เธอเดินกลับไปที่ห้องและเขย่าแจ็คสันให้ตื่นขึ้นจากการงีบหลับ “เร็วเข้า ลุกขึ้นแต่งตัวเร็ว พ่อของคุณกลับมาแล้ว!”แจ็คสันสะดุ้ง “อะไรนะ?”เธอพยักหน้าอย่างจริงจัง “ฉันไม่ได้โกหก มันเป็นความจริง เขาอยู่ชั้นล่าง รีบลุกและลงไปข้างล่างกับฉัน ฉันตื่นเต้นเกินไปที่จะทำสิ่งนี้คนเดียว”แจ็คสันขมวดคิ้ว เขาเดินไปที่ห้องน้ำอย่างสบาย ๆ และอาบน้ำใส่เสื้อผ้าแล้วลงไปชั้นล่าง สีหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นเย็นชาเมื่อเขามองไปที่พ่อของเขา เขาไม่ได้ทักทายแต่กลับดึงทิฟฟานี่ไปนั่งที่โซฟาข้าง ๆ เขา“ลูกโตขึ้นแล้วนะแจ็คสัน”แจ็คสันเงยหน้าขึ้นมองคนตรงหน้า “ผู้คนมักเติบโต ผมควรจะยังคงเป็นเด็กเหมือนในความทรงจำของคุณเหรอ?”พ่อของเขาหรี่ตาลง แววตาเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด “มันเป็นความผิดของพ่อเองทั้งหมด”ลิเลียนรู้สึกสงสัย แต่มันเป็นเรื่องครอบครัว เธอจึงหุบปากไว้ ความอดทนของซัมเมอร์นั้นช่างน่าตกใจ มองผิวเผินเธออาจดูไม่สบายใจ แต่เธอก็ไม่ได้โกรธเคือง ทั้งครอบครัวมีความสงบสุขมากในระหว่างมื้ออาหาร ยกเว้นแจ็คสันที่มีสีหน้าเคร่งขรึมและไม่ได้พูดอะไรมากหลังจากทานอาหารเสร็จ ในที่สุดซัมเมอร์ก็ขาดสติและกรีดร้องใส่สามีของเธอเมื่อ
แจ็คสันฝืนยิ้มไม่ได้จริง ๆ เขาดึงเธอเข้าไปในอ้อมกอดของเขา “ไม่เป็นไร ผมไม่ได้โกรธคุณสักหน่อย อย่าคิดมากสิ ผมรู้ว่าแม่ของผมโทรหาเขา แต่ผมไม่นึกว่าเขาจะมาจริง ๆ และมาเร็วขนาดนี้ด้วย ลึก ๆ แล้วผมหวังว่าเขาจะไม่กลับมาด้วยซ้ำ ผมทำราวกับว่าเขาเสียชีวิตไปแล้วเสมอ มันคงจะไม่เลวเลยถ้าเขากลับมาใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกับแม่ของผมต่อ แต่แม่คงไม่อาจจะรับมือได้ถ้าเขาทิ้งเธอไปอีกรอบ”ทิฟฟานี่พูดไม่ออก “ฉันปลอบใจใครไม่ค่อยเก่ง คุณควรจะใจเย็นก่อน ฉันจะไปเช็ดเครื่องสำอางแล้วอาบน้ำก่อนนะ ในเมื่อคุณไม่ได้นอนตั้งแต่เมื่อวาน คุณควรเข้านอนเร็ว ๆ ฉันยังต้องไปหางานต่อพรุ่งนี้”เธอเพิ่งจะลุกขึ้นยื่นเมื่อแจ็คสันดึงเธอลงไปอีกครั้ง “อาบน้ำด้วยกันเลยก็ได้…”ทิฟฟานี่หน้าแดงจากการพยายามฉวยโอกาสของเขา “อะไร… ฉันไม่ชินแบบนั้น อาบแยกกันเถอะ ฉันอาบแปบเดียวเอง”แจ็คสันไม่ยอม เขาอุ้มเธอเข้าไปในห้องน้ำ เปิดหัวฝักบัว แล้วดันเธอให้ชิดกับผนังที่เรียบน้ำอุ่นค่อย ๆ ไหลลงจากร่างกายของทั้งสองแล้วลงสู่พื้น ในไม่ช้า หมอกสีขาวพลันปกคลุมกระจกห้องน้ำซึ่งสะท้อนภาพร่างกายที่พัวพันกันของทั้งสอง...เขาไม่เคยพูดกับเธอเกี่ยวกับสิ่งที่ทำให้
ทันใดนั้น ดวงตาของเธอก็เต็มไปด้วยน้ำตา ผงในคริสตัลคือขี้เถ้าของข้าวปั้น บางทีของขวัญชิ้นนี้อาจเทียบไม่ได้กับราคาของขวัญที่เป็นแบรนด์เนม แต่สำหรับเธอมันล้ำค่าจนประเมินค่าไม่ได้ เธอไม่เคยคาดคิดว่ามาร์คจะทุ่มเทขนาดนี้เธอแขวนเครื่องดักฝันไว้เหนือเตียงอย่างระมัดระวังก่อนที่จะดึงโทรศัพท์ออกมาและส่งข้อความหามาร์คว่า 'ขอบคุณนะ’มันเป็นเพียงคำง่าย ๆ สองสามคำ แต่มีความรู้สึกเป็นร้อยเป็นพัน นี่เป็นครั้งแรกที่เธอรู้สึกประทับใจกับเขา ท้ายที่สุดชายผู้เย็นชาและห่างเหินคนนี้ก็มีด้านที่อ่อนโยนเหมือนกัน ครั้งนี้เขาได้แสดงให้เธอเห็นว่าเขาห่วงใยเธอจริง ๆ และความห่วงใยนั้นมันไม่เคยหายไปไหนเลยมาร์คไม่ตอบข้อความของเธอแต่โทรไปหาเธอทันที เธอไม่ปฏิเสธสายของเขาและตอบอย่างเป็นธรรมชาติว่า “ขอบคุณสำหรับของขวัญของคุณ ฉันจะเก็บมันไว้ให้ดี”มาร์คนั่งบนเก้าอี้หน้าโต๊ะทำงานพร้อมรอยยิ้มอ่อนโยนที่มุมริมฝีปากของเขา “ฉันดีใจที่เธอชอบนะ จริง ๆ แล้วฉันขอให้เฮนรี่ทำมันให้เสร็จในขณะที่ฉันยังอยู่ที่นั่น แต่ตอนที่กลับมาฉันก็ไม่ค่อยพอใจกับผลลัพธ์ที่ได้สักเท่าไหร่ ดังนั้นฉันจึงออกแบบมันใหม่ด้วยตัวเอง ไม่อย่างนั้นเธอคงจะได้รับ
นีน่าจ้องแอเรียนอย่างลึกซึ้งขณะที่เธอพูดว่า “เธอยังรักเขาอยู่ใช่ไหม? นั่นเป็นเหตุผลที่เธอพยายามเกลี้ยกล่อมฉันไม่ให้ไล่ตามเขา ฉันยั่วยวนเขาออกหน้าออกตามาก แต่ดูเหมือนเธอจะไม่โกรธเลย เธอเกือบจะหลอกฉันได้แล้วจริง ๆ”แอเรียนไม่ได้ตอบอย่างตรงไปตรงมา “เอาล่ะ ถ้าเธอมาที่นี่เพื่อสนุก ก็ขอให้สนุกนะ ทานให้อร่อยด้วยด้วย ฉันมีงานต้องไปทำ”นีน่าหยุดพูดและเริ่มชิมขนมของแอเรียน แค่กัดคำแรกก็ทำให้เธอตกตะลึงอย่างสมบูรณ์ “นี่เป็นมาตรฐานของเชฟทำขนมชั้นยอดอย่างชัดเจน! ฉันอิจฉาจัง เธอสมบูรณ์แบบในทุกสิ่งที่เธอทำ! พ่อของฉันมักจะวิพากษ์วิจารณ์ฉันเพราะฉันขาดความสามารถ ฉันจะต้องขังลืมตัวเองแล้ว!”แอเรียนโผล่หัวออกมาจากห้องครัว “อย่าพูดเกินจริงน่า ฉันจะทำสิ่งที่ดีขนาดนั้นได้อย่างไร? มาร์คให้สูตรจากเชฟขนมชั้นยอดมา ในขั้นตอนนี้ไม่มีอะไรให้ต้องใจจดใจจ่อตราบใดที่ฉันสามารถทำมันได้ อีกอย่าง จริง ๆ แล้วเธอไม่ได้มาที่นี่เพื่อพบฉันจริง ๆ ใช่ไหม?”นีน่าเลียเนยที่มุมปากของเธอแล้วยิ้มอย่างทะลึ่ง “เธอจะพูดอย่างนั้นก็ได้ ฉันมาที่นี่เพื่อยืนยันว่าเธอกับมาร์คเลิกกันจริงหรือเปล่า ฉันเห็นแล้วว่ามันไม่ใช่อย่างนั้น ในฐานะเพื่อน
มาร์คไม่ยืนกรานและโบกมือไปทางกล้อง “ราตรีสวัสดิ์”แอเรียนกำหน้าอกของเธอไว้เมื่อสิ้นสุดการโทร เธอรู้สึกได้ว่าหัวใจของเธอเต้นกระทบหน้าอกของเธออย่างรุนแรง ตอนแรกเธอคิดว่าเธอไม่ได้บ้าผู้ชายแต่อย่างใดและจะไม่หลงเสียงห้าว ๆ หรือใบหน้าที่เธอจ้องมองมาเป็นเวลานานกว่าสิบปี เธอบ้าไปแล้วเหรอ?ในความเห็นของมาร์ค ทุกครั้งที่พวกเขาคุยกัน พวกเขาจะใกล้ชิดกันมากขึ้นเรื่อย ๆ มันทำให้เขามั่นใจมากขึ้นด้วย ขณะที่เขากำลังจะนอน โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นอีกครั้ง นั่นคือสายจากชาร์ลส์ มอร์แรนผู้ชายคนนี้ที่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับพ่อของเขาจะไม่มีวันติดต่อเขาโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร ครั้งแรกที่พวกเขาพบกันหลังจากที่เขากลับมาที่ประเทศคือตอนที่ชาร์ลส์ถามเขาว่าเขารู้จักลูกนอกสมรสของพ่อเขาหรือไม่… เขาขมวดคิ้วแล้วรับสาย “ฮัลโหล? ลุงมอร์แรน”ชาร์ลส์ตอบเขาว่า “มาร์ค ฉันได้ยินมาว่าเรื่องระหว่างนายกับแอเรียนตอนนี้ค่อนข้างแย่ ฉันฟุ้งซ่านและคงบคุมเนียไม่ได้ ฉันแน่ใจว่าเธอจะไปเยี่ยมนายในไม่ช้านี้… ขอโทษแทนเธอด้วย นายก็รู้ว่าเธอรู้สึกอย่างไรกับนาย… ฉันรู้ว่าระหว่างนายสองคนนั้นมันเป็นไปไม่ได้ ดังนั้นได้โปรดส่งเธอกลับมาด้วย ฉันไม่
นีน่าดูเหมือนจะไม่รู้สึกถึงความเยือกเย็นในน้ำเสียงของเขาโดยสิ้นเชิง “ฮ่าฮ่า… คุณจะโยนฉันออกไปจริง ๆ เหรอ? ความสัมพันธ์ของเรานั้นตื้นเขินขนาดนั้นเลยเหรอ? ฉันรู้สึกว่าเราสนิทกันมากพอที่จะแบ่งปันกันได้ทุกอย่างนะ ฉันนอนบนเตียงของคุณไม่ได้เหรอ?”มาร์คไม่ได้ให้คำตอบในทันที เขาออกมาจากห้องเสื้อผ้าหลังจากที่เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้วเดินลงไปข้างล่างทันที คำเดียวที่เขาทิ้งไว้ให้เธอคือ “ความสัมพันธ์ของเราไม่ได้สนิทสนมอย่างที่เธอคิด บ้านของฉันกฎของฉัน ฉันจะพูดแบบนี้ครั้งนี้ครั้งเดียว”นีน่ารอจนกว่ารถเขาจะออกจากคฤหาสน์เทรมอนต์ก่อนที่จะปีนออกจากเตียงใบหน้าของเธอดูไม่ธรรมดาและเฉยเมยอีกต่อไป ลึก ๆ ข้างใน เธอรู้ว่าผู้ชายคนนี้ไม่ควรจะล้อเล่นด้วย อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้ทำให้เธอคลั่งไคล้เขามากยิ่งขึ้น เธอถูกบังคับให้ยอมแพ้เมื่อเห็นว่ามาร์คและแอเรียนรักกันมากแค่ไหน แต่ตอนนี้พวกเขาได้แยกจากกันในที่สุด เธอปฏิเสธที่จะยอมและต้องการลองอีกครั้งห้องนี้เต็มไปด้วยกลิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ของมาร์ค ซึ่งทำให้เธอเต็มไปด้วยความปรารถนาอันแรงกล้า ทุกครั้งที่เธอหลับตา เธอหวังว่าจะได้อยู่ที่นี่ตลอดไปและอยู่กับเขาไปจนวันสุดท้า
ตลอดชีวิตอันยาวนานและเต็มไปด้วยเรื่องราวของชาร์ลส์ มอร์แรนเขาไม่เคยตบหน้าลูกสาวของเขาเลยเสียงที่แหลมคมของมือที่กระทบใบหน้าจางลง เผยให้เห็นนีน่าที่กำลังมึนงงด้วยมือของเธอที่แกว่งไปที่แก้มที่ค่อย ๆ แดงและพองขึ้น ดวงตาของเธอซึ่งจ้องไปที่พ่อของเธอเต็มไปด้วยความงงงวยอย่างจริงจัง“ทำไม… พ่อตีหนูทำไม?! หนูผิดเหรอ?” เธอร้องเรียก “ในห้องนี้มีแค่คนของเรา ทำไมพ่อถึงทำเหมือนกับว่าหนูไม่ควรพูดแบบนั้น?”ชาร์ลส์กลืนยาที่บอดี้การ์ดส่งให้เขา เมื่อความกังวลใจของเขาสงบลงเล็กน้อย เขาตอบว่า “นี่ เป็นคน ๆ เดียวกันกับคนที่ฆ่าน้องชายต่างมารดาของเขาโดยไม่กระพริบตา เธอคิดว่าเธอเป็นใครเขาถึงจะยอมเธอง่าย ๆ? ถ้าเขาชอบเธอ เธอจะกลายเป็นผู้ปกครองหัวใจของเขา มิฉะนั้น จะไม่มีการประนีประนอมใด ๆ ที่จะช่วยเธอให้พ้นจากความโกรธของเขาได้!”“เธอเป็นลูกสาวคนเดียวของฉัน นีน่า เธอคิดว่าฉันสามารถดูเธอทำลายตัวเองได้เหรอ? แอเรียน วินน์อาจดูเหมือนสาวน้อยตัวเล็กที่ไม่น่าประทับใจและไร้ความหมาย แต่เธอคือคนที่มาร์คเฝ้าดูแลมาเป็นเวลากว่าทศวรรษหรือมากกว่านั้น เธอเป็นใครเมื่อเปรียบเทียบกับแอเรียน? ฟังฉันให้ดีนะนีน่า ตั้งใจหาคู่แต่งงาน
มาร์คหยุดครุ่นคิด “อันที่จริง ไม่ต้องออกไปกินข้าวกันหรอก มันดึกไปหน่อยและมีเพียงแค่เราสองคน เราจะไปที่บ้านของเธอและทำอะไรกินเองเท่าที่มีของ เธอรู้วิธีทำราเม็งไม่ใช่เหรอ?”เขายังจำราเม็งที่เธอทำได้อยู่เหรอ? นั่นเป็นมื้อเดียวที่เธอทำออกมาได้ดีมาก ยิ่งไปกว่านั้น มันอร่อยตามมาตรฐานของเธอเท่านั้นและส่วนใหญ่จะขึ้นอยู่กับว่ามันออกมาดีหรือไม่ “โอเค… มันไม่ได้รสชาติดีขนาดนั้น ดังนั้นคุณจะต้องทนกินมันไปก่อน พรุ่งนี้ฉันจะหาเวลาว่างและซื้ออาหารให้คุณเพื่อขอบคุณสำหรับของขวัญ”มาร์คขมวดคิ้วแต่ไม่ตอบ เขาสัมผัสได้ว่าเธอปฏิเสธที่จะเป็นหนี้เขา สิ่งนี้ทำให้เขาอารมณ์เสีย อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาจำได้ว่าเธอจะกลับไปหาเขาในหนึ่งปี เขาจึงไม่ได้เล่นลิ้นกับเธอแอเรียนเปิดเครื่องปรับอากาศในห้องนั่งเล่นเมื่อพวกเขาไปถึงคอนโดของเธอแล้วเดินเข้าไปในครัวทันที “รอที่นี่นะ ฉันจะทำราเม็งให้คุณ”อย่างไรก็ตาม มาร์คไม่ได้นั่งรอเธอแต่เขาเดินตามเธอเข้าไปในครัวพลางยืนอยู่ข้างหนึ่งและมองดูเธอทำอาหาร “จริง ๆ แล้ว บ้านหลังเล็ก ๆ ของเธอก็รู้สึกเหมือนอยู่บ้านในบางครั้งนะ”หัวใจของแอเรียนเต้นผิดจังหวะไปสองสามจังหวะ เขาพยายามจะสื่อ