แอเรียนไม่มีทางเลือก เธอหยิบโทรศัพท์ของเธอออกมาและโทรหามาร์คด้วยความไม่เต็มใจ ไม่มีใครรับสายเป็นเวลานาน ในขณะที่เธอกำลังจะวางสายจู่ ๆ มาร์คก็รับ เธอได้ยินเสียงแหบและแผ่วเบาของเขา "ฮัลโหล?"เธอพูดอย่างฉาบฉวยว่า “ทำไมเมื่อคืนคุณไม่กลับบ้าน? ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน?"มาร์คเงียบไปครู่หนึ่งก่อนที่เขาจะตอบว่า “ฉันค้างคืนที่วิลล่าของแจ็คสัน ฉันจะไปทำงานจากที่นี่”เธอไม่มีอะไรจะพูดอีกแล้ว เธอเหลือบมองไปที่แมรี่และถามด้วยสายตาของเธออย่างเงียบ ๆ ว่าเธอสามารถวางสายได้หรือไม่แมรี่ทำท่าทางให้เธอขอให้มาร์คยืนยันว่าอยู่กับแจ็คสันจริง ๆ ไม่ใช่ว่ากำลังเล่นอยู่กับผู้หญิงคนอื่น แอเรียนรู้สึกรำคาญตัวเองที่จะต้องทำแบบนั้น แต่เธอก็อยากจะจัดการเรื่องนี้ให้เสร็จโดยเร็วเพื่อที่เธอจะได้ไปเพลิดเพลินกับอาหารของเธอต่อ เธอเชื่อฟังแมรี่และพูดว่า “ส่งวิดีโอมาให้ฉันดูหน่อย”มาร์ควางสายทันที แต่เขาส่งวิดีโอสั้น ๆ ประมาณสิบวินาทีให้เธอ วิดีโอถ่ายถอดให้เห็นการตกแต่งภายในของ ไวท์ วอเอตร์ เบย์ วิลล่า ของแจ็คสัน ดูเหมือนว่าเขาได้ค้างคืนในวิลล่าของแจ็คสันจริง ๆ แมรี่ยกนิ้วให้แอเรียน "อย่างนั้นแหละ เธอควรเข้มงวดกับผู้ชายน
อีธานสตาร์ทเครื่องยนต์โดยไม่ต้องถามทิฟฟานี่ว่าที่ทำงานของเธออยู่ไหน มันชัดเจนว่าเขารู้ทุกอย่างเกี่ยวกับเธอ “ตอนนั้นฉันถูกบังคับให้ต้องเลิกกับเธอ ฉันรู้ว่ามันฟังดูไร้สาระ แต่ฉันพูดเรื่องจริงนะ ฉันกังวลมาก พอเห็นว่าครอบครัวเธอมีปัญหา เพราะว่าฉันไม่สามารถมอบชีวิตที่เธอเคยชินให้กับเธอได้ ฉันเลยตัดสินใจใช้เงินทั้งหมดที่ฉันมีลงทุนโปรเจกต์กับเพื่อน เธอไม่รู้ แต่ฉันยังเอารถที่เธอให้ฉันไปจำนองเพื่อกู้เงินจากธนาคารด้วย” เขาพูดต่อว่า “ฉันไม่อยากรบกวนเธอ เพราะฉันเผื่อโอกาสไว้ว่าการลงทุนของฉันอาจจะล้มเหลวได้ ฉันเลยเลิกกับเธอ ฉันไม่เคยมีคนอื่น ใครจะรู้ว่าการลงทุนของฉันจะสำเร็จ? ต่อจากนี้ไป ฉันตั้งใจว่าจะขยายธุรกิจของฉัน เราจะได้กลับไปใช้ชีวิตเหมือนแต่ก่อนได้ ทิฟฟ์ ในอดีตเธอดีกับฉันมาตลอดนะ ตอนนี้ถึงตาฉันที่ต้องดูแลเธอให้ดี ฉันไม่ได้ตั้งใจที่จะทำให้เธอเจ็บ เรามาเริ่มต้นใหม่กันได้ไหม?” ในช่วงเวลาที่เขาเคยอยู่ด้วยกัน อีธานไม่ใช่ผู้ชายที่อ่อนไหวและจะใช้คำพูดเหล่านี้ แต่ตอนนี้เขาเปลี่ยนไปและทิฟฟานี่ก็คงจะโกหกหากเธอบอกว่าเธอไม่หวั่นไหวกับคำพูดเหล่านั้น เธอเห็นความรักที่เขามีต่อเธอลึก ๆ อยู่ในตาของเขาอย่
เธอครุ่นคิดถึงคำถามของแจ็คสันสักครู่ก่อนที่เธอจะพูดว่า “ยัง แต่อีกไม่นาน อีกอย่าง คุณบอกแม่คุณเรื่องที่เราเลิกกันแล้วหรือยัง? ฉันไม่สามารถไปแสดงกับคุณได้อีกต่อไปแล้วนะ”ในตอนนี้แจ็คสันดูเหมือนจะสูญเสียเสียงของเขาไปแล้ว เขาไม่พูดอะไรเป็นเวลานานทิฟฟานี่ผงะเล็กน้อย “คุณเป็นอะไร? คุณทนไม่ได้ที่คนอื่นจะมีแฟนหรอ? แค่เพราะคุณไม่อยากแต่งงานไม่ได้หมายความว่าฉันจะเป็นแบบคุณนะ อีกอย่าง ฉันรู้จักอีธานมาสามปีแล้ว พวกเราเข้ากันได้ดีเลยทีเดียว”เขาเม้มริมฝีปากของเขา “ปิดประตูและเข้ามานี่”ทิฟฟานี่ปิดประตูตามคำสั่งแล้วเดินไปหาเขา "อะไรเหรอ?"จู่ ๆ แจ็คสันก็เอนตัวข้ามโต๊ะและจับไหล่ของทิฟฟานี่ ทั้งคู่สบตากันระหว่างที่เธอรู้สึกได้ว่าเขาจับไหล่ของเธออย่างแน่น เขาพูดอย่างจริงจังว่า “คุณกลับไปคบเขาไม่ได้”“คุณเป็นบ้าอะไร?” ทิฟฟานี่สับสนมาก ท่าทางของเขาทำให้เธอตื่นตระหนก การที่ได้เห็นผู้ชายที่ปกติจะเป็นคนง่าย ๆ กลับมีอารมณ์จริงจังแบบนี้ค่อนข้างน่ากลัวมากเลยทีเดียว“ใช่ ผมรู้ว่าพวกคุณรู้จักกันมาสามปีแล้ว ผมไม่รู้ว่าเขารู้จักคุณดีแล้วหรือเปล่า แต่ผมมั่นใจว่าคุณไม่รู้จักเขาดีพอแน่นอน ผมพูดจริงนะ คุณกลั
แอเรียนทำอะไรไม่ถูก “ฉันควรทำอย่างไรดี? ฉันควรโทรให้ทิฟฟานี่มาหาและบอกความจริงกับเธอไปเลยดีไหม? ทำแบบนั้นมันจะใจร้ายไปไหม?”แอเรียนทำให้มาร์คพูดไม่ออกเขาจึงหัวเราะออกมาด้วยความโกรธ “เธอพูดถูก มันจะใจร้ายเกินไป ทำไมเธอไม่แกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่องอะไรแล้วรอให้ทิฟฟานี่ตกหลุมรักอีธานหัวปักหัวปำและปล่อยให้อีธานเลิกกับทิฟฟานี่หลังจากที่เขาได้ที่ดินนั้นแล้วก่อนล่ะ? หรือไม่ก็รอให้เธอรู้เรื่องนี้เองหลังจากที่เธอแต่งงานกับเขาไปแล้วดีไหม? เธอไม่คิดว่าแบบนั้นมันจะใจร้ายกว่าเหรอ? ถ้าเหตุการณ์นั้นไม่ได้เกิดขึ้นป่านนี้ครอบครัวเลนก็จะยังคงมีฐานะที่ดีและ จอหน์ เลน ก็คงจะไม่ได้เสียเร็วแบบนี้”แอเรียนเข้าใจว่ามาร์คกำลังพยายามบอกเธอว่าเวลานี้เป็นเวลาที่ดีที่สุดที่ควรจะบอกเรื่องนี้กับทิฟฟานี่ แต่เธอไม่สามารถบังคับตัวเองให้ทำเช่นนั้นได้ เธอไม่สามารถทนเห็นความผิดหวังและความสิ้นหวังบนใบหน้าของทิฟฟานี่เมื่อเธอค้นพบความจริงได้ “ฉัน… ฉันไม่กล้าบอกเธอ… ทิฟฟานี่จะต้องสติแตกแน่ ๆ”มาร์คเม้มปากตัวเองและพยักหน้า “ใช่ หล่อนจะต้องสติแตกแน่ ๆ แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าเธอปล่อยเลยตามเลยไปเรื่องมันจะแย่ลงเรื่อย ๆ เหล่าผู้บริหาร
แอเรียนหยิบกระเป๋าตนเองและลุกขึ้นจากโซฟา “ฉัน… ต้องไปหาทิฟฟ์ก่อน! จะเกิดอะไรขึ้นถ้าอีธานขอเธอแต่งงานบ่ายนี้และเธอตอบตกลงโดยไม่ทันได้คิดทบทวนให้ดี? นั่นจะเป็นเรื่องที่วุ่นวายที่สุด!”จู่ ๆ มาร์คก็รู้สึกอิจฉาทิฟฟานี่ที่ได้รับความสนใจอย่างเต็มที่จากแอเรียนเล็กน้อย น่าเสียดายที่เขาแค่เคยได้ยินว่าแอเรียนหลั่งไหลให้เขาเมื่อเขาประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ตอนนั้น แต่เขาไม่เคยได้เห็นน้ำตาเหล่านั้นแน่นอนว่ามาร์คไม่ได้แสดงให้แอเรียนเห็นว่าเขากำลังอิจฉาหรือไม่พอใจอยู่ โดยธรรมชาติของเขาแล้วเขาไม่ใช่คนที่จะเปิดเพยความรู้สึกตัวเองได้ง่าย ๆ ขนาดนั้น “เธอจะรีบไปไหน? เธอจะไปทั้ง ๆ ที่รู้ว่าอีธานไม่ชอบฉันอย่างงั้นหรอ? เธอตกลงว่าจะเจอกันตอนเย็นแล้วไม่ใช่หรอ? การแต่งงานสายฟ้าแลบมันไม่เกิดขึ้นภายในวันเดียวหรอกนะ ไปกินข้าวเที่ยงด้วยกันเถอะ” “ก็ได้” น่าแปลกที่แอเรียนไม่ได้รู้สึกประหม่าอีกต่อไปเมื่อเธอได้ฟังเสียงที่ผ่อนคลายของมาร์คขณะที่เขาแนะนำว่าพวกเขาควรไปทานอาหารกลางวันด้วยกันคนอย่างมาร์คคงไม่รับประทานอาหารที่ร้านทั่วไป ๆ อย่างแน่นอน ไวท์ วอเตอร์ เบย์ คาเฟ่ เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ทำให้เขารู้สึกผ่อนคลาย ยิ
แอเรียนสงบลงและถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อได้รับคำตอบจากมาร์ค แม้ว่าเขาจะทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจอยู่เสมอ แต่เขาก็ยังคงให้ความรู้สึกปลอดภัยแก่เธอหลังจากนั้นไม่นาน รถของมาร์คก็ขับเข้ามาใน คฤหาสน์ เทรมอนต์แอเรียนทักทายเขาที่ประตูและช่วยเอารองเท้าแตะออกจากตู้รองเท้าให้เขา “คุณคิดว่าอุบัติเหตุทางรถยนต์ของอีธานเป็นเพียงเรื่องบังเอิญหรือเป็นแผนที่คิดไว้ล่วงหน้าแล้ว?”มาร์คคิดไตร่ตรองอยู่พักนึงก่อนที่เขาจะถามเธอกลับว่า “เธอคิดว่ายังไงล่ะ?”แอเรียนพูดไม่ออก ที่เธอถามเขาก็เพราะว่าเธอไม่แน่ใจไงมาร์คเปลี่ยนรองเท้าเป็นรองเท้าแตะแล้วเดินผ่านเธอไปที่บันได “ไม่มีทางที่อีธานจะเสี่ยงชีวิตก่อนที่เขาจะทำให้ฉันคุกเข่าได้ นับประสาอะไรกับอุบัติเหตุทางรถยนต์ เขาน่าจะระวังตัวตลอดเวลาที่ออกไปข้างนอกด้วยซ้ำ ถ้าการคาดการณ์ของฉันถูกต้อง ฉันคิดว่าวันนี้เธอคงจะไม่ได้เจอทิฟฟานี่”แอเรียนตกใจกับคำพูดของเขา ทิฟฟานี่สัญญาว่าจะมาหาเธอหลังจากที่เธอไปโรงพยาบาล เขาแน่ใจได้อย่างไรว่าเธอจะไม่ได้เจอทิฟฟานี่?...ณ โรงพยาบาล...อีธานถูกส่งไปยังห้องพยาบาลหลังจากการตรวจร่างกาย ทิฟฟานี่รีบช่วยเช็ดหน้าและป้อนอาหารให้เขา มั
ที่โต๊ะทานข้าว แอเรียนหมุนสปาเก็ตตี้บนจานอย่างกระสับกระส่ายด้วยส้อมขณะที่เธอเหลือบมองมาร์คที่กำลังดื่มด่ำกับอาหารมื้อเย็นของเขา หลังจากที่อดกลั้นมานานในที่สุดเธอก็พูดว่า “บางที… ฉันควรไปหาทิฟฟ์ที่โรงพยาบาล ยิ่งฉันประวิงเวลานานเท่าไหร่ฉันก็ยิ่งรู้สึกกังวลมากขึ้นเท่านั้น”มาร์คหยุดการเคลื่อนไหวของส้อมเขา “เธอจะไปจริงเหรอ?”แอรียนรู้ดีว่ามาร์คอาจไม่ค่อยอยากเจออีธานเท่าไหร่เนื่องจากพวกเขาเป็นพี่น้องกัน การได้เห็นอีธานจะทำให้ความทรงจำที่ไม่พึงประสงค์กลับคืนมาอย่างแน่นอน“ฉันจะรีบกลับมา ไม่ว่าอีธานจะประสบอุบัติเหตุจริง ๆ หรือไม่ เขาก็คงไม่สามารถทำอะไรฉันในโรงพยาบาลได้ ถูกไหม? ไม่ต้องกังวล ถ้าคุณกังวลขนาดนั้นคุณก็ให้ไบรอันไปกับฉันหรือส่งบอดี้การ์ดสองคนติดตามฉันไปก็ได้” แอเรียนประนีประนอมอย่างเต็มที่เพื่อแสดงให้เห็นว่าเธอมีความมุ่งมั่นที่จะไปโรงพยาบาลแค่ไหน“เดี๋ยวฉันไปกับเธอเอง กินให้หมด” มาร์คพูดอย่างเยือกเย็นพร้อมตักเนื้อใส่จานให้เธอการกระทำของเขาทำให้เธอรู้สึกผิดมากกว่าเดิม ท้ายที่สุดเธอเคยบอกเขาว่าเธอไม่ต้องการเห็นหน้าเขาอีกตอนที่เธออยู่ในโรงพยาบาลหลังจากที่เธอแท้ง แอเรียนสงสัยว่าเข
แน่นอนว่าอีธานได้เตรียมการมาหมดแล้ว เขาหยิบแหวนเพชรออกมาจากกระเป๋าของชุดคนไข้ของเขา เขาไม่ปล่อยให้ทิฟฟานี่มีโอกาสได้ปฏิเสธเขาและสวมแหวนให้เธอทันที “ฉันซื้อแหวนวงนี้ไว้ตั้งนานแล้ว คืนไหนที่ฉันคิดถึงเธอฉันก็จะหยิบแหวนออกมาดู นั้นเป็นวิธีที่ทำให้ฉันทนอยู่ต่อไปได้”ขนาดของแหวนเพชรนั้นพอดีกับนิ้วของทิฟฟานี่เป๊ะ แสงสะท้อนบนเพชรและส่องแสงเป็นประกายภายใต้ท้องฟ้ายามค่ำคืน ทิฟฟานี่ที่นิ่งงันและสับสนยังคงอยู่ในอ้อมกอดของเขา เธอสัมผัสได้ถึงความจริงใจและความเร่งด่วนของเขา อย่างไรก็ตาม ความเร่งด่วนและการปรากฏตัวที่สิ้นหวังของเขาทำให้เธอรู้สึกหายใจไม่ออก “อีธาน... ปล่อยฉันก่อนเถอะ”อย่างไรก็ตามอีธานไม่ฟังเธอ เขาพลิกตัวเธอและก้มลงจูบที่ริมฝีปากของเธอ เขาจับเธอไว้แน่นและกักเธอไว้ในอ้อมกอดของเขาค่ำคืนเงียบสงบ เขาเสนอแหวนเพชรใต้แสงดาวให้เธอ ไม่มีใครมารบกวนพวกเขาได้ มันน่าจะโรแมนติก แต่ตอนนี้ทิฟฟานี่ไม่รู้สึกแบบนั้น ที่ผ่านมาเธอรักเขาอย่างสุดหัวใจ แต่ด้วยเหตุใดไม่รู้ การกระทำของเขาไม่ได้ทำให้เธอหวั่นไหวในตอนนี้ เมื่อเธอรู้สึกว่าเขาพยายามสอดลิ้นเข้าไปในปากของเธอ เธอก็ตกใจกลัวและพลักเขาออกไป “อีธาน!”ใ