หัวใจของวิกกี้สั่นสะท้านเมื่อเห็นว่าเขาบีบยาออกมา ราวกับว่าเขากำลังจะช่วยเธอทายา เธอจึงรีบพูดขึ้นว่า “นายไม่ต้องทาให้ฉัน ฉัน...เดี๋ยวฉันจะทาเอง"เกรกอรีหยุดชั่วคราวและมองดูเธออย่างเยาะเย้ย“แน่ใจเหรอว่าทำเองได้?”เอ่อ...วิกกี้มองลงไปที่ขาที่บวมของเธอ และเธอก็เห็นว่ามันค่อนข้างยากที่เธอจะทำเองอย่างไรก็ตาม เธอไม่ต้องการความช่วยเหลือจากชายผู้นี้ ดังนั้นเธอจึงพูดขึ้นว่า "ฉันจะขอให้แอนเดรียช่วยฉัน หรืออาจจะให้หมอช่วยก็ได้"เกรกอรีเย้ยหยัน“แอนเดรียเป็นแค่สาวใช้ แล้วเธอจะรู้เรื่องนี้ดีหรือเปล่า?”หลังจากหยุดพูดไปครู่หนึ่ง เขาก็เสริมว่า “เธอคิดว่าหมอที่นี่มีเวลาว่างมากพอที่จะช่วยเธอทายาที่เท้าหรือยังไง? หมอไม่ต้องรักษาคนไข้คนอื่นแล้วเหรอ?”วิกกี้ตกตะลึงเธอสับสนเล็กน้อยกับคำพูดของเขาหมอหญิงผู้นี้ที่อยู่ในคฤหาสน์ไม่ได้ถูกจ้างมาเพื่อดูแลอาการบาดเจ็บของเธอโดยเฉพาะอย่างนั้นเหรอ?ยังมีผู้ป่วยรายอื่นที่อยู่ในคฤหาสน์ เพื่อให้เธอรักษาอย่างนั้นเหรอ?วิกกี้ไม่รู้แน่ชัดเธอจึงไม่กล้าโต้เถียงแต่ก่อนที่เธอจะรู้ตัว ชายผู้นั้นก็ได้ทายาที่ขาให้เธอแล้วฝ่ามือของเขาใหญ่และกว้าง มันมีความหยาบเล็
เกรกอรี เกรแฮม และ วิกกี้ โทมัสทานอาหารเย็นกันอย่างสงบหลังจากทานอาหารเสร็จ เกรกอรีก็กลับไปศึกษางานเพิ่มเติม ในขณะที่วิกกี้ขอให้แอนเดรียอยู่เป็นเพื่อนเพื่อดูละครในห้องนั่งเล่นเมื่อก่อนวิกกี้ไม่ชอบดูละครพวกนี้เลย เพราะเธอคิดว่ามันน่าเบื่อและเสียเวลา แต่นับตั้งแต่ที่เธอได้รับบาดเจ็บ และต้องอยู่บ้านทั้งวัน เธอจึงได้เปลี่ยนความคิดและมองหาความสบายใจด้วยการรับชมละครผู้หญิงสองคนนั่งอยู่บนโซฟาและถือถุงมันฝรั่งทอด พวกเธอกินไปชมไปในตอนหนึ่งที่นักแสดงนำหญิงในละครได้ใช้กลวิธีบางอย่างเพื่อเกลี้ยกล่อมนักแสดงนำชาย ซึ่งทำให้ผู้ชายเข้าใจผิดว่านางเอกที่เป็นคนขโมยข้อมูลของบริษัทไปแอนเดรียก็พูดขึ้นมาทันทีว่า “นี่มันเหมือนกับลักษณะนิสัยของยูเลียนาเลย”วิกกี้ตกตะลึงและหันไปมองเธอเธอหัวเราะและพูดว่า “ยูเลียนาออกไปแล้วนะ นี่ความแค้นที่เธอมีต่อยูเลียนายังไม่หมดไปอีกเหรอ?”เมื่อแอนเดรียตระหนักได้ว่าเธอเผลอหลุดปากไป และเผลอพูดสิ่งที่อยู่ในใจออกมา เธอจึงมีท่าทางเขินอาย“ฉันแค่ต้องการล้างแค้นให้กับความอยุติธรรมของคุณค่ะ คุณเป็นคนใจกว้างเกินไป และนั่นคือเหตุผลที่คุณปล่อยให้คนอื่นกดขี่และรังแกคุณมาตลอด
สำหรับหยกอาถรรพ์นั้น เนื่องจากว่าความเป็นจริงของมันนั้นลึกซึ้งเกินไป ดังนั้น เกรกอรี เกรแฮมจึงไม่ได้พูดเรื่องของหยกอาถรรพ์ให้มัสซิโมฟังมัสซิโมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเมื่อสี่ปีครึ่งที่แล้ว ที่องค์กรนกหงส์หยกและกองทหารมังกรได้ทำสงครามกัน มันเป็นเพราะหยกอาถรรพ์มัสซิโมรู้ว่าเกรกอรีที่ไม่ชอบมีส่วนร่วมในการประมูล แต่วันนี้เขากลับมาที่นี่ ดังนั้นมัสซิโมจึงหัวเราะและหยอกล้อเขา“เกรกอรี เมื่อนายมีแฟนแล้วเปลี่ยนเป็นคนละคนไปเลยนะ นายเคยอยู่แต่บ้านและไม่ชอบออกไปไหน แต่ตอนนี้นายกลับมีอารมณ์เข้าร่วมการประมูลอย่างนั้นเหรอ?“วันนี้มีของดีอยู่หลายอย่าง ฉันได้ยินมาว่าเครื่องประดับเหล่านั้นเพิ่งจะถูกค้นพบ และครั้งหนึ่งเคยถูกสวมใส่โดยราชวงศ์ยุโรป ฉันคิดว่าพวกมันจะต้องงดงามมากแน่ ๆ นายต้องรอดู”เกรกอรีมองเขาด้วยสีหน้าเย็นชา และพูดว่า "ฉันไม่สนใจเรื่องพวกนั้นหรอก"มัสซิโมทำหน้าเยาะเย้ยและพูดว่า "นี่ ฉันแค่บอกให้นายรอดู..."จากนั้นวิกกี้ก็ตอบขึ้นมาทันทีว่า “ฉันก็ไม่สนใจเหมือนกัน”มัสซิโมแทบจะสำลักน้ำลายเขาส่ายหน้าอย่างช่วยไม่ได้ และชี้ไปที่วิกกี้ เขาพูดว่า “เธอโง่เหรอ? ถ้าผู้หญิงไม่สนใจแม้แต่เครื่องประด
เมื่อวิกกี้ โทมัสพูดเช่นนั้น ใบหน้าที่อ่อนโยนและสง่างามของมัสซิโม โนแลน ก็เปลี่ยนเป็นสีแดงในทันใดเขากระสับกระส่าย เขาไม่กล้ายอมรับหรือปฏิเสธมัสซิโมกลัวว่าถ้าเขาทำมันพัง ควินซี่จะรำคาญและเตะเขาลงบนพื้นถ้าหากมีอะไรผิดพลาด พวกเขาจะไม่สามารถแม้แต่เป็นเพื่อนกันได้ดังนั้นเมื่อวิกกี้พูดตรง ๆ เขาก็ตื่นตระหนกในทันที เขาหันไปมองควินซี่ แต่เขาเห็นว่าไม่มีท่าทีรำคาญใด ๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอ แต่เธอกลับยิ้มและมองเขาอย่างขุ่นเคือง“มันเป็นแบบนี้เองสินะ ฉันคงจะไม่รู้จริง ๆ ถ้าหากว่าพี่วิกกี้ไม่บอกฉัน”เมื่อมัสซิโมตระหนักได้ว่าเธอไม่ได้มีอาการโกรธเคืองใด ๆ เขาจึงแอบรู้สึกโล่งใจ เขาตอบด้วยรอยยิ้ม และพูดว่า "ควินซี่ ฉัน...ฉันไม่ได้คิดที่จะซื้ออะไรให้เธอเพียงเพราะว่าฉันอยากจะวิ่งไล่ตามเธอ ฉัน...ฉันเพียงแค่คิดว่า เธอเป็นคนที่ยอดเยี่ยมจริง ๆ ฉัน…”ในขณะที่พูดเช่นนั้น เขาแทบอยากจะกัดลิ้นของตัวเองลิ้นอันชาญฉลาดของเขา กลับกลายเป็นพูดตะกุกตะกักในช่วงเวลาสำคัญเช่นนี้ได้ยังไง?มันโง่เง่ามาก!เมื่อควินซี่เห็นว่าเขากังวลมากแค่ไหน เธอก็อดหัวเราะไม่ได้“โอเค ฉันรู้แล้วว่านายกำลังคิดอะไรอยู่”เธ
ในช่วงสี่ปีที่ผ่านมา กองทหารมังกรตกอยู่ในความโกลาหลและความพ่ายแพ้ สถานการณ์ในประเทศจีนซับซ้อนมากยิ่งขึ้น เนื่องจากข้อพิพาทระหว่างตระกูลเกรแฮมและตระกูลลีย์ เส้นทางข้างหน้าของเกรกอรีอาจจะยากขึ้น และอันตรายมากขึ้นด้วยเกราะไหมสีทองนี้ อย่างน้อยในบางครั้ง มันก็อาจจะสามารถเพิ่มความปลอดภัยให้เขาได้จิตใจของวิกกี้เต้นระรัว ทันใดนั้นฝ่ามืออันแสนอบอุ่นก็เอื้อมออกมาอีกครั้งหนึ่ง และจับมือของเธอเอาไว้อย่างเงียบ ๆราวกับว่าหัวใจของพวกเขาได้ประสานเข้าด้วยกัน จากนั้นพวกเขาก็หันหน้ามาและมองหน้ากันอีกครั้งทั้งคู่ต่างก็มองเห็นอารมณ์ความรู้สึก และความรักภายในสายตาของกันและกันวิกกี้ตกตะลึงในขณะนั้น เธอรู้สึกได้ถึงกระแสน้ำอุ่นที่ไหลพุ่งผ่านเข้ามาภายในหัวใจของเธออารมณ์ความรู้สึกได้ผุดขึ้นจากก้นบึ้งหัวใจของเธอ จนทำให้เธอดูตื่นตระหนกจากนั้นเธอก็ดึงมือออกจากมือของเขา และพูดเบา ๆ ว่า "อย่าทำแบบนี้ เราอยู่ในที่สาธารณะ!"ความเขินอายและปฏิกิริยาการตอบสนองของเธอ ทำให้ริมฝีปากของเค้าโค้งขึ้นด้วยความพอใจเขาไม่ได้โต้ตอบ แต่เขาก็ยังดื้อรั้นที่จะวางมือของเขาเอา ไว้ และเธอก็ยังสามารถสัมผัสถึงมันได้หั
หยกอาถรรพ์ถูกตระกูลฟลินเดอร์ยึดครองไปเหรอ?นี่...เป็นไปได้ยังไง?ทั้งวิกกี้และเกรกอรีต่างตกก็ตะลึงเป็นอย่างมากในท้ายที่สุด ความขัดแย้งในครั้งนั้น ไม่มีวี่แววของความเกี่ยวข้องของตระกูลฟลินเดอร์เลย จึงไม่มีใครเคยคาดคิดว่าหยกอาถรรพ์จะตกไปอยู่ในมือของพวกเขาพวกเขาเป็นต้นเหตุของการทะเลาะวิวาทในตอนนั้น และทำให้สถานการณ์ดูเหมือนว่า การทะเลาะวิวาทได้เริ่มต้นขึ้นโดยผู้ทรยศในองค์กรนกหงส์หยกหรือเปล่า?ไม่ มันเป็นไปไม่ได้!เกรกอรี เกรแฮม และ ชิม่อน ฟลินเดอร์ หัวหน้าตระกูลฟลินเดอร์ค่อนข้างที่จะสนิทสนมกัน ในตอนนั้นยังไม่มีการแข่งขันทางธุรกิจใด ๆ ดังนั้น ความสัมพันธ์ของทั้งคู่จึงใกล้ชิดกันมากขึ้นถ้าหากว่าตระกูลฟลินเดอร์มีส่วนร่วมจริง ก็เป็นไปไม่ได้ที่เกรกอรีจะไม่สังเกตเห็นและถ้าหากว่าไม่ใช่พวกเขาที่เป็นฝ่ายเข้าไปแทรกแซงในตอนนั้น และชิ้นส่วนนั้นก็ไม่ตกอยู่ในมือของพวกเขา ถ้าเช่นนั้น เป็นไปได้ไหมว่าจะมีหยกอาถรรพ์ชิ้นที่สองอยู่บนโลกใบนี้?จู่ ๆ วิกกี้ก็คิดถึงความเป็นไปได้ที่ทำให้เธอหนาวสั่นเธอหันไปมองที่เกรกอรี แต่เห็นว่าใบหน้าของชายผู้นั้นดูมืดมนลงและไม่พอใจในเวลาเดียวกันมัสซิโม โนแลนสัง
พวกเขาทั้งสี่ยืนอยู่ภายนอกห้องโถงและพูดคุยกันอยู่นาน ก่อนที่ครึ่งหลังของการประมูลจะเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง จากนั้นพวกเขาก็กลับเข้าไปหลังจากที่ทุกคนนั่งลงแล้ว พวกเขาก็เริ่มการประมูลอีกครั้ง วัตถุโบราณในช่วงครึ่งหลังของการประมูลนั้น มีค่ามากกว่าในช่วงครึ่งแรกเป็นอย่างมากมีภาพวาดของปรมาจารย์ในสมัยโบราณ ตราประทับหยกของจักรพรรดิที่สูญหายไปนับพันปี และยังรวมไปถึงคทาที่ราชวงศ์ยุโรปเคยใช้พวกเขามีสมบัติที่หายากและแปลกใหม่ทุกประเภท และยังไม่มีที่สิ้นสุดอาจเป็นเพราะใกล้จะถึงช่วงเวลาของการประมูลสมบัติชิ้นสุดท้ายที่ล้ำค่าที่สุดแล้ว ดังนั้นทุกคนจึงดูกระวนกระวายมากขึ้นพวกเขาไม่ได้มุ่งความสนใจไปที่วัตถุโบราณชิ้นก่อนหน้านี้อีกต่อไป พวกเขาเพียงแค่กลั้นหายใจ รออย่างเงียบ ๆ ให้สมบัติชิ้นสุดท้ายปรากฏขึ้นแน่นอนว่ามัสซิโมเองก็เคยได้ยินถึงเรื่องสมบัติชิ้นสุดท้ายนี้เช่นกัน เขามีความรู้สึกอยู่คร่าว ๆ ว่า วิกกี้และเกรกอรีอาจจะมีความคิดเห็นเช่นเดียวกันกับเขาเขาหันกลับมาหาควินซี่และพูดว่า "ฉันคิดว่าเรื่องราวทั้งหมดที่เกี่ยวกับการทำให้คนตายฟื้นคืนชีพได้นั้นเป็นเรื่องโกหก ถ้าหากผู้คนจะมีชีวิตอยู่ตลอดไปไ
วิกกี้มองควีนซี่ด้วยความรู้สึกขอบคุณ“คุณควีนซี่ คุณนี่เป็นคนฉลาดจริง ๆ เลยนะคะ”มัสซิโม โนแลนถึงกับอึ้งไปเลยทำไมเขาถึงรู้สึกว่าเขากำลังถูกทอดทิ้ง?แม้ว่าเขาจะรู้สึกไม่ค่อยพอใจสักเท่าไร แต่เขาก็รู้ดีอยู่แก่ใจว่าเกรกอรีคงจะไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ อย่างแน่นอน เกรกอรีคงจะรอไปจนกว่าจะถึงวินาทีสุดท้ายของการประมูล เพื่อต่อสู้ชิงมันมาในไม่ช้า ชาวต่างชาติผมบลอนด์ก็พ่ายแพ้ไปอีกฝ่ายถอนหายใจออกมาอย่างช่วยไม่ได้ พลางส่ายหัวไปมาด้วยความผิดหวัง จากนั้นเขาก็หันหลังกลับไป ก่อนจะโบกมือเพื่อแสดงความชื่นชมต่อคุณคลินตัน และเป็นสัญญาณว่าเขาได้ยอมแพ้แล้วสีหน้าไม่พอใจได้ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของคุณคลินตันคราวนี้คุณคลินตันอาจจะต้องต่อสู้ และเดิมพันเกือบทั้งหมดของทรัพย์สินของเขา ดังนั้นแม้ว่าเขาจะไม่ใช่คนที่ร่ำรวยที่สุด แต่เขาก็เป็นผู้ประมูลที่เสนอราคาสูงที่สุดในท้ายที่สุด สงครามการประมูลหยกอาถรรพ์ ระหว่างคุณคลินตันและชาวต่างชาติคนนั้น จากราคาเริ่มต้นที่แปดสิบล้านดอลลาร์ ก็ได้เพิ่มขึ้นไปถึงหนึ่งพันห้าล้านดอลลาร์!บนเวทีพิธีกรได้ยืนดูภาพเหตุการณ์นี้อย่างเงียบ ๆ ก่อนที่เธอจะพูดขึ้นมาพร้อมกับรอยยิ้มว่า "ในขณะน