล่านั้นสักที…”มือของซัมเมอร์รีบจับคอตัวเองก่อนที่จะผลักผู้หญิงคนนั้นออกไป “แคร่ก… เธอจะฆ่าฉัน! แคร่ก ๆ… เธอ… เธอมันบ้า!” เธอร้องเสียงหลงอย่างตะกุกตะกัก ธัญญ่าน้ำตาไหลขณะที่เธอส่ายหัวโดยไม่หยุดหย่อน “มะ-ไม่! ไม่จริง! ไม่จริง… ไม่จริง ไม่จริง หนูไม่ได้จะฆ่าคุณ… หนูขอโทษ หนู…” ท่าทางที่โยกไปโยกมาของธัญญ่าทำให้ซัมเมอร์ขวัญเสีย นั่นมันอะไรกัน? ตัวตนที่แท้จริงของธัญญ่าเหรอ? ด้วยความกลัวหญิงชราคนนั้นจึงหันหลังและเผ่นออกจากอพาร์ทเม้นท์ เธอจะไม่อยู่ต่อแม้แต่วินาทีเดียว เพื่อว่าจะมีอะไรที่น่ากลัวกว่านี้เกิดขึ้นอีก! ธัญญ่าเหลือบไปเห็นเงินที่ซัมเมอร์ลืมไว้ เธอจึงรีบหากระเป๋าเพื่อหยัดเงินเข้าไปก่อ
เสียงเคาะประตูรัว ๆ ทำให้ธัญญ่าที่หมดอาลัยตายอยากต้องลุกออกจากเตียงและเดินมาทางประตู เธอเหนื่อยเกินกว่าจะสงสัยแขกผู้ไม่ได้นัดล่วงหน้าของเธอคือใครเมื่อเธอเปิดประตูออกเธอก็พบกับแจ็คสันที่เดือดดาล ธัญญ่าตัวแข็งทื่อพลางนึกไม่ออกว่าจะต้องทำตัวอย่างไรผู้ชายที่ต้องการจะหลีกเลี่ยงเธอทุกวิธีทางก็มาหาเธอจนได้ “ถ้าเธออยากจะตีใครก็มาที่ฉันนี่! อย่ายุ่งกับแม่ฉัน!” แจ็คสันเดือดแค้นพลางกำหมัดแน่น เขาไม่มีนิสัยตบตีผู้หญิง เพราะฉะนั้นแม้ว่าเขาจะโกรธที่สุดเขาก็จะยับยั้งตัวเองไม่ให้ทำตามที่ใจปรารถนาธัญญ่าถอยหลังด้วยความเข้าใจ ความทรงจำของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นทำให้เธอต้องก้มหน้าด้วยความละอายใจ“ฉันไม่ได้ตั้งใจ” เธอกระซิบ “ฉันรู้ว่าฉันไม่ควรถือสาแม่ของคุณไม่ว่าเขาจะพูดทำร้ายจิตใจมากแค่ไหนก็ตาม ฉันไม่น่าฟิวส์ขาดและพลั้งมือเลย… ฉันขอโทษ ถ้าแม่คุณต้องการความช่วยเหลือทางการแพทย์หรืออะไรก็ตาม ฉันจะจ่ายเอง ฉันขอแค่อย่างเดียว ขอให้พวกคุณเลิกยุ่งกับฉันเถอะ ได้โปรด หยุดบังคับให้ฉันต้องคอยรู้สึกสิ้นหวังสักที” แจ็คสันสูญเสียความสามารถในการเห็นอกเห็นใจธัญญ่าไปแล้ว “เลิกแสร้งทำเป็นว่ารู้สึกผิดได้แล้ว สิ่ง
ธัญญ่าปิดประตูและเริ่มเล่าอดีตของเธอโดยไม่รอช้า “ตอนนั้นฉันยังเด็ก ประมาณสี่ขวบได้ เมื่อผู้คนเริ่มพูดกันว่าพ่อได้ฆ่าคนตาย “ตั้งแต่นั้นมาพ่อก็หายไปจากชีวิตฉัน แล้วแม่ก็ทิ้งฉันไป ฉันไม่เหลือใครนอกจากคุณปู่ ผู้คนรอบตัวฉันต่างกระตือรือร้นและมีความสุขที่จะคอยเตือนฉ้นว่าเป็นลูกสาวของฆาตกรทุกครั้งที่พวกเขาเจอฉัน พวกผู้ใหญ่จะคอยห้ามไม่ให้ลูก ๆ ของพวกเขามาเล่นกับฉ้น แล้วหลังจากนั้นพวกเขาก็ตีฉันซ้ำแล้วซ้ำเล่า พวกเขาปฏิบัติต่อฉันเหมือนเป็นขยะสังคม คุณปู่กลัวว่าทั้งหมดจะทำลายฉันจนเขายอมเสียเงินทั้งหมดที่เขาออมไว้เพื่อพาหนูย้ายออกจากบ้านเกิดและมาเช่าบ้านอยู่ในเมือง “ตอนนั้นฉันอายุแปดขวบแล้ว แต่ความบอบช้ำจากที่ถูกมองว่าเป็นเพียงลูกสาวของฆาตกรยังคงหลอกหลอนฉัน ฉันไม่อาจหลุดพ้นจากมันได้ ฉันพยายามจะเป็นคนดีมาโดยตลอด ฉันเชื่อฟังคำสั่งสอนของคุณปู่เสมอ ฉันยิ้มและปฏิบัติต่อทุกคนเป็นอย่างดีเพราะคุณปู่สอนไว้ว่า ไม่ว่าชีวิตของฉันจะเริ่มต้นแย่แค่ไหน ผู้ใดที่ยิ้มย่อมมีโชคมีลาภเสมอ เขาบอกว่าสักวันหนึ่งพระเจ้าจะยิ้มตอบฉ้นเช่นกัน… ฉันเป็นคนที่หนักเอาเบาสู้ตลอด คนประเภทที่จะไม่กลัวงานหนัก ๆ อย่างที่คนอื่นเ