แอเรียนดื่มกับทิฟฟานี่ "ฉันรู้ว่าเธอตัดสินใจแล้วและตอนนี้เธอก็รู้สึกแย่ มันยังเร็วไปหน่อย เราไม่รู้หรอกว่าเธอจะรู้สึกแย่ไปตลอดชีวิตหรือเปล่า ตอนที่เรายังเด็ก เราคิดว่าตราบใดที่เรารักกันและไม่กลัวความยากลำบากหรืออุปสรรคเราจะอยู่ด้วยกันได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเราเป็นผู้ใหญ่และโตขึ้น เราก็มีมุมมองที่กว้างขึ้นในเรื่องต่าง ๆ ไม่ว่ายังไง ทิฟฟ์ ฉันเป็นคนหนึ่งที่เป็นหนี้บุญคุณเธอ ถ้าสิ่งเหล่านั้นไม่ได้เกิดขึ้น มันอาจจะไม่ยากสำหรับเธอและแจ็คสันขนาดนี้ก็ได้”มันเป็นเรื่องจริง แต่ทิฟฟานี่ไม่เคยโทษแอเรียนเลย “มันเป็นความผิดของเธอตรงไหน? ถ้าจะชี้นิ้วก็ควรจะชี้ไปที่แอรี่และอีธาน ยิ่งกว่านั้น มันคือโชคชะตา ใครจะรู้? บางทีถ้าฉันไม่ได้เจออีธาน เรื่องคงไม่เป็นแบบนี้? เมื่อฉันคบกับแจ็คสันช่วงแรก ฉันคิดว่าทุกอย่างจะออกมาดี อนาคตจะต้องน่าทึ่ง เมื่อความตื่นเต้นหมดลง ประเด็นต่าง ๆ ก็เริ่มก่อกวนฉัน ถ้าฉันฉลาดกว่านั้นอีกนิดและคิดถึงอนาคต ในตอนนั้นฉันจะไม่ตกลงคบกับเขา ไม่ว่าจะเป็นหรืออยู่ ฉันจะได้ป้องกันตัวเองจากอาการปวดใจนี้ได้ การไม่เคยมีและเคยมีก่อนที่จะสูญเสียมันไปเป็นสองสิ่งที่แตกต่างกัน ข้อที่สองจะทำให้ทนท
ยามดึกดื่น แจ็คสันกำลังสูบบุหรี่ขณะที่เลื่อนดูหมายเลขโทรศัพธ์ของทิฟฟานี่บนโทรศัพท์และจ้องไปที่หมายเลขนั้นเป็นเวลานานโดยไม่กดโทรออก เธอน่าจะไปถึงเมืองหลวงแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่เขานอนไม่หลับเพราะผู้หญิงคนหนึ่งเมื่อเขาหันไปปัดขี้เถ้าบุหรี่ โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น แจ็คสันไม่ได้คาดคิดว่าจะมีใครโทรหาเขาตอนกลางดึก แจ็คสันไม่ใส่ใจและถึงกับรำคาญเล็กน้อยก่อนที่เขาจะเห็นชื่อของผู้โทรเข้ามา เขาตะลึงเมื่อเห็นว่ามันเป็นทิฟฟานี่ หลังจากหลุดจากภวังค์เขาก็กดปุ่มรับสายอย่างระมัดระวัง เพราะสูบบุหรี่มากเกินไปเสียงของเขาก็เลยแหบแห้งขณะที่เขาพูด “ฮัลโหล? คุณถึงบ้านแล้วเหรอ?"ทิฟฟานี่พูดลอย ๆ ที่ปลายสายอย่างมึนเมา “แจ็คสัน คุณอยู่ที่ไหน? ฉันอยากเจอคุณ”แจ็คสันสะดุ้ง “คุณดื่มมาเหรอ? คุณไม่ได้กลับไปที่เมืองหลวงเหรอ? คุณอยู่ที่ไหน?!"ทิฟฟานี่เริ่มโวยวายราวกับไม่ได้ยินคำพูดของเขา “คุณรู้ไหมว่าฉันเจ็บปวดแค่ไหนที่เราต้องเลิกกัน? แต่ฉันจะทำอะไรได้ล่ะ? เราไม่มีอนาคต เรามีช่องว่างขนาดใหญ่ระหว่างเรา และคุณ คุณเป็นคนเจ้าชู้ ฉันไม่มั่นใจว่าฉันจะเก็บหัวใจของคุณไว้กับฉันไปตลอดชีวิตได้หรือไม่ ฉันกลัว กลัวว่าสักวันหนึ
หลังจากที่ขึ้นรถแล้วแอเรียนก็พูดว่า “พาฉันไปที่โรงแรมแล้วเปิดห้องให้ฉันหน่อย ฉันมีแค่โทรศัพท์อยู่กับตัวเท่านั้น ฉันไม่มีบัตรประจำตัวของฉัน”มาร์คพยักหน้าเล็กน้อยแล้วขับรถกลับไปที่โรงแรม เมื่อพวกเขาผ่านเคาน์เตอร์ในล็อบบี้ แอเรียนก็หยุดฝีเท้าของเธอเพียงเพื่อให้มาร์คเตือนว่า “เธอไม่สามารถเปิดห้องโดยไม่มีบัตรประจำตัวได้ ไปที่ห้องของฉันเถอะ เดี๋ยวฉันจะนอนบนโซฟาเอง”เธอรู้ดีว่าเธอไม่สามารถหาห้องพักได้หากไม่มีบัตรประจำตัว อย่างไรก็ตาม ตอนที่มาร์คพยักหน้าในรถ เธอก็คิดว่าเขาจะหาทางเปิดห้องพักได้ เธอไม่ได้คาดคิดว่าเขาจะคิดวิธีแก้ปัญหาแบบนี้ อย่างไรก็ตาม ไหน ๆ เธอก็อยู่ที่นี่แล้ว ในตอนนี้เธอจึงไม่สามารถหันหลังกลับและจากไปได้ง่าย ๆ ตอนนี้เกือบจะตีสี่แล้วและเธอก็หมดแรง นอกจากนี้ วันพรุ่งนี้เธอมีงานต้องทำด้วยเธอรู้ว่าห้องที่มาร์คพักอยู่บ่อย ๆ คือห้องวีไอพี ที่นั้นมีโซฟาในห้องนั่งเล่นและแยกออกจากห้องนอนด้วยแต่จะไม่มีประตูกั้นพวกเขา มันไม่เหมือนห้องสตูดิโอ ด้วยเหตุนี้เธอจึงยอมจำนนอย่างไม่เต็มใจเมื่อแอเรียนเห็นเตียงที่ไม่ได้ถูกจัดไว้ เธอจึงเดาว่าเขาถูกปลุกให้ตื่นเพื่อไปตามหาเธอ เขาเพิ่งจะนอนบนเตี
มาร์คนั่งลงที่โซฟากำลังยุ่งอยู่กับแล็ปท็อปของเขา สักพักนึง เขาก็พูดขึ้นมาว่า “เธอหลับลึกมาก อันที่จริง เธอนอนกรนด้วย แล้วฉันจะปลุกเธอได้ยังไง? ”เธอนอนกรนหรือนี่? แอเรียนรู้สึกอายมาก เธอไม่รู้เลยว่าเธอนอนกรนด้วย แล้วเขายังได้ยินมันทั้งคืนเลยเนี่ยนะ? เธอกระแอมก่อนพูด “ขอบคุณสำหรับเมื่อคืน ฉันคงไม่รบกวนคุณไปมากกว่านี้ ให้อภัยฉันนะ”เมื่อคืนเธอออกมาอย่างไม่มีทางเลือก ดังนั้นเธอจึงต้องไปที่โรงแรม เธอคงดูเหมือนอกตัญญู ถ้าเธอทำตัวเย็นชาและห่างเหินจากเขา“ทานอะไรสักหน่อยก่อนเธอค่อยไปสิ ฉันสั่งกลับบ้านแล้ว คงจะมาถึงเร็ว ๆ นี้” มาร์คตอบกลับแบบเรียบ ๆ “ไม่จำเป็น ฉันมีของกินอยู่แล้วเมื่อกลับถึงบ้าน” เธอได้ปฏิเสธเขาไปตามสัญชาตญาณ“แจ็คสัน ยังไม่โทรมาเลย” มาร์คพูดพีางปิดแล็ปท็อปไปด้วย เขาลุกขึ้นยืนและมองไปที่เธอแอเรียนรู้สึกลังเล ถ้าแจ็คสันยังไม่โทรมา นั่นหมายความว่าพวกเขายังไม่ออกมาจากคอนโด มันคงจะไม่เหมาะถ้าเธอกลับบ้านตอนนี้ “ถ้างั้นก็ได้ ขอโทษที่รบกวน”ถึงแม้ว่ามาร์คจะรู้สึกรำคาญที่เธอพูดกับเขาเหมือนคนแปลกหน้า แต่เขาก็เลือกที่จะเงียบไว้หลังจากนั้นไม่นาน อาหารที่สั่งไว้ก็มาถึงแอเรียน
ทิฟฟานี่เหมือนเด็กดื้อ เธอค่อย ๆ พยักหน้าอย่างระมัดระวังและเริ่มยัดอาหารเข้าไปในปากอย่างมูมมาม เมื่อคืนเธอดื่มไปมากและเธอก็อาเจียนทุกอย่างออกมา เธอหลับไปทั้งวันจนกระทั่งบ่ายและก็หิวขึ้นมาอีกครั้งในที่สุดเธอก็นึกขึ้นถึงแอเรียนเมื่อเธอกินข้าวเสร็จ “แอริอยู่ไหน? คุณอยู่ที่นี่ทั้งคืนหรือเปล่า? เธอไปไหน?”แจ็คสันยิ้มอน่างมีเลศนัย “ผมเรียกมาร์คให้มารับเธอไป เธอน่าจะยังอยู่ที่โรงแรม” ทิฟฟานี่ยังคงรู้สึกงุนงง “แอริเห็นด้วยที่จะไปเหรอ?” แจ็คสันยักไหล่ “ผมคิดว่าใช่ คุณทรมานเธอจนกระทั่งตีสาม เธอรู้สึกอ่อนเพลีย นอนพักที่โรงแรมคงจะดีกว่า หรือว่าในคอนโดเล็ก ๆ ทีมียุงรอบตัว? เธอไม่ได้โง่นะครับ เธอกับมาร์คคงจะตื่นกันแล้ว โอ้ ผมเห็นสวนน้ำอยู่ใกล้ ๆ และตอนนี้ก็ร้อนเสียจริง อยากไปไหม? เมืองนี้เกือบจะไม่ติดทะเลเลย เพราะฉะนั้นสวนน้ำฟังดูเข้าท่านะ ผมคิดว่ามันน่าจะใหญ่มาก และสิ่งอำนวยความสะดวกก็ยังดีเยี่ยมด้วย”กิน ดื่ม สังสรรค์ คือเสน่ห์ของทิฟฟานี่ เธอเพิ่งเลิกกับแจ็คสันและกลับมาคืนดีกัน เธอต้องการเวลาที่จะปล่อยวางและปลดปล่อยความเครียด เธอรู้สึกว่า “โอเค ฉันจะโทรหาแอริ รถมาร์คจอดไว้ที่นี่ไหม? ใช้รถเ
มาร์คไม่ได้พูดอะไร เขาแค่ตามน้ำและมุ่งหน้าไปที่ชายหาดเหมือนกัน แอเรียนถอนหายใจและค่อย ๆ ตามไปที่หลัง เธอเงยหน้าจ้องมองไปยังมาร์คเป็นบางที เธอเห็นแค่แผ่นหลังของเขา แต่มันชัดเจนมากว่าเขามีรูปร่างที่ดีจริง ๆ สัดส่วนก็ดี กล้ามเนื้อแน่น ๆ และพิวพรรณที่ดี ขายาวและกำยำนั้นมันช่างน่า… ดึงดูดเสียจริงมาร์คเดินช้าลง นั่นเป็นเพราะเขารู้สึกว่าเธอกำลังจ้องมองมาที่เขา เขาหันกลับมามองเธอ “เดินเร็ว ๆ หน่อย”เธอหันหน้าหนีอย่างตกใจ “เข้าใจแล้ว...”แดดวันนี้ยังร้อนเหมือนเช่นเคย ร้อนมากพอที่จะทอดคนให้กรอบได้ ตอนที่พวกเขามาถึงร่มชายหาด ทิฟฟานี่ก็หยิบครีมกันแดดออกมาและโยนไปให้แจ็คสัน จากนั้นเธอก็นอนลงบนเก้าอี้ผ้าใบ “ทาครีมกันแดดให้ฉันหน่อยสิ ทาให้มันทั่ว ๆ อย่างเสมอกันนะ ฉันคงดูไม่ได้เลยถ้าโดนแดดไหม้”แจ็คสัน แน่นอนว่าเขาเต็มใจที่จะแบกรับภาระนี้ เขาทาครีมกันแดดอย่างพิถีพิถันลงบนตัวเธอ ทิฟฟานี่สังเกตเห็นว่าแอเรียนยังยืนอยู่ที่เดิมและแนะนำเธอ “ให้มาร์คทาครีมกันแดดให้เธอด้วยสิ ทาเสร็จแล้วเราจะได้ไปว่ายน้ำกัน เธอจะไม่ได้ผิวเดิมเธอกลับมาเลยนะ ถ้าผิวเธอแทนเกินไป นอกจากนี้ ผิวเธอก็จะลอกด้วย มันน่ากลัวมาก!”แอ
ทิฟฟานี่จะปล่อยเธอไปได้ยังไง? เธอผลักแอเรียนไปที่อ้อมแขนแจ็คสัน “คุณจับเธอไว้ เธอจะได้ไม่ถูกคลื่นซัดไป จับไว้แน่น ๆ คลื่นกำลังมา เดี๋ยวเธอก็จะสนุกเองเมื่อเธอคุ้นเคยกับมัน มันสนุกนะ! ฉันได้ยินมาจากแจ็คสันว่ามาร์คว่ายน้ำเก่งมาก ทำไมเธอถึงไม่เก่งล่ะ? เธอไม่ต่างจากคนที่ว่ายน้ำไม่เป็นเลย”แอเรียนและแจ็คสัน ทั้งคู่รู้สึกกระอักกระอ่วนใจ ทำไมทิฟฟานี่ถึงใจกว้างขนาดนี้? แจ็ควันใส่ชุดว่ายน้ำขาสั้น และแอเรียนใส่ชุดบิกินี่โชว์เนื้อหนัง มันดูไม่เหมาะสมสำหรับพวกเขาที่มาโอบกันแบบนี้ไม่ใช่เหรอ? แจ็คสันไม่กล้าพูดและกลัวเกินที่เอื้อมไปจับและโอบเธอ มีแค่แอเรียนที่จับไปที่ไหล่เขาอย่างเก้กัง “ทิฟฟ์! นี่เธอกำลังทำอะไร? ทำไมถึงไม่ให้ฉันจับเธอไว้?”ทิฟฟานี่เห็นความลำบากใจของพวกเขาและหัวเราะคิกคัก “ฉันคิดว่าไม่เป็นไร ฉันว่ายน้ำเป็น แต่เธอว่ายไม่เป็น มันไม่ใช่ว่าเธอจะสูญเสียอะไรไปเพียงแค่โอบจับอีกคนไว้ ไม่ต้องห่วงน่า ฉันเชื่อใจเธอ!”แจ็คสันถึงกับน้ำตาตกใน ทิฟฟานี่คงไว้เนื้อเชื่อใจแอเรียนมาก แต่เขาไม่เชื่อใจตัวเองเลย อารมณ์ทางเพศคงอยู่เหนือความควบคุมของเขา!ในความสิ้นหวังของเขา แจ็คสันมองไปทั่วทุกมุมและในที่ส
แอเรียนพยักหน้าและเดินนำทางไป หลังจากไปเอากุญแจมาทั้งคู่ก็เดินกลับไปที่รถ แอเรียนคุกเข่าที่เบาะหลัง จดจ่อกับการหาของ โดยไม่รู้ตัวว่ามาร์คเข้ามาในรถเหมือนกันและล็อคมัน เธอคิดว่าเขาแค่เข้ามาตากแอร์รถยนต์ท้ายที่สุด เธอก็หาชุดกันยูวีไม่เจอ เธอรู้สึกผิดหวังนิดหน่อย “ช่างมันเถอะ ฉันหามันไม่เจอ ไปหาทิฟฟี่กับแจ็คสันกัน”มาร์คมองไปที่ส่วนโค้งเว้าที่สมบูรณ์แบบบนร่างกายเธออย่างตั้งใจ ความคิดที่ว่าผู้คนมองไปที่เธอใส่บิกินี่ทำให้เขารู้สึกหึงหวง ย้อนกลับไปที่สระน้ำ เธอเกาะเขาไว้แน่น ร่างกายของพวกเขาชิดกันอย่างแนบแน่น มันนานมาแล้วที่เขารู้สึกแบบนี้ และความเร้าของเขาก็ค่อย ๆ คืบคลานเข้าเหมือนต้นไม้ซึ่งเถาค่อย ๆ เลื้อยแผ่กิ่งก้านใบ… จนกระทั่งเติมความต้องการเขาเขายื่นมืออกไปและดึงเธอมาสู่อ้อมแขนของเขาอย่างแรง และเธอก็ตกลงไปนั่งบนตักเขา ตกใจ เธอพยายามดิ้นรนออกมากอย่างลนลาน “คุณจะทำอะไร? เราตัวเปียกอยู่นะ คุณจะทำรถสกปรก!”เขากุมไปที่หลังคอเธอและสงบปากที่พูดพล่ามของเธอ จากนั้นเขาย้ายเธอไปที่ที่นั่งของผู้โดยสาร เขาเคลื่อนไหวอย่างอย่างรวดร็วและเสร็จภายในอึดใจเดียวจิตใจของแอเรียนว่างเปล่า เธอแข็งทื่