หลังจากที่ไปส่งแอเรียนที่ คฤหาสน์ เทรมอนต์ ทิฟฟานี่ก็เทความในใจออกมา “อีธาน คุณควรรู้ไว้ว่าฉันแค่ตอบตกลงเพราะไม่อยากให้คุณต้องขายหน้าต่อหน้าผู้คนมากมาย ฉันไม่ได้อยากแต่งงานเร็วขนาดนั้น ฉันบอกคุณตั้งนานแล้ว”อีธานดูเหมือนจะไม่แปลกใจกับการเปิดเผยของเธอมากนัก แต่เขาไม่ได้คาดหวังว่าเธอจะพูดในเร็ว ๆ นี้ “แล้วยังไง?”ทิฟฟานี่ถอดแหวนจากนิ้วของเธอ “เราค่อยคุยเรื่องนี้กันหลังจากที่ฉันตัดสินใจได้ไหม? ฉันไม่อยากแต่งงานตอนนี้จริง ๆ”เขายิ้มเหมือนเยาะเย้ยตนเอง “เธอเคยกดดันฉันเพราะอยากแต่งงาน แต่ตอนนี้มันกลับตรงกันข้ามเหรอ? อะไรเปลี่ยนไป? ฉันรักเธอมากกว่าเดิมแต่เธอไม่ได้รู้สึกอะไรกับฉันแล้ว ฉันยอมรับว่าทุกอย่างมันเป็นเพราะฉัน แต่ตอนนี้ฉันกำลังพยายามอย่างเต็มที่เพื่อแก้ไข้ทุกอย่าง ฉันกลัวว่าอาจจะมีเรื่องที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น เพราะฉะนั้นฉันจึงอยากจะแต่งงานไว้ก่อน ถ้าเธอไม่แน่ใจหรือไม่ชอบอะไรในตัวฉันเราสามารถแก้ไข้มันร่วมกันได้ในอนาคต สิ่งเดียวที่ฉันต้องการคือฉันอยากแต่งงานกับเธอตอนนี้”เธอก้มหน้าลงและกัดปากตัวเอง “ฉันขอโทษ”เขากระทืบเท้าที่คันเร่งและตีโพยตีพายเล็กน้อย “ขอโทษงั้นเหรอ? อย่าหลอกฉันเล
แอเรียนไม่ได้ชอบสถานที่ที่มีเสียงเพลงดังมากนัก แต่เธอก็ตกลงเพียงเพราะแค่อยากตามใจทิฟฟานี่ อย่างไรก็ตามเธอไม่กล้าที่จะบอกเรื่องนี้กับมาร์ค เธอไม่ต้องคิดเลยด้วยซ้ำ ยังไงเขาจะไม่มีวันปล่อยเธอไปแน่นอนเธอเตรียมตัวที่จะออกไปข้างนอกก่อนที่มาร์คจะกลับบ้านและส่งข้อความบอกเขาว่า : ฉันจะออกไปทานข้าวเย็นต่อด้วยชอปปิ้งกับทิฟฟานี่นะ ฉันอาจจะกลับบ้านดึกมาก ๆมาร์ครู้สึกว่าเธอคงจะบ้าคลั่งจากความเบื่อหน่ายในช่วงที่ถูกคุมขังดังนั้นตอนนี้เธอจึงมีแนวโน้มที่จะออกไปข้างนอกและสนุกสนานมากขึ้น เขาจึงไม่ได้คิดอะไรมากเกินไป: อืมเธอถอนหายใจด้วยความโล่งอกหลังจากที่ได้รับข้อความของเขา เธอขอให้เฮนรี่ไปส่งเธอที่ร้านอาหารข้าง ๆ บาร์ ซีโร่ ดีกรีซ และรอจนกว่าเขาจะกลับไปก่อนที่เธอจะเดินไปหาทิฟฟานี่ที่บาร์ กลิ่นบุหรี่ที่หนาทึบเตะจมูกเธอตั้งแต่วินาทีที่เธอเดินเข้ามา ผู้คนมากมายเต็มไปทั่วห้องโถงที่น่าตื่นตา เพียงมองแวบแรกก็สามารถบอกได้เลยว่าที่นี่เป็นสถานที่ที่หรูหราเลยที่เดียวเธอเดินผ่านห้องโถง ผ่านทางเดินที่มีแสงสลัวและเปิดประตูสู่โลกใบใหม่ พวกเธอไปกันข้างเร็วจึงมีลูกค้าไม่มากนัก แล้วก็ยังค่อนข้างเงียบเพราะดีเจยัง
ชายคนนั้นดูบึ้งตึง “นี่คุณดื่มมากแค่ไหนเนี่ย?”เสียงของเขาฟังดูคุ้นเคย เมื่อเธอมองขึ้นไปเธอก็ตะลึง เขาคือ แจ็คสันการเปิดโปงกิจกรรมของเขาในไนท์คลับฉายแววในใจของเธอ เธอบังคับตัวเองให้ตอบกลับอย่างหน้าด้าน “ทำไม? คุณเวสต์กำลังมองหาความสนุกอีกครั้งเหรอ? ฉันไม่ได้ดื่มมากขนาดนั้น แอริรอฉันอยู่ที่ที่นั่งของเรา ฉันจะกลับไป ขอให้มีความสุขนะ"แจ็คสันไม่ปล่อยเธอ แต่เขากลับลากเธอไปที่บันไดอันเงียบสงบ “แค่คุณมาที่นี่ก็แย่พอแล้ว แต่คุณยังพาแอริมาด้วยอีกเหรอ? คุณคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้ามาร์ครู้เรื่องนี้? พวกคุณมากันแค่สองคนเหรอ?”ทิฟฟานี่พลักเขาออกไป “ใช่แล้ว พวกเรามากันแค่สองคน ฉันเชื่อว่าแอเรียนไม่เคยมาในที่แบบนี้เพราะเธออยู่กับมาร์คตลอด เธอไม่เคยสัมผัสกับความบันเทิงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตเลยด้วยซ้ำ น่าเสียดายใช่ไหมล่ะ? อย่างไรก็ตาม คุณมาที่นี้เพื่อสั่งสอนฉันเหรอ? ฉันไม่ขอฟังนะ ปล่อยฉัน!”แจ็คสันตระหนักว่าเธอดื่มมากเกินไปเขาจึงไม่ทะเลาะกับเธอ “เลิกดื่มได้แล้ว ผมจะพาคุณทั้งคู่กลับบ้าน”เธอหรี่ตามองเขา “คุณสั่งฉันหรอ? นี่คุณคิดว่าคุณเป็นใคร? ฉันไม่ไป!”เขาขมวดคิ้ว ความมืดทำให้แสงสว่างจ้าเหนือพ
แอเรียนมองตามสายตาของทิฟฟานี่และหัวใจของเธอก็เต้นรัว มาร์คสะดุดตาเหมือนเคยแม้จะอยู่ท่ามกลางฝูงชน เธอไม่สามารถมองข้ามเขาได้แม้ว่าเธอจะพยายามก็ตาม เธอไม่แน่ใจว่ามันเกิดจากแอลกอฮอล์หรือเปล่า แต่เธอไม่ได้กลัวอย่างที่เธอเคยเป็น ด้วยความกล้าหาญที่มากขึ้นเธอจึงรินแก้วอีกใบและกระดกมันจนหมด “ทิฟฟ์ ฉันต้องไปแล้ว โทรหาฉันนะหากเธอต้องการอะไร…”มาร์คและกลุ่มบอดี้การ์ดมาถึงบูธของพวกเขาไม่นานหลังจากนั้น แอเรียนโยนตัวเองเข้าไปในอ้อมกอดของเขาอย่างกล้าหาญก่อนที่เขาจะอารมณ์เสีย “ฉันไปกินข้าวกับทิฟฟ์มาและมันยังไม่ดึกพวกเราเลยมาที่นี่กันก่อน คุณมาทำอะไรที่นี่?”ใบหน้าของมาร์คดูเคร่งขรึม การแสดงออกที่ไม่เป็นมิตรบนใบหน้าของเธอทำให้เขาเดือดดาลด้วยความโกรธ เขาบังคับตัวเองให้ข่มอารมณ์ “ฉันมารับเธอ กลับบ้านกันเถอะ”แอเรียนแอบโบกมือลาทิฟฟานี่และออกจากบาร์กับมาร์ค เธอพบว่าแจ็คสันอยู่ในบาร์ด้วยและเขาก็เป็นคนที่เปิดเผยตำแหน่งของเธอให้มาร์คเองแหละ!“เธอคิดว่าจะอยู่ที่นี่อีกนานไหมถ้าแจ็คสันไม่บอกฉันว่าเธออยู่ที่นี่? ใครบอกให้เธอมาที่นี่? เธอรู้ไหมว่ามันอันตรายสำหรับผู้หญิงแค่ไหนที่มาเที่ยวที่แบบนี้? เธอฟังฉันบ้างไ
โทรศัพท์ของเธอดังขึ้น มันเป็นสายจากแจ็คสัน เธอปฏิเสธสายโดยไม่มีเจตนาที่จะรับมัน จิตใจของเธอยุ่งเหยิง เธอไม่ต้องการสร้างปัญหาให้กับตัวเองอีกแล้วสองนาทีต่อมาเธอได้ยินเสียงฝีเท้าใกล้เธอ เธอหันไปรอบ ๆ โดยสัญชาตญาณและพบกับการจ้องมองที่รุนแรงของแจ็คสัน เธอรู้สึกผิดเล็กน้อยในตอนนี้และสอดโทรศัพท์ของเธอลงในกระเป๋าด้วยใบหน้านิ่งขณะที่เธอพูดว่า “ฉัน…โทรศัพท์ของฉันแบตหมด…”เขาเลิกคิ้ว “ถ้าแบตเตอรี่คุณหมด สายของผมก็ไม่น่าถูกเชื่อมต่อ มันตัดการเชื่อมต่อระหว่างการโทรได้อย่างไร? คุณคิดว่าผมเป็นเด็กสามขวบหรอ?”ทิฟฟานี่ไม่ตอบกลับ เธอก้มศีรษะลงและจ้องไปที่เท้าของเธอ ถ้าเธอสามารถพบเพียงหลุมบนพื้นดินเธอยินดีที่จะฝังตัวเองลงไป!แจ็คสันไม่ได้อยากทะเลาะกับเธอเรื่องการปฏิเสธสายของเขา แต่เขาหัวเราะเบา ๆ “ลืมมันซะ ผมจะพาคุณกลับบ้าน”เมื่อเธอเห็นเขาดึงกุญแจรถออกมา ทิฟฟานี่ก็เตือนเขาทันทีว่า “คุณดื่มไปสองสามแก้วแล้ว คุณไม่ควรขับรถ”เขาจ้องมองเธออย่างไม่ใส่ใจ “คุณแน่ใจหรือว่าผมดื่มไม่กี่แก้ว?”ดวงตาของเธอพมองไปรอบ ๆ อย่างฉุนเฉียวเพื่อปฏิเสธที่จะมองเขา เธอจะรู้ได้อย่างไรว่าเขาดื่มแอลกอฮอล์ไม่กี่แก้วถ้าเขาไม่
เธอนั่งลงที่โต๊ะอาหารจิตใจของเธอเต็มไปด้วยความสงสัย เธอโทรหาทิฟฟานี่ ทิฟฟานี่ยังคงนั่งที่บาร์หลังจากที่เธอกลับเมื่อวานนี้ แม้ว่าแจ็คสันจะอยู่ที่นั่น แต่เธอก็ยังกังวลโทรศัพท์ดังขึ้นเป็นเวลานานก่อนที่ทิฟฟานี่จะตอบด้วยเสียงอู้อี้ “มีอะไรเหรอแอริ? ทำไมเธอถึงตื่นเช้าขนาดนี้?”แอเรียนลดเสียงตัวเองลง “เช้าเหรอ? นี่มันเลยสิบโมงเช้าแล้ว ฉันเพิ่งตื่น หลังจากที่ฉันกลับ แจ็คสันไปส่งเธอที่บ้านหรือเปล่า? เธอดื่มไปเยอะแค่ไหน?”ทิฟฟานี่ผงะและนิ่งเงียบไปนานมาก ทันใดนั้น ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในบาร์ก็ท่วมท้นกลับมาหาเธอ เธอ… จูบกับแจ็คสัน! เธอรู้ดีเพราะตอนนั้นเธอยังดื่มไปไม่พอ! เธอจำได้ทุกอย่าง!แอเรียนเริ่มกังวลเมื่อฟังความเงียบเป็นเวลานานของทิฟฟานี่ “มีอะไรหรอ ทิฟฟ์? มีอะไรเกิดขึ้นเหรอ?"ทิฟฟานี่ถอนหายใจ “ไม่มีอะไร ไว้ค่อยคุยครั้งหน้าที่เจอกัน ฉันชวนอีธานมากินข้าวเที่ยงวันนี้เพื่อที่จะได้คุยกันดี ๆ ไว้ค่อยคุยกันนะ ฉันต้องไปเตรียมตัวก่อน ถ้าเธอไม่โทรมาฉันได้เบี้ยวนัดเขาแน่ ๆ”หลังจากสิ้นสุดการโทรก็มีข้อความปรากฏบนหน้าจอโทรศัพท์ของแอเรียน มันมาจากมาร์ค เธอรู้สึกระแวดระวังเมื่อเห็นชื่อของเขาในโทรศัพท์
เขารู้สึกหมดหนทางเล็กน้อย เขาหยุดแกล้งเธอทันที “ใช้สิ เธอคิดว่าฉันจะไม่ใช้จริง ๆ เหรอ? ฉันสั่งของหวานมาให้เธอ เธอชอบกินของหวานใช่ไหม? เธอลองชิมดูนะ นี้เป็นขนมที่น่าสนใจที่สุดเท่าที่ฉันเคยกินมา”หลังจากนั้นเขาก็เดินกลับไปที่โต๊ะของเขาและกดโทรออก “เอาเข้ามาเลย แล้วเอาอะเมริกาโนมาด้วยสองแก้ว”หลังจากวางสายเขาสังเกตเห็นว่าแอเรียนยังคงก้มหัวลงด้วยหน้าที่แดง เขาจ้องมองเธออย่างครุ่นคิดและถามว่า “เธอคงไม่รู้สึกเขินอายใช่ไหม? เรารู้จักกันมากว่าสิบปีแล้ว มันไม่แปลกเหรอที่เธอจะรู้สึกเขินอายรอบตัวฉัน?”“ฉันไม่ได้เขิน!” เธอปฏิเสธอย่างฉุนเฉียวด้วยใบหน้าแดงก่ำแม้ว่าเขาจะรู้ว่าเธอโกหก แต่เขาก็ไม่ได้เปิดโปงเธอ เขากลับพูดอย่างมั่นใจว่า “เรายังมีเวลาอยู่ด้วยกันอีกเยอะ ฉันไม่อยากให้เธอต้องเขินเวลาอยู่กับฉันจริง ๆ นะ ผ่อนคลายบ้าง ฉันไม่ได้จะทำอะไรเธอสักหน่อย”หลังจากนั้นไม่นานเอลลี่ก็เคาะประตู “คุณมาร์ค ของหวานมาถึงแล้ว”“อืม” มาร์คตอบเอลลี่ผลักประตูเข้ามาและเดินเข้าไปวางกล่องขนมที่ห่ออย่างประณีตไว้บนโต๊ะกาแฟหน้าแอเรียนพร้อมกาแฟสองแก้วแอเรียนแกะกล่องออก เผยให้เห็นขนมที่น่ารัก เธอรู้สึกประหลาดใจมาก
แอเรียนรู้สึกหมดหนทางเล็กน้อย “นั่นไม่ใช่สิ่งที่ฉันหมายถึง ฉันแค่ถามเฉย ๆ โต๊ะทำงานของคุณอยู่ที่นี่มาตลอดเลยเหรอ?”เอลลี่ยิ้มและพยักหน้า “ชั้นนี้ค่อนข้างเงียบ จริง ๆ มันไม่สำคัญหรอกว่าโต๊ะฉันจะอยู่ที่ไหน คุณเทรมอนต์เขาใจดีนะคะ เขาไม่ชอบให้คนมายุ่งเวลาเขาทำงาน แต่ฉันต้องพร้อมที่จะช่วยเหลือเขาตลอดเวลา มันจึงดีที่สุดถ้าฉันทำงานจากตรงนี้”แอเรียนไม่เข้าใจความหมายของเอลลี่ที่เรียกมาร์คว่า ‘ใจดี’ เธอนึกว่ามาร์คโหดเหี่ยมกับเอลลี่มาตลอด “คุณได้เงินเดือนเท่าไหร่? ทำงานเป็นเลขาเขาน่าจะเหนื่อยน่าดู”คำถามเกี่ยวกับเงินเดือนเป็นเรื่องส่วนตัวมาก ไม่ว่าจะในโอกาสใดก็ตาม อย่างไรก็ตามเนื่องจากคนที่ถามคือ แอเรียน เอลลี่จึงไม่ได้หลีกเลี่ยงเรื่องนี้ “เงินเดือนขั้นพื้นฐานของฉันคือ 3500 มันไม่ได้แย่ขนาดนั้น แถมยังมีโบนัสสิ้นปีอีกด้วย ค่อนข้างดีเลยแหละ งานก็ไม่น่าเบื่อด้วย”เมื่อได้ยินตัวเลขนั้น แอเรียนก็ไม่รู้สึกว่าเอลลี่ถูกปฏิบัติอย่างโหดเหี้ยมอีกต่อไป เงินเดือนของเลขานุการสูงกว่าแฟชั่นดีไซเนอร์อย่างเธอ ทุกอาชีพมีนายของตัวเอง เธอไม่กล้าแม้แต่จะคิดเกี่ยวกับการได้รับเงินเดือนของนักออกแบบแฟชั่นที่ดีที่สุดข