ควีนซี่ดึงแขนมัสซิโมเบา ๆ แล้วพูดว่า "ฉันรู้สึกปวดท้องนิดหน่อย พาฉันไปเข้าห้องน้ำหน่อยสิ"มัสซิโมจึงหันหลังกลับมา พลางพยักหน้าให้กับเธอ แต่เขาก็ยังไม่วายหันกลับไปมองที่คุณคลินตันอีกครั้ง ก่อนจะถอนหายใจออกมาเบา ๆต่อจากนั้น มัสซิโมก็บอกให้วิกกี้และเกรกอรีรอเขาอยู่ตรงนี้ ก่อนที่เขาจะหันหลังกลับไป และพาควีนซี่ไปที่ห้องน้ำหลังจากที่เขาเดินออกไป คุณคลินตันก็จากไปด้วยความพ่ายแพ้คราวนี้เห็นได้ชัดว่าเขารู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย เนื่องจากว่าเขายังไม่ได้ทักทายกับเกรกอรีแต่เกรกอรีก็ไม่ใช่คนใจแคบและไม่เพียงแต่ว่าเขาไม่ได้เป็นคนใจแคบเท่านั้น แต่เขายังทักทายคุณคลินตันด้วยความยินดีอีกด้วย“ดูแลตัวเองดี ๆ นะครับ คุณคลินตัน”ได้ยินแบบนี้คุณคลินตันถึงกับลนลาน จนเกือบจะสะดุดล้มเลยทีเดียววิกกี้รู้สึกอดไม่ได้ เธอจึงหันไปจ้องเกรกอรีด้วยความโมโห “นี่นายขู่เขาอยู่เหรอ?”เกรกอรีเลิกคิ้วขึ้นและพูดว่า "เปล่านะ ฉันพูดจริง ๆ วัยขนาดเขาไม่ควรต้องมานั่งแข่งขันการประมูลแบบนี้หรอก"วิกกี้ส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้“นายกล้าดียังไงที่บอกว่าเขาไม่ควรเข้าร่วมแข่งขันการประมูลนี้ หลังจากที่เขากล้าเสี่ยงในวันนี้ ฉัน
วิกกี้ดูหยกไปพร้อม ๆ กับเขาด้วย เธอเอนตัวเข้าไปใกล้เขา เพื่อให้มองเห็นหยกอาถรรพ์ได้ชัดขึ้น จนศีรษะเกือบจะชนกันสักพักเธอก็กระซิบกับเขาว่า “เห็นอะไรบ้างรึเปล่า?”คิ้วที่คมเข็มของเกรกอรีย่นเข้าหากันเล็กน้อย ในขณะที่เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่สุขุมว่า “เมื่อสีปีที่แล้วมันไม่ใช่หยกชิ้นนี้?”"อะไรนะ?"วิกกี้มองเขาด้วยความประหลาดใจเกรกอรีวางหยกลง และเมื่อเขาหันหน้ากลับมา เขาก็สังเกตเห็นว่าเธอได้เอนตัวเข้ามาใกล้เขามากเต็มทีพวกเขาอยู่ใกล้กันมาก จนทำให้เขาได้กลิ่นลาเวนเดอร์บนผมของเธอได้อย่างชัดเจน และมันก็ทำให้เขาอดที่จะกลั้นหายใจเอาไว้ไม่ได้แต่เขาก็ทำราวกับว่าไม่ทันได้สังเกตระยะห่างระหว่างพวกเขา ก่อนจะเลิกทำท่าเก้ ๆ กัง ๆ แล้วเอนตัวเข้าไปหาเธอแทน มันจึงทำให้พวกเขาได้ใกล้ชิดกันมากขึ้นเขาถือหยกเอาไว้ในมือ พลางอธิบายกับเธอว่า “ดูการแกะสลักบนนี้สิ เมื่อสี่ปีที่แล้ว ฉันได้ตรวจดูสัญลักษณ์บนหยกอย่างถี่ถ้วนแล้ว แต่พวกมันแตกต่างจากชิ้นนี้”วิกกี้ก็เพิ่งจะสังเกตเห็นตอนที่เขาพูดแบบนั้นออกมาแต่ทว่า ในตอนนั้นเธอไม่ได้ศึกษามันดีมากนัก ดังนั้นความทรงจำของเธอจึงค่อนข้างคลุมเครือ เธอจำได้แค่เลือนลางว่
ด้วยเหตุนี้ แอนเดรียจึงรีบพยักหน้า "งั้นคุณรอฉันสักครู่นะคะ ฉันจะไปเตรียมของมา"หลังจากได้รับอนุญาตจากวิกกี้แล้ว เธอก็ออกไปจากห้องไม่นานหลังจากนั้น แอนเดรียก็กลับมาเธอนำกล่องหนังนุ่ม ๆ อันเล็กที่ถือเอาไว้ในมือวางลงบนโต๊ะ เมื่อวิกกี้มองดู เธอก็เห็นว่ามีสิ่งของต่าง ๆ วางอยู่ข้างในวิกกี้อดไม่ได้ที่จะพูดจาหยอกล้อกับสาวใช้ของเธอ“ว้าว อุปกรณ์ของเธอค่อนข้างครบครันเลยนะ?”แอนเดรียยิ้มออกมา และพูดว่า "ใช่แล้วค่ะ เนื่องจากว่าฉันยังไม่เก่ง การที่มีอุปกรณ์เยอะแบบนี้ถือว่าช่วยฉันได้เยอะเลยล่ะค่ะ คุณวิกกี้ นอนลงบนเตียงก่อนนะคะ"วิกกี้นอนราบลงบนเตียงตามที่เธอบอกแอนเดรียขยับเก้าอี้จากโต๊ะเครื่องแป้งเข้ามา แล้วนั่งลงข้างเตียงทางฝั่งศีรษะของวิกกี้หลังจากที่วอมมือของตัวเองก่อนแล้ว เธอจึงเริ่มนวดให้กับวิกกี้อย่างเบามือดูเหมือนว่าแอนเดรียจะพูดจาเจียมเนื้อเจียมตัวเกินไปหน่อย กับสิ่งที่เธอบอกว่าเธอไม่เก่งเรื่องนวดสักเท่าไรจากประสบการณ์ที่วิกกี้เคยนวดมา เธอรู้สึกว่าแอนเดรียนวดได้ดีมากเลยทีเดียวนิ้วของเธอนุ่มแต่ก็มีความแข็งแรง และแรงที่กดลงไปบนศีรษะนั้นก็ไม่ได้เบา หรือว่าหนักจนเกินไปเช่นกั
เมื่อเธอคิดว่ามันคงจะต้องเป็นแบบนั้น วิกกี้ก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาทันทีแต่ทว่า ตอนที่เธอเข้านอนในคืนนั้น เธอก็ยังคงรู้สึกไม่ค่อยสบายใจอยู่เล็กน้อย เธอไม่รู้ว่าทำไม แต่เธอรู้สึกค่อนข้างไม่สบายใจ ราวกับว่ามีก้อนหินกดทับที่หัวใจของเธอ จนมันทำให้เธออยากจะอาเจียนออกมาวิกกี้สะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึกข้างนอกมีเสียงฝีเท้าดังขึ้น เธอจึงลุกขึ้นจากเตียงและวิ่งออกไปดูที่หน้าต่างสิ่งที่เธอเห็นก็คือมีรถยนต์อยู่หลายคัน และผู้คนกำลังวิ่งพล่านอยู่ข้างนอก ทุกคนดูรีบร้อนและสับสนกันไปหมดวิกกี้รู้สึกใจคอไม่ค่อยดี ก่อนจะก้มมองดูนาฬิกาที่ตอนนี้เป็นเวลาตีสามแล้วในช่วงเวลาเดียวกับที่เธอได้ยินเสียงนั้น แอนเดรียก็วิ่งเข้ามาจากข้างนอกเช่นกันแอนเดรียยังคงสวมชุดนอน และสวมเสื้อไหมพรมแบบบางทับไว้ข้างนอกเมื่อเห็นว่าวิกกี้ยืนอยู่ที่หน้าต่าง เธอจึงรีบพูดออกมาว่า “คุณวิกกี้ คุณเป็นอะไรรึเปล่า? คุณไม่ได้เป็นอะไรใช่ไหมคะ?”วิกกี้หันกลับมามองเธอพร้อมกับคิ้วที่ขมวดเข้าหากันเล็กน้อย “มีอะไรเกิดขึ้นข้างนอกนั่นเหรอ?”แอนเดรียตอบว่า "ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ พวกเขาบอกว่ามีคนทิ้งระเบิดในเมือง และเรากำลังจะเข้าสู่สงคร
“พวกเราไม่คาดคิดกันมาก่อนเลยว่า ในขณะที่พวกเราทุกคนกำลังหลับอยู่นั้น จู่ ๆ ก็มีเสียงระเบิดดังออกมาจากห้องของนายน้อย”“เมื่อพวกเรารีบพังประตูเข้าไปดู ก็เห็นว่าห้องทั้งห้องถูกไฟไหม้ไปแล้ว พวกเราจึงพยายามอย่างเต็มที่เพื่อพาตัวนายน้อยออกมา แต่ว่าเขาก็ยังได้รับบาดเจ็บสาหัสอยู่ดี”“และพวกเราก็ไม่สามารถหาตัวคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับห้องนั้นในช่วงเวลาอันสั้นได้ พวกเราจึงรีบพากันกลับมาก่อน”วิกกี้ขมวดคิ้วเมื่อได้ฟังคำตอบนั้นเธอถามอย่างเคร่งขรึมว่า “ก่อนจะเข้าพักที่โรงแรม พวกคุณไม่ได้ตรวจสอบก่อนหรอกเหรอ?”ฮาโรลด์ตอบคำถามของเธอ ด้วยความขมขื่น “ผมตรวจสอบแล้วครับ”วิกกี้ตกใจหนักมากกว่าเดิมเธอสังเกตเห็นว่าสีหน้าของฮาโรลด์ตอนนี้มีแต่ความพยาบาท และยากที่จะเข้าใจ แต่ทว่าความคิดของเธอเริ่มเปลี่ยนไป และมันก็ง่ายสำหรับเธอที่จะคาดเดา“มีคนทรยศในหมู่พวกคุณเหรอ?”ฮาโรลด์กำหมัดของเขาไว้แน่น ก่อนจะพยักหน้ารับ“บอดี้การ์ด?”ฮาโรลด์พยักหน้าอีกครั้งวิกกี้ถอนหายใจออกมาถ้าอย่างนั้นก็คงไม่แปลกคนทรยศอยู่ในหมู่บอดี้การ์ด ดังนั้นอีกฝ่ายจึงสามารถวางระเบิดไว้ในห้องได้ในทุกเวลาที่สะดวก และไม่ต้องกังวลว่า
“อันที่จริงแล้ว ฉันไม่ได้เกลียดนายเลย ถึงแม้ว่านายจะทำหลายสิ่งหลายอย่างที่ทำให้ฉันต้องเสียใจมาก แต่ฉันก็รู้ว่านายจะยังเป็นพี่เกรกอรีของฉันอยู่เสมอ นายจะคอยปกป้องฉัน ดูแลฉัน และสัญญาว่าจะดีกับฉันไปตลอดชีวิต"เมื่อน้ำตาของวิกกี้กำลังคลอเบ้า แววตาของเธอก็ฉายแววของความโกรธแค้นขึ้นมาทันทีแต่ทว่าเธอก็ยังคงทำตัวแข็งแกร่ง และไม่ยอมให้น้ำตานั้นตกลงมาแม้แต่หยดเดียวเธอขดริมฝีปาก พลางหัวเราะออกมาเบา ๆ“นายยังจำได้ไหม ว่าตอนเด็ก ๆ ฉันชอบเรียกนายว่าพี่เกรกอรี ตอนนั้นฉันอยากมีพี่ชายมาก ฉันเลยเดินตามนายไปไหนมาไหนตลอด”“แต่ตอนที่นายสอนวิชาศิลปะการต่อสู้ให้กับฉัน นายก็ทุบตีฉัน จนฉันไม่อยากจะเรียกนายว่าพี่อีก”“นั่นคงเป็นเพราะฉันเคยได้ยินมาว่า พี่น้องคู่อื่นจะรักและตามใจน้องสาวของพวกเขา และไม่เคยตีพวกเขาเลย”“แต่นายกลับตีฉัน ฉันก็เลยเกลียดนาย ฉันจึงสาบานกับตัวเองเอาไว้ว่า ชาตินี้ฉันจะไม่เรียกนายว่าพี่ชายอีก”“นายจำได้ไหม เพราะเหตุนี้นายเลยโกรธฉันมานาน แต่พอนายรู้ว่าทำไมจู่ ๆ ฉันก็เลิกเรียกนายว่าพี่ชาย นายก็เลยยอมแพ้ไปในที่สุด”“เกรกอรี ถ้านายตื่นขึ้นมาตอนนี้ ฉันจะเรียกนายว่าพี่ชายเกรกอรีอีกครั
"นี่เธออายุเท่าไรแล้วเนี้ย? ทำตัวเป็นเด็กไปได้”เกรกอรีมองวิกกี้ด้วยความไม่พอใจณ จุดนี้เธอก็รู้สึกขึ้นมาว่า มันเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร?ก่อนหน้านี้ คุณหมอได้บอกกับเธอไว้ว่า เขาอยู่ในช่วงเฝ้าระวังสี่สิบแปดชั่วโมง และถ้าหากว่าเขาสามารถรอดชีวิตมาได้หลังจากสี่สิบแปดชั่วโมงนั้น เขาจึงจะถือว่าพ้นขีดอันตรายโดยสมบูรณ์นั่นคือเหตุผลที่วิกกี้เฝ้าดูอาการของเขา โดยนอนอยู่ข้างเตียงเขาตลอดสองวันที่ผ่านมาในที่สุดเขาก็ฟื้นขึ้นมาสักที เธอจะไม่รู้สึกมีความสุขได้อย่างไร?วิกกี้ไม่สามารถปกปิดความตื่นเต้นของตัวเองเอาไว้ได้ และเมื่อเกรกอรีมองไปที่เธอ ดวงตาของเขาก็ดูมีชีวิตชีวามากขึ้นมันคงเป็นเรื่องโกหก ถ้าจะบอกว่าเขาไม่ได้รู้สึกหวั่นไหว แต่เมื่ออารมณ์ที่ท่วมท้นนี้เกิดขึ้น มันกลับทำให้เขารู้สึกซับซ้อนขึ้นมาถึงไม่ต้องบอก วิกกี้ก็รู้ได้ถึงความเปลี่ยนแปลงของอารมณ์ของเขา เธอจึงถามออกไปด้วยความเป็นห่วงว่า “นายเป็นยังไงบ้าง? รู้สึกไม่สบายใจตรงไหนหรือเปล่า? นายยังเจ็บแผลอยู่หรือเปล่า?”เกรกอรีจับมือเล็ก ๆ ของเธอ ที่กำลังจับตัวของเขาตรงนู้นทีตรงนั้นที แบบสุ่มสี่สุ่มห้า และตอบว่า "ฉันไม่เป็นอะไรแล้ว ฉัน
พ่อบ้านออสบอร์นไม่เพียงแต่เป็นคนที่มีน้ำใจ และรอบคอบมากเท่านั้น แต่เขายังรักวิกกี้มากอีกด้วยเขารู้ว่าเธอเป็นห่วงเกรกอรี แต่ก็ไม่อยากจะเจอหน้า ดังนั้นด้วยความรอบคอบของเขา เขาจึงเข้ามาบอกกับเธอว่า “คุณโทมัส คุณไม่ต้องกังวลไปหรอกนะครับ คุณหมอเพิ่งจะตรวจดูอาการของนายน้อยไป เขาไม่ได้มีอะไรที่น่าเป็นห่วงแล้ว จะมีเพียงก็แต่ว่าเขาจะต้องอยู่แต่ในบ้านเพื่อพักฟื้นร่างกายในช่วงเวลานี้เท่านั้นครับ”วิกกี้หยุดนิ่งไปครู่หนึ่ง ขณะที่เธอเม้มปากและคิดกับตัวเองว่า ‘ฉันก็ยังไม่ได้ถามสักหน่อย ว่าเขาเป็นยังไงบ้าง ทำไมจู่ ๆ เขาถึงบอกอาการของเกรกอรีกับฉัน?'ในท้ายที่สุด เธอก็ทำได้เพียงแค่พยักหน้าและพูดอย่างอ่อนโยนว่า “พ่อบ้านออสบอร์นคะ มันคงยากสำหรับคุณนะคะ”พ่อบ้านออสบอร์นตอบเธอด้วยรอยยิ้มว่า “ตราบใดที่คุณและนายน้อยเข้ากันได้ดีทั้งคู่แบบนี้ มันก็ไม่มีอะไรยากไปสำหรับผมเลยครับ”ได้ยินแบบนี้วิกกี้ถึงกับจุกเธอไม่รู้ว่าพ่อบ้านออสบอร์นหมายถึงอะไร "ทั้งคู่เข้ากันได้ดี"เขาหมายความว่า แต่ละคนควรจะมีสุขภาพแข็งแรง และปลอดภัยหรือเปล่า? หรือเขาหมายความว่าทั้งสองคนควรจะดีต่อกัน และเลิกทะเลาะกัน?วิกกี้รู้สึกสับ