แอเรียนอดไม่ได้ที่อยากจะแบ่งปันความสุข มันเป็นความรู้สึกที่แสนวิเศษ คนแรกที่เธอคิดถึงคือมาร์ค ทว่าเธอไม่ได้ส่งข้อความถึงเขา ด้วยเกรงว่าเขาจะยุ่ง แต่เธอสามารถบอกกับทิฟฟานี่ได้เท่านั้น หลังจากที่พูดคุยกับทิฟฟานี่อยู่สักครู่หนึ่ง เธอก็รู้สึกว่าเปลือกตาของเธอหนักอึ้งเหลือเกินและหลับไปโดยที่ไม่รู้ตัวเธอไม่รู้ว่านานแค่ไหนแล้วที่เธอได้ยินเสียงคนเปิดประตูอย่างไม่ชัดเจน เธอยังไม่ชินกับเรื่องที่เธอเพิ่งกลับมาที่คฤหาสน์เทรมอนต์และหลับไปด้วยความคิดที่ว่าเธอยังอยู่ในอพาร์ทเม้นต์ของเธอ เธอระมัดระวังเป็นพิเศษเมื่อเธออยู่ตามลำพัง กังวลว่าพวกอันธพาลจะเข้ามาหา เธอจึงตื่นขึ้นมาด้วยความตกใจในทันที “ใครน่ะ?!”จู่ ๆ ไฟภายในห้องเปิดสว่างขึ้นขณะที่มาร์คมองมาที่เธอด้วยความเหนื่อยล้า เขายืนอยู่ตรงนั้นอย่างระมัดระวังโดยที่ไม่ก้าวไปข้างหน้า “ฉันเอง กลับไปนอนเถอะ ฉันกำลังจะไปอาบน้ำ”เมื่อถอนหายใจด้วยความโล่งอก แอเรียนปรับตัวและนอนลงพลางหลับตาลงอีกครั้งจากนั้นมาร์คก็เดินไปที่ห้องน้ำ เขาตกใจเหมือนกัน เขาเป็นคนทำอะไรเบามากอยู่แล้ว จึงรู้สึกแปลกใจที่แอเรียนยังคงตกใจเมื่อฟังเสียงภายในห้องน้ำ แอเรียนก็ไม่อาจหล
เมื่อมองไปที่นาฬิกา ลมหายใจของแอเรียนก็ชะงักลงชั่วครู่ ขณะที่เธอหน้าซีดเผือดลงทันที เธอรู้สึกคับคล้ายคับคลาว่านาฬิกาเรือนนั้นจะเป็นเรือนเดียวกับที่มาร์คมักจะสวมอยู่เป็นประจำ เธอไม่ได้ให้ความสนใจกับสิ่งที่หายไปบนข้อมือของเขาเมื่อเขากลับมาที่บ้านเมื่อคืน... มันหมายความว่าเขาไปอยู่กับแอรี่ก่อนที่เขาจะกลับมาที่คฤหาสน์เทรมอนต์ การแสดงออกของเธอเปลี่ยนไป แอรี่วางนาฬิกาเอาไว้ตรงหน้าของเธอด้วยความดูถูก “ไม่ต้องไปโทษพี่มาร์คที่รัก เขารับภาระความกดดันมากมายเมื่อเร็ว ๆ นี้ และเธอก็กำลังท้อง มันไม่สะดวก... แม้ว่าจะไม่ใช่ฉัน แต่เขาก็จะมีผู้หญิงคนอื่นเหมือนกัน เธอจะต้องเสียใจไม่ว่าจะเป็นทางใดก็ตาม ฉันกำลังทำหน้าที่ของเธอเพื่อเธออยู่ เธอไม่จำเป็นต้องขอบคุณฉันก็ได้”แอเรียนหยิบนาฬิกาขึ้นมาและลุกขึ้น “ฉันจะกลับไปทำงานถ้าไม่มีเรื่องอะไรแล้ว”เมื่อเธอบรรลุเป้าหมายของเธอแล้ว แอรี่ก็ไม่จำเป็นจะต้องอยู่อีกต่อไป “เอาสิ บอกเอริกด้วยว่าบริษัทใหม่ของเขาดูดี หวังว่าเขาจะมีอนาคตที่สดใสเพื่อฉัน”เมื่อกลับไปที่โต๊ะทำงานของเธอ ความคิดของแอเรียนสับสนวุ่นวายเมื่อเธอมองไปที่นาฬิกา หลังจากนั้นไม่นานเธอก็เก็บนาฬิกาแล
ความจริงแล้วมันก็ไม่ได้เลวร้ายนัก แอเรียนอุ้มเจ้าข้าวปั้นพร้อมกับยิ้มออกมา “ฉันสายไปแล้ว ฉันจึงจะไม่ไปที่ทำงานในตอนเช้านี้ค่ะ แต่ฉันจะไปหลังอาหารกลางวัน”จู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าหนัก ๆ จากด้านหลังของเธอ แอเรียนวางเจ้าข้าวปั้นลงโดยที่ไม่รู้ตัว เมื่อรู้ว่ามาร์คคือคนที่มา เขากำลังจะลงโทษเธอที่กำลังอุ้มเจ้าข้าวปั้นอยู่อย่างแน่นอนถึงขนาดที่ทำให้เธอกลัว“หยุดแตะต้องเจ้าแมวโง่ได้แล้ว ฉันกำลังจะไปออฟฟิศ ให้เฮนรี่ไปส่งเธอถ้าเธอจะออกไป” มาร์คกำลังรีบออกไปฝีเท้าของเขารีบร้อนเล็กน้อย เขาไม่ได้ติดแม้แต่กระดุมแขนเสื้อด้วยซ้ำ เมื่อแสงอาทิตย์สีทองอาบไล้มาที่เขา เขารู้สึกราวกับว่าพระเจ้ากำลังจับตามองมาที่เขาอยู่ แอเรียนเม้มริมฝีปากของเธอและไปที่ห้องครัวเพื่อขออาหารจากแมรี่ เธอกำลังหิวโหยณ คินซีย์ วิลล่า แอรี่ยุ่งอยู่ตลอดทั้งเช้าอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เป็นเพราะเฮเลนจะมารับประทานอาหารกลางวันเท่านั้นฌองนั่งอยู่ที่โซฟาด้วยความหดหู่ ตั้งแต่พวกเขาหย่าร้างต่อกัน เขารู้สึกว่าไม่สามารถบริหารบริษัทได้ ตั้งแต่แต่งงานมาหลายปีเฮเลนเป็นคนช่วยเขาทั้งเรื่องงานและเรื่องครอบครัวมาโดยตลอด โดยพื้นฐานแล้วเขาเป็น
เฮเลนหยิบกระเป๋าของเธอและหลังจากนั้นก็ออกไปในทันที เธอไม่ได้คิดที่จะทานอะไรอยู่แล้ว การออกจากบ้านคินซีย์ของเธอไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้นหมาด ๆ ฌองและแอรี่แทบจะไม่ตามหาเธอ เพราะว่าจู่ ๆ พวกเขาก็เชิญเธอกลับมา มันอาจจะไม่ใช่อาหารกลางวันที่ไม่มีพิษภัย เธออาจจะคาดหวังไว้มาก แอรี่ตบโต๊ะด้วยความโมโห “แอเรียน วินน์! ฉันจะไม่ปล่อยให้เธอหนีไปเพราะเรื่องนี้!”ฌองรู้สึกตกใจ นี่ยังคงเป็นลูกสาวของเขาที่รู้จักแค่เพียงวิธีแสดงความน่ารักและดีหรือเปล่า? ทำแววตาของเธอจึงดูอันตราย...?...ณ คฤหาสน์ตระกูลเวสต์ ซัมเมอร์นั่งอยู่ที่ข้างเตียงของแจ็คสันเพื่อปอกแอปเปิ้ลให้กับเขาขณะที่บ่นไปด้วย “ดูลูกสิ เราควรจะทำอย่างไรถ้าลูกพิการในครั้งต่อไปที่ลูกถูกทำร้าย? ตระกูลเวสต์ต้องการทายาท ลูกจะทำให้แม่โหยหาอย่างนี้ไม่ได้ เมื่อไรลูกจะแต่งงาน?”แจ็คสันรู้สึกปวดหัวขึ้นมา “คุณแม่ครับ... ไม่ได้เหรอครับ? เป้าหมายในชีวิตของผมคือพัฒนาตระกูลเวสต์ขึ้นมา ก่อนที่ผมจะมีความสุขกับมัน ผมยังไม่อยากแต่งงาน”ซัมเมอร์เยาะเย้ยเขา “ตระกูลเวสต์ไม่เหมือนเทรมอนต์ แต่ก็ไม่เลว ความจริงแล้วการเป็นที่หนึ่งในเมืองหลวงดีที่สุด แล้วจะเกิดอะไรขึ้นถ้า
เขาขับรถด้วยตัวเองในวันนี้ ขณะที่ไบรอันมีปัญหาบางอย่างและหยุดงาน นั่นหมายความว่าเขาต้องเผชิญหน้ากับทุกอย่างด้วยตัวของเขาเองเมื่อรถของเขามาถึงเส้นทางที่ยาวไกลของถนนไฮเวย์ รถเก๋งสีดำที่อยู่ข้างหลังของเขาก็เริ่มเร่งความเร็วขึ้นมา รถทั้งสองคันขับไล่ล่ากันราวกับฉากในภาพยนตร์ ทันใดนั้นเอง รถเก๋งสีเงินที่อยู่ข้างหน้าเขาก็เปิดไฟแสดงสถานะเตือนและชะลอความเร็วลงอย่างกะทันหัน รถของมาร์คที่เคลื่อนที่เร็วเกินไป ด้วยความตกใจเขาจึงเหยียบเบรกและหมุนพวงมาลัย หลังจากนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่ามีคนมาดัดแปลงเบรกของเขา! เขารู้ดีว่าเบรกของเขาปกติดีเมื่อเขามาถึงในตอนแรก โอกาสเดียวที่จะมีคนมายุ่งกับเบรกคือระหว่างการประมูลรถของเขาหมุนไปชนกับเกาะกลางถนน พลิกขึ้นกลางอากาศและกระแทกลงกับพื้น!เลือดไหลลงมาจากหน้าผากของเขาและเข้าไปในตา โลกทั้งโลกดูเหมือนจะถูกย้อมไปด้วยสีแดง สติของเขาค่อย ๆ เลือนหายไปเช่นกันเสียงฝีเท้าแผ่วเบาดังเข้ามาใกล้เขาอย่างช้า ๆ เขาต่อสู้เพื่อให้มีสติ รองเท้าหนังสีดำที่สั่งทำขึ้นมาเป็นพิเศษราคาแพงคู่หนึ่งปรากฏขึ้นในสายตาของเขา เขาไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ และตำแหน่งที่เขาอยู่ทำให้เขาไม่สามารถมอ
“เกิดอะไรขึ้น?” หลังจากที่นิ่งไปนาน ในที่สุดเธอก็สงบสติอารมณ์ของเธอและมีเสียงขึ้นมาอีกครั้ง“ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน แม่ของคุณมาที่บ้านของผมประมาณบ่ายสองของเมื่อวานนี้ และให้ข้อมูลบางอย่างกับผม มันเกี่ยวกับปัญหาของบริษัทของมาร์ค ผมไปที่ออฟฟิศของมาร์คเพื่อรอเขา เพราะเขาออกไปทำงานบางอย่างข้างนอกให้เสร็จ และเขาก็ประสบอุบัติเหตุระหว่างทางที่กลับมา ผมไม่รู้ว่าอะไรเกิดขึ้นในช่วงเวลานั้น ผมเจอพยานคนหนึ่ง แต่พวกเขาบอกว่าเป็นมาร์คเองที่ขับรถเร็วเกินขีดจำกัดความเร็ว จากนั้นจู่ ๆ ก็สูญเสียการควบคุมและชนกับเกาะกลางถนน” แจ็คสันอธิบายด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึมเกินขีดจำกัดความเร็ว? แอเรียนรู้จักมาร์คเป็นอย่างดี เขาใจเย็นตลอดเวลาและมีสติในทุกสิ่งที่เขาทำ เขาจะขับรถจนเกิดขีดจำกัดความเร็วได้อย่างไร? เธอโยนความผิดไปให้เฮเลนโดยสัญชาตญาณ “เธอมีข้อมูลที่มีประโยชน์อะไรบ้าง? เธอออกจากคินซีย์แล้ว ตอนนี้เธอไม่มีอะไรแล้ว เธอจะช่วยมาร์คได้อย่างไร? ทำไมในทุก ๆ ครั้ง เธอจะต้องทำมันในช่วงเวลาแบบนั้น? คุณคิดจริง ๆ เหรอว่ามันเป็นไปได้ที่มาร์คจะเร่งความเร็วจนพ้นขีดจำกัดความเร็วภายใต้สถานการณ์ที่ปกติ? คุณจะเชื่ออย่างนั
ทิฟฟานี่ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกเมื่อสิ้นสุดการโทร “นั่นเป็นความคิดที่ดี ให้เธอมาหาเรา ช่วยให้เราไม่ต้องเจอปัญหากับการขับรถไปรอบ ๆ มันรู้สึกไม่เหมาะสมที่คิดจะกล่าวหาคนอื่นอย่างรุนแรง จำสิ่งที่ฉันบอกเธอเอาไว้ อย่าบุ่มบ่าม”แอเรียนพยักหน้ารับ รถขับรถมายังถนนอีกฝั่งก่อนจอดที่พื้นที่ว่างด้านหน้าร้านไวโอเล็ต คาเฟ่ เฮเลนไม่ได้ให้พวกเขารอนานจนเกินไป เธอมาถึงยังประตูร้านกาแฟภายในเวลาไม่ถึงยี่สิบนาที เธอรีบมาและไม่ได้นำร่มมาด้วย เมื่อเธอจอดรถเสร็จแล้วและเข้าไปในร้านกาแฟ ชุดสูทสีขาวของเธอจึงเปียกโชกไปด้วยน้ำฝน ผมที่เคยเรียบร้อยของเธอยุ่งเหยิงเล็กน้อย เธออาจจะดูน่าเวทนาไปสักหน่อย แต่เมื่อเธอเห็นแอเรียน เธอก็ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข “แม่ไม่เคยคิดว่าลูกจะโทรหาแม่”เมื่อทั้งสามคนนั่งอยู่ตรงข้ามกัน แอเรียนจ้องไปที่เฮเลนด้วยสีหน้าที่เรียบเฉยบนใบหน้าของเธอ เธอพยายามจับสีหน้าพิรุธบนใบหน้าของเธอ แม้ว่าเห็นเพียงเล็กน้อยก็เพียงพอแล้ว อย่างไรก็ตามเธอก็ไม่พบอะไรเลยเฮเลนรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาจากวิธีที่แอเรียนจ้องมองเธอมา “มีอะไร? มีอะไรอยากจะบอกแม่ไหม?”แอเรียนกัดฟันของเธอ “สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นแผนของค
เธอคิดอะไรไม่ออกเมื่อเธอได้ยินคำพูด – จดหมายสั่งเสีย “เขายังไม่ตาย ทำไมถึงต้องการแบบนี้? ไม่จำเป็นต้องมอบมันให้ฉัน ทิ้งมันไป!”เฮนรี่ แจ็คสัน เอริก และทิฟฟานี่อยู่ที่นี่ทุกคน นี่คือสถานการณ์ที่ตึงเครียดมากและหดหู่เกินไปสำหรับเธอ ราวกับว่ามาร์คกำลังจะตายแล้วจริง ๆ “คุณเทรมอนต์ ได้โปรดใจเย็นลงก่อน มีความเป็นไปได้สูงที่จดหมายสั่งเสียจะไม่มีประโยชน์อะไรเลย” แพทย์อธิบาย “ดิฉันเป็นแพทย์ที่ดูแลคุณเทรมอนต์ ดิฉันเข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างดี คุณเทรมอนต์อาการค่อนข้างดี ดังนั้นฉันจึงให้เพียงจดหมายสั่งเสียกับคุณ”หลังจากนั้นแพทย์ก็ดึงกระดาษออกมาจากเสื้อกราวน์ของเขา มันเป็นสถานการณ์ที่ค่อนข้างฉุกเฉินในเวลานั้น เช่นนั้นเขาจึงไม่ได้มีตัวเลือกที่ดีมากนัก ดังนั้นเขาจึงเขียนจดหมายสั่งลาลงบนแผ่นใบสั่งยาของเขา มันดูน่าเกลียดนิดหน่อยและรีบร้อนมือของแอเรียนกำลังสั่น แผ่นกระดาษที่บางเบากลับให้ความรู้สึกราวกับว่ามีน้ำหนัก 600 กิโลกรัม น้ำตาไหลออกมาอาบใบหน้าของเธอในขณะที่เธออ่านจดหมายบรรทัดแรก“ถ้าฉันตาย ขอมอบความไว้วางใจให้แจ็คสัน เวสต์ จัดการชำระบัญชีทรัพย์สินในความดูแลของฉันเป็นเงินสด – เพื่อ