เขายืนอยู่ที่นั่นจนกระทั่งพยาบาลออกมาจากห้องผ่าตัดพร้อมกับบิล “ไปจัดการเรื่องบิล คนไข้อยู่ในมือเราแล้ว ไม่ต้องกังวล”ในที่สุดเขาก็ถูกดึงกลับสู่ความเป็นจริง เขาพยักหน้าและวิ่งไปที่เคาน์เตอร์เพื่อจัดการเรื่องเงินประมาณสิบนาทีต่อมา นาตาลีกับเอมิเลียมาถึงโรงพยาบาลเมื่อนาตาลีได้รับโทรศัพท์จากผู้ช่วยของซาเวียร์ เธอไม่อยากเชื่อเลยว่าชายที่เธอเพิ่งเห็นว่าไปทำงานในตอนเช้าจะประสบกับอุบัติเหตุทางรถยนต์อันที่จริง ซาเวียร์ ฟอสเตอร์เคยประสบอุบัติเหตุรถชน โชคไม่ดีที่สถานการณ์นั้นไม่ได้ดีเท่าไรคนขับได้ขับรถข้ามสี่แยกเมื่อเกิดเหตุ เขาแน่ใจว่าจะข้ามได้อย่างปลอดภัยก่อนจะเดินต่อไป แต่มีรถบรรทุกขนาดใหญ่พุ่งออกมาจากที่ไหนก็ไม่รู้และชนกับรถแม้ว่ารถยนต์ของซาเวียร์จะมีคุณภาพสูงอย่างไม่อาจเถียงได้ แต่ก็ยังไม่สามารถทนต่อผลกระทบของรถบรรทุกที่ชนเข้ากับรถยนต์ได้เป็นผลให้รถถูกเหวี่ยงขึ้นไปในอากาศหลังจากการชน รถชนกันเหมือนนกกระเรียนกระดาษข้อดีคือถังน้ำมันของรถได้รับการปกป้องเป็นพิเศษ จึงไม่รั่วไหลและทำให้เกิดไฟไหม้ ถุงลมนิรภัยถูกนำมาใช้ในเวลาที่เหมาะสมเพื่อช่วยชีวิตเขาถึงกระนั้น ก็ยังเป็นไปไม่ได้ที่ค
กรรมการและผู้ถือหุ้นมากกว่าสิบคนนั่งอยู่อีกด้านหนึ่งเนื่องจากจอห์นกับโจเอลมีอายุมากพอแล้ว ซาเวียร์จึงอนุญาตให้จอห์นจัดการเรื่องธุรกิจส่วนใหญ่ ปัจจุบันเขาอยู่หน้าที่กึ่งเกษียณดังนั้นแม้ว่าวันนี้จะมีผู้ถือหุ้นรายใหญ่จำนวนมาก แต่จอห์นเป็นประธานการประชุมผู้เข้าร่วมประชุมส่วนใหญ่ไม่มีข้อโต้แย้งใด ๆ ในหัวข้อนี้ท้ายที่สุด จอห์นได้พิสูจน์ว่าเขามีค่า เขาไม่ได้แย่ไปกว่าซาเวียร์เลย อันที่จริงเขามีศักยภาพที่เหนือกว่าพ่อของเขาทุกคนพอใจกับจอห์น ยิ่งไปกว่านั้น ซาเวียร์ต้องการมอบบริษัทให้กับเขามาตลอด แม้ว่าเขาจะไม่ได้ประกาศต่อสาธารณะ แต่ทุกคนรู้ดีว่าจอห์นจะเป็นเจ้าของในอนาคตของฟอสเตอร์ คอร์ปอเรชั่นในขณะนั้น ผู้เข้าร่วมประชุมสังเกตเห็นใบหน้าของจอห์นทำหน้าบึ้งตึง พวกเขาเริ่มตั้งคำถามว่าเกิดอะไรขึ้นในขณะเดียวกัน โทรศัพท์ของผู้ถือหุ้นสองสามคนก็มีเสียงออกมา เมื่อพวกเขาดึงโทรศัพท์ออกมาอย่างลับ ๆ ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความตกใจแม้ว่าจอห์นจะพยายามหาคนมาปกปิดข่าว แต่อุบัติเหตุก็เกิดขึ้นกลางถนนในเวลากลางวันแสก ๆสื่ออาจกลัวฟอสเตอร์และปฏิเสธที่จะรายงานเรื่องนี้ แต่คนที่เห็นเหตุการณ์คนอื่นไม่สน
หลังจากที่ได้มีเกิดเหตุการณ์แบบนี้ครั้งล่าสุด โจเอลไม่เชื่อว่าเอมิเลียจะมีบางอย่างเกี่ยวข้องกับพ่อแม่ของเขา ด้วยเหตุผลนี้เองที่เขาคิดว่า พวกเขาไม่ควรที่จะเจอหน้ากัน แต่ตอนนี้พวกเขาทั้งสองคนกำลังนั่งด้วยกันเหมือนเพื่อนที่สนิทกันมาก่อน เขาจึงรู้สึกมึนงงนาตาลีเม้มปากแต่ไม่ได้ตอบอะไรเธอคิดว่ามันดีที่จะไม่ตอบอะไรออกไป เอมิเลียจึงเป็นคนอธิบายว่า “ฉันมีเรื่องบางอย่างเลยมาหาท่านผู้หญิงฟอสเตอร์ และบังเอิญรู้ว่ามีเรื่องเกิดขึ้นกับท่านประธานฟอสเตอร์ ฉัยเลยมาด้วย”ในตอนนี้เธอตั้งใจเปลี่ยนการเรียกว่าพี่ซาเวียร์เป็นประธานฟอสเตอร์สำหรับเธอ โจเอลรู้แค่ว่าเธอ กับนาตาลีและซาเวียร์มีความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนกันสำหรับเรื่องนั้น เขาไม่แน่ใจในรายละเอียดมากนักเอมิเลียไม่ได้ตั้งใจจะเข้ามารบกวนชีวิตของพวกเขา เธอจึงไม่อยากบอกความสัมพันธ์จริง ๆ ของเธอกับพวกเขาโจเอลพยักหน้าฟังเข้าใจตอนนี้เขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้มากเช่นกันสิ่งเดียวที่ตอนนี้เขาทำได้คือ นั่งรอกับพวกเธอในตอนนั้นเองที่โทรศัพท์ของเขาดังขึ้นโจเอลหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เขาเหลือบมองนาตาลี หลังจากที่เขาเห็นชื่อบนหน้าจอเมื่อนาตาลีไม่ได้มีปฏ
นาตาลีรู้สึกโกรธมาก จนหน้าของเธอเปลี่ยนสี เอมิเลียรู้สึกกังวลที่เธอโกรธ เธอจึงอธิบาย “พี่ มันไม่ใช่อย่างที่พี่คิดเลยนะคะ เราเคยเจอกันโดยบังเอิญเมื่อสองสามวันก่อนเอง เรารู้จักกันแค่ไม่กี่วัน ไม่มีใครที่พยายามหรือปิดบังอะไรจากพี่เลยนะคะ เชื่อฉันสิ”ตอนนี้โจเอลไม่ต้องการทำให้แม่ของเขาเกรี้ยวกราดเขาจึงเสริมขึ้นมาว่า “ใช่ เราเจอกับคนมากมายในแต่ละวัน ผมจะรู้ได้ไงว่าใครมีส่วนเกี่ยวข้องกับแม่บ้าง? ผมไม่สามารถโทรหาแม่ได้ทุกวัน เพื่อที่จะรายงานให้แม่รู้ได้หรอกจริงไหมครับ?”น้ำเสียงของเขา บ่งบอกว่าเขาก็รู้สึกผิดนาตาลีฟัง แต่ก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราอย่างกระแหนะกระแหน เมื่อสังเกตได้ว่าโจเอลรู้สึกผิด“ก็ได้ ในเมื่อแกยังสวนกลับฉันอยู่ ฉันก็คงไม่มีอะไรพูด โอเค ฉันจะหุบปาก! อยากจะทำอะไรก็ทำไป ฉันไม่สามารถบังคับอะไรแกได้อีก ฉันขี้เกียจที่จะสนใจแกแล้ว!”เมื่อเธอพูดอย่างนั้น เธอก็กลับไปนั่ง แล้วเธอก็เริ่มโกรธไม่พูดไม่จาบรรยากาศจึงดูน่าอึดอัดมากโจเอลเหลือบมองไปที่เอมิเลียที่ส่ายหัวอย่างช่วยอะไรไม่ได้ในที่สุด เขาก็เข้าไปหานาตาลี เขาพูดกับเธอว่า “โอเค แม่ ถึงแม้ว่าพวกเราจะผิด แต่ผมก็ยังเป็นลูกของแ
หลังจากวางสาย โจเอลก็กลับไปที่แผนกผู้ป่วย เขามองผ่านกระจกเห็นแม่ของเขากำลังจัดห่มผ้าให้พ่อความกังวลและความเป็นห่วงปรากฏอยู่บนใบหน้าของเธอ ทำให้เธอดูแตกต่างไปจากเดิมมาก เขายืนอยู่ที่นั่นสักพัก ยังไม่เดินเข้าไปในห้องพักผู้ป่วย รอยยิ้มของเขาก็ขยับขึ้นตามสัญชาติญาณอันที่จริงแม่ของเขาเป็นอย่างนั้น โวยวายไปเรื่อยแต่ไม่มีอะไร เธอมักจะบ่นเรื่องพ่อ และคร่ำครวญตลอดว่าเขาไร้ความสามารถแค่ไหน แต่ในความเป็นจริงแล้ว เมื่อไหร่ที่มีอะไรเกิดขึ้นกับพ่อ เธอเป็นคนที่ห่วงเขามากที่สุดนี่อาจจะเป็นความรักที่ยิ่งใหญ่ และบริสุทธิ์ที่สุดในโลกก็ได้ขณะที่เขากำลังคิดอยู่นั้น เขาก็นึกถึงเอมิเลียอีกครั้ง คนอื่น ๆ อาจจะไม่ได้สังเกตท่าทางของเธอ แต่เขาเห็นมันเมื่อเอมิเลียได้เห็นพ่อเขา สายตาของเธอเปลี่ยนไปอย่างชัดเจนจากนั้นมันทำให้โจเอลหวนกลับไปนึกถึงที่พ่อของเขาซ่อนรูปของเอมิเลียไว้ในหนังสือ เขาคงกลัวที่ภรรยาของเขาจะรู้เรื่องนี้สินะความสัมพันธ์ที่แท้จริงของพวกเขาคืออะไรกัน? ทำไมแม่เขาถึงไม่ชอบเอมิเลียขนาดนั้น?นอกจากนี้แล้ว เอมิเลียมีความรู้สึกแบบไหนกับพ่อของเขา?โจเอลรู้สึกว่าเขาไม่มีโอกาสที่จะได
เมื่อซาเวียร์ฟื้นคืนสติแล้ว มันจึงเหมาะสมกว่าที่เขาจะจัดการเรื่องนี้เป็นการส่วนตัวอย่างไรก็ตาม ซาเวียร์ไม่ได้แสดงความคิดเห็นมากนักหลังจากอ่านข้อมูลแม้ว่าเขาจะเป็นประธานของสมาคมผู้อุปถัมภ์ และเป็นหัวหน้ากลุ่มอุปถัมภ์ในหมู่สี่ตระกูลที่ยิ่งใหญ่ แต่เรื่องของบริษัทส่วนใหญ่ก็ถูกส่งผ่านไปยังจอห์นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาส่วนเรื่องภายในของตระกูล ท่านผู้เฒ่าฟอสเตอร์ยังมีชีวิตอยู่ เขาอาศัยอยู่ทางใต้ แต่ด้วยการแสดงความเคารพ ซาเวียร์ยังคงขอคำแนะนำจากท่านผู้เฒ่าดังนั้นเขาไม่ได้ตัดความเป็นไปได้ที่จะมีใครบางคนต้องการฆ่าเขาเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวสิ่งเดียวที่จอห์นทำได้คือส่งคนมาสอบสวนเหตุการณ์นี้มากขึ้นก่อนหน้านั้น เขาได้ย้ายซาเวียร์ไปที่โรงพยาบาลเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก และมอบหมายให้บอดี้การ์ดมืออาชีพดูแลส่วนหลังแม้ความพยายามของฟอสเตอร์ในการที่จะเก็บเหตุการณ์นี้เป็นความลับ แต่พวกเขาก็ยังอยู่ในเมืองหลวงและเกิดอุบัติเหตุในเวลากลางวันแสก ๆ เป็นผลให้ผู้ที่มีความสัมพันธ์รอบ ๆ เมืองได้รับสิ่งนี้ในไม่ช้าลีย์ การเร็ตต์ และเกรแฮม ก็ไม่มีข้อยกเว้นทั้งสามครอบครัวส่งสมาชิกไปเยี่ยมซาเวียร์ เขาอาจจะปฏิเส
“แต่เธอยังไม่ได้บอกว่าเธอยกโทษให้ฉัน! พี่โนแลน มันเป็นความผิดของฉัน ฉันตาบอดเพราะความเห็นแก่ตัวของตัวเอง และทำร้ายเธออย่างรุนแรง“ฉันคิดเสมอว่าเหตุผลที่อยากกลับมาในช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมาคือ การอธิบายตัวเองกับเธอและเพื่อหลีกเลี่ยงความรู้สึกเสียใจ และฉันก็อยากเจอพี่ซาเวียร์อีกเช่นกัน“แต่ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าฉันผิดไปแล้ว ฉันไม่สนหรอกว่าพี่ซาเวียร์จะเป็นยังไง และไม่สนใจว่าฉันจะอธิบายตัวเองถูกต้องหรือไม่“สิ่งที่ฉันสนใจคือ เธอยังจำฉันได้หรือเปล่าว่าเป็นน้องสาวของเธอ ไม่ว่าเธอจะห่วงใยฉันหรือไม่ ไม่ว่าเธอจะยกโทษให้ฉัน! เข้าใจไหมพี่โนแลน?“ฉันพยายามสงบสติอารมณ์และแยกตัวเหมือนไม่สนใจ แต่ในความเป็นจริง ฉันเป็นคนเดียวที่รู้ว่า ฉันกังวลจริง ๆ!“ฉันกังวลว่าเธอจะเกลียดฉัน ฉันคิดเรื่องที่เธอให้โอกาสฉันอีกครั้งในชีวิตเมื่อ 26 ปีก่อน ถึงแม้ว่าเธอจะเกลียดฉันมากก็ตาม“ที่สำคัญที่สุด ฉันสนใจว่าฉันจะสามารถขอการอภัยจากเธอได้ หรือไม่ด้วยมุกตลกของชีวิตนี้“การเผชิญหน้ากับความตายเท่านั้นที่เข้าใจสิ่งที่สำคัญที่สุด ฉันขอร้องคุณพี่โนแลน ได้โปรดพาฉันไปหาเธออีกครั้ง ตกลงไหม?”สเปนเซอร์มองเธออย่างเคร่งขรึม
ในที่สุด เมื่อนาตาลีกำลังจะก้าวออกจากประตู เอมิเลียก็คุกเข่าลงพร้อมกับเสียงดังตุ๊บ“พี่สาว ได้โปรดยกโทษให้ฉันด้วย! สิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนั้นเป็นความผิดของฉัน ฉันรู้แล้วว่าความผิดพลาดของตัวเอง ในช่วง 26 ปีที่ผ่านมา ฉันโทษและบ่นตัวเอง ฉันเกลียดตัวเอง. ทำไมฉันถึงเป็นคนโง่ที่วางแผนอุบายต่อต้านพี่ และพี่ซาเวียร์?“แต่ตอนนั้นฉันยังเด็กและไร้เดียงสา เมื่อฉันพบเขา ฉันไม่รู้ว่าคุณทั้งคู่เป็นสามีภรรยากันอยู่แล้ว ฉันคิดเสมอว่าเขาชอบฉัน แต่เพราะฉันยังเด็ก เราเลยไม่ได้พูดถึงมัน“พอฉันรู้ทีหลังว่า การดูแลพิเศษที่เขามีต่อฉันก็แค่เพราะฉันเป็นน้องสาวของพี่ ฉันอิจฉา! อิจฉาจนแทบจะเป็นบ้า“ฉันถามเสมอว่าทำไมพี่ถึงมีทุกอย่างตั้งแต่เกิด ทั้งความสวย ครอบครัว สถานะ และเงินทอง พี่ไม่จำเป็นต้องทำงานอะไรเลย พี่สามารถได้ทุกอย่างได้เพียงแค่ยกมือ"แล้วฉันล่ะ? แม้ว่าฉันจะเป็นลูกสาวบุญธรรมของครอบครัวไรท์ ทุกคนก็รู้ว่าฉันเพิ่งถูกครอบครัวไรท์ซื้อมาเพื่อเป็นเพื่อนเล่นของพี่“เพราะพี่เป็นลูกสาวคนเดียวของพวกเขา พวกเขาปฏิบัติต่อพี่เหมือนอัญมณีล้ำค่า พวกเขายินดีที่จะซื้อคนที่มีชีวิตอิสระ เพื่อมาป็นของเล่นของคุณ“ฉันไม่