โรสน้อยตกใจทันที ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ต้องการยอมรับมันแต่มันก็เป็นเรื่องยากที่จะยอมรับได้ว่า นายน้อยคนโตและนายน้อยรองนั้น ไม่ใช่คู่แข่งที่เหมาะสมของเกรกอรี เกรแฮมอย่างแน่นอน เธอลังเลอยู่ครู่หนึ่งและในที่สุดเธอก็พูดความจริง “มะ…ไม่” คุณนายเกรแฮมหัวเราะอย่างไม่ถือสา เธอถอนหายใจและพูดว่า “ใช่แล้ว พวกเขาไม่ใช่คู่แข่งที่เหมาะสมของเกรกอรีเลย ตอนนี้แฮร์ริสันเองก็แก่มากแล้ว เห็นได้ชัดว่าในอนาคตใครจะได้สืบทอดเกรแฮม คอร์ปอเรชั่น ในฐานะแม่เลี้ยงที่ไม่เคยได้อยู่ดูแลเขาในตอนที่เขายังเป็นเด็ก ดังนั้นความรักที่เขามีต่อฉันมันอาจจะน้อยกว่าที่เขามีให้กับคนรับใช้ที่นี่เสียอีก” “มองดูจากสถานการณ์นี้แล้ว เมื่อแฮร์ริสันชราภาพหรือจากไป เธอคิดว่าเราสามคนจะใช้ชีวิตที่เหลือของเราได้ยังไง?” โรสน้อยตกตะลึงอย่างสมบูรณ์ เธอมองเห็นแต่สิ่งที่อยู่ตรงหน้าเธอ และไม่พอใจกับทัศนคติของเกรกอรีที่มีต่อคุณนายเกรแฮมในก่อนหน้านี้ แต่เธอไม่เคยคิดเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้เลย คุณนายเกรแฮมส่ายหัวและถอนหายใจอีกครั้ง “เธอคิดว่าฉันยินดีที่จะเข้ามาในที่ของผู้หญิงอีกคนของแฮร์ริสัน และมองดูทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอทิ้งไว้ ดูแลลูกชา
ในสถานที่ที่วิกกี้ได้อาศัยอยู่ มีพร้อมทั้งอาหารเตรียมไว้ให้กับเธอ ดังนั้นเธอจึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้เงินมากมายนัก ทั้งหมดที่เธออยากจะทำก็คือ เอาเงินให้กับเจนนี่ไว้เพื่อลงทุนหลังจากที่เจนนี่ได้ฟังแบบนั้นแล้ว เธอจึงทิ้งความลังเลและความกังวลในใจออกไป พลางยอมรับเงินนั้นไว้ด้วยความโล่งใจวิกกี้ไม่อยากอยู่กับเจนนี่นานจนเกินไป เธอจึงรีบกลับไปอย่างรวดเร็วเมื่อเธอกลับมาถึงที่คฤหาสน์ เธอก็ได้สังเกตเห็นรถคันหนึ่งที่เธอไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนจอดอยู่ข้างนอกเธอเลิกคิ้วขึ้นด้วยความสงสัยพลางเดินลงจากรถ ก่อนที่เธอจะเดินเข้าไปในอาคาร เธอก็ได้ยินเสียงเหมือนผู้หญิงคนหนึ่งกำลังโมโหอยู่“ใครเป็นคนอนุญาตให้พวกเธอพาผู้หญิงคนนี้เข้ามากันมิทราบ? พวกเธอไม่รู้กันเลยเหรอว่าผู้หญิงคนนี้ไม่มีคุณสมบัติเพียงพอที่จะเข้ามายังตระกูลเกรแฮม?”น้ำเสียงที่เปล่งออกมาของผู้หญิงคนนี้ไม่ได้ปิดบังความโกรธเอาไว้เลย วิกกี้หันหน้าไปมองและเห็นพ่อบ้านออสบอร์นจากหางตาของเธอ เขาวางมือไว้แนบชิดกายของเขาด้วยท่าทีที่สงบเสงี่ยม และก้มศีรษะลงราวกับว่าเขาไม่ได้รับฟังอะไรเลยแม้แต่น้อยภาพความทรงจำได้แวบเข้ามาในดวงตาของเธอ วิกกี้
เมื่อทุกคนกำลังคิดว่าเรื่องราวนี้จะจบลงในแบบที่วิกกี้จะต้องถูกครอบครัวเกรแฮมโยนทิ้งไป ทันใดนั้นเองเสียงทุ้มต่ำที่แสนจะเย็นชา และเหมือนมึนเมาเล็กน้อยก็ดังขึ้นมาจากทางเข้า“นี่พวกเธอกำลังทำอะไรกันอยู่?”ร่างสูงยาวที่สวมรองเท้าหนังคู่หนึ่งกำลังเดินอยู่บนพื้นหินอ่อน ทำให้เกิดเสียงกระทบกันที่สดใส ปรากฏในสายตาของทุกคนที่อยู่ที่นั้นขณะที่เขายืนอยู่ตรงทางเข้าภายใต้แสงไฟที่สาดส่องเข้ามา จึงทำให้ทุกคนที่อยู่ในห้องนั่งเล่นไม่สามารถมองเห็นใบหน้าของเขาได้อย่างชัดเจน แต่เท่าที่ได้ฟังน้ำเสียงโทนต่ำของเขาก็รับรู้ได้เลยว่าเขาไม่มีความสุขลักษณะท่าทางของชายคนนี้เป็นเหมือนกับก้อนหินที่ตกลงไปในทะเลสาบ พื้นที่ที่มีผลต่อหัวใจของทุกคนก็เหมือนกับระลอกคลื่นในน้ำที่แตกต่างกันไปหมดคุณนายเกรแฮมหน้าตาซีดเผือด มือของโรสน้อยกำลังลอยอยู่กลางอากาศ คนรับใช้ที่เหลือต่างพากันก้มหน้าลงต่ำ และแม้แต่พ่อบ้านออสบอร์นเองก็ก้มหน้าลงเช่นเดียวกัน แขนที่เคยไขว้กันไว้ในก่อนหน้านี้ได้เปลี่ยนตำแหน่งไป ราวกับว่าเขากำลังโบกมือให้กับเกรกอรีมีเพียงแค่วิกกี้เท่านั้นที่กำลังยืนอยู่กลางห้องนั่งเล่น และไม่ขยับตัวเลยแม้แต่นิ้วเดียว ส
อันที่จริงเมื่อตอนที่วิกกี้และเกรกอรียังคงสนิทสนมกันอยู่ มันเหมือนกับว่าเธอไม่เคยรู้ตัวมาก่อนเลยว่ามีคนคอยคุ้มกันอยู่ใกล้ ๆมันเป็นเพียงสิ่งที่พวกเขาสังเกตเห็นได้ในตอนนั้น และในตอนนี้สิ่งต่าง ๆ ได้ถูกปิดบังเอาไว้ เห็นได้ชัดว่าเกรกอรีได้ปรับปรุงระบบการรักษาความปลอดภัยของคฤหาสน์ของเขาไว้เป็นอย่างดีในฐานะของนักฆ่าที่เก่งกาจ เธอชำชองกับการทำความคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมรอบตัวของเธอได้เป็นอย่างดี แต่ถึงอย่างนั้น เธอกลับไม่ได้นึกถึงระบบรักษาความปลอดภัยที่ซ่อนอยู่ไว้มากมายนัก ท้ายที่สุดเกรกอรีเขาก็เป็นคนที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวยิ่งไปกว่านั้น ตระกูลเกรแฮมก็รวยมาก ๆ อีกด้วย!คนรวยมักจะดูแลรักษาชีวิตของตนไว้เป็นอย่างดี หากพวกเขาไม่จ้างเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่มีทักษะสูงมาปกป้องและป้องกันพวกเขาในทุก ๆ วันแล้ว จะเกิดอะไรขึ้นถ้าหากว่าวันนึงเกิดมีใครบางคนตั้งใจจะปล้นพวกเขาด้วยอาวุธปืนขึ้นมาอีกอย่างจงพึงรู้ตัวไว้อยู่เสมอว่ามีคนจำนวนมากที่เกลียดชังพวกคนรวยบนโลกใบนี้ถึงอย่างนั้นเธอก็จดบันทึกทุกอย่างเอาไว้ เพื่อจดจำตำแหน่งจุดระบบรักษาความปลอดภัยที่ซ่อนเอาไว้อยู่ภายในค่ำคืนที่มืดมิด และมีลมพัดแร
เสียงฝีเท้าของวิกกี้นั้นเงียบสงบแต่มั่นคงในทุกอย่างย่างก้าวที่เดิน ราวกับมีค้อนขนาดใหญ่ได้เคาะหัวใจของเธอด้วยความอ่อนโยน มันอาจจะไม่ได้รู้สึกเจ็บปวด แต่คุณจะสามารถรับรู้ได้ถึงความเศร้าโศกปนกับความทุกข์ทรมานของเธอหลังจากที่ชายกระโปรงของผู้หญิงคนนั้นพ้นผ่านไปจากทางเข้าของประตูห้อง ประตูห้องสมุดก็ค่อย ๆ ถูกเปิดออกอย่างเงียบ ๆ เกรกอรีเลิกคิ้ว ขณะที่ประตูห้องของเธอถูกปิดลงด้วยเสียงดังปังในขณะนั้นเองน้ำเสียงเย้ยหยันของผู้ชายคนหนึ่งก็ได้ดังเข้ามาในหูฟังของเกรกอรี“เจ้านายครับ ทำไมคุณถึงไม่แสดงความขอบคุณที่พี่สะใภ้ได้เข้ามาหาถึงที่ประตูในตอนดึกขนาดนี้ละครับ?”น้ำเสียงแดกดันดังขึ้นผ่านจากหูฟังชายคนนั้นกดริมฝีปากของเขาไว้ให้เป็นเส้นตรง เขาย้อนนึกกลับไปยังสถานการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อสองนาทีที่แล้ว กับผู้หญิงที่ยืนพิงขอบประตูห้องของเขาด้วยความเกียจคร้านในชุดนอนสีม่วงแดงดวงตาของเขาหรี่ลงพลางพูดออกมาด้วยความเย็นชาว่า “ดูเหมือนว่าช่วงนี้นายจะมีเวลาเหลือค่อนข้างมากนะ ฉันว่าฉันควรจะพาเซเลน่าไปฝึกซ้อมกับนายจะดีไหม?” “ห๊ะ ไม่นะ ไม่!” อีกฝั่งของเสียงรีบเปลี่ยนคำพูดของเขาอย่างรวดเร็ว “ผมไม่ได
ในห้องนั่งเล่นที่อาคารรับรองหลักเกรกอรีที่กำลังนั้งรออยู่ตรงนั้นแต่งตัวจัดเต็มเลยทีเดียวปกติจะไม่ค่อยเห็นเขาใส่ชุดสีขาวสบายตาแบบนี้สักเท่าไหร่ เหมือนว่าความขาวนั้นได้ชะล้างความหมองคล้ำของเขาออกไป จึงทำให้เขาดูสดใสและหล่อเหลาขึ้นมาในทันตา มันให้ความรู้สึกเหมือนกับว่าเขาได้กลับมาเป็นเด็กนักเรียนมหาวิทยาลัยอีกครั้งที่นั่งอยู่ข้าง ๆ กับเขาเป็นชายท่าทางมูมมามคนหนึ่งที่กำลังทิ้งตัวพิงโซฟาด้วยท่าทีเก้ ๆ กัง ๆ ในขณะที่ในมือของเขากำลังถือองุ่นพวงหนึ่งพลางยัดใส่ปากทีละชิ้น“นี่นายจะบ้าไปแล้วเหรอเกรกอรี? ไม่ใช่ว่านายเคยบอกไว้เหรอว่านายไม่เคยรอผู้หญิงคนไหน? ใครคือสาวงามที่ทำให้นายต้องมานั้งรออยู่แบบนี้กัน?”ความจริงแล้วเขาตื่นนอนตั้งแต่ตอนเช้าตรู่ ดังนั้นเขาคิดว่าเขาควรจะรอต่อไปอีกสักหน่อยเกรกอรีกำลังอ่านข่าวบนไอแพดของเขา พลางเหลือบตามองขึ้นไปที่มัสซิโม โนแลนผิวของเขาซีดเผือด ราวกับก้อนน้ำแข็งที่มีอายุมานับร้อยล้านปี“นายจะกลับเลยก็ได้นะถ้าลำคานมากละก็”สีหน้าของมัสซิโมเปลี่ยนไปด้วยความน่ากลัว เขารีบพูดแย้งขึ้นมาว่า “เฮ้ อย่าใส่ใจเลย ฉันก็แค่พูดล้อเล่นเอง”เมื่อพูดจบ เขาก็เอนร่างกาย
เกรกอรีและยูเลียนา เดินเข้าไปขึ้นรถโรลส์รอยซ์ซึ่งจอดรออยู่ด้านหน้าแล้ววิกกี้ยืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่มัสซิโมจะตามหลังเธอมาติด ๆเขาเป็นคนร่าเริงและมีไหวพริบที่ดี เขาเห็นมาแต่ไกลว่าเกรกอรีและยูเลียนาได้ขึ้นรถคันแรกไปแล้ว มันจึงทำให้เขารู้สึกแย่แทนวิกกี้ เขารีบพูดกับเธอด้วยรอยยิ้มว่า “คุณโธมัสครับ คุณรังเกียจไหมถ้าเราจะนั้งรถคันเดียวกัน”วิกกี้เปิดประตูรถเลกซัสแล้วกระโดดขึ้นไปนั้งบนเบาะทันทีในเวลาเดียวกัน เธอก็ตอบคำถามของเขาว่า “แล้วแต่คุณเลยละกันค่ะ”มัสซิโมกำลังเดิมพันอยู่เขารู้สึกเหมือนว่าตัวเขาเองเป็นคนกลางที่กำลังติดอยู่ระหว่างคนสองคนที่มีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีเท่าไหร่นักเมื่อคิดว่าพวกเขาเป็นหนี้บุญคุณกันมากมายขนาดนี้ แต่ก็ยังมีความซาบซึ้งต่อกันจนอาจจะเรียกได้ว่าเป็นความบาดหมางกันทั้งตระกูลเลยก็ว่าได้ เขาส่ายหัวและตัดสินใจที่จะทำเป็นไม่สนใจกับเรื่องนี้ เขาเดินไปที่ประตูอีกฝั่งแล้วกระโดดขึ้นรถสนามกอล์ฟที่พวกเขากำลังจะไปนั้นอยู่ไม่ไกลจากคฤหาสน์มากนัก เพราะว่าเป็นสนามกอล์ฟของเกรกอรีนั้นเองการเดินทางไปที่นั่นใช้เวลาเพียงแค่ยี่สิบนาทีเท่านั้นคนขับรถส่วนตัวปล่อยให้พวกเขาล
ชายคนนั้นถอยหลังกลับไปสองสามก้าวเนื่องจากโดนแรงปะทะ และแน่นอนว่าเขาไม่สามารถเอื้อมมือไปถึงลูกกอล์ฟได้ วิกกี้จึงรีบฉวยโอกาสจากสิ่งนี้เธอพยายามตั้งท่าให้ดีที่สุด ขณะที่เธอกำลังจะทำคะแนนได้นั้น ผู้ชายที่อยู่ข้างหลังของเธอก็รีบหยุดเธอเอาไว้ด้วยไม้กอล์ฟของเขา เธอรู้สึกเหมือนกับว่ามีมือที่แข็งแรงกำลังดึงแขนของเธอออก ซึ่งนั้นทำให้เธอเสียโอกาสในการทำคะแนนอีกครั้งวิกกี้เริ่มรู้สึกรำคาญเต็มทนมาถึงตอนนี้ พวกเขาทั้งคู่รู้แล้วว่าพวกเขาแต่ละคนมีเล่ห์เหลี่ยมสกปรกอยู่มากมาย การแข่งขันในรอบนี้ไม่ใช่แค่การเล่นของเล่นเด็กอีกต่อไปวิกกี้ก้มโค้งหลังของเธอลง ดวงตาของเธอคมกริบ ในขณะที่เกรกอรีก็ทำการป้องกันเช่นเดียวกันเธอกัดฟันกรอด “วันนี้คุณจะต้องแพ้แน่นอน”เกรกอรียิ้มออกมาอย่างเย็นชา “นี่คุณมั่นใจขนาดนั้นเลยเหรอ?”"แน่นอนที่สุด!"เมื่อเธอพูดจบ เธอก็พุ่งตัวผ่านช่องว่างระหว่างวงแขนของเขาอย่างรวดเร็วในทันทีเกรกอรีขมวดคิ้ว เขาไม่มีเวลามาตอบกลับเมื่อเธอคว้าไม้กอล์ฟได้และกระโจนตัวไปทางขวาของเกรกอรีอย่างกระฉับกระเฉงและว่องไว มือขวาของเธอแกว่งไปมาเบา ๆ และทำให้ลูกกอล์ฟลอยขึ้นไปบนอากาศด้วยการตีเบา ๆ จากการ