วิกกี้ โทมัสขมวดคิ้วเข้าหากัน ใบหน้าของเธอดูกระวนกระวาย หลังจากถูกรบกวนด้วยเสียง เธอเอ่ยถามว่า “ใครอยู่ข้างนอกนั่น?”แอนเดรียเดินเข้าไปทางประตูแล้วกระซิบว่า "คุณลินช์ค่ะ"วิกกี้ขมวดคิ้วหนักเข้าไปอีกนังแม่มดเจ้าเล่ห์คนนั้นอีกแล้วเหรอ?เธอมาทำอะไรที่นี่?ไม่ว่าเธอจะมาที่นี่เพื่ออะไร แต่เธอก็ส่งเสียงดังมากจนวิกกี้ไม่สามารถงีบหลับได้เลยและเนื่องจากว่าเธอไม่สามารถงีบหลับได้ เธอก็อาจจะต้องลุกขึ้นให้ได้เช่นกันวิกกี้ลุกจากเตียงด้วยความไม่เต็มใจ และขอให้แอนเดรียเข็นรถพาเธอออกไปเมื่อเธอออกไปข้างนอก เธอก็เห็นว่า ยูเลียนา ลินช์ กำลังตำหนิสาวใช้อยู่พวกเธออาศัยอยู่ในอาคารเสริมเดียวกัน และห้องพักของพวกเธอก็อยู่ชั้นเดียวกัน แต่ว่าอยู่คนละฝั่งของอาคารในวันปกติธรรมดา วิกกี้จะไม่ค่อยออกไปไหนมากนัก จึงถือว่าเป็นเรื่องยากที่พวกเธอสองคนจะเจอกัน เว้นแต่ว่าจะมีใครบางคนจงใจรออยู่ที่นั้นด้วยเหตุนี้พวกเธอทั้งสองคนจึงอยู่ด้วยกันได้มาเป็นเวลานานโดยไม่มีความขัดแย้งกันในตอนนี้เห็นได้ชัดเลยว่า ยูเลียนากำลังยืนอยู่ที่นั่นโดยเอาแขนโอบเอวของเธอเอาไว้ และกำลังด่าสาวใช้จากอาคารเสริมอยู่วิกกี้จำสาวใช้
ยูเลียนาสามารถทำร้ายแอนเดรียได้ตามที่เธอต้องการได้อย่างไร?ยูเลียนาลุกขึ้นยืนพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า เธอปรบมือและพูดอย่างสบายใจ "คนรับใช้ที่ต่ำต้อยเช่นเธอ กล้าดียังไงถึงมาพูดแทรกเจ้านาย? ในเมื่อเธอไม่รู้กฎ วันนี้ฉันจะสอนมันให้กับเธอเอง”ทันทีที่เธอพูดคำเหล่านี้ออกมา ใบหน้าของทุกคนก็เปลี่ยนไปแอนเดรียหน้าแดงจัดด้วยความโกรธ เธอกุมใบหน้าข้างที่ถูกตบเอาไว้ และเดือดดาลจนพูดอะไรไม่ออกในขณะนั้นเองจู่ ๆ ก็มีเสียงกรีดร้องดังขึ้นยูเลียนารู้สึกเจ็บปวดขึ้นมาที่ขาของเธอ และร่างกายของเธอก็ขดงอตามสัญชาตญาณในวินาทีถัดมาทุกคนต่างก็ตกใจ แต่ก่อนที่จะมีใครเข้าไปช่วย วิกกี้ก็ได้เอาเท้าอีกข้างหนึ่งของเธอเหยียบไว้บนท้องของยูเลียนาแล้วโชคดีที่ขาของวิกกี้ได้รับบาดเจ็บในตอนนี้ เธอจึงออกแรงได้ไม่มากนัก ยูเลียนาร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดและล้มลงกับพื้นหากเป็นวันปกติที่วิกกี้ไม่ได้รับบาดเจ็บที่ขาของเธอ ผู้หญิงคนนั้นคงถูกเตะโด่งกลับไปแล้ววิกกี้พูดอย่างเย็นชาว่า “ในเมื่อเธอไม่รู้จักกฎ วันนี้ฉันจะเป็นคนสอนเธอเอง คุณลินช์ เธอคิดยังไงกับบทเรียนบทนี้ละ เป็นที่หน้าพอใจรึเปล่า?”ยูเลียนากุมท้องของเธอเอาไว้
เรน่าวางรังนกไว้ที่นั่นและไม่ได้แตะต้องมันอีกเลย เนื่องจากทุกคนรู้ดีว่าเธอรับผิดชอบอาหารของยูเลียนาและวิกกี้ จึงไม่มีใครกล้าที่จะแตะต้องสิ่งเหล่านั้นเกิดอะไรขึ้นที่นี่?เรน่าอดไม่ได้ที่จะรู้สึกตื่นตระหนกอย่างไรก็ตาม วิกกี้ไม่ได้เป็นกังวลเลย เธอมองดูรังนกอย่างใกล้ชิดอีกครั้ง และขอให้ใครบางคนโทรหาพ่อบ้านออสบอร์นเพื่อยืนยันว่าสิ่งที่เขาส่งมาก่อนหน้านี้เป็นรังนกที่มีคุณภาพสูงจริง ๆจากนั้นเธอก็หันไปมองกลุ่มคนรับใช้อีกครั้ง“ในช่วงนี้ ใครบ้างที่ทำหน้าที่ในครัว นอกจากเรน่า?”ทุกคนจ้องมองและแลกเปลี่ยนสายตากันจากนั้นสาวใช้สามคนก็ก้าวออกมา วิกกี้มองไปที่พวกเธอและถามว่า “พวกคุณเป็นสาวใช้ในครัวทั้งหมดหรือเปล่า?”ทั้งสามคนก้มหน้าลงและส่ายหน้า ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะพวกเธอกลัววิกกี้ หรือเพราะว่าพวกเธอขี้อายหนึ่งในพวกเธอตอบเบา ๆ ว่า “ไม่ใช่ค่ะ คุณโทมัส พวกเราแค่ช่วยงานล้างจาน และทำความสะอาดภายในครัวเท่านั้น”วิกกี้เลิกคิ้ว“แล้วมีใครเคยแตะต้องส่วนผสมของเรน่าบ้างไหม?”"ไม่มีค่ะ"ทั้งสามคนส่ายหน้าและปฏิเสธอย่างพร้อมเพรียงกันวิกกี้เงียบไปครู่หนึ่งในขณะนั้นสาวใช้ที่อายุน้อยที่สุดก็พู
ดวงตาของวิกกี้สงบนิ่ง เธอเหลือบมองไปที่ยูเลียนาก่อนจะมองไปที่เรน่า จากนั้นเธอก็พูดด้วยเสียงต่ำว่า “กล้องวงจรปิดถูกดัดแปลง คนที่สับเปลี่ยนรังนกไม่ใช่เรน่า”"อะไรนะ?"ทุกคนต่างก็ตกตะลึงและประหลาดใจไม่ใช่เรน่าเหรอ? แล้วจะเป็นใครได้ล่ะ?ทุกคนต่างก็รู้สึกงุนงงและมองหน้ากัน ใครกันแน่ที่เป็นคนสับเปลี่ยนรังนก?ยูเลียนาขมวดคิ้ว เธอเองก็ประหลาดใจเนื่องจากว่าเธอยืนอยู่ไม่ไกลจากวิกกี้ เธอจึงมองเห็นวีดีโอบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่อยู่ตรงหน้าของวิกกี้ได้ทันที เห็นได้ชัดว่าเธอมองไม่เห็นใครที่เข้าไปแตะต้องตู้นั้นเลย แล้ววิกกี้เอาอะไรมาตัดสินใจว่าเรน่าไม่ได้เป็นคนทำเธอพยายามที่จะพ่นคำโกหกออกมาอย่างนั้นเหรอ?ยูเลียนาพูดออกมาด้วยความไม่พอใจ“วิกกี้ โทมัส ฉันรู้ว่าเธอมีความตั้งใจที่อยากจะไว้ชีวิตเรน่า แม่บ้านในครัวคนนั้น แต่ในฐานะมนุษย์ เธอควรจะมีความเป็นธรรมและรู้ว่าอะไรผิดอะไรถูกไม่ใช่เหรอ? วีดีโอบนคอมพิวเตอร์แสดงให้เห็นชัดเจนแล้วว่า ไม่มีใครนอกจากเรน่าที่เป็นคนเปิดตู้เพื่อนำบางอย่างภายในตู้ออกมา แล้วเธอจะสรุปเอาเองได้ยังไงว่าผู้หญิงคนนั้นไม่ได้เป็นคนสับเปลี่ยนรังนก?”วิกกี้เงยหน้าขึ้นและมอ
ทุกคนต่างก็พยักหน้าเห็นด้วย"ใช่ เธอพูดถูก"“ใครจะเข้าไปได้โดยที่ไม่มีกุญแจ? ไม่มีใครสามารถบินเข้าไปได้!”“พูดอีกอย่างก็คือ มันไม่สามารถทำได้โดยพนักงานในครัว”คนหัวใสกล่าวเสริม“หรือว่าใครคนนั้นจะขโมยกุญแจออกมาแล้วนำมันไปคืนทีหลัง?”ชายหนุ่มผู้รับผิดชอบกล้องวงจรปิดส่ายหน้า“สิ่งนั้นเป็นไปไม่ได้ ผมเก็บกุญแจไว้กับตัวเองตลอดและไม่เคยนำมันออกเลย ดังนั้นมันจึงเป็นไปไม่ได้ที่มันจะถูกขโมย”ทันใดนั้นทุกคนก็รู้สึกสับสนไม่มีใครขโมยกุญแจไป แต่กล้องวงจรปิดถูกดัดแปลงแก้ไขจริง ๆ แล้วมันจะเป็นฝีมือของใคร หรือว่าผี?เมื่อคิดเช่นนี้ ใครบางคนก็หน้าซีดเซียววิกกี้ไม่เชื่อเรื่องการมีอยู่ของผี ด้วยใบหน้าที่สงบและการจ้องมองที่เย็นชา เธอจ้องมองไปทุกใบหน้าที่อยู่ตรงหน้าเธอในที่สุดสายตาของเธอก็จับจ้องไปยังเด็กสาวคนหนึ่งซึ่งยืนอยู่ที่มุมห้องเด็กสาวดูเด็กมาก เธอมีอายุราว ๆ สิบหกหรือสิบเจ็ดปี อาจจะพูดได้ว่าเธอยังไม่โตพอที่จะทำงานอย่างไรก็ตาม วิกกี้ก็นึกขึ้นได้ว่าเธอเคยเดินผ่านสวนอยู่ครั้งหนึ่งและได้ยินคนรับใช้พูดคุยกันว่าผู้หญิงคนนั้นอยู่ที่นี่มาสามปีแล้วถ้าตอนนี้เธออายุราว ๆ สิบหกหรือสิบเจ็
คนเหล่านั้นส่งเธอออกไปการลงโทษของพ่อบ้านออสบอร์นถือเป็นความเมตตาต่อทุกคนอย่างไรก็ตาม วิกกี้ยังคงรู้สึกไม่สบายใจเธอไม่รู้ว่าทำไม แต่เธอรู้สึกว่าเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ อย่างเจียน่าไม่น่าจะใช่คนที่จะทำอะไรเช่นนั้นได้ แต่ในเวลานี้หลักฐานทั้งหมดชี้ไปที่เธอ แม้แต่วิกกี้เองก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ ดังนั้นสิ่งที่เธอทำได้คือการปล่อยให้มันเป็นเช่นนั้นไปในที่สุดเรื่องขบขันก็จบลงวิกกี้รู้สึกเพลียเล็กน้อย จึงบอกให้แอนเดรียพาเธอกลับไปที่ห้องของเธอเมื่อเธอเดินผ่านทางเดิน เธอก็เห็นเรน่าและสาวใช้อีกสองสามคนกำลังจะไปส่งเจียน่า พวกเขาออกจากห้องของคนรับใช้ และมุ่งหน้าไปยังประตูทางเข้าหลักเจียน่าถือกระเป๋าเดินทางที่ดูธรรมดาเอาไว้ในมือและสะพายกระเป๋าเป้เอาไว้ข้างหลัง สิ่งเหล่านั้นคงจะเป็นสมบัติของเธอทั้งหมดเธอยังคงร้องไห้และยกมือขึ้นมาปาดน้ำตาในเวลาเดียวกัน เธอก็พยักหน้าราวกับว่าเธอเข้าใจในสิ่งที่เรน่า และคนอื่น ๆ พูดวิกกี้ถอนหายใจ ในขณะที่เธอมองเห็นเช่นนั้น จากนั้นเธอก็หันหลังกลับและมุ่งหน้าไปยังห้องของเธอเมื่อเรื่องวุ่นวายทั้งหมดเกิดขึ้น เธอจึงไม่มีอารมณ์ทานอาหารกลางวัน ในตอนบ่ายเธอฝึกป
จู่ ๆ วิกกี้ก็นึกถึงสิ่งที่แอนเดรียพูดเกี่ยวกับนางสนมในก่อนหน้านี้ จากนั้นแสงแห่งความเย้ยหยันก็ปรากฏขึ้นในดวงตาของเธอ“มีธุระอะไร?”เธอถามอย่างไม่ใส่ใจยูเลียนาดูเหมือนจะมีความสุขเป็นพิเศษในวันนี้ เธอเดินเข้าไปหาวิกกี้ราวกับนางแบบและพูดว่า “ไม่มีอะไร เกรกอรีเพิ่งจะสั่งให้คนนำสิ่งที่ยอดเยี่ยมมาให้ฉัน และในเมื่อเธอเองก็อยู่ที่นี่ ดังนั้นฉันจึงคิดว่าจะให้บางอย่างแก่เธอเป็นพิเศษเช่นกัน เพราะว่าฉันคงไม่สามารถเพลิดเพลินกับสิ่งที่ยอดเยี่ยมทั้งหมดนี้ได้เพียงลำพัง”ในขณะที่พูด ยูเลียนาก็กวักมือเรียกจินนี่ จากนั้นเธอก็เดินเข้ามาพร้อมกับถาดในมือ ยูเลียนาหยิบของในถาดมาวางไว้บนโต๊ะตรงหน้าเธอ“โสมภูเขาฉางไป่ชั้นหนึ่ง สิ่งนี้ไม่เพียงแต่จะทำให้ผิวพรรณดูอ่อนเยาว์เท่านั้น แต่ยังช่วยให้อายุยืนยาวอีกด้วย ฉันจะแบ่งมันให้กับเธอ”วิกกี้จ้องมองไปที่โสมที่ถูกโยนลงบนโต๊ะในขณะนั้น แอนเดรียเพิ่งจะเก็บจานเสร็จและกำลังเดินเข้ามา เมื่อเห็นฉากนี้ สีหน้าของเธอก็มืดมนลงในทันทีเธอรีบเดินเข้าไปหาวิกกี้และก้มหน้าลง“คุณโทมัส…”เธอคิดว่าวิกกี้จะโต้กลับด้วยความโกรธวิกกี้ยิ้มจาง ๆเธอยกมือขึ้นตรวจดูโสมและกล่
วิกกี้มองดูเธออย่างเงียบ ๆจากนั้นยูเลียนาก็พูดเบา ๆ ว่า “ที่จริงแล้วฉันเดิมพันกับเกรกอรีเอาไว้”วิกกี้ยังคงไม่พูดอะไรยูเลียนากล่าวต่อ “ถ้าเขาแพ้เดิมพันนี้ เขาจะต้องแต่งงานกับฉัน แต่ถ้าเขาชนะ ฉันจะออกไปจากที่นี่และจะไม่มารบกวนเขาอีก”วิกกี้หัวเราะอย่างเย็นชา “แล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉัน?”ยูเลียนาโบกมือและกล่าวว่า "ไม่ ไม่ ไม่ สิ่งนี้มันเกี่ยวข้องกับเธอ”ในขณะที่พูดเช่นนั้น เธอก็เอนตัวเข้ามากระซิบข้างหูของวิกกี้ว่า “วิกกี้ เธออยากรู้ไหมว่าในหัวใจของเขาใครสำคัญกว่ากันระหว่างฉันกับเธอ”สายตาของวิกกี้สั่นไหว เธอมองไปที่ยูเลียนาด้วยคิ้วที่ขมวดเล็กน้อย"เธอหมายความว่ายังไง?"ยูเลียนายิ้มหวาน “เธอคงยังไม่รู้ว่าเกรกอรีมีแผนการใหญ่ในตอนนี้ และฉันก็เป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญในแผนการนั้น“ฉันพนันกับเขาเอาไว้ว่า ถ้าฉันรอดจากแผนการนั้นได้ เขาจะต้องแต่งงานกับฉัน แต่ข้อกำหนดเบื้องต้นคือเธอจะต้องออกไปจากที่นี่ก่อน”ดวงตาของวิกกี้เย็นชาเสียงของยูเลียนายังคงแผ่วเบา แต่ราวกับว่ามันถูกปกคลุมไปด้วยเวทย์มนตร์อันไร้ขอบเขต และยังสามารถดึงดูดผู้คนลงสู่ขุมนรกได้เธอกระซิบว่า “ระหว่างผลประโยชน์และเธอ เขาไ