มาร์คไม่ยืนกรานและโบกมือไปทางกล้อง “ราตรีสวัสดิ์”แอเรียนกำหน้าอกของเธอไว้เมื่อสิ้นสุดการโทร เธอรู้สึกได้ว่าหัวใจของเธอเต้นกระทบหน้าอกของเธออย่างรุนแรง ตอนแรกเธอคิดว่าเธอไม่ได้บ้าผู้ชายแต่อย่างใดและจะไม่หลงเสียงห้าว ๆ หรือใบหน้าที่เธอจ้องมองมาเป็นเวลานานกว่าสิบปี เธอบ้าไปแล้วเหรอ?ในความเห็นของมาร์ค ทุกครั้งที่พวกเขาคุยกัน พวกเขาจะใกล้ชิดกันมากขึ้นเรื่อย ๆ มันทำให้เขามั่นใจมากขึ้นด้วย ขณะที่เขากำลังจะนอน โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นอีกครั้ง นั่นคือสายจากชาร์ลส์ มอร์แรนผู้ชายคนนี้ที่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับพ่อของเขาจะไม่มีวันติดต่อเขาโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร ครั้งแรกที่พวกเขาพบกันหลังจากที่เขากลับมาที่ประเทศคือตอนที่ชาร์ลส์ถามเขาว่าเขารู้จักลูกนอกสมรสของพ่อเขาหรือไม่… เขาขมวดคิ้วแล้วรับสาย “ฮัลโหล? ลุงมอร์แรน”ชาร์ลส์ตอบเขาว่า “มาร์ค ฉันได้ยินมาว่าเรื่องระหว่างนายกับแอเรียนตอนนี้ค่อนข้างแย่ ฉันฟุ้งซ่านและคงบคุมเนียไม่ได้ ฉันแน่ใจว่าเธอจะไปเยี่ยมนายในไม่ช้านี้… ขอโทษแทนเธอด้วย นายก็รู้ว่าเธอรู้สึกอย่างไรกับนาย… ฉันรู้ว่าระหว่างนายสองคนนั้นมันเป็นไปไม่ได้ ดังนั้นได้โปรดส่งเธอกลับมาด้วย ฉันไม่
นีน่าดูเหมือนจะไม่รู้สึกถึงความเยือกเย็นในน้ำเสียงของเขาโดยสิ้นเชิง “ฮ่าฮ่า… คุณจะโยนฉันออกไปจริง ๆ เหรอ? ความสัมพันธ์ของเรานั้นตื้นเขินขนาดนั้นเลยเหรอ? ฉันรู้สึกว่าเราสนิทกันมากพอที่จะแบ่งปันกันได้ทุกอย่างนะ ฉันนอนบนเตียงของคุณไม่ได้เหรอ?”มาร์คไม่ได้ให้คำตอบในทันที เขาออกมาจากห้องเสื้อผ้าหลังจากที่เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้วเดินลงไปข้างล่างทันที คำเดียวที่เขาทิ้งไว้ให้เธอคือ “ความสัมพันธ์ของเราไม่ได้สนิทสนมอย่างที่เธอคิด บ้านของฉันกฎของฉัน ฉันจะพูดแบบนี้ครั้งนี้ครั้งเดียว”นีน่ารอจนกว่ารถเขาจะออกจากคฤหาสน์เทรมอนต์ก่อนที่จะปีนออกจากเตียงใบหน้าของเธอดูไม่ธรรมดาและเฉยเมยอีกต่อไป ลึก ๆ ข้างใน เธอรู้ว่าผู้ชายคนนี้ไม่ควรจะล้อเล่นด้วย อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้ทำให้เธอคลั่งไคล้เขามากยิ่งขึ้น เธอถูกบังคับให้ยอมแพ้เมื่อเห็นว่ามาร์คและแอเรียนรักกันมากแค่ไหน แต่ตอนนี้พวกเขาได้แยกจากกันในที่สุด เธอปฏิเสธที่จะยอมและต้องการลองอีกครั้งห้องนี้เต็มไปด้วยกลิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ของมาร์ค ซึ่งทำให้เธอเต็มไปด้วยความปรารถนาอันแรงกล้า ทุกครั้งที่เธอหลับตา เธอหวังว่าจะได้อยู่ที่นี่ตลอดไปและอยู่กับเขาไปจนวันสุดท้า
ตลอดชีวิตอันยาวนานและเต็มไปด้วยเรื่องราวของชาร์ลส์ มอร์แรนเขาไม่เคยตบหน้าลูกสาวของเขาเลยเสียงที่แหลมคมของมือที่กระทบใบหน้าจางลง เผยให้เห็นนีน่าที่กำลังมึนงงด้วยมือของเธอที่แกว่งไปที่แก้มที่ค่อย ๆ แดงและพองขึ้น ดวงตาของเธอซึ่งจ้องไปที่พ่อของเธอเต็มไปด้วยความงงงวยอย่างจริงจัง“ทำไม… พ่อตีหนูทำไม?! หนูผิดเหรอ?” เธอร้องเรียก “ในห้องนี้มีแค่คนของเรา ทำไมพ่อถึงทำเหมือนกับว่าหนูไม่ควรพูดแบบนั้น?”ชาร์ลส์กลืนยาที่บอดี้การ์ดส่งให้เขา เมื่อความกังวลใจของเขาสงบลงเล็กน้อย เขาตอบว่า “นี่ เป็นคน ๆ เดียวกันกับคนที่ฆ่าน้องชายต่างมารดาของเขาโดยไม่กระพริบตา เธอคิดว่าเธอเป็นใครเขาถึงจะยอมเธอง่าย ๆ? ถ้าเขาชอบเธอ เธอจะกลายเป็นผู้ปกครองหัวใจของเขา มิฉะนั้น จะไม่มีการประนีประนอมใด ๆ ที่จะช่วยเธอให้พ้นจากความโกรธของเขาได้!”“เธอเป็นลูกสาวคนเดียวของฉัน นีน่า เธอคิดว่าฉันสามารถดูเธอทำลายตัวเองได้เหรอ? แอเรียน วินน์อาจดูเหมือนสาวน้อยตัวเล็กที่ไม่น่าประทับใจและไร้ความหมาย แต่เธอคือคนที่มาร์คเฝ้าดูแลมาเป็นเวลากว่าทศวรรษหรือมากกว่านั้น เธอเป็นใครเมื่อเปรียบเทียบกับแอเรียน? ฟังฉันให้ดีนะนีน่า ตั้งใจหาคู่แต่งงาน
มาร์คหยุดครุ่นคิด “อันที่จริง ไม่ต้องออกไปกินข้าวกันหรอก มันดึกไปหน่อยและมีเพียงแค่เราสองคน เราจะไปที่บ้านของเธอและทำอะไรกินเองเท่าที่มีของ เธอรู้วิธีทำราเม็งไม่ใช่เหรอ?”เขายังจำราเม็งที่เธอทำได้อยู่เหรอ? นั่นเป็นมื้อเดียวที่เธอทำออกมาได้ดีมาก ยิ่งไปกว่านั้น มันอร่อยตามมาตรฐานของเธอเท่านั้นและส่วนใหญ่จะขึ้นอยู่กับว่ามันออกมาดีหรือไม่ “โอเค… มันไม่ได้รสชาติดีขนาดนั้น ดังนั้นคุณจะต้องทนกินมันไปก่อน พรุ่งนี้ฉันจะหาเวลาว่างและซื้ออาหารให้คุณเพื่อขอบคุณสำหรับของขวัญ”มาร์คขมวดคิ้วแต่ไม่ตอบ เขาสัมผัสได้ว่าเธอปฏิเสธที่จะเป็นหนี้เขา สิ่งนี้ทำให้เขาอารมณ์เสีย อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาจำได้ว่าเธอจะกลับไปหาเขาในหนึ่งปี เขาจึงไม่ได้เล่นลิ้นกับเธอแอเรียนเปิดเครื่องปรับอากาศในห้องนั่งเล่นเมื่อพวกเขาไปถึงคอนโดของเธอแล้วเดินเข้าไปในครัวทันที “รอที่นี่นะ ฉันจะทำราเม็งให้คุณ”อย่างไรก็ตาม มาร์คไม่ได้นั่งรอเธอแต่เขาเดินตามเธอเข้าไปในครัวพลางยืนอยู่ข้างหนึ่งและมองดูเธอทำอาหาร “จริง ๆ แล้ว บ้านหลังเล็ก ๆ ของเธอก็รู้สึกเหมือนอยู่บ้านในบางครั้งนะ”หัวใจของแอเรียนเต้นผิดจังหวะไปสองสามจังหวะ เขาพยายามจะสื่อ
พ่อของแจ็คสัน? แอเรียนที่ไม่เคยได้ยินเรื่องเขาจึงรู้สึกสงสัย “แน่นอนว่าฉันจะไป พ่อของเขาเหรอ? ฉันไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับเขาเลย…”มาร์คไม่ได้อธิบายมากเกินไป “สถานการณ์ครอบครัวของเขาซับซ้อน ซับซ้อนมาก เมื่อเธอกลับไปที่เมืองหลวงก็ไปพักที่คฤหาสน์เทรมอนต์นะ เธอจะได้เจอเฮนรี่และแมรี่ด้วย”เขาไม่ได้ให้โอกาสแอเรียนปฏิเสธเลย เขารู้ว่าเธอไม่ใช่คนใจร้อนและอาจคิดถึงแมรี่กับเฮนรี่ ดังนั้นเขาจึงใช้มันเป็นข้ออ้างให้เธอกลับไปที่คฤหาสน์เทรมอนต์ เธอไม่ควรมีเหตุผลใด ๆ ที่จะปฏิเสธถ้ามันเป็นเพียงชั่วคราว… ใช่ไหมล่ะ?“เราจะพูดถึงมันเมื่อถึงเวลา ฉันง่วงแล้ว ราตรีสวัสดิ์” หลังจากนั้นแอเรียนก็หลับตาลง เธอเหนื่อยจริง ๆ เพราะเธอทำงานมาทั้งวันแล้วมาร์คไม่ได้พูดอะไรอีก การมองเห็นของเขาชัดเจนแม้ในความมืดราวกับว่าเขาไม่ได้ง่วงนอนเลย ผู้หญิงของเขานอนอยู่ข้าง ๆ เขา แต่เขากลับแตะต้องเธอไม่ได้ แน่นอนว่าเขาไม่สามารถนอนหลับได้ เปลวไฟเล็ก ๆ วูบวาบในหัวใจของเขา ร้อนแรงกว่าอุณหภูมิ 40 องศาในฤดูร้อนอีกวันรุ่งขึ้น แอเรียนรีบเข้าห้องน้ำทันทีที่เธอตื่น เธอยังคงมึนงงขณะที่นั่งบนโถส้วมพลางหวนนึกถึงความฝันอันน่าละอายที่เธอมีเม
ความอดทนของทิฟฟานี่ใกล้จะสิ้นสุดแล้ว อะไรให้สิทธิ์เขาทำให้ทิฟฟานี่ต้องทำงานล่วงเวลาที่ไม่ควรเป็นของทิฟฟานี่ตั้งแต่แรก? เฮนเริยตต้าแอบคุยโทรศัพท์ระหว่างเวลาทำงานและดูอนิเมะอย่างชัดเจน นั่นเป็นสาเหตุที่เธอจึงทำงานไม่เสร็จ ทิฟฟานี่กลืนความโกรธของเธอลงและพูดอย่างเป็นมิตรว่า “ฉันมีบางอย่างที่ต้องทำเช่นกัน ฉันไม่สามารถช่วยคุณทำงานล่วงเวลาได้ คุณจะต้องจัดการมันเอง ฉันต้องไปแล้ว”เฮนเรียตต้าทิ้งกองเอกสารกองโตไว้บนโต๊ะของทิฟฟานี่ “คุณต้องทำ ไม่ว่าด้วยวิธีใด หรือคุณคิดว่าสำนักงานเป็นเพียงสถานที่สำหรับคุณที่จะเพลิดเพลินกับเครื่องปรับอากาศ? อย่างน้อยคุณควรทำเงินให้เราเพื่อให้คุ้มค่าสำหรับค่าเครื่องปรับอากาศ คุณควรพิจารณาการมีส่วนในการสนับสนุนบริษัทในวันนี้และทำตัวให้มีประโยชน์แก่บริษัทที่รับคุณหรือไม่? ฉันขอให้คุณพิมพ์สำเนาเอกสารเพียงบางส่วน แต่คุณก็ยังงุนงงอยู่ได้ มือใหม่ไร้ประสบการณ์นี่สอนยากที่สุด!”วันนี้เธอตั้งใจจะไม่ทำงานที่จับต้องได้จริง ๆ หรือ? ทิฟฟานี่หมดความอดทนโดยสิ้นเชิง “ก่อนอื่น ฉันไม่ใช่คนใหม่ในวงการนี้ ฉันมีประสบการณ์การทำงาน ฉันเคยทำงานเป็นนักออกแบบแฟชั่น ฉันเป็นเพียงพนักงานใหม่
หลังจากที่ครุ่นคิด ทิฟฟานี่ก็เริ่มคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่เธอจะหมั้นแบบลับ ๆ ท้ายที่สุดตระกูลเวสต์เป็นตระกูลที่ร่ำรวย พ่อแม่ของแจ็คสันยังมีชีวิตอยู่เช่นกัน ถ้าพ่อแม่ของมาร์คอยู่ด้วย พวกเขาคงไม่มีการแต่งงานที่เงียบสงัดเช่นนั้น เหล่าชนชั้นสูงต้องทำเพื่อศักดิ์ศรี เธอไม่สามารถเห็นแก่ตัวได้ “โอเค… ฉันขอโทษ ฉันไม่เคยคิดเรื่องนั้น คุณสามารถทำสิ่งที่คุณต้องการได้เลย ฉันต้องกลับบ้านหลังอาหารเย็นและฉันต้องตื่นแต่เช้าเพื่อไปทำงานในวันพรุ่งนี้ ฉันไม่เหมือนคุณ ฉันไม่สามารนอนได้ทุกเมื่อที่ต้องการ ฉันยุ่งมากจนเท้าของฉันแทบไม่ได้แตะพื้นเลย เฮ้อ…”แจ็คสันรู้สึกขุ่นเคืองเล็กน้อย “เราพูดไว้ว่าเราจะย้ายมาอยู่ด้วยกัน… ดูเหมือนเราจะไม่พูดถึงเรื่องนี้อีกเลยงั้นเหรอ? ผมท้วงคุณเหรอ? ไม่ใช่ว่าคุณจะไปทำงานไม่ได้ถ้าคุณอยู่กับผมหนิ ผมขับรถไปส่งคุณแต่เช้ายังได้…”ทิฟฟานี่ยิงเขาด้วยสายตาดุดัน “นี่จะไม่เป็นปัญหาถ้าคุณปล่อยให้ฉันนอนตอนกลางคืนจริง ๆ แต่คุณจะไม่ทำงานเวลาที่คุณทำเสร็จมักจะดึกเสมอ ใครจะสามารถทนกับสิ่งนั้นได้? เราจะคุยกันเมื่องานของฉันเสถียรมากขึ้น เราจะหมั้นกันอย่างเป็นทางการในตอนนั้นและฉันสามารถย้ายเข้
ก่อนอาบน้ำ แอเรียนรู้สึกประหลาดใจเมื่อสังเกตเห็นแปรงสีฟันอีกอันในแก้วบนอ่างล้างหน้า มาร์คได้ใช้มันก่อนหน้านี้ หลังจากที่ครุ่นคิด เธอก็ตัดสินใจที่จะไม่ทิ้งมันไปเพราะการทิ้งมันไว้ตรงนั้นก็ไม่ได้เสียหายอะไร เธอปฏิเสธที่จะยอมรับว่าเธอรับรู้โดยไม่ได้ตั้งใจว่ามาร์คจะค้างคืนที่บ้านของเธอเป็นครั้งคราว นั่นเป็นเหตุผลที่เธอวางแปรงสีฟันนั้นไว้ตามลำพัง...เธอตรวจดูโทรศัพท์ของเธอหลังจากก้าวออกมาจากห้องน้ำและพบว่ามีสายที่ไม่ได้รับจากเบอร์แปลก หากมีการโทรเพียงครั้งเดียวอาจเป็นการโทรสแปม แต่หมายเลขนี้โทรหาเธอตั้งเจ็ดครั้ง เธอไม่ได้ยินเพราะเธออยู่ในห้องน้ำด้วยความสงสัย เธอจึงโทรกลับและไม่นานก็มีคนรับสาย เสียงของชายวัยกลางคนที่คุ้นเคยพูดจากอีกด้านว่า “คุณวินน์ ทำไมคุณถึงรับสายช้าจัง? ผมเป็น รปภ. ที่คอนโด มีบางคนมาที่นี่เพื่อพบคุณโดยอ้างว่าเป็นสมาชิกในครอบครัวของคุณ ผมไม่แน่ใจว่าควรปล่อยให้พวกเขาขึ้นไปหรือไม่ ผมก็เลยพยายามโทรหาคุณก่อน พวกเขาเป็นหญิงวัยกลางคนและหญิงชราบนรถเข็น”หญิงวัยกลางคนและหญิงชราบนรถเข็น? นั่นฟังดูน่าสงสัยสำหรับแอเรียนมากขึ้น เสียงในโทรศัพท์ฟังดูเหมือนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย