แอเรียนผิดหวัง เธอหวังจะได้เห็นพวกที่ลักพาตัวฮาร์วีย์เผื่อว่าเธออาจจะได้เบาะแสอะไรที่จะสามารถนำไปหาอีธานได้ แต่สุดท้ายพวกเขาก็มาช้าเกินไปพวกเขาพาทุกคนขึ้นไปที่ชั้นบนและพบว่าประตูห้องของโซอี้และคุณแฮร์ริสถูกเปิดทิ้งไว้ ข้างในห้องเลอะเทอะมาก เจ้านายหญิงของโรงแรมกำลังคำนวณค่าเสียหายขณะที่ดุพวกเขาด้วยคำพูดที่เจ็บปวด ทั้งคู่ยังคงอยู่ในอาหารช็อก ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สามารถตอบโต้อะไรได้เลย พวกเขาเพียงแต่ยืนรับคำวิจารณ์ของเจ้านายหญิงคนนั้น โซอี้ดูเหมือนจะไม่เป็นอะไร แต่กลับกันกับสามีของเธอที่ดูราวกับว่าโดนทุบตีมาอย่างหนัก แอเรียนก้าวเข้าไปหยุดเจ้านายหญิง “พอได้แล้ว เดี๋ยวฉันชดเชยให้ เฮนรี่ ลงไปข้างล่างกับเธอและให้เธอคำนวณค่าเสียหายมาให้หมด ชำระอะไรที่ยังค้างคาให้หมดเลย” เจ้านายหญิงที่เห็นจำนวนคนที่แอเรียนพามาด้วยกลัวเกินกว่าจะโวยวายต่อ เธอเพียงแต่เดินตามเฮนรี่ไปอย่างกล้า ๆ กลัว ๆโซอี้เหลือบมองฮาร์วีย์และเข้าใจทันทีว่าแอเรียนมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร “พวกเราไม่ได้เป็นอะไร ฉันขอโทษที่ทำให้เธอต้องเดือดร้อนขนาดนี้ พวกเราทุกคนปลอดภัยดี” “ฉันรู้” แอเรียนตอบอย่างสงบ “ฉันเห็นแล้ว ตาฉันยังใช
ไบรอันหุบยิ้มทันที “ครับนายท่าน มันมีเหตุผลที่ผมยังไม่มีแฟนจริง ๆ อย่างเช่น ตารางงานที่ยุ่ง ไม่มีเวลาว่าง และอื่น ๆ …”“งั้นนายอยากจะลาพักร้อนยาว ๆ ไหมล่ะ?” มาร์คถามอย่างนุ่มนวล “หรือบางที่นายอาจจะอยากเกษียณเร็วขึ้นประมาณยี่สิบสามสิบปี?”ไบรอันส่ายหัวอย่างรุนแรง “ไม่ครับ ไม่ครับ ผมยินดีที่จะรับใช้คุณ แม้ว่าผมจะเกษียณผมก็ยังยินดีที่จะขับรถให้คุณต่อเป็นสิบ ๆ ปีตราบใดที่ผมยังสามารถขับไหวครับ”…ณ คฤหาสน์เวสต์ซัมเมอร์ป่วยติดเตียงตั้งแต่ที่ถูกธัญญ่าบีบคอและจะมีไข้เป็นครั้งคราว คุณหมอสรุปว่ามันเป็นผลจากอาการช็อกและเธอจะหายดีหลังจากที่ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ด้วยเหตุนี้แจ็คสันถึงได้กลับมาเยี่ยมหาที่คฤหาสน์เวสต์บ่อยขึ้น ส่วนใหญ่เพราะเขารู้สึกผิดและเพราะว่าเขาสงสารแม่ตัวเอง เจตคติของเขาต่อแอตติคัสก็ได้เปลี่ยนไปเล็กน้อยหลังจากที่เขาเห็นว่าแอตติคัสดูแลเอาใจใส่และเป็นห่วงซัมเมอร์มากแค่ไหน แม้ว่าแจ็คสันยังคงปฏิเสธที่จะทักทายหรือคุยกับแอตติคัสก่อน แต่อย่างน้อยแจ็คสันก็ไม่ได้กลับมาบ้านด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึมเหมือนแต่ก่อนอีกต่อไป“แจ็คสัน ลูกไม่ต้องห่วงแม่หรอก แม่มีพ่อคอยดูแลอยู่ แม่ไม่ได้เป็น
ไม่ถึงครึ่งเดือนต่อมา สภาพอากาศในเมืองหลวงก็ถึงจุดที่แผดเผาสูงสุดของปี อากาศในเมืองร้อนมากจนผู้คนล้วนแต่อยากจะอยู่ในบ้าน ไม่มีใครอยากออกไปไหนทั้งนั้นแอเรียนและแอริสโตเติลใกล้จะล้มป่วยจากความชื้นนี้ ภูมิต้านทานต่อความร้อนของแอริสโตเติลต่ำมากจนแอเรียนกลัวว่าเขาจะเป็นลมแดดถ้าเธอพาเขาออกจากบ้าน ทุกวันนี้เธอจึงไม่ค่อยได้พาเขาออกไปที่สวนและจะพาเขาเดินเล่นในตอนเย็นช่วงที่พระอาทิตย์ตกเท่านั้น ไม่ว่าคฤหาสน์เทรมอนต์จะใหญ่แค่ไหน มันกลับดูเล็กลงมากในช่วงเวลาเช่นนี้ การที่ต้องอยู่แต่ข้างในบ้านทั้งวันนั้นค่อนข้างจะน่าเบื่อมากเลยทีเดียวพักหลัง ๆ นี้มาร์คยุ่งมากจนแอเรียนและแอริสโตเติลแทบจะไม่ได้เจอเขาเลย เขาจะออกไปทำงานก่อนที่แอเรียนจะตื่นและกลับมาบ้านเมื่อเธอเข้านอนไปแล้ว เธอเริ่มสงสัยว่าแอริสโตเติลจะลืมหน้าดาด๊าของเขาหรือไม่ ถ้าขืนยังเป็นอยู่แบบนี้ต่อไป ท้ายที่สุดแล้วพวกเขาก็อยู่บ้านเดียวกันแต่กลับไม่เคยได้เห็นหน้ากันเลย และทารกก็มักจะมีความทรงจำที่ไม่ดี มันจึงจะไม่น่าแปลกใจเลยถ้าสมอร์จะลืมหน้ามาร์คณ ตึกเทรมอนต์ ทาวเวอร์ ในห้องทำงานของผู้บริหารสูงสุดสีหน้าของมาร์คเยือกเย็นที่สุด เขาเอนกา
แจ็คสันวางโทรศัพธ์ลงที่โต๊ะโดยไม่วางสาย “เราเพิ่งเคยเจอกันแค่ครั้งเดียวเองนะครับ แล้วทำไมวันนี้ผมถึงได้รับเกียรติในการมาเยี่ยมเยือนของคุณเหรอครับ? ช่วยบอกผมที” เขาตั้งใจเน้นย้ำไปที่การพบปะกันครั้งก่อนของพวกเขาเมื่อชายทั้งสองไปหาทิฟฟานี่ในเวาลาเดียวกัน ความโกรธแค้นระหว่างพวกเขายังคงสดใหม่อยู่ในความทรงจำของแจ็คสัน เจตต์เข็นอเลฮานโดร ซึ่งนั่งอยู่ในรถเข็นตามปกติ ไปข้างหน้า “คุณมีที่ดินดี ๆ อยู่ในมือ เสนอราคามาเลย ผมต้องการมัน"แจ็คสันหรี่ตาลง "โอ้? เห็นได้ชัดว่าแหล่งข้อมูลของคุณมีประสิทธิภาพอย่างยิ่ง ผมแค่ยังไม่ได้ตัดสินใจเลยว่าจะทำอย่างไรกับที่ดินผืนนั้นดี แต่ผมไม่ได้ลืมมันนะ ท้ายที่สุดมันก็มีค่ามาก แต่ตอนนี้คุณก็มีที่ดินมากมายแล้ว คุณจะซื้อเพิ่มอีกทำไม? คุณตั้งใจจะผูกขาดตลาดในเมืองหลวงเหรอ? แต่โชคร้ายหน่อยที่เพื่อนผมเพิ่งจะโทรมาและผมก็ตกลงว่าจะขายที่ดินนั้นให้เขาไปแล้วด้วย”“ผมจะให้สองเท่าของราคาที่เขาเสนอ คุณจะว่าไง?” อเลฮานโดรตอบทันที แจ็คสันเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ ผู้คนมักจะประเมินราคาที่ดินไว้สูง ๆ ทว่านี่เป็นครั้งแรกที่เขาพบกับผู้ซื้อที่ดื้อรั้นขนาดนี้ ต่อให้ราคาที่ดินที่สูงขึ้น
มาร์คหยุดเดิน “เอ่อ ฉันทำให้เธอตื่นเหรอ? งั้นฉันจะไปอาบน้ำข้างล่างนะ”แอเรียนขยี้ตาที่พร่ามัวของเธอ “ไม่เป็นไร อาบน้ำที่นี่แหละ ตอนนี้ฉันง่วงมาก เดี๋ยวฉันก็นอนต่อแล้ว แต่ขอร้อง รีบอาบน้ำและเข้านอนเถอะ อย่าทำให้ตัวเองเหนื่อยเกินไปนักเลย”แม้ว่าเธอจะไม่มีปัญหาอะไร แต่มาร์คก็ยังคงพยายามอาบน้ำให้เบาที่สุดเท่าที่จะทำได้ เมื่อเขาออกมาจากห้องน้ำ เขาก็เข้าไปนอนที่ที่ว่างถัดจากแอเรียนทั้งคู่แยกตัวออกจากสมอร์ผู้น่าสงสารที่มีเพียงหมอนข้างอยู่เป็นเพื่อนเท่านั้นแอเรียนยังไม่ได้หลับลึก ดังนั้นเธอจึงโอบแขนของเธอรอบคอเขาและดึงตัวเองเข้าไปในอ้อมแขนของเขาตามสัญชาตญาณก่อนที่จะเข้าที่ของเธอ “ถ้าคุณยังคงกลับบ้านจากที่ทำงานดึก ๆ แบบนี้อยู่ สมอร์จะลืมหน้าคุณในไม่ช้าก็เร็วนี้นะ” เธอแซว “คุณก็รู้ดีว่าความทรงจำของเด็ก ๆ แย่แค่ไหน เขานอนบนเตียงเดียวกับเรา แต่เขาไม่เคยได้เห็นหน้าคุณเลย... ถ้าเขาลงเอยด้วยการลืมว่าคุณเป็นพ่อของเขา นั่นจะเป็นเรื่องตลกแห่งศตวรรษเลยนะ! หาเวลามาอยู่กับเขาหน่อยได้ไหม?”มาร์คดมผมของเธอสองสามเส้นจนเขาเวียนหัวและมึนงง “อืม เข้าใจแล้ว… พรุ่งนี้ฉันจะไปทำงานสายและกลับบ้านเร็ว ราตรี
ทิฟฟานี่ลูบจมูกตัวเอง “เชื่อก็บ้าแล้ว อย่างกับคุณจะมีเวลาว่างขนาดนั้นงั้นแหละ”อเลฮานโดรจิบเบียร์ที่อยู่ต่อหน้าเขา “อย่างที่ผมบอก วันนี้ผมเพิ่งซื้อที่ดินแปลงหนึ่งมาจากแจ็คสัน ดูเหมือนว่าเขาจะค่อนข้างเก็บความแค้นของเขาได้เก่งมากเพราะวิธีที่เขาปฏิบัติกับผมนั้นเหมือนกับที่เขาจะทำต่อคู่ปรับในเรื่องความรักเลย เขาขายที่ดินแปลงนั้นให้ผมในราคาสามเท่าของราคาตลาดด้วย”ทิฟฟานี่จัดโต๊ะด้วยสายตาที่หรี่ลงเล็กน้อย "อ๋อ งั้นเหรอ? ไม่รู้สิ ถ้าคุณคิดว่ามันแพงเกินไปคุณก็สามารถปฏิเสธข้อเสนอของเขาได้นิ หรือว่าคุณมีเงินในกระเป๋ามากเกินไปจนคุณเพียงอยากหาวิธีผลาญมัน?”การเห็นเธอแกล้งทำเป็นไม่สนใจทำให้อเลฮานโดรหัวเราะคิกคัก "ฮิฮิ เห็นได้ชัดว่าคุณใส่ใจเรื่องนี้มาก แล้วทำไมต้องแสร้งทำเป็นอย่างอื่นล่ะ หืม? ไม่เอาน่า คุณไม่จำเป็นต้องแสร้งอะไรเมื่อคุณอยู่กับผมทั้งนั้น เข้าใจไหม? เป็นตัวของตัวเองได้เลย ผมจะไม่โกหก ผมคิดว่ามันแพงมาก แต่ผมต้องการมัน ผมก็เลยต้องตอบตกลง” เขาอธิบายก่อนจะเสริมว่า “อ้อ อีกอย่าง เขากำลังจะมาที่สาขาที่คุณทำงานอยู่ตอนนี้ แค่จะเตือนคุณไว้ก่อน”ทันใดนั้นทิฟฟานี่ก็รู้สึกว่าบาร์บีคิวในปากขอ
เจตต์ยืนอยู่นอกห้องของทิฟฟานี่แทนที่จะเข้าไปข้างใน เขาได้เลือกจุดยื่นข้างประตูตั้งแต่ที่พวกเขาไปถึงที่ห้องของทิฟฟานี่ที่ชั้นบน ทิฟฟานี่คิดว่ามันแปลก แต่เธอก็ยังเข็นรถเข็นของอเลฮานโดรเข้าไปในห้องของเธออยู่ดี เขาเป็นแค่ผู้ชายที่ขาพิการจนไม่สามารถใช้งานได้อีกต่อไป การต้องอยู่กับเขาตามลำพังจะเป็นอันตรายได้แค่ไหนเชียว?ทิฟฟานี่จึงคิดว่าเธอไม่จำเป็นต้องกังวลอะไรมากนักเนื่องจากเธอเพิ่งจะย้ายเข้ามาเมื่อเร็ว ๆ นี้ เธอจึงยังไม่ได้จัดของหลายอย่างให้เข้าที่จนห้องของเธอแอบรกเล็กน้อย “ฉันยังไม่มีเวลาจัดห้องเลย มันก็เลย… เอ่อ อย่างที่เห็นน่ะ” เธอยอมรับอย่างเขินอาย “เอ่อ เดี๋ยวฉันไปชงชาก่อนนะ”ทิฟฟานี่ไปที่โซนเครืองดื่มแล้วเริ่มชงชา แต่เห็นได้ชัดจากท่าทางที่เก้ ๆ กัง ๆ ของเธอว่าเธอไม่ชำนาญในเรื่องนี้เลย หลังจากที่เธอพลาดจนเกือบจะทำน้ำร้อนหกใส่ตัวเอง ทันใดนั้นก็มีมือมาปรากฏขึ้นข้าง ๆ เธอ “ขออนุญาตนะ”ทิฟฟานี่ชะงัก ทำไมเสียงของอเลฮานโดรจึงมาจากเหนือศีรษะของเธอ? เขานั่งรถเข็น ดังนั้นเสียงของเขาควรจะดังมาจากข้างล่างไม่ใช่เหรอ?เธอหันกลับไปข้างหลังแล้วหน้าผากของเธอก็ชนเข้ากับคางของเขาด้วยมือที่ปิดห
ทิฟฟานี่ผลักประตูห้องประชุมเข้าไปอย่างเงียบ ๆ และพยายามอย่างเต็มที่ที่จะไม่ดึงดูดความสนใจมาที่ตัวเอง อย่างไรก็ตาม ความสนใจของแจ็คสันที่พูดอยู่ก็ลอยมาที่ใบหน้าของเธอเกือบจะในทันทีที่เธอก้าวเข้าไป เขามองเธอประมาณสองวินาทีก่อนที่เขาจะละสายตาจากเธออย่างเฉยเมยในหัวของทิฟฟานี่สงสัยเพียงอย่างเดียว ซึ่งก็คือ: แค่นั้นเหรอ? นั่น? คืออะไร?เธอไม่ได้คาดคิดมาก่อนว่าเขาจะมีปฏิกิริยาตอบสนองที่สงบและเยือกเย็นเช่นนี้ เขาปล่อยเธอไปได้แล้วจริง ๆ หรืออะไร?เอมี่รีบเตือนเธอว่า “คุณเลน แม้ว่าคุณจะเป็นผู้ช่วยผู้อำนวยการ แต่คุณมาสายไปยี่สิบนาทีนะ”การแสดงออกที่ผิดธรรมชาติเกิดขึ้นบนสีหน้าของแจ็คสัน เขารู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยเมื่อเห็นทิฟฟานี่เข้ามาในห้อง แต่เขาจำได้ว่าทุกอย่างคงเป็นไปตามข้อตกลงของซัมเมอร์ เขาก็เลยไม่ได้คิดอะไร แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าแม่สุดที่รักของเขาจะแต่งตั้งให้ทิฟฟานี่เป็นผู้ช่วยผู้อำนวยการอีกด้วยเขาควรจะดีใจที่เธอเป็นแค่ “ผู้ช่วย” ใช่ไหม?เขาแกล้งกระแอมก่อนจะพูดแทรก “นั่งก่อนสิครับคุณเลน เราจะได้กลับมาประชุมกันต่อ เราจะคุยกันเรื่องที่คุณมาสายในภายหลัง”ทิฟฟานี่เม้มปากแน่น เธอเลือกที่น