วิกกี้ลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วอธิบายว่า “ฉันออกไปนอกเมืองมา” เจนนี่งุนงงที่ได้ยินเช่นนั้น เธอจึงถามด้วยความสงสัย “พี่ไปทำอะไรที่นอกเมือง?” วิกกี้ไม่ต้องการให้เธอรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เธอจึงไม่ได้บอกความจริงกับเจนนี่ ดังนั้นเธอจึงตอบอย่างกระฉับกระเฉงว่า “เพื่อไปทำบางอย่างให้สำเร็จ” จากนั้นเธอก็เปลี่ยนหัวข้อ “สองสามวันนี้ถ้าหากว่าเธอว่างก็อยู่บ้านเป็นเพื่อนฉันนะ ฉันอยากจะไปซื้อเสื้อผ้าสักสองชุดในวันพรุ่งนี้ อย่าลืมจดไว้ด้วยว่าฉันเป็นหนี้เธอเท่าไหร่ ฉันจะคืนมันให้เธอในอีกสองวันที่จะถึง” เจนนี่พยักหน้า “ฉันลางานแล้วหนึ่งวัน และฉันก็ได้วางแผนไว้แล้วว่าฉันจะอยู่กับพี่สองวันเลย ส่วนเรื่องเงินไม่ต้องเป็นห่วงนะ ฉันสามารถจ่ายให้พี่ก่อนได้แล้วเราค่อยคุยกันเรื่องนี้ภายหลัง” เธอรู้ว่าวิกกี้มีเงินไม่มากนักเธอจึงไม่อยากพูดอะไรอีก วิกกี้รู้ว่าเจนนี่คิดอะไรอยู่ ในเวลานี้มันจึงไม่มีประโยชน์ที่เธอจะอธิบายอะไรมากเกินไป ดังนั้นเธอจึงไม่พูดถึงมันอีกเช่นกัน ค่ำคืนนั้นผ่านไปอย่างสงบ เพื่อนร่วมบ้านของเจนนี่ทั้งสองคนกลับมาในตอนเช้าของวันรุ่งขึ้น พวกเธอเมาหนักมากจนอาเจียนลงบนพื้น พวกเธอต่างจากเจนนี่
เกรกอรี่กำลังโอบกอดผู้หญิงคนนั้นไว้ในอ้อมแขนของเขา ผู้หญิงคนนั้นมีรูปร่างที่งดงาม เธออยู่ในชุดเดรสยาวสีแดงไวน์ แม้ว่าเธอจะเคลื่อนไหวอย่างอ่อนโยน แต่ยังสามารถมองเห็นสายตาอันขี้เล่นของเธอได้ ผู้หญิงคนนั้นเอนร่างกายของเธอเข้าไปในอ้อมกอดของเกรกอรีราวกับว่าเธอไร้กระดูก ความลึกของเดรสที่เธอกำลังสวมใส่ สามารถหยุดสายตาของผู้คนได้ และคงไม่มีชายคนใดที่จะสามารถต้านทานมันได้เลย ชายคนนั้นกำลังนั่งอยู่ที่นั่นอย่างผ่อนคลาย มือข้างหนึ่งของเขาโอบที่รอบเอวของผู้หญิงคนนั้นด้วยความเกียจคร้าน และมืออีกข้างหนึ่งก็กำลังกุมขมับของเขาเอาไว้ เขาเอนตัวพิงโซฟาอย่างเย้อหยิ่งด้วยออร่าที่แสดงออกมาอย่างอวดดี จากนั้นใครบางคนก็ทำให้อารมณ์ที่กำลังสนุกสนานของทั้งสองคนหลุดลอยไป เกรกอรีเงยหน้าขึ้นและเหลือบมองมายังวิกกี้ แววตาของเขาไม่ได้เปลี่ยนแปลง ราวกับว่าเขาไม่ได้รู้สึกอึดอัดหลังจากการถูกรบกวน "เธอเป็นใคร? เข้ามาที่นี่ได้ยังไง? เธอไม่รู้หรือว่าเรากำลังทำธุระกันอยู่?” ทำธุระ? ทำธุระอะไร? ธุระโรแมนติกระหว่างชายหญิง? ริมฝีปากของวิกกี้โค้งเว้าอย่างเย้ยหยัน อันที่จริงวิกกี้รู้ดีว่า เกรกอรีไม่ได้อยู่คนเด
เกรกอรีถามทั้ง ๆ ที่เขาไม่ได้อยากรู้ พ่อบ้านออสบอร์นเข้าไปที่ห้องทำงานของเขา และนำเงินหนึ่งหมื่นดอลลาร์จากบัญชีสาธารณะของปราสาทออกมา จากนั้นเขาก็นำเงินใส่ในบัตรธนาคารเพื่อนำไปให้วิกกี้ ในขณะที่เขาเดินออกไป เขาก็พบกับยูเลียนาที่เพิ่งกลับออกมาจากอาคารหลักด้วยความประหลาดใจ คฤหาสน์แห่งนี้กว้างขวางมาก ดังนั้นพ่อบ้านออสบอร์นจึงรู้สึกแปลกใจ นอกจากอาคารหลักแล้ว ภายในคฤหาสน์ยังมีอาคารเสริมอื่น ๆ อีกสามถึงสี่หลัง ปกติแล้วเกรกอรีจะอาศัยอยู่ในอาคารหลัก ในขณะที่ยูเลียนาอาศัยอยู่ในอาคารเสริมที่อยู่ด้านในสุด ดังนั้นจึงมีอาคารเสริมที่เหลือว่างอยู่อีกหลายหลัง เมื่อรู้ว่าวิกกี้จะย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่ พ่อบ้านออสบอร์นคิดว่าเกรกอรีจะให้เธออยู่อาคารเสริมหลังอื่นเป็นการส่วนตัว อย่างไรก็ตาม เขาไม่คิดว่าเกรกอรีจะให้วิกกี้อยู่ภายในอาคารเสริมเดียวกันกับยูเลียนา เกรกอรีบอกเขาว่าคฤหาสน์มีคนใช้น้อยเกินไป ดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากที่จะจัดการ และดูแลวิกกี้ได้ถ้าหากว่าเธออยู่ไกลเกินไป พระเจ้ารู้ดีว่า แม้แต่คนกวาดพื้นก็ยังมีมากว่าสิบคนที่อยู่ภายในคฤหาสน์หลังนี้ และจำนวนนั้นก็ยังไม่รวมคนรับใช้อีกด้วย แต่ถึง
โรสน้อยตกใจทันที ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ต้องการยอมรับมันแต่มันก็เป็นเรื่องยากที่จะยอมรับได้ว่า นายน้อยคนโตและนายน้อยรองนั้น ไม่ใช่คู่แข่งที่เหมาะสมของเกรกอรี เกรแฮมอย่างแน่นอน เธอลังเลอยู่ครู่หนึ่งและในที่สุดเธอก็พูดความจริง “มะ…ไม่” คุณนายเกรแฮมหัวเราะอย่างไม่ถือสา เธอถอนหายใจและพูดว่า “ใช่แล้ว พวกเขาไม่ใช่คู่แข่งที่เหมาะสมของเกรกอรีเลย ตอนนี้แฮร์ริสันเองก็แก่มากแล้ว เห็นได้ชัดว่าในอนาคตใครจะได้สืบทอดเกรแฮม คอร์ปอเรชั่น ในฐานะแม่เลี้ยงที่ไม่เคยได้อยู่ดูแลเขาในตอนที่เขายังเป็นเด็ก ดังนั้นความรักที่เขามีต่อฉันมันอาจจะน้อยกว่าที่เขามีให้กับคนรับใช้ที่นี่เสียอีก” “มองดูจากสถานการณ์นี้แล้ว เมื่อแฮร์ริสันชราภาพหรือจากไป เธอคิดว่าเราสามคนจะใช้ชีวิตที่เหลือของเราได้ยังไง?” โรสน้อยตกตะลึงอย่างสมบูรณ์ เธอมองเห็นแต่สิ่งที่อยู่ตรงหน้าเธอ และไม่พอใจกับทัศนคติของเกรกอรีที่มีต่อคุณนายเกรแฮมในก่อนหน้านี้ แต่เธอไม่เคยคิดเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้เลย คุณนายเกรแฮมส่ายหัวและถอนหายใจอีกครั้ง “เธอคิดว่าฉันยินดีที่จะเข้ามาในที่ของผู้หญิงอีกคนของแฮร์ริสัน และมองดูทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอทิ้งไว้ ดูแลลูกชา
ในสถานที่ที่วิกกี้ได้อาศัยอยู่ มีพร้อมทั้งอาหารเตรียมไว้ให้กับเธอ ดังนั้นเธอจึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้เงินมากมายนัก ทั้งหมดที่เธออยากจะทำก็คือ เอาเงินให้กับเจนนี่ไว้เพื่อลงทุนหลังจากที่เจนนี่ได้ฟังแบบนั้นแล้ว เธอจึงทิ้งความลังเลและความกังวลในใจออกไป พลางยอมรับเงินนั้นไว้ด้วยความโล่งใจวิกกี้ไม่อยากอยู่กับเจนนี่นานจนเกินไป เธอจึงรีบกลับไปอย่างรวดเร็วเมื่อเธอกลับมาถึงที่คฤหาสน์ เธอก็ได้สังเกตเห็นรถคันหนึ่งที่เธอไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนจอดอยู่ข้างนอกเธอเลิกคิ้วขึ้นด้วยความสงสัยพลางเดินลงจากรถ ก่อนที่เธอจะเดินเข้าไปในอาคาร เธอก็ได้ยินเสียงเหมือนผู้หญิงคนหนึ่งกำลังโมโหอยู่“ใครเป็นคนอนุญาตให้พวกเธอพาผู้หญิงคนนี้เข้ามากันมิทราบ? พวกเธอไม่รู้กันเลยเหรอว่าผู้หญิงคนนี้ไม่มีคุณสมบัติเพียงพอที่จะเข้ามายังตระกูลเกรแฮม?”น้ำเสียงที่เปล่งออกมาของผู้หญิงคนนี้ไม่ได้ปิดบังความโกรธเอาไว้เลย วิกกี้หันหน้าไปมองและเห็นพ่อบ้านออสบอร์นจากหางตาของเธอ เขาวางมือไว้แนบชิดกายของเขาด้วยท่าทีที่สงบเสงี่ยม และก้มศีรษะลงราวกับว่าเขาไม่ได้รับฟังอะไรเลยแม้แต่น้อยภาพความทรงจำได้แวบเข้ามาในดวงตาของเธอ วิกกี้
เมื่อทุกคนกำลังคิดว่าเรื่องราวนี้จะจบลงในแบบที่วิกกี้จะต้องถูกครอบครัวเกรแฮมโยนทิ้งไป ทันใดนั้นเองเสียงทุ้มต่ำที่แสนจะเย็นชา และเหมือนมึนเมาเล็กน้อยก็ดังขึ้นมาจากทางเข้า“นี่พวกเธอกำลังทำอะไรกันอยู่?”ร่างสูงยาวที่สวมรองเท้าหนังคู่หนึ่งกำลังเดินอยู่บนพื้นหินอ่อน ทำให้เกิดเสียงกระทบกันที่สดใส ปรากฏในสายตาของทุกคนที่อยู่ที่นั้นขณะที่เขายืนอยู่ตรงทางเข้าภายใต้แสงไฟที่สาดส่องเข้ามา จึงทำให้ทุกคนที่อยู่ในห้องนั่งเล่นไม่สามารถมองเห็นใบหน้าของเขาได้อย่างชัดเจน แต่เท่าที่ได้ฟังน้ำเสียงโทนต่ำของเขาก็รับรู้ได้เลยว่าเขาไม่มีความสุขลักษณะท่าทางของชายคนนี้เป็นเหมือนกับก้อนหินที่ตกลงไปในทะเลสาบ พื้นที่ที่มีผลต่อหัวใจของทุกคนก็เหมือนกับระลอกคลื่นในน้ำที่แตกต่างกันไปหมดคุณนายเกรแฮมหน้าตาซีดเผือด มือของโรสน้อยกำลังลอยอยู่กลางอากาศ คนรับใช้ที่เหลือต่างพากันก้มหน้าลงต่ำ และแม้แต่พ่อบ้านออสบอร์นเองก็ก้มหน้าลงเช่นเดียวกัน แขนที่เคยไขว้กันไว้ในก่อนหน้านี้ได้เปลี่ยนตำแหน่งไป ราวกับว่าเขากำลังโบกมือให้กับเกรกอรีมีเพียงแค่วิกกี้เท่านั้นที่กำลังยืนอยู่กลางห้องนั่งเล่น และไม่ขยับตัวเลยแม้แต่นิ้วเดียว ส
อันที่จริงเมื่อตอนที่วิกกี้และเกรกอรียังคงสนิทสนมกันอยู่ มันเหมือนกับว่าเธอไม่เคยรู้ตัวมาก่อนเลยว่ามีคนคอยคุ้มกันอยู่ใกล้ ๆมันเป็นเพียงสิ่งที่พวกเขาสังเกตเห็นได้ในตอนนั้น และในตอนนี้สิ่งต่าง ๆ ได้ถูกปิดบังเอาไว้ เห็นได้ชัดว่าเกรกอรีได้ปรับปรุงระบบการรักษาความปลอดภัยของคฤหาสน์ของเขาไว้เป็นอย่างดีในฐานะของนักฆ่าที่เก่งกาจ เธอชำชองกับการทำความคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมรอบตัวของเธอได้เป็นอย่างดี แต่ถึงอย่างนั้น เธอกลับไม่ได้นึกถึงระบบรักษาความปลอดภัยที่ซ่อนอยู่ไว้มากมายนัก ท้ายที่สุดเกรกอรีเขาก็เป็นคนที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวยิ่งไปกว่านั้น ตระกูลเกรแฮมก็รวยมาก ๆ อีกด้วย!คนรวยมักจะดูแลรักษาชีวิตของตนไว้เป็นอย่างดี หากพวกเขาไม่จ้างเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่มีทักษะสูงมาปกป้องและป้องกันพวกเขาในทุก ๆ วันแล้ว จะเกิดอะไรขึ้นถ้าหากว่าวันนึงเกิดมีใครบางคนตั้งใจจะปล้นพวกเขาด้วยอาวุธปืนขึ้นมาอีกอย่างจงพึงรู้ตัวไว้อยู่เสมอว่ามีคนจำนวนมากที่เกลียดชังพวกคนรวยบนโลกใบนี้ถึงอย่างนั้นเธอก็จดบันทึกทุกอย่างเอาไว้ เพื่อจดจำตำแหน่งจุดระบบรักษาความปลอดภัยที่ซ่อนเอาไว้อยู่ภายในค่ำคืนที่มืดมิด และมีลมพัดแร
เสียงฝีเท้าของวิกกี้นั้นเงียบสงบแต่มั่นคงในทุกอย่างย่างก้าวที่เดิน ราวกับมีค้อนขนาดใหญ่ได้เคาะหัวใจของเธอด้วยความอ่อนโยน มันอาจจะไม่ได้รู้สึกเจ็บปวด แต่คุณจะสามารถรับรู้ได้ถึงความเศร้าโศกปนกับความทุกข์ทรมานของเธอหลังจากที่ชายกระโปรงของผู้หญิงคนนั้นพ้นผ่านไปจากทางเข้าของประตูห้อง ประตูห้องสมุดก็ค่อย ๆ ถูกเปิดออกอย่างเงียบ ๆ เกรกอรีเลิกคิ้ว ขณะที่ประตูห้องของเธอถูกปิดลงด้วยเสียงดังปังในขณะนั้นเองน้ำเสียงเย้ยหยันของผู้ชายคนหนึ่งก็ได้ดังเข้ามาในหูฟังของเกรกอรี“เจ้านายครับ ทำไมคุณถึงไม่แสดงความขอบคุณที่พี่สะใภ้ได้เข้ามาหาถึงที่ประตูในตอนดึกขนาดนี้ละครับ?”น้ำเสียงแดกดันดังขึ้นผ่านจากหูฟังชายคนนั้นกดริมฝีปากของเขาไว้ให้เป็นเส้นตรง เขาย้อนนึกกลับไปยังสถานการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อสองนาทีที่แล้ว กับผู้หญิงที่ยืนพิงขอบประตูห้องของเขาด้วยความเกียจคร้านในชุดนอนสีม่วงแดงดวงตาของเขาหรี่ลงพลางพูดออกมาด้วยความเย็นชาว่า “ดูเหมือนว่าช่วงนี้นายจะมีเวลาเหลือค่อนข้างมากนะ ฉันว่าฉันควรจะพาเซเลน่าไปฝึกซ้อมกับนายจะดีไหม?” “ห๊ะ ไม่นะ ไม่!” อีกฝั่งของเสียงรีบเปลี่ยนคำพูดของเขาอย่างรวดเร็ว “ผมไม่ได