ในคฤหาสน์ตระกูลเวสต์ แจ็คสันกำลังรับประทานอาหารอยู่กับซัมเมอร์แม่ของเขา เมื่อโทรศัพท์ของเขาดังขึ้น เขาไม่รีบร้อนที่จะตรวจดู แต่ซัมเมอร์อดไม่ได้ที่จะเตือนเขา “ลูกชาย จะไม่ดูหน่อยเหรอ? ถ้าเกิดอะไรขึ้นที่บริษัทของลูกล่ะ?”ในตอนนั้นเอง แจ็คสันหยิบโทรศัพท์ของเขาขึ้นมา และได้รับการแจ้งเตือนจากอีเมลเป็นจดหมายลาออกของทิฟฟานี่ ตรงหน้าคืออาหารที่น่าอร่อยบนโต๊ะ ความอยากอาหารของเขาหายไปจนหมดสิ้นในทันที เขาไม่ได้ตอบอีเมลกลับเช่นเดียวกัน เพียงแต่ทิ้งโทรศัพท์ของเขาไว้ข้าง ๆ ซัมเมอร์สังเกตท่าทีที่เปลี่ยนไปของลูกชายของเธอ “มีปัญหาอะไรหรือเปล่า? ลูกยังเด็ก มีหลายอย่างเกี่ยวกับธุรกิจที่ลูกยังไม่รู้เกี่ยวกับมัน ถามแม่ได้นะ มันไม่ใช่เรื่องน่าอายที่ขอคำแนะนำ”แจ็คสันนิ่งเงียบอยู่ชั่วครู่ ก่อนที่เขาจะพูดขึ้น “พนักงานของผมลาออกครับ แต่ผมไม่ต้องการให้พนักงานคนนี้ลาออก ผมต้องทำอย่างไรครับ?”ซัมเมอร์ไตร่ตรองกับคำถามของแจ็คสันก่อนที่เธอจะตอบ “ก็หาเหตุผลของการลาออก ถ้าพนักงานคนนั้นไม่พอใจกับตำแหน่งหรือเงินเดือน ลูกสามารถเสนอว่าจะเพิ่มหรือบางสิ่งบางอย่าง คนที่ลูกไม่อยากเลิกจ้างต้องเป็นคนที่ค่อนข้างมีความสามารถ
วันเสาร์และวันอาทิตย์ผ่านไปเพียงชั่วพริบตาเดียว ทิฟฟานี่ไม่ได้ไปออฟฟิศในวันจันทร์ เธอสันนิษฐานว่าแจ็คสันไปปาร์ตี้ในช่วงสุดสัปดาห์และไม่เห็นอีเมลของเธอ เขาคงจะตอบเธอกลับมาเมื่อเขามาทำงานในวันจันทร์ ถ้าไม่จำเป็นเธอจะไม่ไปที่ออฟฟิศและเผชิญหน้ากับเขา เมื่อไรก็ตามที่เธอพบกับการจ้องมองของเขา เธอรู้สึกเหมือนอยากจะหนีไป ช่างน่าสับสนจริง ๆ ณ ไบรท์ อินคอร์ปอเรท แจ็คสันที่ทราบถึงสถานการณ์เมื่อเขาเดินผ่านบริเวณที่ทำงานและเห็นโต๊ะทำงานของทิฟฟานี่ว่างอยู่ หลังจากที่เขานั่งลงในห้องทำงานของเขา เขาเปิดคอมพิวเตอร์เพื่ออ่านอีเมลของเธอซ้ำอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่พิจารณาอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็โทรหาเธอ “ตามกฎของบริษัทระบุว่าการยื่นหนังสือลาออกต้องให้พนักงานนำมาด้วยตัวเอง” เขาวางสายทันทีที่พูดจบไม่รอให้เธอตอบกลับมา เขามั่นใจว่าในที่สุดเธอต้องมา สุดท้ายเธอจะไม่ทิ้งเงินเดือนที่ยังไม่ได้จ่ายตามที่คาดไว้ ทิฟฟานี่มาถึงในครึ่งชั่วโมงต่อมา เธอก็เคาะประตูของแจ็คสันแจ็คสันหมุนเก้าอี้ของเขาเล็กน้อยขณะที่เขาพูดขึ้น “เข้ามา”ทิฟฟานี่หอบเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าเธอรีบมาที่นี่ “ฉันมาแล้ว มาจัดการเรื่องลาออกค่ะ”แจ็คสัน
ทิฟฟานี่ไตร่ตรองข้อเสนอของแจ็คสัน ถ้าลิเลียนรู้ว่าแจ็คสันยื่นข้อเสนอแบบนี้ให้กับเธอ เธอจะต้องไม่อนุญาตให้เธอลาออก นี่เป็นเครื่องกระตุ้นที่น่าสนใจจริง ๆ อย่างไรก็ตาม เมื่อเธอคิดได้ว่ามันจะเป็นความอึดอัดใจเพราะพวกเขายังคงเจอกันที่ออฟฟิศ ถ้าเธอยังอยู่และข่าวลือที่เคยแพร่ออกไปในโลกออนไลน์ครั้งหนึ่งทำให้เธอรู้สึกเหมือนซ่อนปัญหาเอาไว้ เธอรู้สึกว่านี่ไม่ใช่ปัญหาที่สามารถแก้ไขได้ด้วยเงิน “ขอบคุณ แต่ฉันขอปฏิเสธ” ทิฟฟานี่ตัดสินใจแม้ว่าเธอจะปวดหัวใจ เธอแทบจะได้ยินเสียงหัวใจของเธอที่ร้องไห้เพราะเธอ สุดท้ายแล้วเธอต้องการเงินที่ได้มาอย่างสุจริต แจ็คสันเงียบลง เขารู้ว่านี่ไม่ใช่ตัวตนของเขา เขายื้อพนักงานใหม่ที่ต้องการลาออกด้วยการจ่ายเงินเดือนเพิ่มเป็นสองเท่า นี่มันเป็นเรื่องที่คาดไม่ถึง เขายังตกใจที่ข้อเสนอของเขาถูกปฏิเสธ เขาไม่ต้องการใช้อำนาจกับเรื่องนี้ แต่เขาอดที่จะรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ที่ถูกปฏิเสธ แต่ไม่นานในที่สุดเขาก็พูดขึ้น “ตามที่คุณต้องการ ขอรับเงินเดือนของคุณได้ที่แผนกบัญชีทั่วไป”ทิฟฟานี่ถอนหายใจอย่างโล่งอกแล้วหยิบจดหมายที่เขาเซ็นและไปที่แผนกดังกล่าวโดยปราศจากความลังเลใด
รอยยิ้มที่แทบจะมองไม่เห็นปรากฏอยู่บนริมฝีปากของแจ็คสัน “แน่นอนครับ ผมจะทำเหมือนกับว่าเธอไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องลาออก ผมจะรักษาคำพูดของผมและเพิ่มเงินเดือนให้เธอเป็นสองเท่า อย่างไรก็ตาม โปรดเก็บเรื่องนี้เอาไว้เป็นความลับเพราะมันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน”ทิฟฟานี่วางเงินสดที่เธอเพิ่งได้รับจากแผนกบัญชีทั่วไปลงบนโต๊ะทำงานของแจ็คสัน “นี่คือค่าจ้างที่ฉันได้รับไปก่อนหน้านี้”แจ็คสันส่ายหัว “รับมันไป ในเดือนนี้คุณยังต้องรับเงินเดือนของคุณ นี่จะถือว่าเป็นเงินโบนัสประจำปีของคุณ เราจะหักมันออกเมื่อถึงเวลานั้น หยุดงานวันนี้และกลับมาทำงานในวันพรุ่งนี้ ตอนนี้ไปปรับสภาพจิตใจของคุณก่อน”...ช่วงเที่ยง แอเรียนโทรมาหาทิฟฟานี่ “ทำไมเธอถึงไม่มาที่นี่? เธอยังลาออกไม่ได้เหรอ?”ทิฟฟานี่ถอนหายใจออกมา “ชีวิตทั้งชีวิตของฉันยุ่งวุ่นวายเพราะแม่ของฉัน ฉันไม่สามารถไปทำงานกับเธอได้แล้ว ฉันขอโทษนะแอริ...”แอเรียนรู้ว่าอะไรเกิดขึ้นโดยที่ไม่ต้องให้ทิฟฟานี่เล่ารายละเอียด “ไม่เป็นไร บริษัทของแจ็คสันก็ไม่ได้แย่ไปซะหมดหรอก เธอจะมีโอกาสมากมายที่นั่น ฉันแค่โทรมาถาม ฉันต้องวางสายแล้วถ้าไม่มีปัญหาอะไร” แอเรียนไม่ได้พูดอ
พระเจ้าเท่านั้นที่รู้ว่าทำไมเธอจึงยังไม่ชินกับการกระทำนี้หลังจากผ่านมาไม่นาน เธอไม่ชอบมันเลย ดังนั้นเธอจึงไม่อยากทำ อย่างไรก็ตามการปฏิเสธของเธอก็ไม่มีประโยชน์มาร์คก้มหน้าของเขาลงและขบริมฝีปากของเธอเบา ๆ เมื่อแอเรียนจำได้ว่าเขาอยู่ในสภาพเปลือยเปล่า ร่างกายของเธอก็เกร็งขึ้น ไม่กล้าขยับอีกต่อไป เธอกลัวว่าเธอจะไปสัมผัสถูกบางสิ่งบางอย่างที่ไม่ควรโดยไม่ได้ตั้งใจเข้า เธอทำได้เพียงพยายามหลบเลี่ยงจูบของเขา “อย่า...”“เธอไม่ชอบมันเหรอ?” มาร์คหายใจอยู่ใกล้หูของเธอ สร้างความรู้สึกจั๊กจี้ให้กับเธอ“อืม... มันรู้สึกแปลก ๆ” แอเรียนตอบอย่างเปิดเผย“แปลก ๆ ? ยังไง?” เขาค่อย ๆ ถามอย่างอดทน“อืม… ฉันรู้สึกว่าไม่ควรทำแบบนี้ตลอด สำหรับฉัน คุณไม่ใช่ผู้ชายคนหนึ่ง...”หลังจากที่เธอพูดจบประโยค มาร์คแสดงออกมาผ่านทางสีหน้าของเขาราวกับเขาอยากจะฆ่าเธอ เธอรีบพูดขึ้นอย่างรวดเร็ว “ฉันไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น! ฉันกำลังพูดว่าตอนนั้นฉันอายุแค่แปดขวบและคุณก็เป็นผู้ใหญ่แล้ว คุณเป็นเหมือนพี่ชายของฉัน... นั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมฉันถึงรู้สึกแปลก ๆ ...”ท่าทางของมาร์คดูหม่นหมองมากยิ่งขึ้นไปอีก “นั่นมันก็นานมาแล้ว เธอ
มันน่ารำคาญจริง ๆ แอเรียนเสียใจกับมันหลังจากที่ส่งข้อความไปแล้ว เธอสนิทกับมาร์คมากพอที่จะพูดคุยเรื่องนี้ได้หรือไม่? พวกเขาดูพวกเขาจะเข้ากันได้ดี แต่พวกเขาก็ยังไปไม่ถึงขั้นนั้น!ในขณะที่เธอวางโทรศัพท์ของเธอลงและกำลังจะไปรับประทานอาหารกลางวัน ทันใดนั้นเองโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น เธอคิดว่าเป็นมาร์คแต่พบว่าเป็นวิลเมื่อเธอหยิบโทรศัพท์ของเธอขึ้นมา เธอไม่ได้ลังเลที่จะรับสาย วิลจะโทรหาเธอเพื่ออะไรเสียงของวิลแหบพร่าดังมาอีกด้านหนึ่งของปลายสาย “แอริ… ฉันรู้สึกไม่ค่อยสบาย ฉันอยู่ที่ห้อง205 โรงแรมซัมเมอร์ มันใกล้กับออฟฟิศของเธอ เธอจะออกมาสักพักได้ไหม?”ก่อนที่เธอจะทันได้ตอบกลับสายโทรศัพท์ก็ถูกตัดไป แอเรียนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่เธอก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เนื่องจากเป็นช่วงพักกลางวัน เธอพอจะมีเวลาออกไปข้างนอกสักครู่ขณะที่เธอกำลังเดินทาง เธออดรู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากลไม่ได้ มันเป็นวันที่สองที่เธอมาทำงานในบริษัทใหม่ วิลรู้ได้อย่างไรว่าเธออยู่ที่นี่? โรงแรมซัมเมอร์ตั้งอยู่ห่างจากไกลด์มากและใกล้กับบริษัทใหม่ของเธอ ด้วยความไม่ใส่ใจเธอคงจะรู้หลังจากที่ได้พบกับวิล เธอจะไม่ถามอะไรมาก มันคงไม่แปลกที่วิลจะ
เมื่อออกไปนอกห้อง มาร์คพูดขึ้นด้วยความเย็นชา “ถ้ารูปไหนที่คุณถ่ายหลุดออกไป คุณคงรู้ว่าผลที่จะตามมาคืออะไร”แอรี่ตกใจมาก มาร์คดูราวกับว่าเขามาจากนรกในขณะนั้น นี่เป็นครั้งแรกที่เขาพูดจารุนแรงกับเธอแบบนี้ เธอพูดขึ้นด้วยสัญชาตญาณ “อย่ากังวล… ฉันแค่ต้องการเก็บหลักฐานให้คุณ ฉันกังวลว่าเธอจะปอกลอกเงินไปจากคุณเมื่อคุณหย่ากับเธอ ฉันจะไม่ปล่อยมันลงไปในอินเตอร์เน็ต...”เธอรีบลุกขึ้น เธอไม่รู้ว่าอะไรคือความจริงที่เกิดขึ้น เธอตัวสั่นขณะที่สวมเสื้อผ้าของเธอ จากนั้นก็เขย่าตัวของวิลเพื่อปลุกเขาขึ้นมา วิลดูเหมือนสับสนขณะที่เธอทำเช่นนั้น “หื้ม? ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่ได้แอริ?”เธอตอบด้วยเสียงสะอื้นว่า “นายโทรหาฉันเมื่อตอนเที่ยงและขอให้มาที่นี่เพราะนานรู้สึกป่วย ประตูถูกแง้มเปิดเอาไว้ดังนั้นฉันจึงเข้ามา ทันทีที่ฉันเข้ามา มีบางคนวางยาฉัน เมื่อฉันตื่นขึ้นมา พวกเราทั้งสองคนก็นอนอยู่ด้วยกันด้วยสภาพที่เปลือยเปล่า นอกจากนั้นมาร์คและแอรี่ยังอยู่ที่นี่อีกด้วย... ฉันไม่รู้ว่าที่จริงแล้วเกิดอะไรขึ้น...”วิลหน้าซีดลงทันที เขาพลิกผ้าห่มออกเพื่อตรวจดูตัวเองและดูหน้าซีดลงไปอีกเมื่อเขาทำเช่นนั้น "ฉันไม่ได้โทรหาเธ
เมื่อพวกเขามาถึงโรงพยาบาล มาร์คพูดคุยกับแพทย์เกี่ยวกับสิ่งที่แอเรียนจะต้องทำในการตรวจ เธอต้องยินยอมให้ความร่วมมือเท่านั้น เธอรู้สึกประหม่าเป็นอย่างมากเมื่อเธออยู่ในห้องตรวจ การตรวจภายในเป็นเรื่องที่น่าอึดอัดเสมอ เมื่อเครื่องมือเย็น ๆ สอดเข้าไปในตัวเธอ เธอเหงื่อออกจากความเจ็บปวดหลังจากเสร็จสิ้นจากขั้นตอนการตรวจ หมอก็พูดขึ้นอย่างไร้อารมณ์ “เสร็จแล้ว”หลังจากที่เธอใส่กางเกงแล้ว แอเรียนก็รอผลตรวจเงียบ ๆ เธอเหลือบมองไปที่มาร์คและแอรี่ที่นั่งอยู่ด้วยกันบนที่นั่งด้านนอกห้องอย่างไม่รู้ตัว ดูเหมือนเป็นคู่รัก อย่างไรก็ตามมาร์คมีท่าทีเย็นชาอย่างไม่น่าเชื่อประมาณยี่สิบนาทีผ่านไป หมอก็เรียกมาร์คให้เข้าไปข้างใน แอเรียนอยู่ข้าง ๆ พวกเขาด้วย เธอรู้สึกได้ว่ามาร์คจงใจอยู่ห่างจากเธอราวกับว่าเขารังเกียจความสกปรกของเธอ“ผ่านการมีเพศสัมพันธ์ภายในหนึ่งวัน เห็นได้ชัดเจนว่ามีเลือดออกและบวมบริเวณนี้ อาการบวมค่อนข้างมาก” หมอแจ้งผลตรวจด้วยน้ำเสียงแบบมืออาชีพแอเรียนรู้สึกว่าขาของเธอไม่มีแรง และเธอแทบจะพยุงตัวเอาไว้ไม่ได้ถ้าไม่พิงกำแพงเอาไว้มือของมาร์คกำหมัดแน่นขณะที่เขาถามคำถามออกไป “ช่วยเจาะจงเวลากว่านี