จึงเป็นเหตุที่ทำให้วิกกกี้ต้องอยู่ในคุกถึงสี่ปีจู่ ๆ เธอก็รู้สึกว่ามันเป็นเรื่องที่น่าขบขันเธอมองดูเกรกอรีและถามว่า “นายเชื่อว่าฉันเป็นคนผลักเธอจริง ๆ เหรอ?”การแสดงออกของเกรกอรีเย็นชาและแข็งกระด้าง “ข้อเท็จจริงอยู่ตรงหน้านี้แล้ว”วิกกี้หัวเราะเยาะเธอหัวเราะเยาะถึงแม้ว่าเธอจะโศกเศร้าอยู่ภายในเธอพูดเบา ๆ ว่า “สี่ปีที่แล้วนายก็ไม่เชื่อฉัน ฉันคิดว่าเหตุผลที่นายตามหาฉันอีกครั้งหลังจากสี่ปีผ่านไป และบังคับให้ฉันอยู่กับนาย เป็นเพราะว่านายตระหนักถึงความผิดพลาดของตัวเอง และหวังว่าฉันจะยอมรับนาย และเราจะได้เริ่มต้นกันได้ใหม่อีกครั้ง“แต่ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่า ฉันมันไร้เดียงสาเกินไป เพราะไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหน ไม่ว่าจะมีประสบการณ์มากน้อยเพียงใด แต่คนที่ไม่เคยเชื่อในตัวนาย ก็จะไม่มีวันเชื่อในตัวนายอีกครั้งไม่ว่าจะยังไงก็ตาม“เกรกอรี เกรแฮมฉันไม่ได้เกลียดนาย ฉันไม่ได้เกลียดนายจริง ๆ ฉันเพียงแค่คิดว่ามันน่าตลกที่นายไม่สามารถมองเห็นสิ่งที่คนอื่นมองเห็นมันได้”เธอหยุดพูด ราวกับว่าเธอไม่มีแรงจะพูดอะไรอีกเธอไม่อยากอธิบายอะไรอีกต่อไปความเงียบปกคลุมรอบตัวเธอวิกกี้ไม่อยากอยู่ที่นี่อีกต่อไ
เกรกอรีไม่ได้สนใจเธอ หลังจากเขาพูดจบเขาก็เดินออกจากประตูไปยูเลียนาตกอยู่ในความงุนงงเป็นเวลานาน ก่อนที่เธอจะตอบสนอง ใบหน้าของเธอก็เปลี่ยนไปในทันที อีกด้านหนึ่ง วิกกี้นอนไม่หลับเธอไม่รู้ว่าเป็นเพราะเรื่องที่เกิดขึ้น หรือเป็นเพราะเธออารมณ์ไม่ดี เธอนอนหลับตาอยู่บนเตียงเป็นเวลานาน แต่เธอก็ยังคงนอนไม่หลับภายในห้องของเธอมืดสนิทเมื่อเธอลืมตาขึ้นมา เธอเอียงตัวเล็กน้อยเพื่อหยิบรีโมทจากหัวเตียงและเปิดม่านออกเพื่อให้มองเห็นแสงจันทร์ที่สาดส่องเข้ามาจากภายนอกมันทำให้นึกถึงช่วงเวลาที่นานมาแล้ว ในตอนที่เธอยังคงอยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าในคืนนั้นก็เป็นช่วงฤดูร้อนที่แสงจันทร์ส่องแสงสว่างไสว และท้องฟ้าก็เต็มไปด้วยดาวระยิบระยับในคืนนั้นเธอนอนไม่หลับ เธอจึงเข้าไปในครัวและนำเมล็ดแตงโมออกมาหนึ่งกำมือ จากนั้นเธอก็ขึ้นบันไดไปและนั่งอยู่บนหลังคาเพื่อมองดูดาวเธอกินเมล็ดแตงในขณะที่เธอมองดูดาว แม้ว่าลมเย็นในยามค่ำคืนจะพัดมามันก็ยังรู้สึกอบอุ่นจากนั้นเสียงอันเย็นชาของชายหนุ่มก็ดังมาจากด้านล่าง"เฮ้! เธอทำไรอยู่?"เธอสะดุ้งในทันที เพราะเธอคิดว่ามันเป็นเสียงของผู้อำนวยการอาวุโสเกลน ดังนั้นเธอจึงต้
วิกกี้ไม่สามารถอาบน้ำเองได้เนื่องจากว่าเธอยังบาดเจ็บอยู่ เธอจึงบิดผ้าเช็ดตัวและเช็ดตัวเองเมื่อเธอออกมาเธอก็เปลี่ยนชุดและมองดูเวลา มันเป็นเวลาหกโมงเช้าเช้าของฤดูร้อนจะสว่างแต่เช้า และแม้ว่ามันจะเป็นเวลาเพียงแค่หกโมงเช้า แต่ท้องฟ้าก็เป็นสีขาวลายหินอ่อนแล้วเนื่องจากวิกกี้ไม่ต้องการนอนต่อ เธอจึงชงชาให้ตัวเอง และนั่งรถเข็นไปที่ระเบียงเพื่อรับชมพระอาทิตย์ขึ้นจู่ ๆ เธอก็ได้ยินเสียงเครื่องยนต์ดังมาจากชั้นล่างเธอชะโงกมองด้วยความประหลาดใจรถเอสยูวีสีดำแล่นออกมาจากโรงรถ และมุ่งหน้าไปยังประตูหน้าของคฤหาสน์วิกกี้อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วเธออาศัยอยู่ในคฤหาสน์มาเป็นเวลานาน ดังนั้นเธอจึงรู้ว่ามันเป็นรถของเกรกอรี เกรแฮมโดยปกติแล้ว ไม่ว่าเขาจะออกไปไหน รถคันนั้นจะเป็นรถที่เขาชอบขับมากที่สุดแล้วเขาออกไปไหนแต่เช้า?ความสงสัยผุดขึ้นในใจของเธอ แต่เห็นได้ชัดว่าเธอไม่สามารถถามออกไปได้ ดังนั้นเธอจึงทำได้เพียงนั่งอยู่นิ่ง ๆในขณะเดียวกัน ในอีกด้านหนึ่งภายในรถเกรกอรีกำลังดูข้อมูลบนแลบท็อปในมือของเขา เขากำลังศึกษาข้อมูลของใครบางคนโดยมีผู้ช่วยฮาโรลด์เป็นคนขับรถ เขารายงานกับเกรกอรี ในขณะที่เขา
โดยปกติแล้ว วิกกี้จะซ่อนตัวอยู่แต่ในคฤหาสน์เพื่อความปลอดภัย แต่วันนี้เป็นวันพิเศษ ดังนั้นบรรดาคู่รักจะไม่ยอมอยู่บ้านเพื่อปล่อยให้โอกาสการอธิษฐานในเรื่องความรักของพวกเขาหลุดลอยไปเธอจึงมีเหตุผลที่ดีพอที่จะออกไปข้างนอก วิกกี้ยังเชื่อด้วยว่า การที่อีกฝ่ายหนึ่งไม่เคลื่อนไหว ไม่ใช่เพราะว่าพวกเขายอมแพ้อย่างแน่นอนมีโอกาสสูงมากที่พวกเขากำลังมองหาโอกาสที่จะเคลื่อนไหว และวันนี้ก็เป็นโอกาสที่ดีที่สุดของพวกเขาด้วยเหตุนี้ วิกกี้จึงสรุปได้ว่าพวกเขาจะต้องเคลื่อนไหวอย่างแน่นอน จากนั้นเธอก็จะสามารถจัดการกับปัญหาได้อย่างง่ายดายในคราวเดียว จัดการพวกเขาและสืบหาว่าพวกเขามีพลังอำนาจ และมีเป้าหมายมากแค่ไหนช่างเป็นความคิดที่น่าเสียดาย…ความคิดเหล่านั้นผุดขึ้นมาภายในใจ จากนั้นเธอก็ยิ้มแห้ง ๆ กับตัวเองเหตุผลที่เธอไปหาเกรกอรีที่โรงฝึก ก็เพื่อที่จะบอกเขาเกี่ยวกับแผนการของเธอ เมื่อเธอไปถึง เธอก็ได้เห็นเกรกอรีและยูเลียนาที่กำลังอยู่ในสภาพที่ไม่น่ามอง เสื้อผ้าของพวกเขายุ่งเหยิงและหลุดลุ่ยวิกกี้โกรธมากจนเธอไม่สามารถพูดในสิ่งที่เธอเตรียมมาได้ ต่อมาเมื่อเธอคิดเช่นนั้น เธอก็พบว่าปัญหาที่อยู่ในมือนั้นมีความ
ยูเลียน่าอดไม่ได้ที่จะยิ้มเยาะเมื่อได้ยินเช่นนั้นน้ำหนักภายในอกของเธอก็ค่อย ๆ ถูกยกออกเธอถือชามซุปเห็ดหูหนูขาวและเม็ดบัวด้วยรอยยิ้ม “วิกกี้ โทมัสรู้ไหม?”จินนี่พูดอย่างภาคภูมิใจว่า “แอนเดรียโกรธมากจนใบหน้าของเธอเปลี่ยนเป็นสีเขียว ไม่ต้องสงสัยเลยค่ะ เธอจะต้องกลับไปรายงานเจ้านายของเธออย่างแน่นอน”เมื่อได้ยินเช่นนั้น ยูเลียนาก็อารมณ์ดีมากขึ้นอย่างไรก็ตาม เมื่อเธอนึกถึงบุคลิกที่เย็นชาของวิกกี้ ใบหน้าของยูเลียนาก็มืดมนลงแต่ใครจะไปรู้ว่าเธอจะเป็นคนที่สนใจเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่นนี้หรือไม่วิกกี้คงจะไม่สนใจ ถ้าไม่ใช่เพราะว่าเธอหลงรักเกรกอรีอย่างเห็นได้ชัดเจน ยูเลียนาก็คงจะไม่สามารถบอกได้ว่า เธอมีอารมณ์ความรู้สึกของมนุษย์อยู่ในตัวเธอหรือไม่เมื่อคิดเช่นนั้น ยูเลียนาก็พ่นลมหายใจออกมาหึ!เธอชอบเกรกอรีแล้วยังไง?สองคนนั้นไม่ได้คบกันด้วยซ้ำไม่ใช่เหรอ?ตราบใดที่พวกเขาไม่ได้คบกันอย่างเป็นทางการ ยูเลียนาก็ยังคงพอที่จะมีโอกาส แต่ถ้าหากว่าวิกกี้และเกรกอรีไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน แล้วทำไมพวกเขาถึงไม่ทำให้มันเป็นทางการไปเลยล่ะ?แต่เขากลับสร้างภูเขาจอมปลวก โดยใช้ยูเลียนาเป็นเครื่องมือเพื่อพิ
เกรกอรีรับกลับไปที่คฤหาสน์อย่างรวดเร็ว เขากลับมาถึงภายในครึ่งชั่วโมงหลังจากที่ได้รับข่าวภายในห้องปฐมพยาบาล หมอได้เสร็จสิ้นขั้นตอนการตรวจเช็คหน้าท้องของเธอและเธอก็ได้พ้นขีดอันตรายแล้วหลังจากตรวจสอบอย่างละเอียด ผลลัพธ์ของชนิดของพิษก็ออกมาผลที่ออกมาทำให้ทุกคนประหลาดใจวิกกี้ก็อยู่ที่นั่นเมื่อหมอบอกผล เธออยู่บนรถเข็นของเธอเธอไม่ใส่ใจในการมองเกรกอรีเลย ทั้งสองคนไม่แม้แต่จะสบตากัน ในขณะที่พวกเขาอยู่ที่นั่นเพื่อรอผลจากนั้นพวกเขาก็ได้เห็นท่าทางที่ไม่สงบของหมอเดินออกมาจากห้องปฐมพยาบาลหมอพูดด้วยเสียงต่ำ “ผลที่ออกมาสรุปได้ว่าสารพิษนั้นเป็นสารหนู”อะไรนะ?สารหนู?ทุกคนตกตะลึงทั้งเกรกอรีและวิกกี้ต่างก็ขมวดคิ้วหมอกวาดตามองไปที่จินนี่ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ แล้วถามว่า “คุณลินช์ได้ทานซุปเห็ดหูหนูขาวและเม็ดบัวไปหรือเปล่า?”จินนี่ชะงัก จากนั้นเธอก็พยักหน้า “ใช่ค่ะ ฉันนำมันมาจากห้องครัวเพื่อให้เธอทาน ทำไมเหรอคะ?"จากนั้นหมอก็รายงานผลต่ออย่างเคร่งขรึม“มีสารพิษอยู่ในชามซุป และนี่คือผลของสารพิษในซุปเห็ดหูหนูขาวจากกระเพาะอาหารของเธอ คุณลองดูเอกสารนี้”จินนี่ยังคงไม่ฟื้นคืนสติ ในขณะที่เกรกอร
จินนี่พูดอย่างระมัดระวัง “อย่าพูดแบบนั้นเลยค่ะคุณลินช์ นายน้อยเองก็เป็นห่วงเป็นใยคุณเหมือนกัน เมื่อเขาได้ยินว่าคุณถูกวางยาพิษ เขาก็สั่งให้มีการสอบสวนทุกคนภายในคฤหาสน์อย่างเด็ดขาดทันที!”เป็นครั้งแรกที่เจนนี่ไม่ได้ยินคำตอบจากเธอยูเลียนารู้ดีว่ามันคงจะเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะทำทุกอย่างเพื่อเธอจริง ๆ เพราะที่จริงแล้ว เป้าหมายคือวิกกี้เธอก็เป็นเหมือนดังคนที่ได้รับกระสุนแทน โดยการขโมยซุปของผู้หญิงคนนั้นถ้าหากว่าเกรกอรีห่วงใยเธอจริง ๆ ทำไมเขาถึงไม่อยู่ที่นี่เมื่อเธอตื่นขึ้นมา?ในความเป็นจริง นอกจากจินนี่แล้ว ไม่มีตัวตนของคนอื่นอยู่ในภายห้องเลย ไม่มีแม้แต่พ่อบ้านออสบอร์นมันเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ตอนนี้ยูเลียนารู้สึกว่า ห้องนี้มันกว้างและว่างเปล่าเกินไป เมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้ที่เธอรู้สึกว่าห้องของเธอนั้นแคบเกินไปทุกอย่างดูว่างเปล่าจนทำให้เธอรู้สึกแย่ลงอย่างไรก็ตามเธอยังคงที่จะพยายามปิดบังความเศร้าโศกของเธอเอาไว้ยูเลียนาหันหน้าไปมองจินนี่และพูดว่า “ฉันไม่เป็นอะไรแล้วล่ะ ไม่ต้องร้องไห้แล้ว ฉันรู้สึกหิว ช่วยหาอะไรให้ฉันกินหน่อย”จินนี่พยักหน้าทันที “ค่ะ แต่ว่าคุณลินช์”เนื่องจากย
ดังนั้นวิกกี้จะมีเหตุผลอะไรที่จะไม่รักษาชีวิตของเธอและตามแก้แค้น?ดวงตาของเธอเย็นลงเมื่อคิดเช่นนั้นราวกับว่าเกรกอรีสัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่มืดมนรอบ ๆ ตัวเธอ ดวงตาของเขาหรี่ลง เขาพูดด้วยเสียงต่ำว่า “ไม่ต้องกังวล ฉันจะช่วยเธอแก้แค้น และฆ่าคนเหล่านั้นเอง”คราวนี้วิกกี้ไม่ปฏิเสธ"ขอบคุณนะ"เธอรู้ดีภูมิหลังของเขานั้นแข็งแกร่งมากเธอรู้ดีว่า ถ้าหากว่าเธอจัดการมันด้วยตัวเอง ความเสี่ยงที่เธอจะได้รับนั้นจะสูงมาก และโอกาสในการประสบความสำเร็จนั้นก็น้อยมากเช่นกันโอกาสในความสำเร็จจะสูงกว่าเมื่อเธอมีเขาเขาฉลาดและมีภูมิหลังที่แข็งแกร่ง ตราบใดที่เธอยังอยู่กับเขา เธอก็เปรียบเสมือนส่วนหนึ่งของเครือข่ายของเขา และเธอก็จะมีอิทธิพลมากขึ้นเช่นกันทั้งสองเดินตรงไปที่ห้องของวิกกี้ภายในอาคารเสริมจากนั้นเกรกอรีก็คลายเก้าอี้รถเข็น และหันไปหาแอนเดรีย “เธอไปพักผ่อนเถอะ ฉันมีเรื่องต้องคุยกับวิกกี้”แอนเดรียสุขใจเมื่อเธอได้เห็นเช่นนั้น ดังนั้นเธอจึงยิ้มรับและรีบออกไปทันทีวิกกี้รู้ดีว่าแอนเดรียกำลังเข้าใจสถานการณ์ระหว่างเธอกับเกรกอรีผิด พวกเขากำลังจะคุยเรื่องธุรกิจกันอย่างจริงจัง แต่เธอคงจะคิดว่าพวกเขา